บทที่ 14 ข้าอยากให้เจ้าได้รับความเป็นธรรม

3283 Words
วันนี้ฮูหยินใหญ่ให้ซุนหลีมาปรนนิบัติท่านแม่ทัพเพียงลำพัง เพราะนางมีระดูจึงจำเป็นต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในเรือนนานถึงเจ็ดวัน ความจริงท่านแม่ทัพมิได้รังเกียจนางเลยแม้แต่น้อย “ข้าอยากอยู่กับเจ้าไม่ได้หรือ” “ท่านพี่ ข้ามีระดูอย่างไรก็ไม่อาจใกล้ท่านได้ ให้ซุนหลีปรนนิบัตินะเจ้าคะ” “ข้าผ่านสงครามเลือดมานานเพียงนี้ แค่ระดูของเจ้าที่น้อยนิดเพียงนี้ข้าไม่ได้รังเกียจเลยแม้แต่น้อย หากไม่ได้นอนกอดเจ้าข้าจะนอนหลับหรือ” เขาออดอ้อนภรรยารักอย่างน่าสงสาร หลันหยายิ้มน้อย ๆ นางจับใบหน้าของเขาเอาไว้แล้วลูบเบา ๆ “ท่านพี่ ข้าไม่ค่อยสบายกายจริง ๆ เจ้าค่ะ ซุนหลีเป็นสตรีที่ข้าฝึกมาด้วยตนเอง แล้วท่านจะชอบนาง เรื่องบุตรสืบสกุลไม่อาจละเลยได้” “ขอเพียงมีเจ้าข้างกาย ข้าไม่สนใจเรื่องอื่นใด ข้าไม่อยากเอาเปรียบเจ้า ฮูหยินของข้าตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้เจ้าซื่อสัตย์กับข้าเพียงใดข้าย่อมรู้ เจ้าไม่เคยมีชายบำเรอลับหลังข้า เพราะเช่นนี้ข้าจึงไม่อาจรับสตรีอื่นมาเป็นอนุได้ สำหรับข้าแล้วคนเราควรได้รับความเป็นธรรมเท่าเทียมกัน” หลันหยารู้สึกผิดอยู่ในใจลึก ๆ ในการกระทำของตนเอง เรื่องระหว่างนางกับซุนโหว ริมฝีปากของนางสั่นเล็กน้อย สายตาไหวระริก คิดทบทวนว่าตนเองควรสารภาพความผิดหรือไม่ นางก้มหน้าต่ำ เข้าใจเหตุผลที่เขาไม่ยอมรับซุนหลีอย่างแจ่มชัด นั่นเป็นเพราะเขาคิดว่านางยังคงซื่อสัตย์ต่อเขา “ท่านพี่ความจริงแล้วข้า...” เขาดึงภรรยามากอดเอาไว้ นางซบใบหน้าลงที่อกกว้างของเขา “มีสิ่งใดที่อยากบอกกับข้าหรือ ฮูหยินของข้าไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดที่ทำให้เจ้าทุกข์ใจให้บอกข้ามาเถิด” หลันหยาร้องไห้ออกมาด้วยสำนึกผิด นางไม่สามารถเก็บเรื่องนี้เป็นความลับได้อีกต่อไปแล้ว นางเผลอทำเรื่องชั่วช้าไปแล้ว และนางก็ไม่อยากอยู่กับความรู้สึกเช่นนี้อีกต่อไป แม้ว่าหากเอ่ยออกไปแล้วนางจะสูญเสียเขาไปก็ตาม “ท่านพี่ความจริงข้ามิใช่สตรีที่ดีงามอย่างที่ท่านคิด” “เจ้าหมายความว่าอย่างไร” “ข้า...เคย...ทำเรื่องนี้กับคนอื่น แต่ว่าท่านพี่เรื่องนี้เป็นความผิดของข้าเพียงคนเดียว ท่านรับปากข้าได้หรือไม่ว่าจะไม่เอาผิดคนผู้นั้น” ท่านแม่ทัพร่างกายแข็งค้าง เขาจ้องนางดวงตาแทบจะถลน สองมือบีบไหล่ของนางเอาไว้ เขายังสามารถระงับโทสะเอาไว้ได้ไม่ว่าอย่างไรเขาต้องฟังนางให้ดี เรื่องนี้หากเกิดขึ้นจริง แล้วเป็นความผิดของหลันหยาหรือ เขาทอดทิ้งนางไปถึงหกปี หากเป็นสตรีอื่นและด้วยฐานะสูงส่งของนางคงขอหย่าขาดและแต่งงานใหม่ไปนานแล้ว แต่หลันหยายังคงรอเขา หากนางจะพลั้งเผลอไปบ้างจะเป็นอันใดกัน เขามิใช่เด็กหนุ่มที่จะไม่เข้าใจเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ เขาเข้าใจดี “เจ้าว่ามาเถิด ข้าสัญญาว่าจะไม่แค้นเคืองผู้ใด” หลันหยาเห็นท่านแม่ทัพเริ่มสงบลงแล้ว นางจึงเริ่มต้นเล่าเรื่องราวระหว่างนางกับซุนโหว “เขาไม่เคยล่วงเกินข้านอกจากนี้” “มิน่าเล่าเจ้าจึงยังคงคับแน่นเพื่อรอข้า” หลันหยาไม่กล้ามองเขาแล้ว นางบังเกิดความละอายใจอย่างหนัก แต่เมื่อไม่เงยหน้ามองนางจึงไม่เห็นแววตารู้ทันของสามี ท่านแม่ทัพเองก็เคยร่วมเสพสตรีคนเดียวกันกับซุนโหวเมื่อครั้งนั้น เขายอมรับว่ารู้สึกตื่นเต้นเร้าใจและสนุกจนไม่อาจลืมได้ลง ยามนี้เมื่อนึกถึงว่าสตรีนางนั้นคือหลันหยา ใยในใจของจึงรู้สึกตื่นเต้น ร่างกายคึกคักและอยากเห็นคนสองคนทาบทับกอดรัดกันด้วยตาของตัวเอง เขาบ้าไปแล้วหรือ “ฮูหยิน ซุนโหวเป็นหนึ่งในผู้มีพระคุณของข้า เขาอายุน้อยกว่าข้าและเจ้ามากนับเป็นบุตรชายบุญธรรมยังได้ เพียงแต่ข้าเห็นแล้วว่าเขาทำให้เจ้ามีความสุขเพียงใด” “ทะ ท่านพี่ มิใช่ว่าท่านต้องการหย่าขาดจากข้าหรือ ขะ ข้า เป็นข้าที่ผิด ข้าไม่อ้อนวอนสิ่งใดแล้ว หากท่านต้องการ ข้าก็จะยินยอมหย่าจากท่าน” เขารีบปิดปากของภรรยาเอาไว้แล้วกอดนางแนบแน่น “ข้าไม่คิดหย่ากับเจ้าจนวันตาย ความจริงเรื่องของเจ้าและซุนโหวข้าเองก็รู้อยู่บ้าง” คนที่ตกตะลึงกลายเป็นหลันหยา “ท่านหมายความว่าอย่างไร” “เจ้าอย่าดูถูกองครักษ์ของข้าเสียสิ ข่าวของฮูหยินเพียงคนเดียวของข้า ไยข้าจะไม่รู้ที่ผ่านมาเจ้านับว่าซื่อสัตย์กับข้าจริง ๆ มิใช่หรือ กระทั่งเรื่องนี้เจ้ายังไม่ยอมคิดโกหกข้า หลันหยาข้าจะหาคนที่ดีพร้อมเช่นเจ้าได้จากที่ใดอีก” “ท่านไม่ถือสาข้าหรือ ท่านพี่ขะ ข้ารู้สึกผิดต่อท่านยิ่งนัก” เขาส่ายหน้า “คนที่ต้องรู้สึกผิดก็คือข้า เจ้าอย่าโทษตัวเองเลย ข้าเป็นสามีที่ทิ้งภรรยาไว้เบื้องหลังข้าแต่งกับเจ้าตั้งแต่เจ้าอายุเพียงสิบหกปี แต่งงานได้เพียงสองเดือนก็ต้องออกรบ หลายปีจึงจะได้กลับบ้านสักหน ผ่านมาเนิ่นนานเพียงนี้ก็ยังเป็นเจ้าที่รอข้า เพียงแต่ข้าสงสัยว่าทั้ง ๆ ที่เจ้าสารภาพด้วยตนเอง ทว่าไยรูรักของเจ้าจึงได้คันแน่นเพียงนั้น” ใบหน้าของหลันหยาแดงซ่าน ในเมื่อเรื่องถึงขั้นนี้แล้วนางจึงเอ่ยว่า “ท่านพี่ ขะ ข้า ความจริงข้ายังไม่ได้ปล่อยให้เขาเข้ามาถึงข้างในนี้ เพียงแต่ใช้นิ้วและปากเท่านั้น” “เขาเลียเจ้าตรงที่ใด บอกข้ามาให้หมด “เอ่อ คือ...ท่านพี่ ข้าไม่อยากเอ่ยถึงเจ้าค่ะ หากท่านพี่ไม่พอใจจะกล่าวโทษข้าหรือลงโทษข้าเช่นไรข้ายอมรับผิด” “ไม่ ข้ามิได้อยากเอาผิดเจ้า ฮูหยินหากเจ้าชอบข้ามิขัดขวาง ขอเพียงเจ้ามีความสุขข้ายินดีทั้งนั้น” “ทะ ท่านพี่” นางย่อมตกตะลึงกับท่าทางตื่นเต้นที่ได้ฟังนางเล่าเรื่องที่นางคิดว่าเลวทรามต่ำช้าอย่างชัดเจน “เจ้าไม่ต้องห่วง ข้ารักเจ้าเพียงใดมีข้าเท่านั้นที่รู้ ความสุขของเจ้าข้าเพียงอยากร่วมแบ่งปัน” เขาดึงนางมากอดแล้วจุมพิตที่ใบหูเล็ก ๆ ของนาง ดูดเลียไปที่ข้างแก้ม ทำเอานางเสียวสะท้าน “เล่ามาเถิด ข้าอยากฟัง ซุนโหวเลียเจ้าตรงไหน เขาจับเจ้าอย่างไร และเจ้าเสียวมากหรือไม่ เล่ามาให้ละเอียด ว่าพวกเจ้าทำเช่นนี้กันไปกี่คราแล้ว” ฮูหยินใหญ่ถูกลิ้นร้อนของสามีแหย่เข้าไปในรูหู นิ้วของเขายังไล้ที่หัวนมแผ่วเบา แม้จะมีเสื้อผ้าขวางกั้นแต่นางกลับรู้สึกเสียวซ่านจนทนไม่ไหว วันนี้ความจริงเป็นวันแรกที่ระดูต้องมาแล้ว ทว่ากลับยังไม่มีเลือดไหลออกมา น้ำที่เจิ่งนองตรงกลางกลีบสาวก็คงหนีไม่พ้นน้ำเ****นแห่งความเสียวซ่าน “ครั้งแรกบนหลังม้าเจ้าค่ะ เป็นเรื่องบังเอิญ ยามนั้นพวกเราสัมผัสกันเพราะเขาบังคับม้าพยศตัวหนึ่งที่ข้าอยากนั่ง แท่งหยกของเขาทิ่มแทงที่ก้นของข้า ข้าบังเกิดอารมณ์เสียวซ่าน จึงบดบี้ติ่งเสียวของตัวเองกับแท่งหยกของเขา ยามนั้นเขายังล้วงเข้ามาในเสื้อของข้าเช่นนี้ อ้ะ เช่นที่ท่านพี่กำลังทำ ไล้หัวนมของข้าจนแข็งแล้วคลึงเบา ๆ ม้าวิ่งเหยาะ ๆ ทุกจังหวะล้วนทำให้ข้าเสียวสะท้าน ซี้ด ท่านพี่เจ้าขา อืม ท่านดูดนมข้าแบบนี้ข้าเสียวยิ่ง” “อย่าหยุด เล่าต่อข้ากำลังได้อารมณ์ เจ้าทำหน้าอย่างไร เสียวมากจนเปียกไปหมดใช่หรือไม่” “ข้าแหงนใบหน้าขึ้นแล้วครางเจ้าค่ะ อ้า ยามนั้นเสียวมากเพราะนิ้วของเขาที่คลึงหัวนมข้าไม่หยุด ข้าบดกลีบตัวเองลงไปอีกครา ยามนั้นน้ำก็แตกหลั่งออกมา กางเกงข้าเปียกชื้นและกางเกงของซุนโหวเช่นกัน ท่านพี่เจ้าขา ข้ารู้สึกว่าเขาเองก็เสียวจนพ่นน้ำรักออกมาเช่นกัน” เมื่อกล่าวคำนี้ นิ้วของท่านแม่ทัพก็ไต่ลงมาด้านล่างแล้ว นางยกขาขึ้นแล้วกัดฟันครางซี้ด เมื่อท่านแม่ทัพกัดหัวนมของนางแล้วดูดแรง ๆ เห็นได้ชัดว่าเขามีอารมณ์เพียงใดเมื่อได้ฟังสิ่งที่นางเล่า “อา หลังม้าหรือ หลังระดูของเจ้าหมดแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปเสพสวาทบนหลังม้าบ้าง ข้าจะทำให้เจ้าเสียวมากกว่าเขาดีหรือไม่” “อื้อ ท่านพี่ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ได้ อ้ะ อย่าแหย่รูข้า ซี้ด ข้า กระแทกเช่นนี้ข้าจะแตกแล้ว อ้า ท่านพี่ ดูดนมแรง ๆ เจ้าค่ะ อืม ซี้ด” “เจ้าทำกับเขาที่ใดอีกบ้าง หลังจากนั้น” “ท่านพี่...” “ไม่ต้องกลัว เล่ามาให้หมด” “หลังจากนั้นก็ที่เรือนของเขา ซุนโหวช่วยข้าปลดปล่อยอยู่หลายคราเจ้าค่ะ แต่เขาเพียงแต่ใช้นิ้วเท่านั้นไม่เคยล่วงเกินแท่งหยกเข้าไป” นางเล่าโดยละเอียดและยามนั้นโจวซีฉือก็มีอารมณ์ยิ่ง เขาทนไม่ไหวจึงเปลื้องอาภรณ์ออกจากตัวจนหมด เขาคาบนมของนางเอาไว้ในปากแล้วยกร่างของฮูหยินขึ้นมาด้วยอุ้มโดยการสอดมือเข้าไปใต้ข้อพับของนาง ก่อนจะแทงแท่งหยกสวนเข้าไปในรูรัก “ซี้ด อ้า ลึกยิ่ง แรง ๆ เช่นนี้ อ้า แหกแล้ว ซี้ด ท่านพี่เจ้าขา ร่องของข้าแหกอีกแล้ว แท่งหยกของท่าน อ้า เสียว ซี้ด” ตับ ตับ ตับ ตับ ตับ ร่างเล็กสั่นสะท้านเด้งไปมาบนอกของเขา นางกอดคอของสามีแน่น ทั้งจูบปากแลกลิ้นสลับกับร้องครางไม่หยุด “ข้าฟังเจ้าเล่ายิ่งรู้สึกเสียวยิ่ง ฮูหยินของข้าข้าอยากเห็นเจ้าร่วมรักกับซุนโหว ซี้ด ข้าอยากเห็นยิ่งนัก” คำพูดของสามีทำให้หลันหยายิ่งตกใจ ทว่าภาพในหัวของนางที่เคยฝันเอาไว้ กลับเข้ามาในหัวอีกครา นางถูกสามีแทงแท่งหยกสวนมาจากด้านหลัง ในขณะที่นางอมแท่งหยกของซุนโหวอยู่ “อ้า เพียงแค่ข้าพูดเรื่องนี้เจ้าก็รัดแน่นตอดข้าไม่หยุด ฮูหยินเจ้าอยากใช่หรือไม่ มีข้ากับซุนโหวคอยปรนเปรอเจ้า” “ท่านพี่ ขะ ข้าไม่รู้เจ้าค่ะ” “อ้า เจ้ารู้ ร่องรักของเจ้าตอบรับข้า มันตอดไม่หยุดเลย คงเพราะเจ้าคิดถึงเขาใช่หรือไม่ เจ้าอยากถูกเขาเอาแรง ๆ เช่นกันใช่หรือไม่ อืม ถ้าหากเขาดูดนมของเจ้าแล้วข้าเย่อรูของเจ้า ถ้าหากเขาเอาแท่งหยกของเขาเสียบที่รูหลังของข้า ในขณะที่ข้าเสียบร่องรักด้านหน้าเจ้าจะคับแน่นและเสียวมากขึ้นเป็นสองเท่า อ๊า เสียวยิ่ง เจ้าชอบใช่หรือไม่ จึงได้รัดข้าเช่นนี้ ซี้ด แน่นมากฮูหยินของข้า ข้ารูรักเจ้าตอดขมิบจนข้าจะแตกแล้ว ซี้ด ซี้ด” แทนที่จะโกรธ โจวซีฉือกลับฟังด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและคึกคัก เขาอยากเห็นภรรยาถูกเด็กหนุ่มผู้นั้นไล้เลีย อยากเห็นพูเนื้อทั้งติ่งเสียวของนางว่าจะสั่นระริกเพียงใด และยามที่นางเล่านั้นเขาเห็นชัดเจนว่าดวงตาของนางเป็นประกาย คล้ายจะตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย “ซี้ด ท่านพี่เจ้าขา อ้า ท่านเย่อข้าแรงยิ่ง ลึกมาก อ้ะ ซี้ด ซี้ดข้าแตกแล้วเจ้าค่ะ ซี้ด” ซุนโหวปล่อยน้ำเชื้อเข้าไปในร่องรักของหลันหยาแทบจะพร้อมกันกับที่นางเสร็จสม ยามนี้ นางหอบอยู่บนกายของสามี เมื่อเขาดึงแท่งหยกออกมาก็พบว่านอกจากน้ำเชื้อสีขาวขุ่นของเขาที่ไหลออกมาแล้วยังมีเลือดของนางติดอยู่ที่ส่วนหัวของแท่งหยก “แย่แล้วท่านพี่ ระดูของข้ามาแล้วเจ้าค่ะ” นางรีบทำความสะอาดให้สามี ก่อนที่จะใช้ผ้าเช็ดน้ำเช็ดไปที่ระดูที่หยุดไหลไปชั่วคราว “ช่างเถิด ข้าหาได้ใส่ใจ” เขาดึงหลันหยาเข้ามากอดแล้วจุมพิตศีรษะเบา ๆ ร่างเปลือยของนางกอดเขาเอาไว้นางยังลูบแท่งหยกที่ไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนตัวเบา ๆ นางกระตุ้นเขาเพื่อต้องการให้เขาไปปลดปล่อยกับซุนหลี ตั้งแต่วันนั้นท่านแม่ทัพก็ไม่ได้เรียกซุนหลีมารับใช้อีกเลย นางเกรงว่าท่านแม่ทัพจะไม่ยอมรับซุนหลีมาเป็นอนุ “ท่านพี่ ข้าขอบคุณยิ่งที่ท่านไม่ถือสา ข้าสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไป” “หากข้าอนุญาตและต้องการให้เจ้ายุ่งเล่า ข้ารู้ว่าเจ้าชื่นชอบเขาอยู่ไม่น้อย มีฮูหยินและสตรีมากมายเลี้ยงดูนายบำเรอ กระทั่งองค์หญิงสูงศักดิ์พวกนางล้วนมีนายบำเรอคอยปรนนิบัติ ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกอันใด” “แต่พวกนางไม่มีสามีที่จดหนังสือสมรสกันนะเจ้าคะ หากข้าทำเช่นนี้ก็เท่ากับผิดกฎหมายแล้ว” “แล้วอย่างไร ข้าที่เป็นสามีของเจ้าอนุญาตแล้ว เจ้าไม่ต้องกลัว ไม่มีผู้ใดกล้าคิดรังแกเจ้าเป็นแน่” “ทะ ท่านพี่ ไยท่านคิดเช่นนี้เจ้าคะ” เขาเชยคางนางขึ้นแลกจุมพิตกันอย่างดูดดื่ม ก่อนที่แม่ทัพใหญ่จะเอ่ยอ้อยอิ่งอยู่ที่ริมฝีปากของนาง “คงเป็นข้าคิดได้ว่าข้าทำผิดต่อเจ้าเพียงใด ข้าอายุมากเพียงนี้แล้ว หากต้องตายในวันหน้าคงต้องทุกข์ทรมานเมื่อต้องทิ้งเจ้าไว้เพียงลำพัง เจ้าไม่มีบุตรที่จะมาคอยกตัญญู ยามนั้นหากเกิดขึ้นจริง ข้าไม่อาจนอนตายตาหลับได้ เพราะเหตุนี้จึงยินยอมให้คนผู้หนึ่งสัมผัสเจ้า แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าหากคนผู้นั้นไม่ใช่ซุนโหว ข้าคงให้ทหารองครักษ์บุกเข้าไปจับตัวเขาแล้วสับร่างเป็นชิ้น ๆ แต่เพราะเป็นซุนโหวคนที่มีพระคุณต่อข้า และยังเป็นคนที่เจ้าพึงใจ ฮูหยินเช่นนี้ข้าก็ไม่คิดห้ามเจ้าอีก และยังสนับสนุนอย่างดี ก็อย่างที่เจ้ารักข้า จึงคิดอยากให้ข้ามีทายาทสืบสกุลโดยไม่เห็นแก่ตัวเลยแม้แต่น้อย ยังคัดเลือกสาวงามเพื่อรอข้า เราสองคนต่างรักกัน เช่นนั้นก็สมควรที่จะได้รับความยุติธรรมเท่า ๆ กัน ข้ามีอนุได้ เจ้าก็สามารถมีบุรุษหนุ่มที่เจ้าพึงใจมาปรนนิบัติได้เช่นกัน” “ท่านพี่ ขะ ข้า” นางอ้าปากค้างคิดไม่ถึงว่าสามีของตนเองจะใจกว้างเพียงนี้ นางก้มหน้างุดแค่คิดว่าแท่งหยกของซุนโหวเข้ามาในกายก็ร้อนรุ่มแล้ว โจวซีฉือเลียใบหูของนางแล้วเอ่ยว่า “ในตอนนั้นที่ข้ารู้ ข้ายังเคยจินตนาการว่าเจ้าอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเรา เจ้ากำลังดูดแท่งหยกของเขาและข้ากำลังเย่อรูรักของเจ้าอยู่ แค่คิดข้าก็เสียวหัวบานแล้ว” “ทะ ท่านพี่” ใบหน้าของนางแดงก่ำ คำพูดของเขาล้วนเป็นสิ่งที่นางเคยฝันมาหลายครั้ง ไม่คิดว่าสามีก็มีใจตรงกันเช่นนี้ ทั้งนางและสามีเป็นคนแปลกหรือไม่ เขาเชยคางของนางขึ้นมองดวงตาที่งดงามหวานซึ้ง “ว่าอย่างไร เจ้ายินยอมหรือไม่” “ท่านพี่ข้าเป็นสตรีนะเจ้าคะ หากซุนโหวรู้เข้าข้าก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” “ซุนโหวหรือ ข้าได้ถามเขาแล้ว เขายอมรับทุกเรื่องและสารภาพกับข้าว่าเขาเองก็ชื่นชมเจ้าไม่น้อย ดังนั้นหากเจ้าตัดสินใจไม่ว่าทางใดเขาก็ล้วนยินดี” “ทะ ท่านพี่ ที่แท้ท่านกับเขาก็ได้ตกลงกันแล้ว ท่านรู้ทุกอย่างแล้วยังต้องการมาฟังจากปากของข้าอีก” ที่แม่ทัพทำเช่นนี้ก็เพื่อที่จะดูว่าสองคนมีความซื่อสัตย์ต่อเขาเพียงใด และคนทั้งสองก็เล่าความจริงที่ตรงกันจึงไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง แม่ทัพใหญ่ที่ได้ยินเรื่องราวนี้ซ้ำถึงสองครั้ง กลับยังรู้สึกคึกคักและอยากเห็นกับตาจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว “เจ้าจะพูดเช่นนั้นก็ได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วคนที่ตัดสินใจก็คือเจ้า” หลันหยารู้สึกกระดากอายในใจ สามีของนางย่อมหูตากว้างขวาง โชคดีเพียงใดแล้วที่เขารักนางมากเพียงนี้ หากเป็นผู้อื่นคงได้สังหารตนไปแล้ว นางจูบที่แก้มของเขา รู้สึกทั้งรักทั้งขอบคุณเขาอย่างที่สุด นางยิ้มแล้วเริ่มต่อรอง “หากท่านรับซุนหลีมาเป็นอนุ และสัญญาว่าจะมอบบุตรสาวบุตรชายให้นาง ข้าจะเลี้ยงดูพวกเขาเอง ข้าก็จะทำตามที่ท่านขอเจ้าค่ะ” “ข้าขอถามเจ้าคำหนึ่ง ก่อนหน้านี้เจ้าได้บังคับซุนหลีหรือไม่” “ข้าไม่เคยบังคับนาง ถามความสมัครใจนางด้วยตนเอง ไม่มีการข่มขู่ นางยินดีปรนนิบัติท่านด้วยใจจริงนะเจ้าคะ” แม่ทัพใหญ่ถอนหายใจยาว ด้วยความโล่งอก เขาไม่ชอบบังคับผู้ใด ซุนหลียังเป็นเด็กสาวผู้หนึ่ง นางไม่สมควรมาผูกติดกับคนที่มีอายุคราพ่อเช่นเขา “ท่านพี่ นางเต็มใจจริง ๆ นะเจ้าคะ ท่านไม่เชื่อข้าหรือ” โจวซีฉือยิ้มเล็กน้อย มือไล้ใบหน้างามของภรรยา “เช่นนั้นก็ตามใจเจ้าเถิด พวกเราต่อไปจะมีความสุขด้วยกันตลอดไป” ฮูหยินใหญ่ยิ้มทั้งพยักหน้า นางจับหนวดเคราของเขาแล้วเอ่ยว่า “ท่านพี่ วันนั้นท่านก็เห็นแล้วว่าผิวของซุนหลีช้ำง่ายกว่าข้ายิ่งนัก คงเป็นเพราะนางอายุยังน้อย ท่านไว้หนวดเช่นนี้ทำให้นางหวาดกลัวยามที่ข้าไม่อยู่ด้วย ท่านพี่ข้าโกนหนวดให้ท่านดีหรือไม่” มีภรรยารักร้องขออย่างมีเหตุผล ในที่สุดหนวดเคราที่ไว้ยาวมาหลายปีก็ถูกนางโกนทิ้งจนเหลือเพียงแต่ตอเขียวคลึ้มรอบริมฝีปาก หลันหยายิ้มด้วยความยินดี นางจุมพิตเขาแล้วสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปาก “สามีของข้าเป็นโฉมงามล่มเมือง ผู้ใดจะเชื่อว่าท่านอายุสี่สิบแล้ว หล่อเหลายิ่งนัก เห็นแล้วข้าบังเกิดอารมณ์อยากครอบครองท่านอีกแล้ว ท่านพี่ท่านเย่อให้ข้านะเจ้าคะ ข้ามีฤดู แต่ยังออกมาเพียงเล็กน้อย ท่านรังเกียจหรือไม่” เสียงหวานของนางทำให้เขาครางในลำคอ หลันหยาเพียงเอ่ยจบนางก็ไม่รอช้าแล้ว ไต่ลิ้นลงไปตามสันกรามของเขาอย่างรักใคร่ แล้วจูบไปทั่วร่างกายแข็งแกร่งกระทั่งสุดท้ายปากก็ครอบครองแท่งหยกใหญ่ของเขาอย่างเอร็ดอร่อย “ซี้ด เจ้าไม่จำเป็นต้องร้องขอ หากรู้ว่าการโกนหนวดจะยิ่งทำให้เจ้าร้อนร่านเช่นนี้ข้าโกนมันทิ้งตั้งแต่ก่อนเข้าวังหลวงแล้ว อ้ะ ดูดแรง ๆ ฮูหยินของข้า ซี้ด เสียวยิ่ง ดูดลึกไปจนถึงคอหอยแล้ว อ้า เก่งกาจยิ่ง ซี้ด”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD