ไม่ใช่คนสำคัญ ทำไมต้องจดจำด้วย

982 Words
งานที่ทำไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร แต่ที่ทำให้ต้องเหนื่อยและทุกข์เพราะมีเจ้านายที่มีแต่ความคิดด้านลบๆ กับตนเอง ไม่รู้จะทนไปได้นานเท่าไหร่กับตำแหน่งเลขาของวัลดัส และตอนนี้ก็เป็นเวลาพักเที่ยง เธอก็ได้เตรียมอาหารมื้อเที่ยงมาไว้รอท่านรองประธานที่ทำงานอยู่ห้องตรวจชั้นล่าง คงอีกไม่นานก็ขึ้นมาทานข้าวแล้ว และก็จริงเมื่อประตูห้องทำงานเปิดกว้างออกพร้อมร่างสูงสง่าในชุดกาวน์ เวลาอยู่ในชุดกาวน์เขาดูมีเสน่ห์...ใช่ แต่เสน่ห์นั้นก็หายไปเมื่อเสียงแข็งกระด้างเอ่ยขึ้น “จัดอาหารเสร็จก็ออกไปสิ จะยืนอยู่ให้รำคาญตาทำไม กินไม่อร่อยกันพอดี” เขาเดินไปนั่งลงที่ชุดโซฟาที่นั่งทานข้าวเป็นประจำแล้วมองกับข้าวที่เตรียมไว้ตรงหน้า มีสเต๊กปลาแซลมอนกับน้ำผลไม้ มือใหญ่เม้มปากแน่นแล้วปัดจานสเต๊กตรงหน้าทิ้งทันที เพล้ง! เท้าเล็กของคนที่กำลังจะเดินออกไปก็ต้องหยุดชะงักแล้วหันมาทางจานที่ถูกปัดทิ้งแตกกระจายที่พื้น “บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ชอบกินปลาแล้วยังโทรสั่งมาอีก เธอเป็นเลขาประสาอะไร หรือว่าในหัวเธอจำแต่เรื่องของคุณตาฉัน แพม!” คนพาลเอ่ยหาเรื่อง จริงๆ เขาเป็นคนทานง่าย แต่ที่ทำแบบนี้เพราะหงุดหงิดกับหน้าตาเย็นชาของหล่อน “ขอโทษค่ะคุณวัลดัส ถ้าไม่ชอบก็ควรจะบอกดีๆ ไม่ควรปัดทิ้งแบบนี้ อีกอย่างคุณไม่ใช่คนสำคัญสำหรับฉัน ทำไมฉันต้องจดจำด้วย” เธอเดินกลับมาก้มลงเก็บเศษจานที่ตกแตกกับพื้นไปกองรวมกัน “ฉันจะปัดทิ้งแล้วทำไม” เขาพูดจบก็ลุกขึ้นทันทีพร้อมกับประตูห้องทำงานของเขาถูกเปิดผลักเข้ามา “วัลดัสขา...” เสียงเล็กแหลมดัดจริตดังมาพร้อมกับเจ้าตัวในชุดเดรสเกาะอกสีดำเข้ารูปเดินก้าวเร็วๆ มาหาเขาที่นั่งอยู่บนโซฟา “แนนซี่” เขาเรียกชื่อผู้มาใหม่ที่เดินมานั่งเบียดตัวเองพร้อมกับโอบกอดตนเองและโน้มคอตัวเองลงไปซุกจูบโดยไม่สนใจว่าตอนนี้มีสายตาของเลขาของเขามองอยู่ ด้านภัทร์รวีก็ได้แต่มองแล้วก้มหน้าเม้มปากเก็บเศษจานที่ตกแตกให้หมดจะได้รีบออกไป อุ๊ย! ด้วยความรีบทำให้ไม่ได้ระวังมือที่หยิบเศษจานจนถูกเศษจานที่แตกบาดมือ แต่ก็แค่เล็กน้อยจนต้องรีบยกขึ้นมาดูดนิ้ว ส่วนวัลดัสเขาเห็นว่าเธอโดนเศษจานบาดมือ แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่สนใจแล้วดันนางแบบสายที่มาถึงก็ปล้ำจูบไซ้ซอกคอตนออกห่าง “ทำไมไม่โทรมาบอกผมก่อนว่าจะมาหา” เขาถามนางแบบสาวแสนสวยเสียงทุ้ม แต่หางตานั้นเหลือบมองคนที่เก็บเศษจานที่แตกแล้วออกไปจากห้องเงียบๆ “ถ้าโทรมา คุณก็บอกว่าไม่ว่างสิคะวัลดัส ว่าแต่คืนนี้ไปค้างด้วยกันนะคะ” นางแบบสาวเอ่ยอ้อนพร้อมกับเอนหัวไปซบอกแกร่ง “คืนนี้ผมอยู่เวร” เขาบอกหล่อน “เหรอคะ งั้นไม่เป็นไรค่ะ แนนซี่อยากบอกว่าคิดถึงคุณนะคะวัลดัส” เธอพูดพร้อมลุกขึ้นเดินไปยังประตูห้องแล้วกดล็อกกลอน แก๊ก! วัลดัสรู้ว่าหล่อนต้องการอะไรจากตนตอนนี้ ที่นางแบบมาหาเพราะติดใจเซ็กซ์ที่เร่าร้อนของเขา และตอนนี้เขาก็เครียดพอดี เพราะตอนบ่ายมีคิวผ่าตัดรออยู่ เจ้าหล่อนเดินกลับมานั่งคร่อมบนตักเขาบนโซฟาทันทีพร้อมถลกกระโปรงชุดเดรสสั้นขึ้นไปกองไว้บนเอวเล็กคอด ดันเขาเอนตัวพิงไปกับพนักโซฟา “คืนนี้ไม่ว่าง แต่ตอนนี้พักเที่ยงใช่ไหมคะ” หล่อนสะบัดผมยาวสลวยตัวเองไปด้านหลังพร้อมกับลูบไล้ลำคอหนาของหมอหนุ่ม “ผมมีเวลาไม่มากนะ ผมยังไม่ได้กินข้าว” มือหนานุ่มลูบไล้เรียวขาเล็กมาจับก้นกลมกลึงของหล่อน “ไม่นานค่ะ รับรองคุณได้กินข้าวเที่ยงแน่นอน แล้วตอนบ่ายว่างไหมคะ หรือมีคนไข้รอ” “มีคนไข้รอ และมีผ่าตัดด้วย ผมจึงต้องกินข้าว เพราะเซ็กซ์ไม่ได้ทำให้ผมอิ่มท้อง” “งั้นแนนซี่รบกวนคุณไม่นานค่ะวัลดัส แนนซี่คิดถึงคุณนะคะ แนนซี่ต้องการคุณค่ะ” หล่อนโน้มหน้าลงไปหาคนที่แหงนเงยมองหน้าตัวเองแล้วแนบปากอวบอิ่มสีแดงฉ่ำตัวเองไปกับปากหนาอุ่นร้อน “อ่ะ...อื้อ” เสียงครางอู้อี้ดังลอดออกมาจากริมฝีปากทั้งสองพร้อมกับมือใหญ่ของวัลดัสเคลื่อนไหวลูบไล้ไปมาตามเรียวขาเล็กที่คร่อมทับบนตักตัวเอง ปลายลิ้นสากสอดเร่าเข้าไปในโพรงปากเล็กและกำลังจะหลงระเริงกัน แต่เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นรบกวน ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “อะ...อืม เปิดประตูไหมคะ” นางแบบสาวถามชายหนุ่มเมื่อผละจูบออกมาอย่างเสียดาย “ไม่ต้องสนใจหรอก คงเป็นเลขาผม” เขาบอกหล่อน แล้วกำลังจะสอดมือเข้าไปในกางเกงซับในของหล่อน ประตูหน้าห้องก็ถูกทุบแรงกว่าตอนแรก ตอนแรกคือเคาะ แต่ตอนนี้คือทุบ ปัง! ปัง! ปัง! “อุวะ!” เขาสบถออกมาด้วยความหงุดหงิดแล้วยกร่างบนตักตัวเองไปนั่งข้างๆ และลุกขึ้นเต็มความสูงพร้อมกับสั่งหล่อน “จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย” แล้วเขาก็เดินก้าวเร็วๆ ไปเปิดประตูห้องที่ดังอยู่ทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD