วันนี้พี่ตินไม่ไปทำงานค่ะ แถมยังทำตัวติดกับฉันมากเกินไปจนผิดสังเกตอีกต่างหาก
“อยากมีลูกไหมคะ?” คำถามของฉันทำคนตรงหน้าชะงักไปเล็กน้อย อันที่จริงเราแต่งงานกันมาหลายปีแล้วแต่ไม่เห็นเขาเอ่ยปากเรื่องนี้สักที ฉันพร้อมนะคะ พร้อมมากด้วย
“มีตอนนี้เลยไหมล่ะ” เขาว่าพลางดึงฉันไปจูบ... ก่อนจะเตลิดไปไกลจนถึงฝั่งฝันในที่สุด
ผล็อยหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้แต่ตื่นขึ้นมาพี่ตินก็ไม่อยู่แล้วค่ะ มีเพียงกระดาษโน้ตแผ่นเล็กติดอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าว่าเขามีเอกสารด่วนต้องเซ็น เห็นแบบนั้นฉันจึงพาตัวเองไปอาบน้ำชำระร่างกายตั้งใจว่าจะเข้าไปหาพ่อกับแม่สักหน่อยคิดถึงจะแย่
ระหว่างทางฉุกคิดขึ้นได้ว่าแม่บ่นอยากกินทุเรียนฉันเลยแวะซื้อไปฝากท่านซะหน่อยค่ะเดี๋ยวจะน้อยใจเอา เป็นตลาดผลไม้ตามฤดูกาล คนเยอะพอสมควรเดินเลือกจนได้ของที่ต้องการครบแล้วกำลังจะกลับขึ้นรถ แต่สายตาเจ้ากรรมมันดันเจอของดีเสียก่อนนี่สิ
“อ๊ะ!”
“เดินระวังหน่อยสิล้มไปจะทำยังไง”
“ขอโทษค่ะ”
พี่ตินประคองเธอคนนั้นขึ้นรถไป แต่ไม่ใช่รถของเขานะคะ น่าจะเป็นรถที่ซื้อให้เธอนั่นแหละ ฉันมองภาพนั้นอยู่นานสองนาน ว่ากันว่าผู้ชายเวลานอกใจมักชอบอ้างเสมอว่ามันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ ไม่ได้ตั้งใจอะไรต่าง ๆ สารพัดเหตุผล แต่ฉันว่ามันไม่ใช่หรอก การนอกใจใครสักคน คุณต้องรู้สิทำไปแล้วเกิดอะไรขึ้น ทำไปเพราะใจต้องการ มันคือความไม่รู้จักพอล้วน ๆ จะบอกว่าไม่ตั้งใจได้ยังไงกัน ฉันมองจนรถแล่นไปไกลสุดสายตาพลางหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาเขา
(ว่าไงครับเมีย) น้ำเสียงอารมณ์ดีเชียวค่ะ ถ้าเขากล้าพูดแบบนี้กับฉันก็แสดงเธอคนนั้นก็ต้องรับรู้การมีตัวตนของฉันสินะ
“อยากกินสตรอเบอร์รี่น่ะค่ะ พี่ตินพอจะซื้อมาให้มนตร์หน่อยได้ไหม”
(ครับ ไม่เกินสองชั่วโมงพี่กลับแล้ว รักหนูนะ)
“ค่ะ”
หลังจากวางสายฉันก็ร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง รักอย่างนั้นเหรอ? มันจะดีกว่านี้หากเขารักแค่ฉันเพียงคนเดียว
นานสองนานที่เอาแต่จมอยู่กับความรู้สึกนั้นก่อนจะปาดน้ำตาทิ้งแล้วขับรถไปบ้านพ่อกับแม่แทน
“พ่อขา แม่ขาคิดถึงจังเลยค่ะ” ฉันว่าก่อนจะรีบเข้าไปสวมกอดและหอมท่านทั้งสามคนอย่างเช่นทุกครั้ง
สามคน... ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ พ่อกับแม่ฉันพวกท่านมีความสัมพันธ์กันแบบนี้มานานมากแล้ว และก็อยู่กันด้วยความเข้าใจ ไม่มีใครมาก่อนมาหลังแต่พวกเขาเลือกที่จะดูแลไปพร้อมกัน ถึงจะไม่ได้เป็นที่ยอมรับแต่ว่าครอบครัวของเรายอมรับได้ค่ะ
ป๊า : หนูมาคนเดียวเหรอ
“ค่ะ พอดีพี่ตินเขาติดธุระ แล้วอีกอย่างหนูก็ไม่ได้บอกเขาด้วยว่าหนูจะมา”
พ่อ : แล้วร้องไห้ทำไม?
“...” พ่อก็คือพ่อสินะ ต่อให้เราจะโตแค่ไหนก็ยังถูกมองว่าเป็นเด็กอยู่วันยันค่ำนั่นแหละ
แม่ : ไม่ว่ากำลังเจอกับอะไรก็แล้วแต่ที่นี่ต้อนรับหนูเสมอนะลูก
“ค่ะ” กลั้นแทบตายสุดท้ายมันก็ไหลลงมาอีกจนได้
“ทั้งรักทั้งเกลียดสินะ” น้องชายสุดที่รักของฉันเองค่ะ มันพูดลอย ๆ ก่อนจะเดินผ่านหน้าพวกเราไป
“แล้วแกจะไปไหนพี่ซื้อของมาฝากด้วยนะ”
“ไปกระกระทืบคน”
“...”