อาจจะเป็นเพราะเขาขาดเซ็กซ์มานานเกินไปก็ได้... ใช่... สามเดือน เขาไม่ได้นอนกับผู้หญิงมาสามเดือนแล้ว เพราะอย่างนี้เขาถึงได้งุ่นง่านนัก หนุ่มหล่อระเบิดหาเหตุผลให้กับตัวเองได้ในที่สุด และเมื่อสมองเริ่มมีเหตุผล ร่างกายก็เริ่มผ่อนคลาย ดวงตาคมกริบแต่หวานฉ่ำประดุจอิสตรีที่เคยเบิกกว้างจ้องมองด้วยความหลงใหลตอนนี้กร้าวกระด้างขึ้นจนน่ากลัว จากนั้นคำพูดเหี้ยมโหดก็ถูกเค้นผ่านไรฝันขาวสะอาดออกมา แม้มันจะแผ่วเบาจนแทบจะฟังไม่ได้ยิน แต่กลิ่นไอความอำมหิตมันกลับฟุ้งกระจายโอบรัดรอบกายของหล่อนเอาไว้อย่างแน่นหนา และมันก็ทำให้ร่างบอบบางของหล่อนที่สั่นเทาอยู่แล้วสะเทิ่นสะท้านรุนแรงมากยิ่งขึ้น
“กล้ามากนะที่เข้ามาถึงในนี้...”
“คุณราฟ... เอ่อ... คือว่า...”
รดารักษ์พยายามจะอธิบายว่าที่ตัวเองเข้ามาในสถานที่ที่เป็นส่วนตัวของเขาเช่นนี้ก็เพราะว่าหล่อนจะนำเสื้อสูทมาให้เขาต่างหาก แต่พอสายตาเจ้ากรรมปะทะเข้ากับแผงอกกว้างที่โผล่พ้นรอยแยกของเสื้อคลุมสีขาวออกมาเท่านั้น ลมหายใจของหล่อนก็มีอันต้องสะดุดกะทันหัน คำพูดที่กำลังจะเอ่ยออกมาวิ่งหายเข้าไปในภายในอกจนหมดสิ้น ทำได้แค่เพียงยืนจ้องร่างกายของเขาราวกับจะกลืนกิน
“ไม่เคยมีใครกล้าขัดคำสั่งของฉันมาก่อน...”
ยิ่งเขาก้าวเท้าเข้ามาใกล้ จมูกของหล่อนก็ยิ่งได้กลิ่นไอของนักล่าตัวฉกาจชัดเจนยิ่งขึ้น หัวใจสั่นระทึกแทบจะทะลุออกมานอกอก เมื่อคนตัวโตเข้ามาใกล้เกินกว่าเหตุ พยายามจะถอยหนีแต่บั้นท้ายกับชนเข้ากับโต๊ะไม้ตัวใหญ่ ใบหน้างามซีดเผือดเมื่อทำใจกล้าช้อนตาขึ้นมองคนตัวโต
“รดา... รดาไม่ได้ตั้งใจค่ะ รดาแค่จะเอาสูท...”
มือสั่นๆ ยกเสื้อสูทสีน้ำเงินอมดำขึ้นเพื่อให้คนตัวโตมอง เขาจะได้รู้สักทีว่าหล่อนไม่ได้ถือวิสาสะเข้ามาเอง แต่หล่อนจำเป็นต้องมาจริงๆ แต่พ่อเจ้าประคุณยอมฟังยอมเชื่อที่ไหน เขาจ้องหล่อนราวกับหล่อนคือขยะเน่าๆ ชิ้นหนึ่ง ก่อนที่คำพูดเลือดเย็นจะลอดไรฟันขาวสะอาดออกมา
“ฉันเคยบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าฉันเกลียดเธอแค่ไหน...”
อยู่ๆ น้ำตาก็ร่วงกราวออกมาอาบแก้ม คำพูดโหดร้ายของเขาทำให้หัวใจไม่รักดีของหล่อนเจ็บจนแทบจะขาดใจ เนื้อหัวใจหลุดลุ่ยแตกสลาย
“รดารู้ค่ะ...รดาเข้าใจดี...”
พูดไปสะอื้นไป ปากคอสั่นเทาอย่างน่าสงสาร แต่คนอย่างราฟาลไม่เคยมีเมตตาให้กับใครอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่ตัวเองรู้ว่าจะนำพาหายนะมาให้อย่างรดารักษ์
“เข้าใจหรือยัง... ฉันว่าเธอห่างไกลจากคำว่าเข้าใจมากมายนักรดารักษ์ เธอมันก็แค่ผู้หญิงที่หวังจะรวยทางลัด...”
มือใหญ่คว้าหมับที่ต้นแขนอวบแน่น กดนิ้วลงบนต้นแขนนั้นอย่างไม่ถนอมแรงแม้แต่น้อย สาวน้อยเจ็บจนน้ำตาไหลแล้วไหลอีก เจ็บจนต้องปล่อยให้เสื้อสูทในมือร่วงลงไปกองกับพื้น
“ไม่นะคะ ไม่ใช่...”
หญิงสาวรีบเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างขอความเห็นใจ พลางส่ายหน้าปฏิเสธคำประณามเลือดเย็นนั้นจนผมยุ่งเหยิง แต่ไม่มีความปรานีอยู่ในสายตาของราฟาลเลย เพราะเขายังมองหล่อนด้วยสายตาชิงชัง ขยะแขยงเช่นเดิม เขาเกลียดหล่อนเหมือนกิ้งกือนี่แหละคือความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แล้วทำไมหล่อนถึงไม่เลิกรักเขาสักทีนะ ทำไมหล่อนถึงยังโหยหา ยังต้องการจะเห็นหน้าผู้ชายคนนี้อีก ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยใยดีเลย
“อย่าคิดว่าฉันโง่จนมองสะพานเสริมใยเหล็กของเธอไม่ออกสิ มารยาของผู้หญิงทั้งห้าร้อยเล่มเกวียนน่ะฉันตามทันทั้งหมดแหละ และไม่ว่าเธอจะมาด้วยวิธีไหน จะแก้ผ้าแก้ผ่อนวิ่งเข้ามาหา หรือว่าจะวิ่งมามุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มของฉัน...”
สายตาที่เขามองมามันเต็มไปด้วยความเหยาะหยัน รดารักษ์สะอื้นไห้ด้วยความอัปยศอดสู อยากจะมุดดินเพื่อให้หลุดไปจากสถานการณ์เลวร้ายนี้นัก แต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อคนตัวโตยังขยุ้มต้นแขนของหล่อนไม่ยอมปล่อย
“เธอก็จะไม่มีทางได้ในสิ่งที่เธอต้องการ... เพราะฉันไม่นิยมกินของต่ำๆ”
ทั้งคำพูดเลือดเย็น ทั้งสายตาชิงชัง มันทำให้หล่อนเจ็บลึกเข้าไปถึงทรวงใน รดารักษ์คงจะทรุดลงไปกองกับพื้นพรมด้วยความชอกช้ำแล้วล่ะ หากไม่มีมือใหญ่ขยุ้มต้นแขนของหล่อนทั้งสองข้างเอาไว้
ทำไมราฟาลถึงได้พูดจาร้ายกาจกับหล่อนแบบนี้นะ ทำไมเขาถึงได้มองหล่อนในแง่ร้ายนัก ใช่... หล่อนมันต่ำ หล่อนมันเน่าไม่ผิดจากขยะ แต่หล่อนก็ไม่เคยคิดจะเอื้อมมือไปคว้าเทพบุตรอย่างเขาลงมาเกลือกกลั้วด้วยเลยแม้แต่นิดเดียว หล่อนไม่เคยคิด และไม่เคยคิดจะทำมันด้วย...
น้ำตาแห่งความอัปยศอดสูไหลทะลักออกมาอาบแก้มไม่หยุด พยายามจะขืนตัวหนีแต่เขาไม่ปล่อย สิ่งที่ทำได้เพียงตอนนี้ก็คือการยืนร้องไห้ให้เขามองด้วยความสมเพชเท่านั้นเอง
“และจำเอาไว้นะรดารักษ์... ที่นี่ไม่มีพระเอก ดังนั้นต่อให้เธอร้องไห้จนน้ำตาท่วมการ์รัสโซ่ พาราไดส์ เธอก็ไม่มีทางได้ในสิ่งที่เธอต้องการหรอก เลิกร้องซะ แล้วออกไปให้พ้นหน้าฉัน...”
ชายหนุ่มปล่อยมือจากต้นแขนกลมกลึงของสาวน้อย จากนั้นก็ถอยออกห่างอย่างทันทีราวกับว่าขยะแขยงมากมาย ร่างอรชรทำท่าจะทรุดฮวบลงกองกับพื้นและนั่นก็ทำให้ราฟาลต้องยื่นมือเข้ามาตวัดเอวคอดที่เล็กได้จนน่าอัศจรรย์เข้าไปไว้แนบอก แต่การออกแรงกะทันหันนั้นก็ทำให้ชายหนุ่มเสียหลักล้มลงไปบนเก้าอี้ตัวใกล้ๆ โดยมีร่างอรชรนั่งซ้อนตักลงไปในลักษณะแนบสนิท
“อุ๊ย...”
แก้มสาวแดงจัดเมื่อสิ่งที่บั้นท้ายของหล่อนได้สัมผัสมันมีชีวิตชีวาและอลังการขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้จะไม่เคยเห็นสรีระของบุรุษเพศมาก่อน แต่เจ้าหนังสือโรมานซ์ที่อ่านมันทำให้หล่อนรู้ดีว่าสิ่งที่กำลังนั่งทับอยู่นั้นมันคืออะไร สาวน้อยห่อปากครางด้วยความตกใจ พยายามจะลุกหนีแต่ก็ถูกมือใหญ่กระชากกลับลงมาอีกหลัง
“ปล่อยรดาค่ะ...”
คนตัวโตไม่ใช่แค่ไม่ปล่อยเท่านั้น แต่ยังเลื่อนมือใหญ่ทั้งสองข้างไปยึดไว้ที่เนินสะโพกผายกลมกลึงจากนั้นก็จับบั้นท้ายของหล่อนหมุนวนไปมากับเจ้าความอลังการที่ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับราฟาลกำลังหลุดหลงเพราะเขาไม่สนใจคำต้านทานของหล่อนเลย เขาทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาพึ่งจะพูดออกมาอย่างสิ้นเชิง
“คุณราฟ...”
พยายามเตือนสติ แต่มันก็ไม่ได้ผลเช่นเคยเพราะพ่อหนุ่มสุดหล่อยังคงจับร่างของหล่อนให้โยกคลึงอยู่บนหน้าขาของเขาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เขาเองก็หยัดกายขึ้นหาเป็นจังหวะ รดารักษ์เริ่มหลุดลอย สติสตังเริ่มบินหนี เมื่อปากร้อนๆ จมูกซุกซนของหนุ่มในฝันไต่ไปตามลำคอ ปากเขาดูด ลิ้นเขาเลีย ส่วนฟันสะอาดขบเพียงเบาๆ แต่แค่นั้นก็ทำให้หล่อนร้องครางออกมาดังลั่น
“คุณราฟ...”