จากที่เคยขัดขืน จากที่เคยต่อต้าน ตอนนี้ราฟาลไม่ต้องใช้มือจับเอวของหล่อนให้โยกคลึงอีกแล้ว เพราะหล่อนทำเอง โยกเองเคล้นคลึงอยู่บนหน้าขาแข็งแกร่งไม่ต่างจากสาวน้อยระเริงรัก ปากก็ปล่อยเสียงครางด้วยความเสียดเสียว
“นมเธอทั้งนุ่มทั้งใหญ่...”
ราฟาลพึมพำออกมาแผ่วเบาเมื่อมือใหญ่ได้เลื่อนขึ้นมาขยำเต้างามจนมันแทบบี้แบนเละคามือ ความต้องการปลดปล่อยแล่นพล่านอยู่ในกายหนุ่ม เขายอมรับอย่างขมขื่นเลยว่ารดารักษ์มีผลต่อร่างกายของเขาอย่างที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำได้มาก่อน แค่ได้มองหน้า แค่ได้เห็นกายสาวสมสัดส่วน แค่นั้นเขาก็แทบเป็นบ้าเพราะความอยากเชยชม และมันก็เป็นเหตุผลที่เขาต้องกันรดารักษ์ออกจากสายตา แต่เจ้าหล่อนกลับไม่ให้ความร่วมมือซะนี่ ดูสิทั้งดิ้นทั้งส่ายอยู่บนตักของเขาราวกับแม่สาวร้อนรัก
ชายหนุ่มกัดฟันแน่นเพื่อยื้อตัวเองเอาไว้ไม่ให้ตกลงไปในบ่อหายนะที่แม่สาวน้อยในอ้อมแขนกำลังควักมือเรียกอยู่สุดกำลัง และในที่สุดก็ทำได้สำเร็จ ราฟาลผลักร่างอรชรที่กำลังอ่อนระทวยออกจากตักของตัวเองจนร่วงลงไปกองกับพื้นอย่างไม่ปรานี ก่อนจะรีบลุกพรวดพราดขึ้นยืนตระหง่าน
“ยั่วเก่งราวกับมืออาชีพเชียวนะรดารักษ์...”
น้ำเสียงของคนตัวโตเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน สายตาที่เขามองมาเต็มไปด้วยการดูถูกดูแคลน รดารักษ์ที่นั่งกองกับพื้นห้องราวกับขยะเน่าๆ กล้ำกลืนความเจ็บปวดเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาเพื่อมองหาความเมตตาแต่หายังไงก็หาไม่เจอ มีแต่ความเกลียดชังเท่านั้นที่ส่งผ่านมา ความรู้สึกวูบวาบจากการถูกปาก ถูกลิ้น ถูกฝ่ามือของราฟาลแตะต้องจางหายไปจนหมดสิ้นเหลือไว้แต่ความอัปยศอดสูเท่านั้น
“รดาไม่ได้ทำ...”
ราฟาลแค่นยิ้มหยัน ขณะหรี่ตามองแม่สาวน้อยที่ยังคงนั่งสะอื้นอยู่ที่พื้นด้วยความขยะแขยง “มันคงเป็นความสามารถพิเศษที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดสินะ โยกเก่งไม่เบา...”
ใบหน้างามแดงสลับขาวด้วยความอายผสมความอดสู ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกที่จะไปโต้เถียงกับผู้ชายที่เกลียดหล่อนหมดหัวใจอย่างเช่นราฟาล เมื่อคิดได้เช่นนี้หญิงสาวจึงก้มหน้ามองพื้นนิ่ง ปล่อยน้ำตาให้หลั่งรินออกมาราวกับเขื่อนที่ทำนบแตก ราฟาลเห็นแล้วก็ขัดใจยิ่งนัก
“ไปให้พ้นๆ หน้าไป... แล้วจำเอาไว้นะอย่ามายุ่งกับฉันอีก ต่อให้ห้องนอนฉันไฟไหม้ เธอก็ไม่ต้องสะเออะเข้ามา เข้าใจไหม!”
“ค่ะ รดาจะทำตามที่คุณราฟต้องการ...”
คนตัวโตแค่นยิ้มหยัน “ทำตามหรือ ฉันเห็นเธอรับปากฉันมากี่ปีแล้วล่ะ ตั้งแต่เธอเข้ามาทำงานนั่นแหละ แล้วเธอทำได้ไหม ทำได้แค่ไหนกัน ฉันต้องเบื่อหน่ายกับสายตาอ่อยเหยื่อของเธอมากี่ร้อยกี่พันครั้งแล้ว... เธอมันก็พวกปลิง พวกนักขุดทองดีๆ นี่เอง เห็นผู้ชายรวยๆ ก็วิ่งเข้าใส่ไม่ลืมหูลืมตา...”
หากยังอยู่ในใต้ชายคาเดียวกัน หล่อนก็คงไม่สามารถห้ามตาห้ามใจไม่ให้มองไปทางเขาไม่ได้หรอก ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดก็คือการไปซะ ไปจากที่นี่ กลับไปหาพ่อที่เมืองไทย แม้จะต้องเจ็บปวดเพราะความคิดถึงราฟาล แต่มันก็ยังดีกว่าที่จะต้องมานั่งร้องไห้ให้เขาเหยียดหยามเอาเช่นนี้
“มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกแล้วล่ะ... รดาสัญญา...”
“ฉันก็หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้น...”
น้ำเสียงของคนตัวโตช่างเลือดเย็นเหลือเกิน มันบอกเป็นนัยๆ ว่าหากหล่อนขัดคำสั่งของเขาอีกล่ะก็ หล่อนจะต้องถูกพิพากษาให้ประหารชีวิตยังไงยังงั้น
“เพราะครั้งหน้าฉันจะไม่มีทางหยุดแบบนี้อีกแน่...”
และเสียงประตูเลื่อนก็ดังขึ้น พร้อมๆ กับร่างสูงใหญ่ของราฟาลที่ก้าวออกไป สาวน้อยเงยหน้าที่เปรอะเปื้อนคราบน้ำตาขึ้นเมื่อสามัญสำนึกร้องบอกว่าตอนนี้มารร้ายได้ออกไปแล้ว
“รดาจะไปค่ะ...”
ก้อนสะอื้นแห่งความเสียใจทำให้หญิงสาวสะอื้นไห้ไม่หยุด มือบางควานไปหยิบเสื้อสูทที่กองอยู่กับพื้นขึ้นมากอดแนบอก ความรักที่มีต่อราฟาลมันยิ่งใหญ่นัก แต่กระนั้นมันก็ยังไม่มีคุณค่าพอที่จะทำให้เขามองเห็น
“จะไม่อยู่ให้คุณราฟลำบากใจอีก...”
หลังจากนั่งคร่ำครวญด้วยความปวดรวดร้าวอยู่นานเกือบสิบนาที หญิงสาวก็รวบรวมแรงกายแรงใจเฮือกสุดท้ายฝืนพยุงตัวเองลุกขึ้นยืน ยกมือปาดน้ำตาบนใบหน้าจนเหือดแห้ง ก่อนจะค่อยๆ ประคองตัวเองให้ก้าวออกไปจากสถานที่ส่วนตัวของราฟาลด้วยดวงใจที่บอบช้ำ หัวใจที่มันแตกสลายไม่มีชิ้นดีเพียงเพราะวาจาร้ายกาจเพียงแค่ไม่กี่คำเท่านั้นเอง
แทนที่เมื่อยามอยู่ตามลำพังภายในห้องพักแล้วจะรู้สึกสบายอกสบายใจอย่างที่ฝันเอาไว้ แต่ราฟาลกับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว หัวใจรุ่มร้อน ร่างกายร้อนฉ่าเดือดพล่านต้องการการปลดปล่อย ชายหนุ่มเดินหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ภายในห้องน้ำกว้าง จ้องมองภาพตัวเองผ่านกระจกเงาที่อยู่เหนืออ่างล้างหน้าราคาแพงระยับนิ่ง แล้วก็ได้เห็นผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือเขาเองนั่นแหละที่กำลังถูกแผดเผาด้วยไฟปรารถนา
ระยำ!
ทำไมเขาจะต้องมารู้สึกอยากจะมีเซ็กซ์จนหน้ามืดตามัวเอากับยายเด็กสาวใช้ ผู้หญิงที่เขาไม่อยากจะเข้าใกล้แม้แต่นิดเดียวอย่างรดารักษ์นักนะ หล่อนเป็นตัวอันตราย หล่อนเป็นตัวหายนะ เขารู้ได้ตั้งแต่สบตากับหล่อนเมื่อสองปีก่อนนั่นแหละ
แต่เขาก็ห้ามความอยาก ความต้องการที่จะครอบครองกายสาวสดนั้นไม่ได้ และเจ้าความรู้สึกนี้มันก็ทำให้เขารู้สึกเบื่อหน่ายผู้หญิงทุกคนอย่างไร้เหตุผล สามเดือนมานี่เขาไม่ได้แตะต้องผู้หญิงเลย เขาให้เหตุผลว่าเพราะตัวเองทำงานหนัก แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลย... มันเป็นเพราะว่าเขาทนแตะต้องใครไม่ได้ต่างหากล่ะ... ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนสวยงามเลยตั้งแต่เขาได้พบกับรดารักษ์
ชายหนุ่มสบถออกมาด้วยถ้อยคำหยาบคายยืดยาว ขณะก้มลงควักน้ำใส่หน้าตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ใช่... เขากำลังบ้า เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่ยอมให้แม่เด็กบ้านั่นเข้าใกล้ถึงเพียงนี้ ยอมให้หล่อนใช้บั้นท้ายของตัวเองโยกคลึง แม้มันจะมีเสื้อผ้าขวางกั้น แต่เจ้าเสื้อผ้าบ้าบอพวกนั้นมันหาได้สกัดกั้นกระแสความร้อนแรงยามที่แม่คุณโยกย้ายส่ายสะบัดไม่ได้ เพราะมันยังมีอำนาจทำให้เขาร้อนฉ่า เดือดพล่าน ความต้องการปลดปล่อยทะลักขึ้นมาแทบจะล้นปาก และก็เป็นเขานั่นแหละที่แทบจะจับหล่อนอ้าขาแล้วเสพสมซะให้ห้องแต่งตัวนั้นให้รู้แล้วรู้รอด
บ้าซิบ...!
เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เขาร้อนได้เพียงแค่สบตา แต่รดารักษ์ทำได้ และทำได้อย่างง่ายดายยิ่งนัก ทั้งๆ ที่หล่อนไม่ได้ชม้อยชายตา หรือทำท่ายั่วยวนใดๆ เลย แต่กลับทำให้ผู้ชายที่มีความต้านทานผู้หญิงสูงลิบแบบเขาคลุ้มคลั่งได้อย่างน่าทึ่ง
ราฟาลกัดฟันแน่นด้วยความเกลียดชังตัวเอง เกลียดนักที่ไม่เคยขจัดแม่สาวน้อยนามว่ารดารักษ์ออกไปจากสมองได้ เกลียดนักที่รู้สึกไร้แรงต้านทานทุกครั้งที่เห็นหน้า
“ฉันไม่มีวันยอมให้เธอมาควบคุมสมองหรอก... รดารักษ์...”
ชายหนุ่มเค้นเสียงลอดไรฟันออกมาแผ่วเบา จ้องมองหน้าตัวเองในกระจกเงานิ่ง ราวกับต้องการจะตอกย้ำตัวเองว่าห้ามใจอ่อน จากนั้นร่างกายกำยำที่มีบางส่วนยังไม่ยอมสงบก็เดินเข้าไปในส่วนที่ใช้อาบน้ำทันทีเมื่อจัดการพาดเสื้อคลุมไว้กับราวทองเหลืองเรียบร้อยแล้ว มือใหญ่เปิดน้ำฝักบัวให้ไหลผ่านตั้งแต่ศีรษะลงมา หวังไว้ลึกๆ ภายในอกว่าน้ำเย็นๆ แบบนี้จะสามารถทำให้ไอ้อาการร้อนผ่าวที่กำลังแผดเผากายหนุ่มอยู่นั้นจะสงบลงได้แม้จะแค่เล็กน้อยก็ตาม