9 - ผมกับแมกซ์เป็นมากกว่านั้น
ที่โรงเรียน
“สองคนนี้ยังไงกันแน่ครับ”
“เอ่อ... ถามแบบนี้เราเขินนะ”
ผมเดินเข้ามาโรงเรียนพร้อมกับแมกซ์ควงแขนทำเหมือนเดินเข้างานแต่งงาน ผมไม่ได้แต่งงานกับเขาสักหน่อยแค่เดินเข้าโรงเรียนด้วยกัน ผมก้าวขาไม่ทันพ้นรั้วโรเรียน นักเรียนและเพื่อนผมมาถามใหญ่เลยว่าตอนไปออกรายการไปคนเดียวหรือไปกับแฟน ยังถามอีกว่าไปสารภาพรักกับแมกซ์ออกอากาศหรือยัง ทุกคนถามแบบนี้ผมเขินไปหมดจะให้ตอบอะไร
“เอ่อ เราไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”
“แฟนผมครับ”
ผมตกใจเมื่อแมกซ์มาโอบไหล่ผมแล้วแสดงความเขิน แถมยังเคลมว่าผมเป็นแฟนเขาอีก เท่านั้นแหละเสียงนักเรียนที่เข้ามารุมล้อมผมด้วยความดังจากการไปออกโทรทัศน์เริ่มไหลเป็นคลื่นเสียงเหมือนไปคอนเสิร์ต ได้ยินความหนักเบาตั้งแต่ทางเข้าไปถึงในโรงเรียน ทุกคนสนใจผมกับแมกซ์ขนาดนั้นเลยเหรอ สงสัยผมจะเป็นคนดังเต็มตัวแล้ว
“เคบฟังเพลงแฟนผมน่ารักไหมล่ะ นี่ไงอยู่ตรงหน้าผมแล้ว”
“อื้ออ”
“แหนนน่”
ผมอยู่โรงเรียนชายล้วนยังไม่เคยเจอใครมาบอกรักผมเท่าแมกซ์แล้ว ผมหูแดงหน้าแดงแรงจะก้าวเดินเข้าโรงเรียนผมหยุดลงตรงนี้ เพราะผมไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรบ้าบอจนผมไม่เป็นตัวเอง ผมงอนรีบเดินเข้าอาคารเรียนไปก่อน คนอะไรมาทำให้ผมเขินและหวั่นไหวขนาดนี้ เช้ามาผมไม่เคยเขินแล้วทำอะไรผิดถูก รีบเดินจนไม่มองทางไปชนเสาอาคารเรียน แมกซ์หัวเราะดังตั้งแต่หน้าทางเข้าทำผมงอนหนักกว่าเดิม ผมไม่คุยด้วยแล้ว
“เป็นอะไรแดง งอนแฟนตัวเองเหรอ”
“นายก็เอากับเขาด้วยเหรอ”
ผมว่าเพื่อนร่วมห้องของผมไม่ต้องไปฟังคนอื่นมาก เพราะผมกับแมกซ์ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน ตั้งแต่เดินเข้าโรงเรียนมามีแต่คนมาถามผมว่าผมเป็นแฟนกับแมกซ์แล้วเหรอ ไปออกรายการด้วยกันได้สารภาพรักหรือยัง ผมไม่เข้าใจทำไมต้องจับจิ้นผมด้วย โรงเรียนนี้เขามีหนุ่มวายตั้งแต่เมื่อไหร่
“ก็อยากรู้ บอกมาเถอะ เขินแบบนี้กูว่าใช่”
“ใช่อะไรเล่า”
“ใช่แน่ ๆ ต้องใช่แน่ ๆ”
ผมว่าเพื่อนผมชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ไปฟังจากปากทุกคนแบบนี้แล้วใครมันจะไปเก็บอาการอยู่ล่ะ เพราะหัวใจของผมชักจะเรียกร้องให้หาผู้ชายสักคนเข้ามาเป็นแฟน ซึ่งคนที่ผมสนใจไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลเพราะใกล้จนหัวใจผมเต้นแรงสูบฉีดเลือดเกินขนาด ผมจะตายเพราะความรักแล้ว
“พอแล้ว เดี๋ยวกูจะงอนมึงอีกคน”
“หวาย ๆ คนอะไรไม่ยอมรับความจริงวะ” ผมไม่ฟังเพื่อนล้อแล้ว หยิบสมุดการบ้านออกมากำลังจะเปิดการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ แต่กลายเป็นว่าเล่มนี้ไม่ใช่ของผม ลายมือก็ไม่ใช่ ผมเปิดหน้าสมุดพบว่านี่มันสมุดการบ้านของแมกซ์นี่นา ผมค้นดูในกระเป๋านี่มันไม่ใช่ของผมนี่นา นี่ผมไปสลับกระเป๋ากับแมกซ์ตั้งแต่เมื่อไหร่
“อุ้ยย น้องน้ำเต้าหู้มาจากไหน”
“อื้ออ ไอ้แมกซ์”
คนบ้าอะไรมาค้นกระเป๋าผมแล้วหยิบตุ๊กตาน้องน้ำเต้าหู้ออกมาให้ทุกคนดู นี่มันของหวงผมที่ผมไม่ให้ใครดูมาก่อน วันนี้ความจริงเปิดเผยแล้ว ผมอายจนพูดไม่ออกเพราะผมยังติดตุ๊กตาอยู่เลย ต่อให้จะอยู่ประถมหกก็ตาม วัยนี้ก็น่าจะติดของเล่นอยู่ ทำไมทุกคนต้องมาจำกัดความคิดด้วย
“น่ารักเหมือนน้องแดงไม่มีผิด”
ผมทนไม่ไหวกอดแมกซ์แล้วงับหูให้มันหยุดก่อกวนผม คนอะไรมาสลับกระเป๋าขณะที่ผมไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ตัวก็เปิดกระเป๋าเห็นสมุดการบ้านของเขา แล้วหน้าสุดท้ายเขียนบอกรักผมเต็มหน้ากระดาษ จะให้ผมคิดยังไง สงสัยต้องขีดสมุดการบ้านมันคืนแล้ว
“เขินเหรองับ คิ ๆ ๆ”
“จะเอายังไงเนี่ย”
“คู่นี้ยังไงกันเนี่ย เป็นแฟนกันเลยไหม ชายรักชายในโรงเรียนนี้ก็เปิดตัวกันเยอะ มึงเปิดตัวเลยไหมแดง”
“จะบ้าเหรอ แต่งเลยก็ได้ เห้ยย”
ที่โรงอาหาร
“ขอบคุณมากนะแดงที่ช่วยครู”
ผมกับครูคณิตประถมหกจะสนิทกันระดับหนึ่ง เธอเป็นครูที่สวยและใจดีกับเด็กมาก ผมถึงชอบที่จะเข้าหาแล้วทำความรู้จักจนเกิดความไว้ใจ ผมเห็นว่าวันนี้ในคาบต้องส่งสมุดการบ้าน ผมเข้ามาช่วยยกเพราะเห็นว่าในมือครูถือของเยอะ ผมใจดีกับทุกคนแต่ใจดีอย่างมีขอบเขต ผมเดินไปพร้อมกับครูแล้วครูก็ถามเรื่องผมเยอะมาก ไปออดิชั่นถึงไหนแล้ว ความฝันเป็นแบบไหน ผมตอบอย่างสบายใจและไม่กดดันตัวเอง
“ครูดีใจด้วยนะ เห็นเงียบ ๆ ไม่คิดว่าจะมีความสามารถขนาดนี้”
“ครูชมแบบนี้ผมเขิน... อื้ออ”
ผมเดินไม่ทันระวังเหยียบเชือกรองเท้าผ้าใบตัวเอง ทำให้ผมล้มไปโนนักเรียนคนหนึ่งที่เดินออกมาจากทางแยกพอดี ผมล้มบนอ้อมกอดเขาขณะยืนอยู่ ผมไม่รู้ตัวเลยว่าผมล้มไปจูบโดนแก้มผู้ชายอยู่ คงไม่ใช่ผู้หญิงหรอกเพราะโรงเรียนนี้มีแต่นักเรียนชาย ผมตั้งสติแล้วเงยหน้าขึ้นมาขณะเขินอาย ผมยิ่งเขินหนักกว่าเดิมเพราะคนตรงหน้าคือแมกซ์ คนอะไรทำหัวใจผมละลายเมื่อโดนไฟมาละลายในใจจนไหลเป็นน้ำ
“เอ่อ... ใครเนี่ย”
“อย่ามาแกล้งสิครับ เดี๋ยวถีบนายตกรอบแล้วเราเข้ารอบคนเดียวอย่ามาโกรธเรานะ”
“นายแกล้งอะไรเราเนี่ย” ผมก้มเก้บกองสมุดที่หล่นลงพื้น ผมมองที่สมุดตัวเองพบกระดาษใบหนึ่งหล่นออกมาจากสมุดที่ถูกกระดาษในเล่มทับไว้ลายมือในกระดาษโพสต์อิทผมจำได้ดีเลยว่าเป็นแมกซ์ มันตั้งใจบอกรักผมเหรอ บอกให้คืนกระเป๋าแต่มันไม่ลบข้อความพวกนั้นออก เดี๋ยวครูมาอ่านเขาจะคิดไปไกลแล้วมั้ง
“ครูครับอย่าไปฟังมันนะครับ”
“แดง เห็นหลายคนเขาบอกนะว่าเธอมีแฟนแล้ว นี่แฟนเธอเหรอ” เรื่องของผมมันไปไวกว่าหกจีประเทศเกาหลีหรือไง เห็นหน้าผมแล้วความสงสัยลอยมาขนาดนี้ ผมต้องบอกทุกคนว่ายังไงว่าผมกับแมกซ์เป็นอะไรดี จะบอกว่าเป็นแฟนผมก็ยังไม่ยอมรับตัวเอง
“เป็นโรคไม่ยอมรับตัวเองเหรอ”
แมกซ์พูดแบบนี้ผมจะตอบครูยังไง เอาเป็นว่าเขาเป็นคนที่ทำให้ผมผ่านเข้ารอบก็แล้วกัน แต่ตอนนี้ทุกคนคิดว่าผมกับแมกซ์เป็นแฟนกันไปแล้ว งั้นก็แล้วแต่จะคิดก็แล้วกัน
“อ้าว คนไม่ยอมรับตัวเองงอนเดินหนีไปแล้ว”
ที่โรงอาหาร
“ไอ้ตุ๊ด มีแฟนแล้วก็ดีนะ ถั่วดำมึงจะได้ไม่ว่างให้แทะเล่นคนเดียว” ผมได้กลิ่นมลพิษทางอากาศและทางเสียงเมื่อต้องเห็นคนที่ผมไม่ชอบหน้าอย่างเมธัส มันได้นิสัยมาจากเทาหรือไงถึงมาล้อเลียนด้วยคำพูดที่ผมไม่ชอบ ผมได้ยินแต่ไม่มองมัน ปล่อยให้มันประจานความโง่ของตัวเองต่อไป
“เดี๋ยวนะแมกซ์”
แมกซ์ดูห้าวและพร้อมบวกขนาดไหน ชูนิ้วกลางใส่เมธัสจากระยะไกล เหมือนคนอยากหาเรื่อง เอาจริงผมไม่อยากให้เขาหาเรื่องใครเพราะมันจะกระทบต่อการแข่งขัน เกิดใครถ่ายคลิปผมกับแมกซ์ไปแฉในรายการ ผมอาจจะหมดสิทธิ์ไปต่อ รายการคัดความสามารถแล้วยังคัดจริยธรรมและศีลธรรมผู้เข้าแข่งขันด้วย
“แดง เราซื้อน้ำมาให้”
“เดี๋ยวก่อน นายเป็นใครเอาน้ำมาให้แดงมีเจตนาไม่ดีหรือเปล่า” แมกซ์เห็นว่านักเรียนคนหนึ่งเอาน้ำมาให้ผม เขาแปลกใจว่าคนตรงหน้ามีเจตนาไม่ดีหรือไม่ ผมเห็นแล้วไม่ได้รู้จัก ผมกลัวเหมือนกันเพราะถ้าผมเป็นคนดัง ผมไม่กล้ารับของขวัญจากแฟนคลับเหมือนกันกลัวจะใส่อะไรมา
“ขอบคุณนะแต่ไม่ดีกว่าครับ...”
“ถ้าเอามาให้แดง แล้วนายไม่กินเองแสดงว่านายมีเจตนาไม่ดี” ในขณะนั้นมีใครบางคนแอบมองอยู่ห่าง ๆ และไม่พอใจที่แผนการนั้นไม่สำเร็จเขาอยากให้แดงเสียงหาย จะได้ไม่ต้องไปแข่งให้เข้ารอบและคนที่ทำก็น่าจะรู้จักเป็นอย่างดี
“ไอ้เวรเอ้ย แฟนมึงก็รู้ทันคนจัง มึงจะเอาแบบนี้ใช่ไหม กูจะจัดการมึงตอนวันแข่งขันเอง”
เช้าวันต่อมา
ที่บ้านแดง
“ที่รักครับ เปิดประตูให้ผมเข้าไปหน่อย”
“อื้ออ ไม่ใช่นะแม่”
ผมตกใจเมื่อแมกซ์มากดกริ่งหน้าบ้าน ผมก็ไม่ได้ใจร้ายไล่แขกกลับบ้านเสียมารยาทสักหน่อย แต่เขามาเรียกผมว่าที่รักในขณะผมกำลังนั่งกินข้าวกับแม่ แม่ได้ยินแบบนี้ผมก็โดนล้อหนักน่ะสิ ผมจะมีรักแรกเป็นผู้ชายแบบนี้จริง ๆ เหรอ ผมยังไม่อยากยอมรับเลยว่าตัวผมจะขายออกแล้ว ผมเดินออกมาเขาเอาช่อดอกกุหลาบแดงเหมือนชื่อผม ใส่ธนบัตรสีเทามาให้ผมเต็มช่อ เขามีใจให้ผมจะเซอร์ไพร์สขนาดนี้เลยเหรอ
“ผมชอบแดงที่สุดเลย”
“พอแล้ว เราเขินแล้ว...” ผมหูแดงหน้าแดงมือไม้สั่นจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว ไม่เห็นต้องมาเซอร์ไพร์สอะไรขนาดนี้ เขาวางแผนจะสารภาพรักออกอากาศอาศัยช่วงชนะเลิศไปเลยใช่ไหมถึงจะพอใจ แค่นี้ผมก็เข้าใจความต้องการของเขาแล้ว ไม่ต้องไปสืบหัวใจให้มาก ผมรับของจากมือแมกซ์มาด้วยความพอใจเพราะของที่เขามอบให้ถือว่าเป็นกำลังใจอย่างดี ผมรีบเดินทางไปสตูดิโอทันที รอบนี้ผมเห็นแมกซ์ขนอุปกรณ์ใส่หลังรถมาด้วย สงสัยจะเล่นใหญ่ปิดท้ายถ้าเข้ารอบคงจะประกาศให้ผู้ชมทั่วประเทศเห็นไปเลย
“งั้นผมขอรับแฟนผมไปแข่งขันตามหาความฝันก่อนนะครับ คุณแม่ของผม”
“เห้ยยย”
ผมว่าแมกซ์จะเซอร์ไพร์สผมมากไปแล้วไหม มาเรียกแม่ผมเหมือนแม่สามีตัวเองแบบนี้มันใช่เรื่องที่ไหน ผมกับเขาอายุสิบสองอีกหลายปีจะบรรลุนิติภาวะ รีบจีบแบบนี้ผมจะตั้งตัวยังไง ผมไม่มีมดลูกให้เขาทำลูกให้ผมหรอก เป็นผู้ชายด้วยกันได้แค่ทำอย่างว่าก็พอแล้ว ผมดึงตัวเขาขึ้นรถแล้วไปจัดการบนรถ หยิบสกอตเทปมาปิดปากมันสักพัก เลิกทำผมเขินจนเสียสมาธิได้ไหม
“เราจะทำให้นายมีความสุขนะครับ”