Chapter 2 ช่วยด้วยคร้าบบ! หลานผมหาย (1)

1729 Words
Chapter 2 ช่วยด้วยคร้าบบ! หลานผมหาย (1) ‘รู้ดีจริงๆ’ นาวีถึงกับอมยิ้มพลางส่ายหัวเบาๆ เพราะเพียงแค่เขาสตาร์ทรถแผ่นเพลงโปรดที่ชอบเปิดฟังก็ถูกกดออกจากเครื่องเล่นทันที มือน้อยๆ รีบควานหาแผ่นเสียงของตนที่เก็บเอาไว้ในรถ หนูน้อยจำแผ่นที่มีลายการ์ตูนได้ดี จึงหยิบออกมาแล้วใส่เข้าไปแทนแผ่นเพลงของคุณลุง "เปลี่ยนของลุงทำไมครับ เบื่อวัยรุ่นใจร้อนจริงๆ” “ก็คุณลุงวีฟังเพลงไม่วัยรุ่นเลยนี่คับ” “ตามสบายคร้าบบบคุณหลาน โตเป็นหนุ่มแล้วหรือยังไงเรา ถึงได้รู้ว่าเพลงวัยรุ่นมันเป็นอย่างไร” “คุณพ่อชอบเปิดเพลงวัยรุ่นให้เรย์ฟัง...คุณพ่อยังบอกว่า...ว่าอะไรนะ...อ้อ...คุณพ่อบอกคุณลุงวีแก่แล้ว... สาวๆ ไม่ชอบคับ” กว่าจะพูดจบก็ทำเอาคนฟังเหนื่อยเลยทีเดียว เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องการเรียบเรียงคำพูดที่ไม่สามารถคิดประโยคยาวๆ ได้ “โหย ไอ้คนไม่แก่ ก็เลขสามพอๆ กันนั่นแหละ” เพียงได้รู้ว่าพ่อเด็กนินทาลับหลัง ชายหนุ่มก็คิดคาดโทษ เอาไว้ ฝ่ายนั้นคงไม่รู้ว่าหนูน้อยเอาความลับของคุณพ่อมาขายกับเขาอีกเรื่องจนได้ เห็นทีเขาต้องรีบติดสินบนหลานชายเสียแล้ว “ถ้าคุณพ่อพูดอะไรเกี่ยวกับคุณลุงอีก หลานเรย์ต้องเอามาบอกคุณลุงทุกเรื่องนะครับ คุณลุงรับปากว่าจะพาไปเที่ยวบ่อยๆ” “คับ” หนูน้อยรับคำพลางยิ้มแก้มปริ นาวีเข้าเกียร์แล้วเหยียบคันเร่งขับรถออกไปจากบ้านก่อนจะสายมากไปกว่านี้ โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่สวนสัตว์โคราช ซึ่งเป็นสวนสัตว์ที่เขาชอบพาหลานชายไปเที่ยวอยู่เป็นประจำ ++++++ บริเวณลานจอดภายในเขตสวนสัตว์เริ่มจะหาที่จอดยากเพราะเป็นวันหยุด เมื่อได้ที่จอดรถแล้วนาวีจึงเลือกที่จะซื้อตั๋วเพื่อขึ้นรถรางชมสัตว์ เนื่องจากสวนสัตว์มีอาณาเขตกว้างขวางและกลัวว่าหลานจะเมื่อย ซึ่งรถรางจะจอดให้ชมเป็นจุดๆ อยู่แล้ว แม้จะมาหลายครั้งแต่หนูน้อยก็ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้มาเห็นสัตว์ป่าหลากหลาย ชายหนุ่มพาหลานนั่งเที่ยวเล่นจนครบรอบ จากนั้นสองลุงหลานจึงพากันเดินไปหาที่นั่งเพื่อคิดว่าจะไปยังจุดไหนต่อดี “โอ้ คนรึนางฟ้า” นาวีมีอาการคล้ายคนละเมอ เมื่อเหลือบไปเห็นสาวสวยหุ่นเป๊ะในชุดกางเกงขาสั้นอวดเรียวขาขาวกำลังเดินผ่านหน้าเขาไป และเหมือนหญิงสาวคนนั้นจะรู้ตัวว่ากำลังถูกจับจ้อง เธอจึงหันมาโปรยยิ้มหวานแก้เขิน เพียงเห็นรอยยิ้มนั้นคนมองก็แทบละลายไป กับความมีเสน่ห์ของเธอ “สะ สวัสดีครับ” นาวีส่งยิ้มกลับไปเมื่อเธอคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ เปล่า เธอไม่ได้มาหาเขา เพราะแววตาของเธอนั้นโฟกัสไปที่ร่างกลมป้อมที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน “ลูกใครเอ่ย น่ารักจัง ชื่ออะไรคะ” “อ่ะ เอ้อ ครับๆ น่ารักครับ" ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อนอาการหน้าแตกเมื่อสักครู่ 'ที่แท้มองเจ้าเรย์หรอกเรอะ ได้ยังไงเนี่ย เสน่ห์แรงเกินลุงตัวเองได้ยังไง' “กี่ขวบแล้วคะ” “จะห้าขวบแล้วครับ” “ดูท่าทางจะฉลาดและพูดเก่งนะคะ” “พูดเก่งจนตอบไม่ทันเลยล่ะครับ” นาวีอมยิ้มพลางเอื้อมมือไปขยี้ศีรษะเล็กอย่างเอ็นดู กับการที่มีใครต่อใครชอบเข้ามาทักทายหลานชายจอมซนของตนเสมอ "แล้วมากันแค่สองคนเหรอคะ" หญิงสาวเอ่ยถามพลางเหลียวมองไปรอบกาย เนื่องจากกลัวแม่เด็กจะมาเห็นแล้วเข้าใจผิดในตัวเธอ "แม่ไม่มีครับ เธอทิ้งผมกับลูกไปตั้งนานแล้ว ผมต้องเลี้ยง ลูกมาคนเดียวตั้งแต่เขายังเล็กๆ จนตอนนี้ก็ยังหาแม่ใหม่ไม่ได้เลย" นาวีรีบสวมรอยเป็นพ่อเด็กพลางแสร้งทำหน้าเศร้า ด้าน ธนัทเทพเงยหน้ามองคุณลุงตัวเองด้วยไม่เข้าใจความหมายในคำพูด "โถน่าสงสารจังเลยค่ะ” "ผมเองก็สงสารลูกอยู่เหมือนกัน จะหาผู้หญิงดีๆ สักคนก็กลัวจะเข้ากับลูกไม่ได้น่ะครับ" “อ้าว…คุณ ไหนบอกจะไปเข้าห้องน้ำ ที่แท้มายืนคุยอยู่ตรงนี้นี่เอง” เสียงผู้ชายที่ดังแทรกส่งผลให้การสนทนาหยุดลงไปในทันที นาวีเหลือบไปเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินตรงมาทางตน “เห็นเด็กน่ารักเลยแวะมาทักค่ะ ดูสิคุณ ยิ้มก็เก่งอีกด้วย” “ภรรยาผมเห่อลูกน่ะครับ เห็นเด็กน่ารักไม่ได้เป็นต้องเข้าไปทักตลอด พอดีกำลังท้องได้เดือนกว่าๆ แล้วครับ” “ทะ…ท้องด้วยหรือครับ” นาวีเอ่ยถามพลางลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เมื่อคิดไปถึงว่าเขาเกือบเอาชีวิตมาทิ้งในสวนสัตว์เสียแล้ว โทษฐานจีบเมียชาวบ้านแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ “ครับ เอ่อ คุณมีอะไรหรือเปล่าครับ”” “ปะ…เปล่า ไม่มีอะไรครับ แต่ดูไม่เหมือนคนท้องเลยนะครับ” "คงเป็นท้องแรกมั้งครับ ก็เลยดูไม่ออกเท่าไร" ชายหนุ่มตรงหน้าเอ่ยกับนาวี ในขณะที่จิตใจของคุณลุงยังหนุ่มถึงกับเหี่ยวแฟบลงไปในทันใด เมื่อรู้ว่าหญิงสาวเบื้องหน้ามี เจ้าของแล้ว “ไปกันเถอะค่ะ…ขอตัวนะคะ” “ตามสบายครับ” นาวีถอนหายใจออกมาพลางมองตามสองสามีภรรยาเดินจูงมือกันเดินเลี่ยงไปชวนให้อิจฉา ในวันนี้ยังไม่มีสาวมาให้จูงมือ ชายหนุ่มจึงได้แต่จูงมือหลานไปพลางๆ ก่อน “เกือบซวยแล้วมั้ยล่ะไอ้วีจีบเมียชาวบ้าน หึ หึ” “คุณลุง เรย์ปวดฉี่คับ” นาวีดึงสติกลับคืนมาก่อนเหลือบมองไปทางหลานชายตัวดีที่กำลังกอดแขนตนเอาไว้พลางเขย่าไปมา “ยุ่งจริงเชียว ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมทุกคนจะต้องคิดว่าเราเป็นพ่อลูกกันด้วยนะ ” ธนัทเทพมองหน้าคุณลุงพลางทำหน้าแหยด้วยไม่เข้าใจความหมายในคำพูดนั้น เมื่อเห็นหนูน้อยทำหน้างุนงง ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นยืนแล้วจูงมือหลานชายเพื่อพาไปห้องน้ำด้วยใจที่เปลี่ยวเหงาไร้สาวๆ เดินเคียง +++++ ก่อนที่การแสดงของแมวน้ำแสนรู้ในรอบบ่ายจะเริ่มขึ้น บริเวณสถานที่ขายอาหารเริ่มแน่นขนัด นาวีมองหาโต๊ะว่างเพื่อให้หลานได้ทานมื้อเที่ยงก่อนจะเข้าชมการแสดงที่เขาถูกออดอ้อนให้พาเข้าไป “หลานเรย์รอคุณลุงแป๊บนึงนะครับ คุณลุงจะไปซื้อน้ำมาให้ แล้วห้ามมมมม....ลุกไปไหนนะครับ ย้ำนะครับว่าห้ามลุก หลงเชียวนะครับ เดี๋ยวคุณพ่อหลานเรย์เล่นงานลุงตายเลย” “คุณลุงซื้อแฟนต้าน้ำเขียวมาฝากเรย์ด้วยนะคับ อยู่กับคุณแม่ คุณแม่ไม่ยอมให้กินเลย” “อ้าว นี่กลายเป็นว่าลุงพาเราเสียนิสัยใช่มั้ย” นาวีหัวเราะด้วยความขบขันแล้วลุกออกจากโต๊ะเพื่อไปหาซื้อน้ำมาให้ตามคำสั่งของหลานชาย ในอีกมุมหนึ่งกับการสวนทางของคนไม่รู้จักกัน ญาตาวีเดินเข้ามายังโซนขายอาหารเพื่อหาอะไรทานแก้หิว อันที่จริงเธอไม่อยากมาเที่ยวสถานที่แบบนี้สักเท่าใดนัก แต่เพื่อนสนิทกลับลากเธอมาเป็นเพื่อนเพราะต้องพาหลานมาเที่ยวตามสัญญา ด้วยความเกรงใจเพื่อนเธอจึงมาแบบไม่สู้เต็มใจนัก เนื่องจากเธอเองไม่ค่อยชอบคลุกคลีกับเด็กๆ และเด็กๆ ยังไม่เข้าหาเธอด้วย ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกันเด็กถึงไม่ยอมเข้าใกล้เลยสักคน เพียงนัยน์ตากลมดำขลับจากการใส่บิ๊กอายเหลือบไปเห็นเด็กชายคนหนึ่งกำลังนั่งทานอาหารอยู่เพียงลำพัง หญิงสาวยืนนิ่งเพื่อจับจ้องพฤติกรรมนั้นอย่างสนใจว่าทำไมพ่อแม่จึงกล้าทิ้งไว้เพียงลำพังเช่นนี้ ‘พ่อแม่ไปไหนทำไมปล่อยลูกไว้แบบนี้นะ ดูสิกินเองจนเลอะไปหมด อยากเห็นหน้าพ่อแม่จริงๆ แล้วใครจะกล้านั่งต่อล่ะ’ คล้ายหนูน้อยมีเซ้นส์ว่ากำลังถูกจับจ้องจึงหันมามองก่อน เอ่ยออกมาด้วยความไร้เดียงสา "หิวเหรอคับ" "นี่หนู ทำไมทานไม่เรียบร้อยเลยล่ะจ๊ะ ข้าวหกเลอะเทอะ ดูไม่ดีไม่มีมารยาทรู้มั้ยจ๊ะ" “คุณพ่อสอนไว้...ยืนมองตาคนอื่นกิน...ก็มารยาทไม่ดีนะค้าบ...คุณป้า” ธนัทเทพพูดหน้าตาเฉย เท่าที่สมองของเด็กคนหนึ่งจะกลั่นกรองออกมา “ว้าย! เด็กปากจัด ฉันยังไม่สามสิบนะยะ ชิ” ญาตาวีปราดเข้าไปใกล้แล้วยื่นหน้าเข้าไปกระซิบกับธนัทเทพพลางเขม่นตาโต ธนัทเทพมองหญิงสาวในคราบคุณป้าตามที่สายตามองเห็นอย่างหวาดหวั่น เมื่อเห็นตาโตน่ากลัวจ้องตนไม่วางตา “ทำอะไรอยู่ยายดรีม ไหนบอกจะมาซื้อน้ำ อ้าว แล้วนั่นแกจะกินเด็กหรือยังไง ดูทำจ้องเข้าสิ” เสียงของเพื่อนเอ่ยแทรกขึ้นมาจากทางทางด้านข้าง พลางมองหน้าตนกับเด็กสลับกันไปมาอย่างสงสัย ทำให้ญาตาวีรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่กำลังทำอยู่ทันที “ไปแล้วๆ แกออกไปหาที่นั่งรอก็ได้” หญิงสาวรีบหันไปบอกเพื่อนที่ยืนงงอยู่ข้างๆ ก่อนที่อีกฝ่ายจะพยักหน้ารับรู้แล้วเดินเลี่ยงออกไป หญิงสาวไม่วายหันกลับมายัง ร่างกลมป้อมอีกครั้ง ก่อนจะยื่นหน้าไปกระซิบเบาๆ “เด็กปากจัด พ่อเธอก็คงจะเหมือนๆ กัน อยากเห็นหน้าพ่อจริงๆ สอนลูกยังไงให้ปากจัด” หญิงสาวเดินสะบัดก้นหนีไปหลังจากหาเรื่องเด็ก ธนัทเทพมองตามไปอย่างงุนงง ด้วยกำลังคิดว่าคุณป้าแปลกหน้าทำไมจึงมีท่าทางแปลกๆ ไม่เหมือนคนอื่นที่ตนเคยเจอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD