Lavender ลาเวนเดอร์ 3

1259 Words
Lavender ลาเวนเดอร์ 3 วิชาเรียนวันนี้เรานั่งเรียนไปสองชั่วโมงเรียนเสร็จก็ไปกินข้าวกับเพื่อนต่อทันที เราคุยกันเรื่องติวก่อนสอบด้วยนะเพราะอีกหนึ่งเดือนเราจะสอบไฟนอลกันแล้วจากนั้นก็ปิดเทอมแล้วกลับมาเรียนอีกทีในปีสุดท้าย มันเหนื่อยมากเลยนะเอาจริง ค่าเทอมไม่ใช่น้อย ๆ เลยที่จะต้องจ่ายฉันก็ยังอดทนสู้หามาจ่ายได้ตลอด ถามว่าพี่ชายไม่ให้เงินใช้หรือยังไง ต้องบอกว่าให้ค่ะ ให้เยอะเลย ค่าเทอมค่าใช้จ่ายค่าขนมพี่มีนกับพี่มาร์โอนให้ฉันตลอดทุกเดือนแต่เป็นฉันที่ไม่กล้าใช้แล้วไปเปิดบัญชีใหม่และใช้เงินที่ตัวเองหามาได้แทน เห็นแบบนี้ฉันประหยัดมากเลยนะมีเงินเก็บแล้วตั้งสามหมื่นเกือบจะสี่หมื่นแล้วแหนะ “เอายังไงดี ติวกันที่ไหน?” หนุงหนิงเอ่ยถามฉันและนานะที่นั่งกินข้าวกันอยู่ “ห้องฉันไหม” นานะเสนอ “ได้เดี๋ยวช่วยจ่ายค่าไฟนะ” หนุงหนิงบอกนานะที่อาสาเป็นสถานที่ติว ฉันเองก็พยักหน้าให้เพื่อนทั้งสองคนด้วย ไม่ใช่ว่าไม่อยากพูดนะคะ แต่ฉันน่ะเพิ่งตักข้าวเข้าปากเลยพูดตอนนี้ยังไม่ได้ก็เท่านั้นเอง “จ่ายช่วยด้วย” กลืนอาหารลงคอเสร็จก็รีบเอ่ยบอกเพื่อน “ได้ แบ่งหัวข้อที่ตัวเองถนัดนะ แล้วเรามาติวด้วยกัน” หนุงหนิงเอ่ยย้ำ เราพยักหน้าเข้าใจและกินข้าวกันต่อ รวมถึงพูดคุยกันไปเรื่อยในหลาย ๆ เรื่องจวบจนกระทั่งบ่ายสองโมงฉันแยกจากเพื่อนเพื่อไปทำงานที่ร้านดอกไม้ วันนี้นานะขับรถมาเลยอาสาไปส่งที่ร้าน เมื่อถึงสถานที่ปลายทางก็โบกมือลาเพื่อนไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณกลับไปเช่นเดียวกัน “พี่ ๆ สวัสดีค่ะ” เมื่อเปิดประตูร้านเข้าไปภายในร้านดอกไม้ อากาศที่ค่อนข้างเย็นทำให้รู้สึกมีแรงขึ้นมากกว่าเดิม รวมถึงกลิ่นหอม ๆ ภายในร้าน พี่พิมพ์ใจที่เป็นเจ้าของร้านนั้นน่ารักมากเลยนะ ทั้งยังใจดีอีกด้วยและนอกจากกลิ่นหอม ๆ จากดอกไม้ที่มีอยู่ในร้านแล้วยังเกิดจากก้านไม้หอมที่พี่พิมพ์ใจชอบนั่นด้วย ดอกไม้อยู่ในตู้เก็บกระจกใสที่มีเครื่องปรับอากาศอยู่ภายใน วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ถูกจัดเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบ ริมฝั่งขวาจะเป็นโต๊ะสีขาวตัดกับน้ำตาลอ่อนขนาดใหญ่มีไว้เพื่อวางดอกไม้หรือรวมช่อดอกไม้ตามรายการที่ลูกค้าสั่งมา นอกจากจัดดอกไม้เป็นช่อแล้วที่ร้านยังรับจัดนอกร้านด้วยนะคะ แต่ก็น้อยครั้งที่จะจัดนอกร้านเพราะคนที่ร้านไม่เยอะหากหน้างานกว้างเกินไปพี่พิมพ์ก็จะไม่รับ แต่เวลารับราคาก็มักจะได้ราคาที่สูงลิ่วเลยค่ะเพราะจัดออกมาแล้วสวยมาก เพราะแบบนี้คนเลยอยากให้พี่พิมพ์ไปจัดนอกสถานที่เยอะแยะไปหมด ส่วนจัดช่อหรือแจกันมีเข้ามาทุกวันเลยก็ว่าได้ ลูกค้าผู้ชายบางคนที่เข้ามาถึงกับบอกว่าแฟนขอให้เป็นดอกไม้จากร้านนี้เท่านั้น รวมถึงมีรีวิวต่าง ๆ มากมาย ร้านนี้นับได้ว่าเป็นร้านที่มีชื่อเสียงไม่น้อยกันเลยทีเดียวค่ะ “น้องเหมยมาแล้ว” เสียงพี่มาลีพนักงานประจำของที่ร้านเอ่ยทักทายฉันด้วยรอยยิ้ม ฉันส่งยิ้มกว้างกลับไปทันทีเช่นเดียวกันรวมถึงเดินเอากระเป๋าไปเก็บที่ตู้ด้านหลังและหยิบเสื้อเอี๊ยมกันเปื้อนสีน้ำตาลอ่อนขึ้นมาสวม และเริ่มทำหน้าที่ของตัวเองดังเช่นทุกครั้ง “มาแล้วค่ะ หายไปสองวันคิดถึงพี่ ๆ มากเลย” เอ่ยบอกพี่ที่ร้านอย่างเป็นกันเอง และสบายใจที่จะได้พูดคุย “ปากหวานจังเลย แบบนี้ต้องสั่งขนมมาให้แล้วนะเนี่ย” พี่มายด์ผู้จัดการร้านพ่วงด้วยตำแหน่งเพื่อนสนิทพี่พิมพ์ใจเอ่ยแซวฉันอย่างอารมณ์ดีเช่นเดียวกัน ก็บอกไปแล้วว่าพี่ ๆ ที่นี่น่ารักมากเป็นกันเองและทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นหัวใจอยู่ไม่น้อยเวลาที่ต้องมาที่นี่ “หนูพูดจริง ๆ นะคะ” เอ่ยตอบพี่มายด์อย่างที่ใจคิด พร้อมกับเดิมไปดูคอมพิวเตอร์ของร้านที่เปิดไลน์ออฟฟิเชียลของร้านค้างไว้ พนักงานพาร์ทไทม์แบบฉันไม่ได้จัดดอกไม้หรอกนะคะ แต่ทำหน้าที่ตอบข้อความร้าน รับออเดอร์จากลูกค้ารวมถึงถามรายละเอียดที่ลูกค้าต้องการ เมื่อได้ข้อสรุปก็จะส่งค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าโอนเงินและส่งแบบที่ลูกค้าต้องการให้พี่ ๆ ที่จัดดอกไม้ “สวัสดีค่ะ” ฉันเอ่ยทักทายคุณลูกค้าที่โทรเข้ามาในตอนนี้ (สวัสดีค่ะที่ร้านมีดอกลาเวนเดอร์ไหมคะ) ดอกลาเวนเดอร์อย่างนั้นเหรอ “สักครู่นะคะ” ฉันพักสายจากลูกค้าก่อนจะรีบถามพี่ ๆ ทันที “พี่ ๆ คะ มีดอกลาเวนเดอร์อยู่ไหมคะ?” พี่ ๆ เงยหน้าขึ้นมองก่อนที่พี่พิมจะเอ่ยตอบฉันกลับมา “มีดอกสดเหลืออยู่น่าจะจัดได้หนึ่งช่อ พี่ไม่กล้าเอาลงเยอะ แต่แบบแห้งน่ะมีอยู่ จัดช่อไม่ค่อยเวิร์คหรอกนะแต่จัดแจกันน่ะสวยมาก” พี่พิมพ์อธิบายให้ฟังยาว ๆ ฉันพยักหน้ารับและรีบกลับไปแจ้งลูกค้าทันที “ขออภัยที่ให้รอนานนะคะ” (ไม่เป็นไรค่ะ แต่มีไหมคะ) “มีค่ะ มีดอกสดและดอกแห้งค่ะ แต่ไม่แนะนำให้จัดช่อนะคะคุณลูกค้าแนะนำให้จัดเป็นแจกันจะสวยกว่าเพราะน้องดอกเล็กค่ะ” (เย้!!! เอาค่ะ แบบไหนเอาหมดเลยค่ะ) “ดอกสดจัดแจกันจะมีสามขนาดนะคะ มีไซซ์เอ็ม ไซซ์แอล และไซซ์เอ็กแอลค่ะ คุณลูกค้ารับไซซ์ไหนดีคะ” (รับแอลน่ะ แต่ขอเข้าไปเลือกแบบที่ร้านได้ไหมคะไม่เกินสิบนาทีถึงค่ะ) จู่ ๆ คุณลูกค้าก็เปลี่ยนใจจะเข้ามาที่หน้าร้าน ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว “ได้ค่ะ ขอทราบชื่อคุณลูกค้าเพื่อลงคิวนะคะ” (ได้ค่ะ ชื่อลูกปัดค่ะ กำลังเดินทางไปนะคะ) เมื่อลูกค้าวางสายฉันก็ลงคิวไว้รอ มีดอกไม้ที่ต้องการแล้วมีขนาดแล้วเหลือแค่ลูกค้ามาเลือกแบบ “พี่มายด์จ๋า” “จ๋าว่ายังไง” พี่มายด์ขายรับฉันเสียงหวานทันที “เดี๋ยวลูกค้าลาเวนเดอร์จะเข้ามาเลือกแบบแจกันนะคะ อีกสักสิบนาทีค่ะ” “ได้เลย” พี่มายด์ขานรับ สักพักลูกค้าก็เข้ามาเลือกแบบแจกันด้วยท่าทางตื่นเต้น แต่ที่น่าตกใจอีกอย่างคืออะไรรู้ไหม หลังจากมีลูกค้าคนแรกทักมาเรื่องดอกลาเวนเดอร์สักพักก็มีลูกค้าทักเข้ามาที่ร้านกันอีกเยอะมากและถามถึงดอกลาเวนเดอร์ว่าเหลืออยู่ไหม ฉันเองก็ตอบลูกค้าไปเกือบ ๆ เจ็ดคนและตอนนี้กลัวดอกไม้จะไม่พอเลยถามพี่พิมพ์อีกครั้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD