“แล้วถ้าพี่ทำมากกว่านี้ล่ะ...เราจะรู้สึกไหม?”
“หยุดนะ!” ฉันพยายามเค้นสติและเสียงที่หลงเหลืออยู่เพื่อห้าม ที่รู้สึกชัดเจนที่สุดในตอนนี้คือปลายนิ้วร้อนผ่าวที่ลากไล้สูงขึ้นจนใกล้จะแตะเข้ากับป้อมปราการด่านสุดท้ายใต้กระโปรงเท่านั้น ในหัวเวลานี้ว่างเปล่าไร้ซึ่งคำพูดใดเพื่อต่อว่าเขาอีก รู้สึกอีกที ปากก็ตะโกนออกไปแล้ว
“ถ้าพี่ไม่หยุดทำตอนนี้ อนาคตพี่จะอดมีผัวเป็นผู้ชายนะคะ!”
จะพูดว่าบ้าบอก็พูดเถอะ แต่หลังจากคำพูดของฉันประโยคนั้น พี่โซ่ที่ยุ่งวุ่นวายกับร่างกายฉันก็หยุดชะงักลงโดนฉับพลัน แถมยังพึมพำออกมาคล้ายกับเห็นด้วย
“เออจริง!” อะ ไอ้คนหน้าไม่อาย!
ฟึ่บ!
ฉันอาศัยโอกาสในตอนนั้นรีบสะบัดมือออกจากการถูกจับกุม จากนั้นก็พุ่งเข้าผลักแผงอกล้ำๆ ของคนตัวใหญ่ให้ออกห่าง สมองสั่งให้ร่างกายแสดงเกราะป้องกันด้วยการถอยตัวกรูดไปอยู่มุมริมสุดของโซฟาตัวยาวแบบไม่ต้องสงสัย
ทั้งที่ฉันหวาดระแวงการกระทำดังกล่าวของพี่โซ่แท้ๆ แต่เขากลับไม่ได้แสดงทีท่ารังเกียจออกมาให้เห็น กลับกันเขาดันแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง พร้อมทั้งกล่าวขึ้น
“แต่ถ้าพี่ชอบชะนีขึ้นมา ไอ้ที่ทำเมื่อกี้มันก็ถือว่าโคตรอรรถรสเลยโน๊ะว่าไหม?”
“พี่โซ่!” เขาหลุดหัวเราะ เมื่อฉันหวีดเสียงแสดงความขัดใจ ก่อนหยัดตัวลุกขึ้นจากโซฟา
“หล่อนอย่าจริงจังมากได้ป่ะ พี่เอาไม่เอาชะนีอย่างหล่อนมาทำเมียหรอก” เขายังคงหัวเระาร่วน ทว่า ไม่นานเสียงหัวเราะของเขาก็ต้องเงียบลง เมื่อนัยน์ตาคู่คมคู่นั้นดันหันไปเจอเข้ากับอะไรบางอย่าง
กึก!
แววตาเขาดูตกใจเป็นอย่างมาก มากเสียจนฉันต้องขยับตัวเพื่อชำเลืองมองตามสายตาเขาไป ฉันที่อยู่ตรงนั้นเลยอดใจไม่ได้ต้องเกาะขอบพนักโซฟาชำเลืองมอง แล้วต้องพบกับเรื่องที่น่าตกใจยิ่งกว่าการถูกเก้งกวางตกมันพุ่งเข้าทำร้าย
“ตาหนู ทำไมหนูถอดเสื้อผ้าแบบนั้นล่ะลูก” เสียงของหญิงวัยกลางคนดังทักขึ้นอย่างตกอกตกใจ ก่อนตามมาด้วยเสียงขอใครอีกคนที่ให้อารมณ์ไม่ต่างกัน
“ลูกซิน!” ที่ปรากฏต่อสายตาอยู่บริเวณหน้าทางเข้าห้องรับรองตอนนี้ คือมนุษย์ป้าในชุดเสื้อผ้าหรูๆ ดูมีราคาสองคน กำลังยืนทำหน้าแตกตื่นตื่น และพวกเขาไม่ใช่หากแต่เป็น คุณนายลำดวนกับคุณนายวี ที่น่าจะดื่มด่ำอยู่ที่ร้านอาหารที่ฉันจากออกมา !
ฟึ่บ!
เร็วกว่าความคิด คุณนายลำดวนรีบพุ่งตัวปราดตัวมาที่โซฟา ฉุดตัวฉันดึงให้ออกห่างจากโซฟาด้วยความรีบร้อน
“ตายแล้ว! ทำไมหนูเสื้อผ้ายับ หัวยุ่งแบบนี้ล่ะลูก!”
“ตาหนู ลูกทำอะไรหนูซินเขา!?” คราวนี้เป็นตาคุณนายฉวี ที่พุ่งเข้าจู่โจมลูกชายตัวเองอย่างรวดเร็ว อย่างกันนัดกันมา
“ไม่ได้ทำอะไรนี่ครับ” พี่โซ่ตอบส่งๆ เหมือนไม่ได้สนใจคำพูดของคุณนายฉวี จนฉันที่เห็นอดคำรามกรอดในใจไม่ได้ว่า ‘ซุงแหล!’ แต่คำพูดดังกล่าวของเขาก็ถูกปัดตกด้วยคำถามต่อมาของแม่ฉันเอง
“ถ้าไม่ได้ทำอะไร แล้วทำไมลูกสาวน้าถึงได้อยู่ในสภาพแบบนี้ล่ะ แถมยังอยู่กันสองต่อสองอีก!”
“เราแค่นั่งคุยกันเฉยๆ” พี่โซ่ยังคงยืนกรานคำโกหกของตัวเองหน้าตาย ทั้งที่หลักฐานมันก็มัดตัวหนาแน่นขนาดนี้ และเชื่อเถอะ ถ้าเรื่องมาถึงคุณนายลำดวนขนาดนี้ เขาโดนฟ้องแน่!
แต่เดี๋ยวก่อนนะ… เมื่อกี้เขาเรียกคุณนายฉวีว่าอะไรนะ มะ...แม่ แม่เหรอ !?
“เสื้อผ้าลูกฉันยับขนาดนี้ ยังจะกล้าแก้ตัวน้ำขุ่นๆ อีกเหรอ!?” แม่ฉันหวีดเสียงร้องออกมาด้วยความโมโห เสียงดังกล่าวทำเอาฝั่งคุณนายฉวีหน้าเสียไปตามๆ กัน
“จะ ใจเย็นๆ นะคะคุณน้อง อิฉันบอกแล้วว่าลูกชายอิฉันคนนี้ไม่มีพิษมีภัย หรอกลูกโซ่เขาเป็นคนให้เกียรติผู้หญิงมากนะคะ…” ฉันอ้าปากค้าง ทำตาโตจ้องหน้าคุณนายฉวีที่ดูจะพูดจาเข้าข้างลูกชายผิดเพศของตัวเองเสียเต็มประดา ทั้งที่ความจริงแล้วฉันเพิ่งจะถูกเก้งขวิดใส่มามาดๆ แท้!
“ไม่มีพิษอะไรกันล่ะคะคุณพี่! ลูกสาวอิฉันผมเผ้ายุ่งขนาดนี้ แถมเสื้อผ้ายับยุ่งเหยิง หยุดเข้าข้างลูกชายตัวเองได้แล้วค่ะ!” คำพูดตอบโต้ของคุณนายลำดวนดังขึ้นอย่างทันควัน แบบไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบ
แม่ทำดีแล้ว แม่จงทำต่อไป ด่ามัน เอาผิดมัน ด่าให้มันร้องขอชีวิต!
“ไหนจะบุกเข้ามาที่ร้าน ทำตัวเสียมารยาทใส่อิฉันกับลูกสาว ไหนจะที่พูดว่าเคยจับนมลูกสาวดิฉันต่อหน้าคนในร้านอีก! คุณพี่เลี้ยงลูกของยังไงคะ!?” เห็นไหมล่ะ แม่ฉันใจเด็ด ใจปล้ำ! เอาอีกแม่ ด่ามันอีก ด่าให้มันร้องขอชีวิต!
“อิฉันขอโทษนะคะคุณน้อง คือลูกชายอิฉันคนนี้เขาชอบทำตามใจตัวเองไม่ปรึกษาใครน่ะค่ะ คงเพราะเด็กๆ เขาสนิทกันล่ะมั้งคะ ลูกโซ่ถึงได้ทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์…”
เอาแล้วค่ะ สองคุณนายที่อดีตเคยปรองดองกันมาก่อนถึงขึ้นพากันไปซักอาหารอิตาเลี่ยนในร้านหรู บัดนี้กำลังโต้เถียงกันไปกันมาแบบไม่มีใครยอมใคร โดยฝ่ายของคุณนายฉวีกำลังพลิกการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพื่อปกป้องลูกชายตัวเอง
ต่อให้แม่ฉันจะชอบจับคู่ฉันให้กับลูกชายครอบครัวอื่นแค่ไหนก็ตาม แต่ถึงคราวที่ลูกสาวเจอเรื่องไม่ดี แม่ฉันก็สู้คน ตาต่อตา ฟันต่อฟันออกตัวแรงปกป้องลูกสาวนะขอบอก!
“อิฉันไม่สนใจหรอกนะคะ ว่าลูกชายของคุณพี่จะชอบทำตามอำเภอใจหรือยังไง แต่สภาพลูกสาวอิฉันที่เป็นอยู่ตอนนี้ อิฉันไม่โอเคเลยค่ะ” ทำฉันตวัดหางตามองหน้าคนเป็นแม่ที่พยายามปกป้องลูกอย่างสุดฤทธิ์ เมื่อรู้สึกว่าคำพูดชักเริ่มหันเหเปลี่ยนไป โดยเฉพาะกับมือ ที่ท่านเริ่มเอื้อมยีหัวฉันให้ยุ่งเหยิงหนักยิ่งกว่าเก่า ส่วนปากก็พูดไป “ ดูสิคะ ผมลูกซินของอิฉันยุ่งหมดแล้วเนี่ย ”
=_= เดี๋ยวๆ ตอนแรกมันไม่ได้ยุ่งอะไรขนาดนี้นะได้ข่าว
“คุณพี่จะรับผิดชอบค่าทำขวัญลูกสาวอิฉันยังไงคะ!? ” คุณนายลำดวนยังคงตะคอกเสียงเกรี้ยวกราดตามประสาคนวัยทองขี้โมโหออกตัวปกป้องฉันไม่เลิก
ท่าทางที่ไม่ยอมคนของแม่ฉัน ทำเอาคุณนายฉวีพูดอะไรไม่ออก ท่านหน้าเสียอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ใช่กับบุคคลซึ่งเป็นลูกชาย วูบหนึ่งที่ฉันเผลอเหลือบมองหน้าพี่โซ่จากทางหางตาเพื่อดูท่าที แต่เหมือนว่าเขาจะรู้ตัว ถึงได้เลื่อนสายตาจากทางฝั่งผู้ใหญ่ซึ่งกำลังมีปากมีเสียงต่อกันมายังฉัน
ในตอนนั้นเองที่รอยยิ้มร้ายๆ ผุดขึ้นบนดวงหน้าคมคายคล้ายกับมีแผนการอะไรบางอย่างอยู่ในหัว ซึ่งนั่นตามมาด้วยคำพูดเชิงถามสั้นๆ แบบไร้มารยาทของผู้ชายซึ่งบอกว่าตัวเองชอบไม้ป่าเดียวกัน
“ถ้าคุณน้าจะโวยวายขนาดนั้น ทำไมไม่จับผมแต่งงานกับลูกสาวคุณน้าเลยล่ะครับ จะได้จบ”