“ง่ายไม่ง่าย ถ้าได้ยิ้มกันเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ โน๊ะ”
“ถ้าจะพูดแต่เรื่องทุเรศแบบนั้น หนูว่าพี่เงียบไปเถอะค่ะ เสนียดหู” ใช่! เรื่องทุเรศทุรังแบบนั้นน่ะ ฉันไม่อยากฟังหรอก ไม่อยากจะคิดภาพหรือจินตนาการถึงด้วยซ้ำ
“อะเค๊! ไม่อยากฟังงั้นพี่ไปก็ได้…” พี่โซ่หัวเราะดังหึในลำคอ เมื่อได้ข่มอย่างสมใจ เขาขยับตัวลุกจากที่นั่ง โดยไม่ลืมคว้าแก้วเหล้าติดตัวไปด้วย ไม่ใช่แค่นั้น แต่ยังมีน้ำใจเอ่ยปากชวน “ถ้าเปลี่ยว ก็เลี้ยวไปที่โต๊ะพี่กับอาร์มได้นะ”
“ไม่ไปหรอกค่ะ!” คนอะไร! ข่มกันไว้ยังมีกระจิตกระใจมาชักชวน คิดจะโชว์เหนือต่อหน้าให้ฉันรู้สึกเป็น กขค. ล่ะสิ!
เจ็บใจนัก! ถ้าไม่ติดว่าต้องมาจัดการกับเรื่องที่ค้างเอาไว้ล่ะก็ สาบานได้เลยว่าฉันจะลากอีพี่โซ่ไปตบหลังร้าน!
เพื่อระบายความหงุดหงิดที่ไม่สามารถเอาคืนอะไรเกย์วิปริตนั่นกลับไปได้ ฉันจึงหันมาดื่มเหล้าย้อมใจ จริงๆ แล้วฉันไม่ใช่คนชอบดื่มเหล้าหรอก แต่งานนี้ขอซัดสักแก้วสองแก้วให้หายหัวร้อนหน่อยเถอะ!
สายตาเหลือบมองป้ายรายการเครื่องดื่มตัวใหญ่ๆ ตรงหน้า ฉันพยายามหรี่ตามองตัวหนังสือภาษาอังกฤษไล่เรียงทีละชื่อ เอาเข้าจริงฉันก็ไม่รู้หรอกว่าถ้าสั่งมาแล้วหน้าตามันจะออกมาเป็นแบบไหน สัญชาตญาณบอกได้แค่เพียงว่าไอ้พวกที่ขึ้นต้นว่า Vodka มันคือเหล้าแน่นอน
แก้วเดียวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
“Vodka Redbull แก้วหนึ่งค่ะ!” ฉันยกมือตะโกนสั่งเสมือนว่าเชี่ยวชาญ หารู้ไม่ว่านี่น่ะครั้งแรกเลยแหละ
พนักงานบาร์น้ำแสนซื่อเองก็คงดูไม่ออก เพราะการแต่งตัวที่เปรี้ยวจี๊ดและมีรสนิยม เขาจึงได้แต่ทำหน้าเขินๆ ก่อนหันไปจัดแจงเมนูเครื่องดื่มตามที่ฉันต้องการ
ฉันอาศัยช่วงเวลานั่งรอเครื่องดื่ม กวาดตามองไปรอบตัวซึ่งแน่นไปด้วยนักเที่ยวกลางคืนทั้งชายและหญิง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อมองหาบุคคลที่เป็นเป้าหมายอย่างเช่นผู้ชายที่เฉดหัวเพื่อนรักฉันทิ้งอย่างไม่ใยดี เพราะรู้ข่าวมาว่าผู้ชายนิสัยเสียคนนั้นชอบมาหาเศษหาเลยผู้หญิงที่คลับแห่งนี้
ทั้งที่พยายามมองหาผู้ชายเลวๆ คนนั้น แต่สายตาก็ดันบังเอิญหันไปเจอกับโต๊ะหนึ่งประกอบด้วยผู้ชาย 3 คน ประกอบไปด้วยพี่อาร์ม พี่โซ่ และผู้ชายอีกคนที่ฉันไม่รู้จัก แถมดูเหมือนว่าอีพี่โซ่ นางมารร้ายคนนั้นกำลังมองฉันอยู่ด้วยสิ สายตาของเขาที่มองมาตอนนี้น่ะ จิกยิ่งกว่าอะไรดี มิหนำซ้ำยังทำเป็นโอบหล่งโอบไหล่พี่อาร์มโชว์อีก
ถึงว่าสิ ทำไมเขาถึงเดินมาฉันถูก ที่แท้ก็นั่งมองอยู่ตรงนั้นนี่เอง
โอ๊ย! เกลียดดดดด โจทก์ที่ต้องการตัวก็ไม่เจอ นี่ฉันมาทำบ้าอะไรที่นี่กันนะ!
“Vodka Redbull ได้แล้วครับ” เพื่อดับไฟร้อน ไฟหมั่นไส้ และ (ถ่าน) ไฟเก่า ทันทีที่เครื่องดื่มมาเสิร์ฟ ฉันก็ไม่รอช้ารีบคว้าแก้วยกกระดกอึกๆ ขึ้นย้อมใจทันที
รสชาติแปลกๆ ของแอลกอฮอล์ที่กระเดือกลงคอ ทำฉันขนลุกซู่ซ่าได้อย่างบอกไม่ถูก ความเปรี้ยวและความขมของเครื่องดื่มทำฉันเกือบหลุดพะอืดพะอม กว่าจะกระเดือกได้หนที่สองก็ต้องใช้เวลาพักคออยู่ครู่สั้นๆ
ไม่รู้เพราะฉันไม่เคยชินกับเหล้าผสมแรงๆ แบบนี้หรือเปล่า เพียงแค่ดื่มไปครึ่งแก้ว ฉันก็เริ่มรู้สึกว่าโลกมันเริ่มจะเหวี่ยงไปมา ยิ่งประสมโรงกับแสงสีเสียงด้วยแล้ว ร่างกายฉันยิ่งเหมือนลอยคว้างได้เลยด้วยซ้ำ พูดถึงแล้วไอ้เหล้าแก้วนี้มันก็อร่อยดีเหมือนกันนะ แรกๆ ก็ไม่อร่อยหรอก พอกินไปนานๆ ดันรู้สึกหวานซะได้ คิกๆ~
แต่พอกินมากไปก็ชักจะเริ่มปวดท้องเบาขึ้นมา เพราะงั้นฉันก็เลยคลำหาเศษเงินวางลงบนเคาน์เตอร์ ก่อนกระเถิบตัวลงจากที่นั่ง วินาทีที่เท้าแตะพื้นโลกที่ว่าเหวี่ยงไปมาก็ยิ่งดูหนักหน่วงมากขึ้นกว่าเดิม ฉันแทบทรงตัวไม่อยู่ แต่ก็ยังฝืนพยายามก้าวเท้าประครองตัวตรงไปที่ห้องน้ำอยู่ดี
โลกทั้งใบเหมือนกับกำลังยืนอยู่บนเรือบนน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิก โครงเครงไปมา ไร้หลักและจุดยืนที่เหมาะสม และไอ้ความไม่เหมือนเดิมของร่างกายนี่แหละ ที่ทำให้ฉันเซเข้าไปชนกับใครคนหนึ่งหนึ่งเข้าแบบไม่ตั้งใจ
พอเงยดู ฉันก็พบว่าหน้าของเขาลอยซ้อนกันเหมือนภาพเบลอ ฉันพยายามหรี่ตาลง ปรับความคมชัดของภาพตรงหน้า ที่เห็นก็คือเขากำลังยิ้ม แมปากเขาก็กำลังขยับพูดอะไรบางอย่างที่ฉันฟังไม่ชัด
“นางฟ้าเซลงมาจากสวรรค์ว่ะ”
เขาพูดอะไร… ทำไมฉันถึงฟังไม่รู้เรื่องล่ะ
“ขอโทษนะคะ ฉ้านจะไปห้องน้ำ” ฉันผลักอกเขาออกห่างตัวเล็กน้อย เพื่อที่จะได้ไปสถานที่ที่เป็นเป้าหมาย ทว่า ผู้ชายตรงหน้าดันคว้าแขนเอาไว้ พร้อมทั้งพูดอะไรบางอย่างออกมา
“เดี๋ยวพาไปอ่ะ เดินคนเดียวไหวเหรอ? เดี๋ยวพาไปไหมอ่ะ?”
“ม่ายเป็นไร ฉันเดินไปด้าย” ฉันพยายามรวบรวมสติบิดแขนให้หลุด พูดจาตอบโต้เขาออกไป
“เฮ้ยนี่มันเพื่อนน้องใบหม่อนป่ะวะ” หูฉันได้ยินชื่อของใบหม่อนดังชัดมาก จนต้องเหลือบมองเจ้าของเสียงพูดดังกล่าวและพบว่าเขาคือผู้ชายที่ฉันตั้งใจจะมาสั่งสอน
แต่บ้าเอ้ย! เวลาแบบนี้ดันไม่สมประกอบซะได้
สติเอ้ย! รีบๆ กลับมาไวๆ สิลูก!
“เธอดูเผ็ดกว่าหม่อนอีกนะเนี่ย สนใจมาลองคบกับเราป่ะ?” แม้ว่าจะจับใจความได้ไม่ชัดเจนนัก แต่เพียงแค่สมองรับรู้ว่าเขาคือผู้ชายสารเลวที่ทิ้งเพื่อนฉันไป ฉันก็ทนไม่ไหว ร่างกายตอบสนองคำถามดังกล่าวด้วยการหวดมือข้างหนึ่งใส่เขาแบบเต็มแรง
ตุบ!
แต่เรี่ยวแรงในตอนนี้มันดันไม่ได้ดังใจเอาเสียเลย ทั้งที่จะทุบแต่เหมือนฉันกำลังอ่อยเหยื่อพุ่งเข้าไปกอดเขาเสียมากกว่า
“หูยย เอาจริงปะเนี่ย มันจะเร็วไปมั้ง ฮ่าๆ” หูฉันได้ยินแค่เสียงหัวเราะของพวกคนเลวดังก้องอยู่ในหู มันดังพอกับเสียงดนตรีจังหวะอัดบีทสนุกๆ เลยก็ได้ และฉันไม่พอใจมาก
“พวกเลว” จนต้องสบถออกไปแทนการลงไม้ลงมือ มือผลักอกคนน่าขยะแขยงให้ออกห่างก่อนกล่าวเสริมออกไปอีก “หน้าตัวเมีย”
“พูดไรของเธอวะ!? ด่าใคร!?” เขาโวยวายขึ้นจังหวะเดียวกับที่ฉันสะบัดตัวเดินเซถอยหลังไปตั้งหลังในท่ากอดอก
“ไม่รู้ตัวเหรอว่าฉ้านว่าใคร จะได้หยิบกระจกห้ายส่อง~” ฉันเหยียดยิ้มทั้งๆ ที่สมองว่าง เพ่งสายมองใบหน้าซ้อนทับของผู้ชายตรงหน้าสองคนที่เริ่มเรียงรายเป็นสิบ
“หนอย ยัยนี่แม่งปากดี!” ฉันเห็นปากพวกเขาขยับนะ แต่หูน่ะฟังไม่รู้เรื่องหรอก รู้อีกทีฉันก็เห็นว่าผู้ชายสองคนที่อยู่ตรงหน้ากำลังแสดงสีหน้าไม่พอใจ พุ่งตัวเข้าใส่อย่างรวดเร็ว เพราะสติที่ไร้การควบคุม สมองเลยไม่ทันได้สั่งการให้ร่างกายตอบสนองการพุ่งเข้าหาของผู้ชายสองคนนั้นด้วยการหลบ ทว่า
ฟึ่บ!
ชั่วขณะเดียวกันนั้นร่างกายฉันถูกมือของใครอีกคนกระชากให้ถอยห่างออกมาอย่างรวดเร็วแทบจะทันที เพราะร่างการเสียการควบคุมฉันจึงเซเข้าไปซบแนบเข้าแผ่นอกกว้างของใครคนหนึ่งอย่างพอดิบพอดี
กลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำหอมผู้ชายกลิ่นเดียวกับของพี่อาร์ม ทำฉันเงยหน้ามองเจ้าของฝ่ามือและแผ่นอกกว้างดังกล่าว ก่อนพบเข้ากับสายตาคมเข้ม จ้องเขม้นมองไปที่ผู้ชายสารเลวตรงหน้า
ตอนแรกก็แอบคิดว่าเขาจะเป็นพี่อาร์ม แต่มันกลับไม่ใช่ เพราะคนเขาคนนี้ดันเป็นพี่โซ่
“ทำร้ายชะนีแบบเนี่ย ไม่สมเป็นผู้ชงเลยนะตัวเอง”
“ยุ่งไรด้วยวะ!” เสียงตวาดดังแข่งกับเสียงเพลง ฉันไม่รู้หรอกว่ารอบตัวของเราเป้นยังไง ภาพทุกอย่างมันหมุนและตัดไปไวจนเหมือนจะหายใจตามไม่ทัน “เป็นตุ๊ดก็อยู่ส่วนตุ๊ด อย่าเสร่อ!”
“ใครบอกตัวเหรอว่าเค้าเป็นตุ๊ด?” ที่รู้สึกตอนนี้คือพี่โซ่กำลังผละตัวออกห่างจากฉันไป ฉันพยายามปรับโฟกัสสายตามองเขา และเห็นว่าเขากำลังเดินเข้าไปเผชิญกับผู้ชายสองคนนั้น ทว่า ยังไม่ทันมีใครพูดอะไรออกมามันก็เป็นพี่โซ่นั่นแหละที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน
ผัวะ!
เขาพุ่งหมัดซัดหน้าหนึ่งในคนที่พูดจาหาเรื่องคล้ายกับเหยียดเพศ จนอีกฝ่ายครวญซี๊ดออกมาเสียงดัง ภาพตรงหน้ามันคล้ายกับเริ่มเลืองลางลงเรื่อยๆ สมองฉันคล้ายกับกำลังถูก Shut down หูมันอื้อจนไม่ได้ยินเสียงของพี่โซ่ที่ประกาศก้องออกไปหลังจากนั้น
“แต่กูเป็น...”