ตอนที่8.2

1351 Words
"ท่านพูดน้อยจังเลยนะเจ้าคะ" หลี่ซูเจินเอ่ยถามชายหนุ่มที่นิ่งเงียบมาตลอดทางด้วยความสงสัยทันที แม้จะรู้ว่าเขานั้นมีนิสัยเย็นชาพูดน้อยแต่มันก็น้อยจริง ๆ นางรู้สึกทำตัวไม่ถูกแปลก ๆ "....…...................." เมื่อยังไม่ได้รับคำตอบ หลี่ซูเจินนางจึงหันไปมองคนข้างแทน นางมองคนที่ถูกนางจับจูงมือด้วยสายตาพิจารณา จมูกที่โด่งเข้ารับกับใบหน้าคม แม้ชายหนุ่มจะได้มีผิวขาวเหมือนนางแต่ผิวแทนนี้กลับเข้ากันได้ดีกับเขาที่สุด ทุก ๆ อย่างนั้นช่างเหมาะสมกับเขา ยิ่งชายหนุ่มสวมใส่หน้ากากเหล็กนั้นก็รู้สึกชวนให้นางอยากจะค้นหา หลี่ซูเจินไล่มองไปเรื่อย ๆ จนถึงลูกกระเดือกของชายหนุ่มจนเผลอกลืนน้ำลายเสียงดังอย่างช่วยไม่ได้ เขาช่างเป็นคนที่ชวนให้อยากหลับนอนด้วยจริง ๆ นี่สินะเสน่ห์ของพระรอง "ขออภัยคุณหนูหลี่" อยู่ ๆ คนข้าง ๆ ก็หันไปมองสบตาของคนข้าง ๆ ก่อนจะเอ่ยขออภัยที่เสียมารยาทกับนางหลายครั้ง เพราะเขาในตอนนี้ทำตัวไม่ถูกเลยเงียบใส่นางหลายครายามที่นางเอ่ยถาม ตึก ตึก ตึก ตึก หัวใจที่เคยเต้นเป็นจังหวะหลี่ซูเจินอยู่ ๆ ก็เต้นแรงจนผิดจังหวะไปหมด นางรีบหลบสายตาคมจากชายหนุ่มทันทีใบหน้าขาวนวลขึ้นสีแดงระเรื่อยจนลามไปถึงใบหู นางรู้สึกร้อนผ่าวไปหมดทั้ง ๆ ที่อากาศในตอนนี้มีลมเย็น ๆ พัดโบกสะบัดไปมา แพ้แล้วนางแพ้แล้ว...เขาทำให้นางใจเต้นแรงเพียงแค่สบตาเท่านั้น!! "ข้าเป็นภรรยาของท่านนะ มิใช่ว่าท่านลืมไปหรอกนะ" หลี่ซูเจินย่นคิ้วเอ่ยโวยวาย เขาเรียกนางคุณหนูได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่นางและเขานั้นแต่งงานกับนางมาได้สามเดือนแล้วนะ ประหลาดคนจริง ๆ เลยชายคนนี้นิ "เอ่อ ขออภัยน้องหญิง" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขออภัยด้วยความจริงใจเมือรับรู้ว่านางนั้นมิพอใจในคำพูดของเขาก่อนหน้า ยามที่เอ่ยขอโทษนั้นเขายังกระชับมือหญิงสาวเบา ๆ "......................." หลี่ซูเจินที่ยังจัดการอารมณ์ตื่นเต้นไม่ได้ นางมิได้สนใจบทสนทนาที่คนข้าง ๆ เอ่ยด้วย เพราะในหัวสมองของนางในตอนนี้อื้ออึง ยิ่งถูกชายหนุ่มกระชับมือกลับนั้นก็ทำให้นางนั้นรู้สึกหัวใจสูบฉีดราวกับไปวิ่งมาประมาณ100ลี้ ความรู้สึกที่เหมือนถูกมดนับร้อยจิกกัดซ้ำ ๆ แต่ตายไม่ได้ อาการแบบนี้มันคืออาการตกหลุมรัก....นางตกหลุมรักสามีตัวเองเข้าเต็มเปาเสียแล้ว "โกรธหรือ" มือหนาดึงภรรยาเจ้าเนื้อให้หยุดเขาจ้องมองนางที่นิ่งเงียบด้วยสายตารู้สึกผิด เมื่อนางหันมาสบตา...เขาจึงเอ่ยปากไปอีกครั้งด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีแดงจากการถูกนางจับจ้อง "ข้าสนทนามิค่อยเก่งสักเท่าไหร่น่ะ ต้องขออภัยด้วย" "ข้ามีเรื่องหนึ่งจะถามท่านพอดี" หลี่ซูเจินเปลี่ยนท่าทีเป็นจริงจัง นางมองหน้าคนที่จะถามคำถามด้วยความไม่แน่ใจ ก่อนที่มันจะหายไปทันทีอย่างรวดเร็ว แม้จะเตรียมใจกับคำตอบแล้วแต่ถ้านางถูกปฏิเสธ นางก็คงจะมีอาการผิดหวังแต่นางจะทำใจยอมรับด้วยตัวเองแต่นางอาจจะต้องใช้เวลาเสียหน่อย "ว่ามาสิ" ร่างหนาเอ่ย เขารู้สึกถึงบรรยากาศของความอึดอัดใจจากนางที่ส่งมา หรือนางจะขอให้เขานั้นไม่ยุ่งเกี่ยวกับนาง แค่คิดชายหนุ่มก็รู้สึกราวกับถูกเฉือนเนื้อสด ๆ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ควรรู้สึกอะไรกับนาง แต่เขากลับมีความรู้สึกที่ดีไปแล้วกับนางเพราะเขาอ่อนประสบการณ์ในเรื่องชายหญิง เมื่อนางแต่งเข้ามาความรู้สึกที่มีก็ก่อตัวอย่างรวดเร็วเพียงแรกพบสบตานางเมื่อไม่กี่เค่อก่อนหน้า~ "ท่านยินดีจะอยู่เคียงข้างกับข้าตลอดไปหรือไม่' หลี่ซูเจินเอ่ยดวงตากลมโตจ้องมองชายหนุ่มเพื่อรอคอยคำตอบ เมื่อเห็นเพียงแค่สีหน้าตื่นตะลึงและทำตัวไม่ถูกส่งมา นางก็รู้สึกอับอายทันที ระ...หรือว่าเขาได้พบกับแม่นางเอกนั้นแล้ว…นางช้าไปหนึ่งก้าวหรอกหรือนี่! "อะไรนะ" ชายหนุ่มเผลอเอ่ยเสียงดังทันทีนางเอ่ยอะไรออกมานะ หัวใจของเขาเต้นแรงราวกับจะทะลุออกมาจากอกเมื่อได้ยินคำเมื่อครู่ของนางที่เปล่งออกมา "ท่านน่ะ....ยินดีจะอยู่เคียงข้างกับข้าตลอดไปหรือไม่" นางเอ่ยทวนอีกรอบ "ขะ....ข้า สามารถหรือ" เขาเอ่ยออกมาด้วยความไม่มั่นใจในคำตอบ สายตาคมจ้องมองหลี่ซูเจินเขารอฟังคำตอบจากปากนางอย่างรอคอย ทุก ๆ อย่างรอบตัวนั้นช้าลงจนเขาเริ่มอยากจะจับนางมาเขย่าให้ตอบคำถามเขาเร็ว ๆ "ท่านยินดีหรือไม่หยางเฉินหลง" แค่ฟังคำตอบจากชายหนุ่มนางก็รู้สึกโล่งใจทันที ที่แท้เป็นนางที่คิดมากไปเอง ดูจากสีหน้าแล้วเขาต้องยินดีมากแน่ ๆ สามีจ๋าเสร็จข้าแน่ ฮุ ๆ ๆ "ยินดีสิ ยินดีมาก ๆ" หยางเฉินหลงเอ่ยตอบหญิงสาวตรงหน้าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นเป็นเขาที่คิดมากไปเองสินะ "งั้นต่อจากนี้ไปเรามาทำหน้าที่สามีภรรยาด้วยกันเถอะ" หลี่ซูเจินเอ่ยประโยคที่ชวนให้คิดไม่ดีด้วยใบหน้าไร้เดียงสา ดวงตากลมยังสบตาคมอย่างรอคอยคำตอบ "คะ...แค่ก ๆ "แต่คนที่ฟังนั้นกลับรู้สึกเขินอายจนต้องหันหน้าออกไปทางอื่น เมื่อตั้งสติได้ก็หันไปขอโทษหญิงสาวที่เสียมารยาท บางทีนางแค่พูดผิดก็ได้ "ขออภัยน้องหญิง" "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะข้าดีใจมาก ๆ ข้านึกว่าท่านจะไม่ยอมทำหน้าที่สามีเสียอีก" หลี่ซูเจินยังคงพูดประโยคที่ชวนคิดลึกเช่นเคย ด้วยความไม่รู้ตัวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "เจ้ามิรังเกียจข้าหรือ" หยางเฉินหลงเอ่ยถามสตรีข้าง ๆ ด้วยความสงสัย สตรีในต้าซีนั้นต่างก็ไม่ชอบเขาและรังเกียจเขา นางจะยินดีอยู่กับเขาได้จริง ๆ หรือเปล่ากันนะ? เขาที่เป็นชายอัปลักษณ์แบบนี้ เมื่อคิดถึงความจริง ชายหนุ่มก็ไร้ความตื่นเต้นทันที เขาก็ยังคงเป็นเขาเป็นชายหนุ่มที่ใครต่าง ๆ ก็รังเกียจ "ท่านมีอะไรให้รังเกียจกัน...ข้าก็มิใช่สาวงามท่านก็เห็นนี่ ท่านดูสิข้าทั้งอ้วนแถมใบหน้าของข้าก็ยังมีสิวอีก" หลี่ซูเจินเอ่ยด้วยความน้อยใจ "อีกอย่างเราก็แต่งงานกันแล้ว อย่างไรก็ต้องอยู่ด้วยกันชั่วชีวิตเพราะฉะนั้นเรามารักกันเถอะเจ้าค่ะ" "ได้ เรามารักกันเถอะ" ชายหนุ่มเอ่ยเขากอบกุมมือบอบบางของหญิงสาวแน่น ความรู้สึกที่ถูกยอมรับทำให้หัวใจของชายหนุ่มที่ปิดกั้นตนเองมาหลายปีนั้นค่อย ๆ เปิดออกทันทีราวกับประตูที่ค่อย ๆ ถูกแย้มออกมาทีละนิด หยางเฉินหลงจับจูงมือของหลี่ซูเจินไปตามถนนหินอ่อนเพื่อไปทานอาหารด้วยกัน เขาแอบมองหญิงสาวข้าง ๆ ที่พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดเป็นครั้งคราวด้วยสายตาอบอุ่น ความรู้สึกของเขาในตอนนี้ถ้าไม่ดูจากการแสดงออกเงียบ ๆ บนใบหน้า ความจริงในใจลึก ๆ ของเขานั้นช่างมีความสุขที่สุดเลย นานเท่าไหร่แล้วกันนะ...ที่เขาไม่ได้มีความสุขแบบนี้หยางเฉินหลงเหม่อมองฟ้าเขาเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว มือหนากระชับมือของคนข้าง ๆ แน่น สายตาคมจ้องมองสตรีเจ้าเนื้อข้าง ๆ ด้วยสายตาคาดหวัง....เขาหวังว่านางนั้น....จะอยู่เป็นความสุขให้เขา เป็นความสุขให้เขานั้น....ตลอดไปก็เพียงเท่านั้นเอง~~
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD