กุ้ยฮวาใช้ฝ่ามือลูบแผ่นหลังและร่องรอยแผลที่มีมากมายของหลานสาว น้ำตาเธอก็ไหลไม่หยุด ด้วยความรักและความสงสารจึงคว้าตัวของหลี่อิงอิงมากอด และลูบหลังเธอเบาๆ
“ไม่เป็นไรแล้วนะลูกอิงอิง ป้าขอโทษที่ช่วยเหลืออะไรเราไม่ได้เลย”
“ไม่เป็นไรค่ะป้าสะใภ้ใหญ่ ตอนนี้หนูไม่เจ็บแล้ว แต่ว่าป้าโกรธหนูหรือเปล่าที่เอาผิดลุงรองและต่อต้านคุณปู่แบบนี้” หลี่อิงอิงรับรู้ได้ว่าป้าสะใภ้รักเจ้าของร่างนี้ด้วยใจจริง รวมไปถึงลุงใหญ่และพี่ชายทั้งสองคนด้วย
“ไม่เลยลูก ป้ากับลุงไม่โกรธเราเลย อยากจะขอโทษเราด้วยซ้ำที่ไม่สามารถช่วยอะไรเราได้ แต่ครั้งนี้ป้ากับลุงคงต้องออกหน้าแล้ว ต่อให้ต้องโดนไล่ออกจากบ้านก็ยอม ดูสิรอยแผลพวกนี้ทั้งเก่าทั้งใหม่ มันจะหายไหมลูก แล้วต่อไปถ้าเกิดแต่งงานขึ้นมาจะทำยังไง” กุ้ยฮวารู้ดีว่าหากหญิงสาวมีแผลตามร่างกายส่วนมากจะไม่มีใครกล้าขอไปแต่งงาน
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่มีใครอยากแต่งก็ไม่ต้องแต่งสิคะ แต่ว่าลุงใหญ่ไม่คิดจะแยกบ้านบ้างเหรอคะ”
หลี่อิงอิงถามด้วยความสงสัย จากความทรงจำ ครอบครัวลุงใหญ่อยู่บ้านนั้นก็ไม่ใช่มีชีวิตที่ดีสักหน่อย ไม่เข้าใจคนยุคนี้จริงๆ จะยึดติดอะไรกับความกตัญญูแบบนี้
“ป้ากับลุงก็คิดอยู่เหมือนกัน นี่เจ้าใหญ่กับเจ้ารองก็อายุยี่สิบปีแล้ว ดีหน่อยที่ยังได้เรียนจนจบมัธยมต้น ถึงแม้อยากจะเรียนต่อแต่ปู่ย่าไม่ยินยอมก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเงินที่ได้มาย่าเราเอาเข้ากองกลางกันหมด ตอนนี้ก็เริ่มมองหาภรรยาให้แล้ว แต่ว่าใครอยากจะแต่งเข้าบ้านหลี่ล่ะ ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเป็นยังไง”
ทั้งบ้านมีหลานชายเพียงคนเดียวของบ้านรองที่ตอนนี้เรียนมัธยมปลายอยู่ในอำเภอ
"ป้าสะใภ้ใหญ่อย่าคิดมาก เราออกไปข้างนอกกันดีกว่านะคะ วันนี้หากบ้านรองไม่มีคนติดคุก ก็อย่ามาเรียกหนูว่าหลี่อิงอิงเลย แต่ว่าป้าสะใภ้ค่ะ นี่กุญแจห้องที่หนูอยู่ ให้พี่ชายไปหยิบกล่องเหล็กที่อยู่ใต้พื้นให้หนูหน่อยได้ไหม ในนั้นมีหนังสือแยกบ้านของพ่อค่ะ
หนูกลัวว่าผู้นำหมู่บ้านจะเล่นแง่ อย่าลืมนะคะว่าเขาเป็นพ่อของหย่งฮ่าวคนรักของหลี่เหยาในตอนนี้ มีเหรอที่พวกเขาจะไม่ช่วยกัน คนพวกนั้นคงคิดว่าหนูคงจะไม่มีหนังสือสัญญาตัดขาด พวกเขาจึงไม่ห้ามในตอนที่เจ้าหน้าที่ให้คนไปเรียกมาไงค่ะ”
หลี่อิงอิงคิดว่ากันไว้ดีกว่าแก้ คนเราร้อยพ่อพันแม่ใครจะมาจริงใจกับเธอที่เป็นเพียงแค่เด็กกำพร้าที่พ่อแม่ตาย
“ได้ลูก เดี๋ยวป้าจะให้เจ้าใหญ่ไป ส่วนเจ้ารองให้ประกบอยู่กับเราตรงนั้นดีแล้ว” เมื่อทั้งสองคนปรึกษากันเสร็จเรียบร้อยก็ได้พากันออกมา
“เป็นยังไงบ้างครับคุณกุ้ยฮวา” เจ้าหน้าที่ถามเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนออกมาแล้ว บ้านหลี่นั้นจ้องตากุ้ยฮวาเขม็งเพื่อไม่ให้เธอพูดอะไรมาก
“มีรอยเต็มแผ่นหลังและตามลำตัวค่ะ คงจะถูกทำร้ายมานานแล้ว และมีรอยที่น่าจะเพิ่งโดนทำร้ายมาด้วยค่ะ บางรอยนั้นเกิดเป็นแผลเป็นแล้ว และไม่รู้ว่าจะรักษาหายหรือว่ามียาที่ทาลบรอยแผลพวกนั้นได้หรือเปล่า”
เมื่อพูดถึงตรงนี้กุ้ยฮวาก็น้ำตาไหลขึ้นมาอีก เมื่อชาวบ้านได้ยินและเห็นกุ้ยฮวาร้องไห้ก็พากันมองจางเจียวและบ้านหลี่ด้วยความรังเกียจ ไม่คิดว่าคนพวกนี้จะกล้าเอาเปรียบและทำร้ายหลานของตัวเองได้ขนาดนี้ อย่างนี้ต้องติดคุกเสียให้เข็ด
“ในเมื่อพยานและหลักฐานพร้อมขนาดนี้คุณมีอะไรจะแก้ตัวอีกไหมครับ คุณจางเจียว"
เจ้าหน้าที่เองเขาไม่คิดว่าเด็กสาวจะโดนทำร้ายร่างกายจะเกิดบาดแผลมากมายขนาดนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เห็นเอง แต่จากอาการของกุ้ยฮวานั้นสามารถบอกได้ทุกอย่าง
“แต่มันก็แค่การสั่งสอนหลานสาวของบ้านเรานี่ มันเกี่ยวอะไรกับการทำร้ายร่างกายล่ะ”
จางเจียวยอมรับกลายๆ ว่าทุบตี แต่เป็นเพียงการสั่งสอนหลานสาวเพียงเท่านั้น หลี่อิงอิงนั้นจดจำคำนี้ไว้ในใจ นี่คือการสั่งสอนใช่ไหมที่ทำเอาเกือบตาย เจ้าหน้าที่เองก็ส่ายหัวให้กับการปลิ้นปล้อนของสะใภ้รองบ้านหลี่
“ถึงแม้ว่าจะเป็นการสั่งสอน แต่ในเมื่อคุณหลี่อิงอิงต้องการจะแจ้งความหรือร้องเรียนก็ยังคงทำได้ครับ เพราะว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวในสายเลือดของคุณที่คุณจะทุบตีได้ตามอำเภอใจ ยังไงก็ผิดครับ”
เจ้าหน้าที่ยังคงบอกเสียงเรียบ ส่วนจางเจียวนั้นตกใจจนหน้าซีด ก่อนจะมองหน้าสามีและพ่อแม่ของสามีขอความช่วยเหลือ ไม่นานหัวหน้าหมู่บ้านก็เดินเข้ามาพร้อมเอกสารในมือ แต่หลี่อิงอิงมองแล้วว่าไม่ใช่ เพราะกระดาษในมือนั้นใหม่ไม่ควรจะเป็นหนังสือแยกบ้านที่เขียนเมื่อสิบสี่ปีก่อน
“หนังสือสัญญาแยกบ้านของบ้านสามหลี่อยู่นี่แล้ว ฉันจะอ่านตรงส่วนที่เขียนเพิ่มเติมไว้นะ จะได้เข้าใจกัน” หย่งหัวพ่อของหย่งฉ่าวพูดขึ้นก่อนจะชำเลืองมองบ้านหลี่อย่างมีความหมาย
“ในท้ายหนังสือแยกบ้านระบุไว้ว่า หากลูกชายบ้านสามเป็นอะไรไป สิทธิ์ขาดในการดูแลลูกสาวคนเดียวของเขาให้คนเป็นปู่ย่าดูแลแทน และยังคงให้ส่งอาหารและธัญพืชเพื่อแสดงความกตัญญูทุกปี ส่วนเงินเก็บของบ้านสามให้คนเป็นปู่ดูแลทั้งหมดจนกว่าลูกสาวเพียงคนเดียวจะแต่งงานไป”
ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ที่ได้ยินต่างพากันมองผู้นำหมู่บ้านตาไม่กะพริบ ต่อให้ไม่อยากเชื่อก็ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อเอกสารแยกบ้านอยู่กับผู้นำหมู่บ้านอย่างหย่งหัวมาตลอด เพราะจะทำไว้สามฉบับ สองฉบับนั้นให้ทั้งสองฝ่ายเก็บไว้คนละฉบับ ส่วนอีกฉบับจะเก็บไว้กับผู้นำหมู่บ้านมาตลอด เผื่อว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำหาย จะได้มาขอที่หัวหน้าหมู่บ้านได้ อีกทั้งหย่งหัวก็เป็นผู้นำหมู่บ้านแห่งนี้มายาวนานเกือบสามสิบปี ใครบ้างจะไม่เชื่อถือเอกสารในมือเขา
“นี่คือหนังสือแยกบ้านของบ้านหลี่และบ้านสามหลี่ ใครมีข้อโต้แย้งอีกไหม”
หย่งหัวถามขึ้นเสียงดัง ที่เขากล้าทำแบบนี้เพราะเขาคิดว่าในตัวของหลี่อิงอิงไม่มีหนังสือฉบับนี้ ก่อนที่คนของเจ้าหน้าที่ไปตามก็มีคนของบ้านหลี่แจ้งเขาล่วงหน้าไว้แล้ว ทำให้เขามีเวลาทำเอกสารใหม่ จริงๆเขาไม่ได้อยากจะยุ่งถ้าไม่เพราะลูกชายตัวดีของเขาเป็นคนรักกับหลี่เหยาและตัวเขาเองเป็นสหายกับหลี่หยวน เขาไม่คิดที่จะเสี่ยงแบบนี้แน่
“ครับ ในเมื่อเป็นเช่นนี้เราก็ทำอะไรไม่ได้แล้วครับ แต่เรื่องทำร้ายร่างกายนั้นยังคงแจ้งความได้ ส่วนเรื่องบ้านในสัญญาแยกบ้านนั้น ไม่ได้ระบุว่าให้ใคร คุณหลี่อิงอิงสามารถทำได้ตามใจต้องการครับ”
เจ้าหน้าที่รู้สึกผิดปกติในหนังสือแยกบ้านฉบับนี้ ไม่มีทางที่คนเป็นพ่อจะทำให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองเสียเปรียบแน่นอน หลี่อิงอิงเองก็ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ คิดจะเอาเปรียบเธอเหรอ แต่ช่องโหว่นั้นมากมาย ตัวเธอนั้นอยากจะขอบคุณเจ้าหน้าที่คนนี้มากที่ทำตัวเป็นกลางไม่เอียงไปทางไหนทั้งๆ ที่ฝั่งบ้านหลี่เตรียมทุกอย่างมาพร้อมขนาดนี้
“ทีนี้เข้าใจแล้วนะหลี่อิงอิง เพราะเอกสารฉบับนี้ฉันเก็บมาด้วยตัวเองตลอด ไม่มีใครสามารถปลอมแปลงได้แน่นอน” หยงหัวพูดพร้อมกับหันมามองทางหลี่อิงอิง
“ในเมื่อคุณลุงผู้นำหมู่บ้านยืนยันว่า หนังสือแยกบ้านฉบับนั้นเป็นฉบับจริง ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดค่ะ แต่เรื่องบ้านไม่มีในสัญญาฉันสามารถทำได้ตามอำเภอใจใช่ไหมค่ะ แต่ว่าคุณลุงต้องยอมรับผลนะคะ ถ้าหากมีความผิดพลาดเกิดกับหนังสือแยกบ้านฉบับนั้น”
ตอนนี้พี่ใหญ่อย่างหลี่ฮุ่ยหมินกลับมาแล้วและแอบยื่นกล่องเหล็กให้กับบ้านคังถือไว้เพื่อไม่ให้คนสงสัย ก่อนจะกลับมายืนเนียนๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“พี่ใหญ่พี่รอง ไปที่บ้านฉันกัน เสี่ยวหลินด้วย” หลี่อิงอิงพูดจบก็รีบเดินกลับบ้าน เล่นเอาสามคนที่โดนเรียกวิ่งตามแทบไม่ทัน คนอื่นๆ ก็ต้องวิ่งตามไปดูว่าสาวน้อยคนนี้จะทำอะไร
เมื่อหลี่อิงอิงมาถึง ก็แอบเอาน้ำมันที่ซื้อมาอยู่ในมิติ เทราดอย่างรีบร้อนก่อนที่ใครจะมาเห็นและสงสัยว่าน้ำมันมาจากไหน จากนั้นก็หยิบไม้ขีดไฟออกมาจุดแล้วโยนเข้าไปในบ้านที่ได้ราดน้ำมันก่อนจะออกมายืนดูด้วยความสะใจ