บ้านหลี่เมื่อเห็นว่าหลี่อิงอิงเอาจริงก็พากันหน้าซีด หลี่ตวนเห็นลูกชายคนโตยืนอยู่จึงบอกให้ไปคุยกับหลี่อิงอิงให้ว่าอย่าเอาผิดลูกชายคนรองและสะใภ้รอง แต่หลี่คงกลับปฏิเสธเสียงแข็ง
“อิงอิงทำถูกแล้วครับพ่อ ในเมื่อเจ้ารองและสะใภ้รองทำร้ายและเอาเปรียบเธอก่อน อีกอย่างสัญญานั้นพ่อก็รู้ดีอยู่แก่ใจไม่ใช่เหรอครับว่าเนื้อหาในนั้นเป็นยังไง แต่พ่อก็ยังทำเธอไม่เอาเรื่องพ่อดีแค่ไหนแล้ว”
“แก แกไอ้ลูกชั่ว น้องเดือดร้อนจนจะติดคุกอยู่แล้วกลับไม่คิดจะช่วย ดี ดีมาก! ถ้าอย่างนั้นแกก็ออกจากบ้านฉันไป ไม่ต้องกลับมาเหยียบที่บ้านหลี่อีก”
หลี่ตวนคิดว่าถ้าพูดแบบนี้ลูกชายคนโตจะต้องช่วยอย่างแน่นอนแต่เขาคิดผิดเพราะหลี่คงรอเวลานี้มานานจึงพยักหน้ายอมรับในคำพูดของพ่อ
“ได้ครับพ่อ ผมยินดีทำตามที่พ่อบอก ผมจะพาลูกและภรรยาออกมาจากบ้านหลี่ รอผู้นำหมู่บ้านกลับมาผมจะให้เขาทำหนังสือตัดขาดให้ เพราะครั้งนี้พ่อเป็นคนไล่พวกเราออกมาเอง ตอนนี้มีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่เป็นพยานให้ผมทั้งหมดแล้วนะครับ”
หลี่คงเหมือนยกภูเขาออกจากอกในที่สุดเขาก็ได้แยกบ้านจริงๆ เสียที ปัญหามันอยู่ที่ว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหนตอนนี้ แต่แล้วยังไง ออกคือออก เขาจะลองไปถามที่คอมมูนดูว่าพ่อมีห้องพักให้เขาและครอบครัวพักอยู่สักระยะจนกว่าจะจัดสรรที่ดินได้ไหม
“หลี่คงเดี๋ยวไปพักที่บ้านของฉันก่อน อาจจะคับแคบไปหน่อย แต่ก็พออยู่ได้” คังเทียนพูดขึ้น
“ขอบคุณครับพี่คังเทียน” หลี่คงขอบคุณด้วยความซึ้งใจ
ไม่นานผู้ใหญ่บ้านก็กลับมาพร้อมเงินห้าร้อยหยวนยื่นให้กับหลี่อิงอิง เธอก็รับมาอย่างไม่อิดออด เงินนะใครบ้างไม่เอา
“คุณหย่งหัวครับ ช่วยทำหนังสือตัดขาดให้กับคุณหลี่คงด้วยนะครับ เพราะผู้เฒ่าหลี่นั้นไล่เขาออกจากบ้าน ท้ายสัญญาเขียนด้วยนะครับว่าคุณหลี่คงไม่จำเป็นต้องแสดงความกตัญญูใดๆ ทั้งสิ้นให้กับบ้านหลี่หรือว่าพ่อแม่”
เจ้าหน้าที่พูดรายละเอียดขึ้นทั้งหมด เขารู้แล้วว่าบ้านหลี่นั้นเห็นแก่ตัวแค่ไหน หากไม่จัดการแบบนี้คงจะมีปัญหาตามมาอีก เมื่อปัญหาทุกอย่างจบสิ้นหลี่อิงอิงก็หันมาขอบคุณเจ้าหน้าที่
“คุณเจ้าหน้าที่ ฉันหลี่อิงอิงต้องขอขอบคุณเรื่องวันนี้มากนะคะ หากบ้านเสร็จเมื่อไหร่ฉันจะทำขนมไปให้เพื่อเป็นการขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมทำตามหน้าที่”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณทำตามหน้าที่ฉันก็ให้เพราะน้ำใจหวังว่าจะรับน้ำใจของชาวบ้านตัวเล็กๆอย่างฉันนะคะ” สำหรับหลี่อิงอิงเธอมองว่าเจ้าหน้าที่คนนี้ใช้ได้ไม่เข้าข้างฝ่ายไหน ถ้าหากเธอรู้ความจริงว่าเขาโดนกดดันมาอีกทีคงไม่พูดแบบนี้แน่ๆ
เมื่อทุกอย่างจบสิ้น หลี่อิงอิงก็กลับไปพร้อมกับสหายและตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะต้องเข้าไปในอำเภอเพื่อที่จะบอกทุกคนว่าไปซื้อของใช้ ส่วนลุงใหญ่หลี่คงและครอบครัวเมื่อได้หนังสือตัดขาดแยกบ้านแล้วก็กลับไปเก็บของเช่นกันเพื่อจะกลับมาขออาศัยอยู่กับพี่คังเทียนก่อนสักระยะ
เจ้าหน้าที่รอคนของเขามาเพิ่มเพื่อที่จะพาตัวสองสามีภรรย***านหลี่ไปขังไว้ก่อนเพื่อที่จะรอการตัดสิน แต่เขาคิดว่าคงไม่ต่ำกว่าหกเดือน เพราะคนผู้นั้นคงไม่ยอมง่ายๆ เมื่อเจ้าหน้าที่ตามมาสมทบต่างก็ลากจูงสองสามีภรรย***านรองหลี่ไป เพราะทั้งสองคนนั้นไม่ยินยอมเดินดีๆ เจ้าหน้าที่คนนั้นต้องขู่ออกไปว่าหากไม่เดินดีๆหรือขัดขืนเขานั้นจะขังลืมแน่นอน
เฉิงจี้หยวนที่ยืนมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดทำหน้าพอใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่คนนี้ แต่ไม่ชอบใจที่หลี่อิงอิงเรียกเงินแค่ห้าร้อยหยวน สำหรับเขานั้นคิดว่ามันน้อยเกินไป
“หลงจื่อให้คนของเราถอดผู้นำหมู่บ้านภายในพรุ่งนี้เที่ยง และดูคนที่คิดว่าทำงานเพื่อชาวบ้านได้ขึ้นมาแทน แบบนี้ไม่เอาแล้ว”
“ครับพี่จี้หยวน”
“คืนนี้ให้คนมาจัดการทำความสะอาดซากบ้านของอิงอิงให้สะอาด ก่อนรุ่งสางของที่ใช้ในการสร้างบ้านต้องมากองอยู่พร้อมแล้วนะ จัดการหาผู้รับเหมาและจ่ายเงินให้พร้อม พรุ่งนี้สัญญาการสร้างบ้านชื่อของอิงอิงจะต้องเรียบร้อยก่อนที่ทุกคนจะตื่น”
“ห๊า! เจ้านายครับนี่มันกี่โมงแล้ว มันจะทันไหมล่ะครับ”
หลงจื่อโอดครวญถึงได้หลุดเรียกเจ้านายออกมาทั้งๆ ที่โดนสั่งไว้แล้วแท้ๆ เฉิงจี้หยวนเมื่อเห็นคนสนิทเรียกว่าเจ้านายก็หันไปมองหน้าด้วยสายตาดุดัน เพราะอยู่ที่นี่เขาไม่ต้องการให้ใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา
“ทันไม่ทันมันเรื่องของนาย แต่สำหรับฉันคือต้องได้ ถ้าไม่ได้รู้นะว่าเกิดอะไรขึ้น”
เฉิงจี้หยวนสะกดคำว่า 'ไม่' หรือ 'ไม่ได้' นั้นไม่เป็น หลงจื่อได้แต่ตอบรับเจ้านาย ตั้งแต่ทำงานและอยู่กับเจ้านายมาไม่เคยเห็นเขาสนใจผู้หญิงคนไหนเลยสักคนเดียว นอกจากเธอคนนั้นที่สร้างบาดแผลให้กับเจ้านายอย่างเจ็บแสบเมื่อหลายปีก่อน
“อย่าลืมจัดการเรื่องของอดีตคู่หมั้นเธอด้วย ฉันมองเห็นสายตาของมันเหมือนจะต้องการเธอกลับคืน เอาให้มันสืบพันธุ์และใช้การส่วนนั้นไม่ได้ พิการเลยยิ่งดี”
เฉิงจี้หยวนพูดจบก็เดินกลับบ้านพักของเขาโดยไม่สนใจลูกน้องที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ตรงนี้ หลงจื่อเองก็ไม่รอช้า รีบกลับบ้านพัก เพราะจะเอารถมอเตอร์ไซค์ที่มีคันเดียวในหมู่บ้านแห่งนี้ขับออกไปในอำเภอเพื่อที่จะจัดการเรื่องที่เจ้านายสั่ง ที่ไม่ไปใช้โทรศัพท์ในคอมมูนเพราะว่าไม่มีใครรู้ว่าเจ้านายเป็นใครนอกจากเจ้าหน้าที่คนนั้น
หลี่อิงอิงเดินกลับมาพร้อมกับครอบครับของสหาย เธอเดินเข้าครัวเมื่อเห็นว่าในครัวนั้นแทบจะไม่มีอะไรกินเลยก็นึกขึ้นได้ว่าหลังบ้านของเสี่ยวหลินนั้นมีลำธาร เธอจึงชวนเสี่ยวหลินไปจับปลาและหากุ้งมากิน คอยดูเถอะพรุ่งนี้เธอจะเอาของกินมาให้เต็มเหนี่ยวเลย เพราะเงินก็มีแล้วจะกลัวอะไร เธอมีข้ออ้างอยู่แล้ว ก่อนจะไปที่ลำธารเธอบอกลุงคังไว้ว่าหากพี่ใหญ่และพี่รองมาแล้วให้ตามไปที่ลำธาร จากนั้นทั้งสองคนถือถังมาคนละใบและยังมีจอบติดมือมาด้วย
“อิงอิง เธอเอาจอบมาทำไม” เสี่ยวหลินถามอย่างสงสัย
“เถอะน่า ไปถึงก็รู้เอง”
เธอเองเห็นตอนที่หาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตของการใช้ชีวิตในชนบทเลยรู้วิธีขุดหลุมดักปลานี้มา เมื่อทั้งสองคนมาถึงลำธารหลี่อิงอิงก็ไม่รอช้าจัดการทำหลุมดักปลาทันที ต่อไปก็ชวนสหายไปจับกุ้งที่มีมากมายในลำธาร
“อิงอิงจะจับไปทำไมเปลือกแข็งจะตาย” เสี่ยวหลินไม่เข้าใจสหาย
“เอาน่า วันนี้กินธรรมดาไปก่อน พรุ่งนี้ฉันจะเข้าอำเภอ ไปซื้อของและจะซื้อพวกเครื่องปรุงมาด้วยแล้วจะทำของอร่อยให้กิน”
“ได้ฉันจะเชื่อเธอก็แล้วกัน”
ทั้งสองคนช่วยกันจับไม่นานก็ได้กุ้งมาเกือบเต็มถังพอหันไปที่หลุมดักปลาทั้งสองหลุมที่ทำไว้ก็ได้ปลามาอีกสิบกว่าตัว ทั้งสองสาวนั่งรอพี่ชายทั้งสองคนเพราะให้ยกกันเองคงจะแขนหลุด
หลี่อิงอิงนึกได้ว่าปลานั้นคาวก่อนจะบอกสหายว่าขอไปหาผักที่เอามาดับกลิ่นปลาก่อน ให้รอเธออยู่ตรงนี้ หลี่อิงอิงไม่รอสหายตอบกลับเธอรีบเดินหนีมา เพราะในมิตินั้นมีทั้งข่า ตะไคร้ เมื่อได้ของที่ต้องการเธอก็แกล้งเอาจุ่มลงดินเพื่อให้สหายเห็นว่าเธอเพิ่งจะถอนมา พอกลับมาก็เจอพี่ชายทั้งสองคนยืนยิ้มตาหยีรออยู่แล้ว
จากนั้นทั้งสี่คนจึงชวนกันกลับบ้านเพื่อไปทำอาหารเย็นพอประทังชีวิตไปก่อน เมื่อทำอาหารเสร็จคนทั้งหมดก็กินกันอย่างมีความสุข หลี่อิงอิงมองว่านี่สินะที่เรียกว่าครอบครัว เธอหวังว่าสักวันหนึ่งจะทำให้ทุกคนในที่นี้มีความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้ได้อย่างแน่นอน