เทพสุริยะกรุ๊ป
เวคินทร์นั่งจัดการเอกสารบนโต๊ะอย่างขะมักเขม้น จนลืมเวลาไปเลย เอกสารสำคัญก็เยอะจนเขา เริ่มเบื่อหน่าย เพราะต้องนั่งทำอยู่แบบนี้ทุกๆวัน แล้วเบนสายตาขึ้นมอง เมื่อเขาได้ยินเสียงประตูห้องทำงานเปิดออกมา
“เที่ยงแล้วครับพี่คิงส์ ไม่ออกไปหาอะไรทานหรือครับ!”
“แกไปทานก่อนเถอะ ไม่ต้องรอฉัน แล้วนี่เมียแกเขาไปไหน ไม่ไปด้วยกันเหรอ”
“ไปสิครับ แต่ปานเขารอคุณกนกก่อน เห็นว่าวันนี้คุณกนกกับคุณหวานนัดเจอปานเค้านะครับ”
“อ้าวเหรอ แล้วจะไปกันกี่โมง” เวคินทร์ล่ะจากเอกสารบนโต๊ะทันที เมื่อเขาได้ยินว่ายัยตัวแสบอย่างกนกจันทร์นัดกับน้องสะใภ้ของเขาวันนี้
“เดี๋ยวพวกผมกับปานจะไปเจอคุณกนกกับคุณหวานที่ร้านอาหารเลยครับพี่คิงส์ เมื่อกี้คุณกนกเธอโทร.มาบอกปานว่า ตอนนี้คุณหวานกับเธอกำลังจะถึงที่ร้านอาหารแล้ว พอดีปานเขาเข้าห้องน้ำ ผมเลยแวะมาดูพี่คิงส์ไปทานข้าวด้วยเลย ถ้าพี่คิงส์ไม่ว่างก็ไม่เป็นไร งั้นผมขอตัวนะครับ” คิมหันต์พูดขึ้นเสียยืดยาว โดยไม่ทันได้มองอาการของคนเป็นพี่ชายเลยว่าตอนนี้ กำลังคิดอะไรอยู่
“ฉันออกไปทานข้าวพร้อมกับแกเลยก็ดีเหมือนกัน เอกสารที่ต้องเซ็นเหลืออีกไม่มากแล้ว”
เวคินทร์พูดขึ้น ขณะที่มือยังเก็บเอกสารเข้าลิ้นชัก ลุกขึ้นจนเต็มความสูง ยิ่งเข้าใส่สูทเต็มยศแล้ว บอกได้คำเดียว ว่าความหล่อ กินขาด ยิ่งดวงตาคู่สวยนั้นอีก สาวไหนเห็นแล้วไม่หลงรักเขา ผู้หญิงคนนั้นคงมีความผิดปกติทางสายตาและหัวใจอย่างแน่นอน แน่นอนว่าผู้หญิงที่เขาว่านั้น คงเป็นใครไปไม่ได้
นอกจากยัยเพื่อนตัวแสบของน้องสะใภ้เขานี่เอง พอนึกถึงตอนนี้ทีไร ทำไมหัวใจเขามันเจ็บจี๊ดอีกแล้ว ยิ่งอาการเฉยชา และรังเกียจในตัวเขา ยิ่งเพิ่มความอยากรู้ให้เข้าหนักขึ้นไปอีก ถ้าเขาคิดผิดก็แล้วไป แต่ถ้าเขาคิดถูก เขาคงเสียดาย ความสวย ความน่ารักของยัยตัวแสบนั่นน่าดู
“ไปกันเถอะ เดี๋ยวปานดาวจะรอนาน”
คิมหันต์ถึงกับยิ้มกว้างเมื่อเห็นอาการของพี่ชายแล้ว แบบนี้แผนการจับคู่ของมารดาเขาก็น่าจะสำเร็จ ถ้าหากพี่ชายของเขายอมลงสนามแข่งในครั้งนี้ สงสัยเสียแล้วสิ ว่าพี่ชายคิดอะไรกับเพื่อนรักสุดแสบของภรรยา ‘ทีเมื่อกี้บอกว่าไม่อยากไป อยากทำงานให้เสร็จ พอพูดถึงคุณกนก ถึงกับทิ้งงานเลยนะพี่คิงส์’ ชายหนุ่มคิดแล้วก็อดขำพี่ชายไม่ได้ มัวแต่เก๊กไม่เข้าท่า เดี๋ยวก็โดนคนอื่นงาบเพื่อนสุดแสบของภรรยาเขาไปหรอก รีบสาวเท้าเดินตามพี่ชายไปด้วยความขบขัน ในความเรื่องมากของพี่ชาย พวกเขาต่างก็รู้กันทั้งนั้นว่าพี่ชายคิดยังกับเพื่อนของภรรยาสาว บางทีพี่ชายเขาอาจจะยังไม่รู้ตัวก็ได้
“พี่คิงส์ ยังไม่ออกไปทานข้าวอีกหรือค่ะ”ปานดาวเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าพี่ชายสามี เดินตรงมายังเธอ “อย่าบอกนะคะว่าพี่คิงส์จะไปทานข้าวกับพวกปาน” หญิงสาวถามขึ้นด้วยความกังวล เพราะเธอรู้ดีว่าเพื่อนรักและพี่ชายสามีไม่ค่อยจะกินเส้นกันเท่าไร ถ้าเจอกันตรงๆแบบนี้ มีหวังฆ่ากันตายแน่ๆ
“มีอะไรหรือเปล่าปาน” เวคินทร์ถามขึ้นด้วยความสงสัย แล้วยังสีหน้าของน้องสะใภ้เขาอีก มันต้องมีอะไรแน่ๆเลย แต่ก็เงียบ ไม่ได้ถามอะไรออกไป
“เรารีบไปกันเถอะปาน เดี๋ยวคุณกนกกับคุณหวานจะรอนาน” คิมหันต์พูดขึ้น ก่อนดึงมือภรรยาสาวให้เดินตาม ก่อนที่ภรรยาสาวของเขาจะถามอะไรไปมากกว่านี้ แผนการที่เขาและมารดาคิดขึ้นนั้น ภรรยาสาวของเขาไม่รู้เรื่องนี้ ไม่บอกเรื่องนี้ให้ภรรยากับพี่สะใภ้รู้นะดีแล้ว สำหรับความคิดของเขา ขืนบอกไปมีหวังเขาได้โดนทำโทษให้นอนนอกห้องอีกแน่ๆ
เวคินทร์ได้แต่มอง อาการของน้องชายและน้องสะใภ้ด้วยความสงสัย เพราะไม่รู้ว่าสองคนนี้งอนอะไรกันอีก ตั้งแต่แต่งงานกันมาเกือบสามปีแล้ว ดูเหมือนว่าคู่ของน้องชายคนรองกับน้องสะใภ้คนรองจะดูมีความสุข น่ารักกว่า ครอบครัวน้องชายคนเล็กกับน้องสะใภ้คนเล็กอย่างมาก
เพราะน้องชายคนเล็กกับน้องสะใภ้คนเล็ก ต่างก็ไม่ยอมลงให้แกกัน ยิ่งช่วงแรกๆที่แต่งงานกัน ทั้งสองทะเลาะ งอนกันบ่อยๆ จนเขาและมารดา ต่างก็คิดว่า สองคนนี้คงจะไปด้วยกันมารอด เนื่องจากต่างฝ่ายก็ต่างหึงหวงกันเกินไป จนบางครั้งถึงกับแยกห้องนอนกันเลยก็มี แต่นั้นก็ยิ่งทำให้ทั้งสองรักกันแน่นแฟ้นขึ้นไปอีก
////////
บรรยากาศร้อนๆแบบนี้ยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดให้คนรอคอยไม่ใช่น้อย ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเพื่อดับกระหาย ทั้งที่ภายในใจกับหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก “ไอ้กนก ฉันว่าแกหยุดบ่นได้แล้วละ เดี๋ยวไอ้ปานมันก็มา” พัชรานั่งยิ้มมองเพื่อนรัก ที่ตอนนี้กำลังบ่นพึมพำด้วยความหงุดหงิด เธอก้มมองนาฬิกาบนข้อมูลก่อนจะพูดขึ้น ด้วยรอยยิ้ม
กนกจันทร์หยุดบ่น พร้อมกับหันมามองเพื่อนรักด้วยความหงุดหงิด สบตาเพื่อนรักด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ฉันว่าแกกับฉันมาสายแล้วนะไอ้หวาน แต่นี่อะไรไอ้ปาน มันดันมาสายกว่าพวกเราอีก” เสียงหวานแต่ห้าวพูดขึ้นด้วยความไม่ชอบใจ เธอมานั่งปานดาวเกือบชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แวว ของเพื่อนรักจะมาเสียที
“ฉันว่าบางทีไอ้ปานกับคุณคิม คงมาแล้วแหละ แกอย่าลืมสิ เที่ยงๆแบบนี้ รถติดจะตาย ขนาดแกกับฉันมารถยังติดเลย แกอย่าบ่นเลย เดี๋ยวไอ้ปานมันก็มาเองแหละ บ่นเป็นยายแกไปได้น่าแก”
“แกก็เลิกบ่นฉันเสียทีได้ไหมไอ้หวาน ฉันรู้ว่าแกมันใจเย็น รอได้ แต่ฉัน มันใจร้อนนี่หว่า ฉันนั่งรอไอ้ปานมาเกือบชั่วโมงแล้วนะ แต่ทำไมยัยบ้านั่นยังไม่มาอีก”
พัชราได้แต่อมยิ้มกับความใจร้อนของเพื่อนรักคนนี้ เธอก็เบื่อแล้วเหมือนกันที่ต้องนั่งคอยแบบนี้ แต่ถ้าเธอโวยวายไปด้วย มีหวังไอ้เพื่อนตัวแสบอย่างกนกจันทร์คงต้องโทรฯไปด่า ไปจิกปานดาวแน่นอน
“ช่วงนี้แกเจอพี่คิวบ้างหรือเปล่า ไอ้หวาน” กนกจันทร์ถามเพื่อนรักขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เมื่ออยู่ๆ เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่า วันก่อนเธอเจอรุ่นพี่หนุ่มของยัยหน้าหวานตรงหน้าเธอ
พัชราถึงกับเงียบไปทันทีเหมือนกัน เพราะเธอไม่ได้เจอรุ่นพี่หนุ่มผู้นี้มานานแล้ว นับตั้งแต่งานแต่งงานของสองเพื่อนรักเมื่อหลายปีก่อน ที่สำคัญ เธอก็เพิ่งเดินทางกลับมาเมืองไทยได้ไม่กี่เดือน ที่ผ่านมานี่เอง
“ฉันไม่เจอพี่คิวนานแล้วละ ถ้าจำไม่ผิดก็ประมาณสองสามปี แล้วที่ฉันมาเจอพี่คิวเขา แกถามทำไมวะไอ้กนก”
“ฉันเจอคุณคิวเมื่ออาทิตย์ก่อน เขายังถามฉันเลยว่า เจอแกบ้างไหม”
“แล้วแกตอบไปว่าไง” พัชราถามขึ้นด้วยความสงสัย
//////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...