ตอนที่ 5
ใบหน้าขาวสวยหม่นหมองลง ดวงตากลมโตหันมองบังกะโลอีกครั้ง หวังจะได้เห็นคนที่นัดเธอมาแคสติ้งบทละครในวันนี้ แต่มันก็มีเพียงแค่ความว่างเปล่า ไม่มีใครเดินออกมาเรียกเธอสักคน ขนิษฐาถอนหายใจอีกครั้ง และหันหลังเดินกลับทางเก่า
“เดี๋ยวค่ะน้องกวาง” กานนท์กะเทยร่างสูงใหญ่ที่แอบดูอยู่ด้วยความอึดอัดใจ ที่ต้องหลอกสาวน้อยแสนดีและน่ารักอย่างขนิษฐาให้มาตกในน้ำมือเสือร้ายวิ่งมาดักหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วก็ต้องเบือนหน้าหนีและขอโทษหญิงสาวอยู่ในใจ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งของโมกข์ละก็เธอไม่มีทางที่ทำแบบนี้เด็ดขาด
ถึงจะไม่รู้ว่าโมกข์ทำแบบนี้ทำไม เพราะชายหนุ่มเองก็มีผู้หญิงรายรอบไม่ขาดแม้สักคืนเดียว แต่ยังให้เธอนัดขนิษฐามาให้อีก แล้วเธอก็ได้แต่หวังว่าหญิงสาวจะให้อภัยเมื่อได้รู้ความจริง
คนเรามันก็ต้องเห็นแก่ตัวกันทุกคน ใครล่ะจะเอาอนาคตตัวเองมาผูกติดกับคนที่เพิ่งรู้จัก อีกอย่างเงินทองที่ได้จากการทำงานก็มากโข ให้เธอเลี้ยงครอบครัวและคนสำคัญได้อีกด้วย แต่ถ้าเธอขัดใจโมกข์ สิ่งที่ได้รับมันก็จะไม่มีและเธอก็ทนไม่ได้เสียด้วย น
“พี่ต้องขอโทษน้องกวางด้วยนะคะ ที่นัดมาเจอกันที่นี่ พอดีว่าเจ้าของบทละครที่เขามาคัดเลือกนักแสดงนะคะ เขาต้องการความเป็นส่วนตัว”
“แล้วเขาคนที่ว่าอยู่ที่ไหนล่ะคะพี่นนนี่” ขนิษฐาถามอย่างสงสัย
“อันนี้พี่ก็ไม่รู้นะคะ แต่เห็นเขาติดต่อมาทางพี่ แล้วพี่ก็เห็นว่าบทมันดี ให้ผลตอบแทนสูง ก็เลยลองติดต่อน้องกวางไป” กานนท์แถไปเรื่อยด้วยใบหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “เอาน่าน้องกวาง อย่าคิดมากเลยนะคะ เข้าไปรอในบ้านก่อนดีกว่า เดี๋ยวพี่ขอไปรับน้องๆ ที่จะมาแคสติ้งบทนี้อีกสองคน เห็นน้องๆ บอกว่ามาไม่ถูกน่ะจ้ะ”
เมื่อได้ยินว่ายังมีคนมาแคสติ้งเพิ่ม ก็ทำให้ขนิษฐาถึงกับโล่งอกโล่งใจไปได้บ้าง ร่างบอบบางเดินเข้าบ้านไปอย่างไม่คิดอะไรมาก แต่เพียงแค่ประตูปิดลงเท่านั้นเอง
“ไงแม่ตัวประกอบ กว่าจะมาได้รู้สึกว่าคนของฉันต้องง้อเธอมากเลยนะ”
“คะ...คุณโมกข์” ขนิษฐาเรียกชื่อชายหนุ่มอย่างตกใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ใบหน้าขาวสวยซีดเผือด ความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้วกำลังโอบล้อมรอบกายบาง ให้หวาดกลัวแต่มันก็ซุกซ่อนอารมณ์วาบหวามไว้ด้วยเช่นกัน ขาเรียวยาวก้าวถอยหลังแต่มันก็ติดประตู ร่างบางรีบหันหนี ยื่นมือไปจับลูกบิดประตู แต่ก็ไม่ทันเมื่อคนที่ทักทายเธอเตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว
ร่างใหญ่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มือแข็งแกร่งเท้าคร่อมระหว่างเรือนกายบอบบาง ใบหน้าคมคร้ามก้มจนเกือบจะชิดใบหูหญิงสาว “ฉันมารอเธอตั้งนานแล้วนะ เธอจะรีบไปไหนล่ะ อยู่คุยกันก่อนสิ”
แค่คำพูดที่ชายหนุ่มพูดอยู่นั้นไม่เท่าไหร่ แต่มือใหญ่อีกมือที่ทาบอยู่บนมือเล็กเรียว เป็นเสมือนถ่านร้อนๆ เผาไหม้หญิงสาวให้ร้อนรุ่มและสั่นไหวอย่างรุนแรง
“ถะ...ถอยออกไปนะคุณโมกข์ ฉันจะกลับบ้าน” ขนิษฐาบอกเสียงสั่น ภาพที่เกิดขึ้นระหว่างเธอและชายหนุ่มเมื่อวันก่อนผ่านเข้ามาในสมองอีกครั้ง แล้วก็ทำให้เธอกลัวจนตัวสั่นใจสั่น เพราะแม้ว่าปากจะบอกว่าเกลียด แต่เพียงแค่ชายหนุ่มแตะต้องเท่านั้นเธอก็อ่อนระทวยแล้ว
ขนิษฐาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่ามันเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมต้องร้อนรุ่มและเฝ้ารอคอยให้ชายหนุ่มสัมผัสอย่างใกล้ชิดด้วย
โมกข์ยิ้มกว้าง ริมฝีปากร้อนประทับระหว่างบ่าและลำคอระหง ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งเฮือก “แล้วเธอจะรีบไปไหนล่ะแม่ตัวประกอบ รู้ไหมว่าตั้งแต่วันนั้นทำเอาฉันนอนไม่หลับ ขนาดอยู่กับผู้หญิงคนอื่นก็ยังเห็นเป็นหน้าเธอเลย”
ขนิษฐาขบกัดริมฝีปากดับอารมณ์พลุ่งพล่านที่เกิดขึ้น และดึงเอาอารมณ์โกรธมาแทนที่ ร่างบอบบางค่อยๆ หันอย่างเชื่องช้า สองมือยื่นไปกันร่างใหญ่ไม่ให้เข้าใกล้ ใบหน้าขาวสวยมีแต่รอยยิ้มหยามหยันและเยาะเย้ย แต่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเยาะเย้ยใคร ตัวเอง...หรือว่าผู้ชายที่ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้านี่
“ไม่น่าเชื่อนะคะว่าคนอย่างคุณโมกข์ จะลดตัวลงมายุ่งกับแม่สาวตัวประกอบอย่างฉัน หรือว่าตอนนี้ผู้หญิงในสต็อคที่คุณสะสมไว้ เขารู้เช่นเห็นชาติความร้ายกาจในตัวคุณแล้วคะ พวกเขาถึงได้ปล่อยให้คุณวิ่งพล่านเป็นหมาบ้าตามผู้หญิงที่เขาไม่สนใจน่ะ”
“หือ....เธอนี่ปากคอเราะร้ายไม่เบานะแม่ตัวประกอบ แต่ไม่เป็นไรฉันไม่ถือ เพราะว่ามันดันหวานจนทำให้ลืมไม่ลง”
โมกข์หัวเราะกลั้วคอ ดวงตาหลุบมองสองมือเล็กที่กันไว้ขัดขวางความต้องการของเขาไม่ได้อยู่แล้ว ริมฝีปากหนาเคลื่อนลงประทับบนลำคอนุ่ม ปลายลิ้นสากร้อนยื่นออกมาลองลิ้มชิมผิวเนื้อเนียนทำเอาหญิงสาวขนลุกซู่และเขาก็เห็นมันเสียด้วย
ขนิษฐาจับมือใหญ่ที่เริ่มทำรุ่มร่ามกับเรือนกายให้หยุดนิ่งกับที่ และถามใจตัวเองว่าเธอเป็นอะไร ทำไมถึงได้ตัวสั่นและหวั่นไหวกับการแตะต้องของชายคนนี้ด้วย แล้วไอ้หัวใจบ้านี่มันก็ดันเต้นแรงและเร็วเหมือนจะทะลุออกมาจากอก แล้วก็รอคอยให้ชายหนุ่มแตะต้องด้วย หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอและขบกัดริมฝีปากที่กำลังสั่นระริกพูดต่อว่าน้ำเสียงสั่นเทา
“ถะ...ถอยออกไปนะคุณโมกข์ ถ้าคุณต้องการปลดปล่อยอารมณ์มากนัก คุณก็ไปหาผู้หญิงที่เขาพอใจจะนอนกับคุณสิ อย่ามายุ่งกับฉัน”
“เหรอ เธอไม่อยาก...กับฉันจริงๆ เหรอแม่ตัวประกอบ แต่เอ๊ะ...ทำไมร่างกายของเธอถึงบอกกับฉันต่างจากที่ปากบอกล่ะ เธอพูดผิดไปหรือเปล่าสาวน้อย” โมกข์ถามน้ำเสียงหวานกระเส่า ปากหนาเคลื่อนไหวขบเม้มผิวเนื้อขาวหอมจากลำคอฝั่งหนึ่งจนถึงอีกฝั่งหนึ่ง จมูกสูดดมความหอมของผิวกายสาวที่ไม่ต้องใช้เครื่องประทินผิวแต่อย่างใด
ขนิษฐากลืนน้ำลายลงคอ สองมือยกดันร่างใหญ่ให้ห่างแต่ก็เหมือนกับแกล้ง โมกข์ดันร่างกายใหญ่ให้แนบชิดกับกายบอบบางมากยิ่งขึ้น และมือของเธอก็แตะถูกแผงอกกว้างที่มีไรขนนุ่มประปราย เพราะชายหนุ่มกลัดกระดุมเสื้อเพียงแค่สองสามเม็ดจากด้านล่าง
“ว่าไงล่ะแม่ตัวประกอบ เธอเองก็ต้องการฉันไม่ใช่หรือไง จำได้ไหมว่าตอนที่ฉันแตะเธอแบบนี้ เธอรู้สึกยังไง” ปลายนิ้วยาวเคลื่อนไหวเหมือนกับขนนกลากไล้ไปตามแอ่งชีพจรแผ่วเบาและนุ่มนวล
“ยังจำได้ไหมว่าตอนที่ฉันกำลังกลืนกินร่างกายเธอน่ะ เธอมีความสุขแค่ไหน”
โมกข์ถามเสียงกระเส่า ไม่เพียงแค่นั้นชายหนุ่มยังใช้ริมฝีปากประทับลงบนทรวงอกอวบ ทั้งที่มีผ้าเนื้อหนาปกปิดอยู่ถึงสองชั้น แต่ขนิษฐาก็ยังสัมผัสถึงความร้อนผ่าวที่กดทับอยู่ได้เป็นอย่างดี
ปลายลิ้นสากร้อนไล้เป็นวงกลมแผ่วเบาและนุ่มนวล แล้วชายหนุ่มก็ยิ้มกว้างเมื่อเห็นอาการสั่นของหญิงสาว ถึงแม้ปากจะแข็งเพียงใดแต่ก็ยังอ่อนประสบการณ์ เล้าโลมสักหน่อยประเดี๋ยวคนที่ปากแข็งก็อ้อนวอนและเรียกร้องให้เขามอบความสุขให้ ร้อยทั้งร้อยไม่เห็นเคยมีใครที่จะปฏิเสธความต้องการได้สักคน
“ตกลงว่าไงล่ะแม่ตัวประกอบแสนหวานของฉัน” มือใหญ่จับมือเรียวของคนที่กำลังอ่อนระทวยวางบนบ่ากว้าง ใบหน้าคมเคลื่อนขึ้นไปหาและมอบจุมพิตหวานๆ ฟันขาวขบกัดริมฝีปากอวบอิ่มดึงแล้วปล่อยอยู่สองสามครั้ง ราวกับว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นสามารถดึงสติของขนิษฐาที่หลงเหลืออยู่ให้หลุดลอยไปได้
ริมฝีปากหนาประทับไปบนเรียวปากนุ่ม ปลายลิ้นสากร้อนไล้ไปตามความยาวของเรียวปากนุ่ม ลิ้นสากร้อนแทรกเข้าไปข้างในเมื่อริมฝีปากอวบอิ่มเผยอออก ขบเม้มชอนไชลิ้มรสความหอมหวานของน้ำทิพย์จากกายนุ่มอย่างพอใจ