ตอนที่ 2
ไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย หน้าตาก็งั้นๆ พอไปวัดไปวาได้ตอนสายๆ ไม่อายพระอายเณร ไม่รู้ใครตาถั่วเอามาเป็นนางเอกได้ ฉันสวยกว่าตั้งเยอะ
“ระวีกำลังจะกลับอยู่เหมือนกันค่ะ แต่พอดีเห็นพี่โมกข์ยังนั่งคุยอยู่กับคุณสารัช ระวีเลยคิดจะมาชวนพี่โมกข์ไปทานอาหารด้วยนะคะ”
ปานระวีบอกยิ้มๆ ด้วยถือว่าครอบครัวของเธอและโมกข์นั้นใกล้ชิดกัน มารดาและบิดาของชายหนุ่มก็ยังรักใคร่เอ็นดูเธอราวกับลูกหลานคนหนึ่ง และยังเคยเปรยๆ ว่าอยากจะได้เธอไปเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน แต่ติดที่โมกข์ไม่เคยแสดงออกให้รู้ว่าเขาคิดยังไงกับเธอ เพราะเหตุนี้เองทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายใช้ความใกล้ชิดขอร้องกึ่งบังคับให้โมกข์พาเธอเข้าร่วมแสดงละครในเรื่องนี้ด้วย
แล้วก็ไม่ใช่เพราะความใกล้ชิดกับครอบครัวโมกข์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะเธอมีทั้งความสามารถและความสวย เลยทำให้ได้บทเด่นในละครเรื่องที่กำลังถ่ายทำอยู่นี้ ครอบครัวของเธอและโมกข์ต่างก็หวังว่าความใกล้ชิดในครั้งนี้ จะทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจได้เสียทีว่าจะเลือกเธอไปเป็นคนเคียงข้างตลอดชั่วชีวิต ส่วนตัวเธอเองก็หวังเช่นกันว่าจะได้เป็นคู่ครองคอยปรนนิบัติพัดวีและมอบความสุขให้
“เสียใจด้วยนะคะคุณระวี พอดีว่าคุณโมกข์...” แขนเรียวยาวสอดเข้าที่แขนแข็งแกร่ง ดึงรั้งให้ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นจากเก้าอี้พับตัวเล็กแต่แข็งแรง ใบหน้าขาวสวยซบหน้ากับบ่ากว้าง จ้องมองปานระวีอย่างรังเกียจ “มีนัดทานอาหารกับฉันแล้วค่ะ”
ชาลิสาเงยหน้าส่งดวงตาหวานเยิ้มและยั่วยวนให้กับโมกข์ แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหวานเชื่อมอย่างไม่กลัวน้ำตาลจะหก “ใช่ไหมคะคุณโมกข์ขา?”
โมกข์พยักหน้ารับ ถึงแม้ว่าจะไม่ไปกับชาสิลา แต่ยังไงก็คงต้องใช้หญิงสาวเป็นกันชนกันปานระวีออกไปจากเขาก่อน ไม่ใช่ว่ารังเกียจแต่เป็นเพราะเขายังไม่อยากมีห่วงผูกคอในตอนนี้ ชีวิตหนุ่มยังอีกยาวไกล เรื่องอะไรที่จะต้องจมปลักอยู่กับผู้หญิงเพียงคนเดียวเล่า
ปานระวีหน้าเสียแต่ก็ปรับสีหน้าได้เร็ว เพราะไม่ต้องการให้อีกคนที่ยืนเคียงข้างโมกข์สมใจ “ไม่เป็นไรค่ะพี่โมกข์ เอาไว้วันหน้าก็ได้ค่ะ” หญิงสาวยิ้มหวานให้โมกข์ แต่กลับปลายสายตารังเกียจและสมเพชไปให้กับชาลิสา คิดหรือว่าแค่นี้จะกันเธอห่างจากโมกข์ได้ ในเมื่อมีแบ็คอัพดีอย่างบิดาและมารดาของโมกข์ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังจะต้องไปกลัวอะไรกับนางร้ายที่คอยไล่จับผู้ชายเล่า
“อ้อ...ระวีลืมบอกพี่โมกข์ไป วันอาทิตย์ถ้าพี่โมกข์ไม่ติดธุระอะไร พ่อบอกว่าให้พี่โมกข์แวะไปหาที่บ้านหน่อยนะคะ เห็นว่ามีเรื่องงานจะคุยด้วย”
“ขอบใจนะระวี ยังไงพี่ขอดูก่อนแล้วกันว่าติดงานหรือเปล่า” ชายหนุ่มตอบทั้งที่ในใจนั้นมีคำตอบแล้วว่า เขาไม่ไปหาบิดาปานระวีเด็ดขาด เพราะไม่ชอบวิธีการพูดและปฏิบัติของชายวัยกลางคน ที่มักใช้ความเป็นผู้ใหญ่และประสบการณ์มากกว่า ชักจูงชักนำให้คนอื่นทำตามความต้องการ และยังพยายามยัดเยียดปานระวีให้เป็นแฟนเขาอยู่เนืองๆ
“ค่ะพี่โมกข์ งั้นระวีกลับก่อนนะคะ” หญิงสาวบอกและอย่างรวดเร็วที่ร่างโปร่งบางเดินเข้ามาหาร่างใหญ่ ริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดประทับบนแก้มสากระคายก่อนจะเดินไปที่รถ แล้วเมื่อถึงเธอก็ยังหันหน้ามาโบกมือให้โมกข์อีกครั้งเป็นการส่งท้าย
ชาลิสารีบยกมือขึ้นเช็ดรอยแดงบนใบหน้าคมคร้ามด้วยความหงุดหงิดระคนโมโห แล้วยังบ่นพึมพำเบาๆ จนโมกข์รำคาญใจ พอดีกับที่ผู้จัดการส่วนตัวของหญิงสาวกวักมือเรียกหญิงสาวให้ไปคุยธุระด้วย
โมกข์ถือโอกาสเดินเลี่ยงไปด้านหลัง เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของหน้างาน สถานที่ในการถ่ายทำละครเรื่องนี้ เกือบจะแปดสิบเปอร์เซ็นต์จะเป็นรีสอร์ทของเขา ซึ่งแม้ว่าจะยังทำการก่อสร้างอยู่แต่ก็เสร็จไปเกือบจะเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องของการเก็บรายละเอียดและการตกแต่งภายใน ทุกอย่างคงเสร็จเรียบร้อยพร้อมๆ กับละครปิดกล้อง จะได้ถือเอาละครเรื่องนี้เป็นการโฆษณารีสอร์ทไปในตัวด้วย
โมกข์ตาวาว ดูเหมือนว่าจะเป็นความโชคดีของเขา แม่ตัวประกอบจอมหยิ่งเดินออกจากห้องแต่งตัวพอดี มือใหญ่ยกขึ้นลูบปลายคาง
ขนิษฐาหยุดชะงัก เมื่อเห็นชายหนุ่มร่างใหญ่ที่ยืนจ้องเธออยู่แล้วก็ให้เบะหน้า นี่ถ้าไม่ใช่เพราะต้องการเงินละก็ เธอไม่ยอมมาร่วมงานกับผู้ชายเจ้าชู้คนนี้เด็ดขาด คิดแล้วก็เซ็ง ทำไมแม่ถึงไม่ยอมฟังกันบ้าง เล่นแต่ไพ่กับหวยจนเป็นหนี้เป็นสิน แล้วใครล่ะที่ต้องหาเงินมาใช้หนี้ถ้าไม่ใช่เธอ เฮ้อ...หญิงสาวหายใจออกอย่างหนักอก ก่อนจะยกไหล่ขึ้นแล้วรีบเดินหนีชายหนุ่มที่ไม่ชอบหน้าทันที
อย่างรวดเร็วและไม่ทันตั้งตัว มือใหญ่คว้าแขนเรียวของคนที่กำลังจะเดินผ่านหน้าเขาไป “จะรีบไปไหนล่ะแม่ตัวประกอบ หยิ่งนักไม่ใช่หรือเรา ไม่รู้หรือไงว่าถ้าทำให้ฉันไม่พอใจ เธอจะไม่ได้ทั้งงานและเงินน่ะแม่จอมหยิ่ง” ใบหน้าคมคร้ามถามแนบชิดแก้มนุ่ม จมูกโด่งสูดเอากลิ่นแป้งเด็กและกลิ่นเนื้อนางเข้าปอดเต็มแรง
“ปล่อยฉันนะคุณโมกข์” ขนิษฐาบอกเสียงเข้ม ทั้งไม่พอใจและโกรธเกรี้ยว ใบหน้าขาวสวยแดงจัด ดวงตาเป็นประกายสีแดงอมส้ม พยายามสะบัดหน้าหนีมือใหญ่ที่ยกขึ้นมาหวังแตะต้องผิวเนื้อขาวเนียน มือยกขึ้นแกะมือใหญ่ออกจากแขนอย่างรังเกียจ
ผู้ชายนี่เป็นแบบนี้ด้วยกันทุกคนเลยหรือไง เห็นผู้หญิงเป็นเพียงแค่เครื่องบำบัดความใคร่ พอใจเมื่อไหร่ก็เรียกหา ไม่พอใจเมื่อไหร่ก็ทิ้งขว้าง พ่อเธอก็คนหนึ่งแล้ว มีเมียไปทั่วทุกหัวระแหง ไม่ว่าเดินทางไปทำงานที่ไหนก็ต้องได้เมียกลับมาเสียทุกครั้ง ดวงตากลมโตมองมือที่จับแขนและใบหน้าคมอย่างโกรธเกรี้ยว
“ปล่อยฉัน...” หญิงสาวย้ำอีกครั้ง
แต่มีหรือที่คนอย่างโมกข์จะทำตาม เสียงหัวเราะดังจากลำคอแกร่ง และชายหนุ่มดันร่างบอบบางเข้าไปในห้องแต่งตัวและรีบล็อกห้องอย่างรวดเร็ว
“จะให้ฉันรีบไปปล่อยไปทำไมล่ะแม่ตัวประกอบ ก็เธอเองไม่ใช่หรือที่เรียกให้ฉันมาหาน่ะ”
“ปล่อยฉันนะคุณโมกข์ แล้วฉันไปร้องเรียกให้คุณมาหาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” สองมือเรียวทั้งผลักทั้งดันให้ร่างใหญ่ถอยห่างไป หัวใจเต้นแรงและเร็วเมื่อสบกับสายตาคมวาวของอีกฝ่าย แม้จะไม่กลัวแต่ก็รู้สึกเกรงๆ ในกิตติศัพท์ความร้ายกาจที่ได้ยินมาอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
โมกข์หัวเราะ มือหนึ่งเท้าผนังห้องกันไม่ให้หญิงสาวหลีกหนี อีกมือลากไล้ไปบนใบหน้าขาวเนียน ยิ่งได้เห็นใบหน้าและรูปร่างของหญิงสาวอย่างใกล้ก็ทำเอาเรือนกายเขาถึงกับร้อนด้วยไฟปรารถนา ไม่คิดว่าแม่ตัวประกอบที่เห็นไกลๆ ว่าน่าปรารถนามากแล้ว พอได้เห็นใกล้ๆ ก็ยิ่งสวยงามน่ารักและน่าทะนุถนอมเป็นที่สุด
ใบหน้าคมโน้มลงไปจนปลายจมูกแนบชิดกับใบหน้าเนียน กลิ่นหอมอ่อนๆ ของสบู่ที่หญิงสาวใช้ผสมกับแป้งเด็กอ่อนๆ เข้าไปกระตุ้นเลือดราคะในตัวโมกข์ให้แทบลุกโพลงในบัดเดียวนั้น
“ก็ทำอย่างที่เธอต้องการไงแม่ตัวประกอบ” เขาพูดชิดพวงแก้มสีแดง
“ทำอะไร” หญิงสาวถามเสียงหลง เบือนหน้าหนีจมูกโด่งที่กดลงมาหาแก้มนุ่ม หัวใจเต้นแรงและเร็วเหมือนกับกำลังจะทะลุออกจากอก
“ถ้าคุณอยากได้ผู้หญิงสักคนก็ไปหาเอาข้างนอกซิ อย่ามายุ่งกับฉัน ฉันไม่ชอบ” หญิงสาวบอกเสียงครัดเครียด พยายามเบือนหน้าหนีจมูกโด่งๆ ที่กดฝังไปบนแก้มนุ่ม
“แน่ใจหรือแม่ตัวประกอบ ก็ฉันเห็นนี่ว่าเธอกำลังยั่วยวนและเรียกร้องให้ฉันเข้าหา” โมกข์ยังคงเข้าใจว่าความคิดของเขานั้นถูก