ตอนที่ 3
มือใหญ่จับปลายคางมนให้หันมาหา ประทับจุมพิตไปบนเรียวปากนุ่มอิ่มเต็ม เพียงแค่ได้พานพบความหวานหอมปานน้ำผึ้ง ความบริสุทธิ์แรกแย้มราวกับดอกไม้ที่กำลังเริ่มผลิบาน ยังไม่มีภมรตัวใดได้แตะต้อง ทำเอาชายหนุ่มถึงสัญญากับตัวเองว่าจะต้องได้เป็นเจ้าของหญิงสาว ไม่เพียงแค่นั้นเขาต้องได้เธอเป็นคนแรกด้วย
ริมฝีปากหนาบดเบียดเคล้าคลึง มือที่เท้าฝาผนังอยู่เคลื่อนไปโอบรอบลำตัวบอบบาง ดึงรั้งกายอรชรให้แนบชิดกายใหญ่ อีกมือเคลื่อนไหวซอกซอนไปตามผิวเนียนนุ่ม เสื้อยืดตัวเล็กที่หญิงสาวสวมใส่อยู่ถูกม้วนขึ้นอย่างช้าๆ
ขนิษฐาตัวสั่นเมื่อถูกจู่โจมอย่างรวดเร็วจากชายหนุ่มผู้ช่ำชอง กายบอบบางสั่นระริก รีบเบือนใบหน้าหนีริมฝีปากหนา แต่ชายหนุ่มก็ยังตามติด และจุมพิตราวกับต้องการเอาลมหายใจของเธอออกจากร่าง มือเรียวเย็นเฉียบจากที่ยกขึ้นดันให้ร่างใหญ่ถอยห่างกลับต้องหยุดชะงัก คำพูดที่กำลังจะเอ่ยหายไปกับสัมผัสร้อนๆ ที่ลามเลียอยู่ทั่วร่าง และมันดึงเอาสติออกไปจากตัวเธอเสียจนหมดสิ้น
มือใหญ่เคลื่อนเข้าครอบครองปทุมงามเต่งตึง แม้จะปกคลุมด้วยผ้าอีกชั้นก็ต้านทานความร้อนผ่าวจากมือใหญ่ไม่ได้เลย โมกข์กดคลึงด้วยความปรารถนา ปลายยอดทรวงนูนเด่นดุนดันเสื้อชั้นในให้มือใหญ่ได้ครอบครองและได้สัมผัสอย่างถนัดถนี่
ปากหนาเคล้าคลึงดูดกลืนความหวาน ปลายลิ้นสากร้อนล่วงล้ำเข้าไปในปากเล็ก ที่อ้าออกเพื่อสูบเอาลมหายใจเข้าปอด ปลายลิ้นสากแตะแต้มไปตามไรฟัน กระพุ้งแก้ม ก่อนจะได้พบกับลิ้นเล็กๆ ที่พยายามผลักดันลิ้นหนาร้อนที่ล่วงล้ำเข้าไปในปากออกอีกครั้ง แต่กลับกลายเป็นการยั่วยุให้ริมฝีปากหนาอุ่นร้อนกดซับลงไปอย่างหนักหน่วงและรุนแรงยิ่งขึ้น
ลิ้นสากร้อนแต่งแต้มไปทั่วปากเล็ก เกี่ยวกระหวัดเข้ากับปลายลิ้นเล็ก ริมฝีปากหนาร้อนกดคลึงดูดกลืนความหอมหวานราวกับน้ำผึ้ง ก่อนที่จะถอนจุมพิตออกและมองหน้าหญิงสาวที่แดงปลั่งอย่างพออกพอใจกับความหวานหอมที่ไม่เคยมีริ้นไรไต่ตอม ดวงตาคมหวานมองเหมือนต้องการสะกดจิตให้หญิงสาวหลงใหล มือใหญ่เคลื่อนไปด้านหลังปลดตะขอชั้นในปลดปล่อยทรวงอกเต่งตึงให้เป็นอิสระ
ขนิษฐามองตามสายตาคมที่ไล่มองเธอเรื่อยลงมา จนได้เห็นว่าชายหนุ่มกำลังทำอะไรกับเรือนกาย ริมฝีปากเล็กอ้าออกสลับกับขบเม้มกลืนน้ำลายลงคอ ใบหน้าขาวสวยแดงระเรื่อ ดวงตากลมโตเป็นประกายระยิบระยับเหมือนดาวบนท้องฟ้า
มือใหญ่ฟอนเฟ้นเนินทรวงอวบอิ่มเต่งตึง ปลายนิ้วไล้วนรอบๆ ผลทับทิมสีสวย และอย่างรวดเร็วใบหน้าคมเคลื่อนเข้าหา ริมฝีปากอุ่นร้อนขบเม้มปลายยอดถันสีสวยดึงแล้วปล่อย ก่อนที่จะให้ลิ้นสากร้อนไล้วนรอบๆ ฟันขาวสะอาดขบกัดทับทิมผลนุ่มจนมันเกือบจะปริแตก
แม้จะพยายามบอกกับใจให้ต่อต้าน อย่ายอมให้ชายหนุ่มทำอะไรตามความต้องการ แต่กายกลับไม่ยอมฟังคำสั่ง เอนเอียงเข้าหาความอบอุ่นที่ไม่เคยได้รับมาก่อน
“คะ...คุณ...” ขนิษฐาตัวอ่อนระทวย ใบหน้าแดงระเรื่อ ลมหายใจหอบกระเส่า สองมือกำเสื้อชายหนุ่มไว้มั่น เอนกายเข้าหาร่างใหญ่ให้แนบชิดกับเรือนกายนุ่มมากยิ่งขึ้น กายบอบบางสั่นเทา ปวดร้าวและปั่นป่วน คลื่นความร้อนถาโถมเข้าหาจนรู้สึกว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่มันรัดรึงทำให้หายใจไม่ออก
ใบหน้าคมยังคงซบซุกกับทรวงสล้าง ปากและลิ้นสากร้อนกลืนกินทับทิมผลหวานเชื่อม มือใหญ่เคลื่อนลงไปตามท้องน้อยเนียนนุ่มไล้วนแผ่วเบา จนเมื่อได้พบกับขอบกางเกงหนาที่หญิงสาวสวมใส่อยู่ ชายหนุ่มก็ไม่รอช้ารีบกำจัดมันทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
ดวงตาคมถึงกับเบิกกว้างเมื่อได้เห็นความสวยงามของหญิงสาว เรือนกายขาวเหมือนกับไข่มุก เนียนนุ่มเหมือนกับแก้มก้นเด็กทารก แล้วเขาก็ได้ลองลิ้มแล้วว่าทั้งหวานและหอมเพียงใด
กายใหญ่เคลื่อนตัวลงไปด้านล่างอย่างเชื่องช้า ใบหน้าคมเงยขึ้นมองและยิ้มให้กับหญิงสาวที่ยืนตัวแดงเหมือนกับกุ้งต้ม มือใหญ่ลากไล้ไปตามลำขาเสลา บีบนวดต้นขาด้านใน สลับกับขยำนวดสะโพกงามงอนเต่งตึง และมันก็ตอบรับสัมผัสจนโมกข์น้อยปวดร้าว อยากจะออกมาเผชิญโลกภายนอกในเร็วไว
ใบหน้าคมซบซุกระหว่างหน้าท้องเนียนนุ่ม มือค่อยๆ ยกลำขาเสลาแยกออกจากกัน ให้ขาข้างหนึ่งพาดไว้บนบ่ากว้าง ลมหายใจหอบแรงเมื่อได้เห็นความสวยสดและงดงาม แม้ว่ามันจะยังซ่อนอยู่ภายในชั้นในสีหวาน แต่บางเบาพอให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใน
“สวย...สวยงามมาก...” โมกข์เอ่ยชม ใบหน้าคมโน้มลงไปให้จมูกได้สูดกลิ่นเนื้อสาวที่กระตุ้นอารมณ์กฤษณาในกายให้ลุกโชติช่วง ชายหนุ่มส่งปลายลิ้นสากร้อนแตะแต้มกลีบกายอันอ่อนไหวแผ่วเบา สองมือขยำนวดต้นขางามเนียนสลับกับสะโพกงามงอน
ขนิษฐาเข่าอ่อนส่งเสียงร้องผะแผ่วในลำคอ ความรู้สึกแปลกๆ เอ่อล้นจากกึ่งกลางและแผ่ซ่านไปรอบเรือนกายอย่างรวดเร็ว มือเรียววางอยู่บนศีรษะทุยได้รูป ปลายนิ้วซอกซอนไปในเส้นผมหนานุ่ม ท้องน้อยบีบตัวเป็นระลอกคลื่นตามแรงโจมตีของชายหนุ่ม
ลิ้นร้อนๆ ลากไล้ ฟันสีขาวขบกัดกดคลึงเกสรบุปผาบอบบางและอ่อนเยาว์ที่ซุกซ่อนอยู่ในชั้นในสีหวานแรงขึ้นจนชั้นในเปียกชื้น
“คะ...คุณ...คุณโมกข์...” ขนิษฐาร้องเรียกเสียงแหบพร่า เมื่อความร้อนผ่าวราวกับไฟร้อนโอบล้อมเรือนกาย กายบอบบางเอนอิงผนังห้อง “ปะ...ปล่อยกวางนะ...”
เสียงร้องหวานเชื่อมกระตุ้นไฟปรารถนาในกายหนุ่มให้ร้อนฉ่า ลิ้นสากร้อนตวัดลากไล้สอดแทรกระหว่างสองกลีบกุหลาบนุ่ม ทั้งๆ ที่ยังมีผ้าเนื้อบางขวางกั้นอยู่ ความหวานหอมที่ได้รับทำให้ชายหนุ่มปวดร้าว อาวุธร้ายดุนดันกางเกงยีนเพื่อออกมาดูโลกภายนอก ลิ้นสากร้อนฟอนเฟ้นเกสรนุ่มรัวเร็วจนชั้นในสีหวานเปียกชื้นแนบชิดกลีบบุปผางาม มือใหญ่เกลี่ยให้ขอบกางเกงเคลื่อนไปอีกด้าน เพื่อที่จะได้ชิมรสหวานนุ่มของกายสาวอย่างถนัดถนี่
“คะ...คุณ...โมกข์...”
โมกข์ตอบรับเสียงเรียกหวานแหบพร่า ด้วยการส่งลิ้นล่วงล้ำเข้าไปในกลีบกุหลาบนุ่ม ได้พบกับความคับแน่นที่หวานจนกายแกร่งปวดร้าวด้วยความปรารถนา ลิ้นสากร้อนตวัดรัวเร็วถี่ยิบ แล้วเหมือนกับว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นไม่พอให้ได้รู้จักหญิงสาวอย่างลึกซึ้ง ชายหนุ่มเกลี่ยเส้นทางคับแน่นด้วยการส่งปลายนิ้วเข้าไปสมทบกับลิ้นที่เคลื่อนไหวเป็นระวิง
ขนิษฐาร้องครางเสียงดังลั่น ลมหายใจหอบแรง ใบหน้าส่ายไปมาจนเส้นผมหลุดจากมวยที่เก็บมัดไว้ มันทั้งเจ็บปวดและสุขสมปะปนกันไปจนทำอะไรไม่ถูก กายเบาหวิวเหมือนกำลังล่องลอยอยู่บนปุยนุ่น ท้องน้อยบีบรัดรอบความร้อนผ่าว น้ำค้างฉ่ำหวานค่อยๆ เอ่อซึมออกมาให้โมกข์ได้กลืนกิน
ร่างใหญ่เคลื่อนกายขึ้นเพื่อมอบความหวานให้หญิงสาวได้ลิ้มลอง มือใหญ่ข้างหนึ่งลากไล้ฟอนเฟ้นกายบอบบาง อีกข้างเคลื่อนเข้าหาเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ แต่ในขณะที่ชายหนุ่มกับจะปลดตะขอกางเกงอยู่นั่นเอง ฉับพลันหูได้ยินเสียงเหมือนใครกำลังร้องเพลงตรงมาทางห้องที่เขาอยู่ โมกข์รีบถอยห่างจากร่างบอบบางทั้งที่กายปวดร้าวแสนสุดจะทน
“รีบใส่เสือผ้าเสียแม่ตัวประกอบ”
ขนิษฐาเองก็ได้ยินเสียงเหมือนกัน รีบทำตามคำสั่งชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว อายก็อาย โกรธก็โกรธ แต่ที่โกรธมากคือตัวเองทำไมถึงไม่ยอมต่อสู้ ปล่อยให้โมกข์ล่วงเกินจนเกือบเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหน นี่ถ้าไม่ได้ยินเสียงเธอไม่นอนราบกับพื้น แล้วส่งตัวเองให้ชายหนุ่มครอบครองหรือไง ยิ่งคิดก็ยิ่งอายและโกรธตัวเองเป็นยิ่งนัก น้ำตาอุ่นร้อนเอ่อล้นคลอเบ้า ดวงตากลมโตมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความโกรธแค้นและชิงชัง