“องค์ชายทรงเป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะ”
สองฝาแฝดเอ่ยถามทันทีห่างออกมาไกล ข้าหันมามองอย่างหนักใจเพราะเรื่องนี้เหล่าองครักษ์ข้าไม่เคยรู้ ความร้อนทั่วทั้งกายจนทำให้ข้าดึงพลังลมปราณที่มีมาต่อต้าน
“ข้าไม่เป็นไร พวกเจ้าไม่ต้องตามข้ามา หากมีคนตามข้ามาบอกว่าข้าพักผ่อนมิต้องการให้ผู้ใดรบกวน”
ข้าบอกพร้อมพุ่งทะยานออกจากจุดปลอดภัยออกไปนอกวังหลวงทันที ความเร็วของข้าตอนนี้สองคนนั่นไม่มีตามทันแน่นอน และข้าก็วางใจว่าวันนี้ไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นที่ท้องพระโรงแน่นอน
“หยุดเดี๋ยวนี้นะเฟยหลง หากเจ้าต้านกำลังข้าเพื่อออกจากผนึกให้ได้ข้าคงได้ตายอีกรอบแน่”
ข้าบอกเสียงหงุดหงิดเพราะกำลังภายในที่มีดึงออกมาต่อต้านแหวนในมือที่พยายามดิ้นรนออกจากผนึกและนั่นทำให้มันสงบลงไปได้
แม้ข้าจะมีพลังวัตรและลมปราณที่แข็งแกร่งอย่างไร แต่ถึงอย่างไรตอนนี้ข้าคือมนุษย์จะมีปัญญาไปต้านพลังอำนาจมังกรดำที่บำเพ็ญเพียรมายาวนานได้อย่างไร หากเป็นเทพหลิ่งเหวินก็ว่าไปอย่าง
ข้ามาหยุดยอดเขาที่ห่างไกลจากวังหลวงเกือบ 500 ลี้ ทำไมข้าออกมาไกลขนาดนี้นะเหรอ หากข้าปลดผนึกมังกรดำได้แล้วออกมาตัวใหญ่เหมือนในฝัน ชาวเมืองได้แตกตื่นกันพอดี
ข้ามองไปแหวนแล้วถอนหายยาว ตอนนี้ข้าทำใจเล่นกู่เจิงนั้นไม่ได้เลย แม้จะรู้ว่ามันสามารถปลดผนึกเฟยหลงให้ออกมาได้แต่การตายเพราะกู่เจิงมันก็ทำให้ทำใจยากเหมือนกันที่จะต้องบรรเลงเพลงนั้นอีกครั้ง
“เฟยหลงข้าอ่อนแอกว่าเจ้ามากนัก เจ้ายังอยากอยู่เคียงข้าอีกอย่างนั้นเหรอ”
ข้านั่งลงบนโขดหินใหญ่เอ่ยถามแหวนในมือซึ่งมันก็ร้อนวูบเหมือนตอบคำถามข้า ข้าเงยหน้ามองท้องฟ้า คิดถึงความฝันในอดีตที่ผ่านมา
“ตอนนี้ข้าเป็นเพียงมนุษย์เดินดินธรรมดา ที่ไม่มีอำนาจใดช่วยเหลือเจ้าได้อีกแล้ว ข้าเพียงสามารถปลดผนึกเจ้าได้เท่านั้นเอง”
ข้ากล่าวออกมาเบาๆ เหมือนรำพึงกับตัวเองเสียมากกว่า แต่แหวนในมือยังคงอุ่นวาบแม้จะไม่ได้ยินเสียงแต่ข้ากลับเข้าใจความหมายนั้นดี ข้านั่งทำใจที่จะปลดผนึกอยู่นานจนตอนนี้ยามจื่อดวงจันทร์ทอแสงอยู่กลางศีรษะ
ข้าก้มมองแหวนอีกครั้งอย่างตัดสินใจคงจะไม่ตายอีกครั้งหรอกนะ ข้าคิดอย่างตัดสินใจหลับตาลงนึกถึงกู่เจิงสีทองอร่ามงามตาที่ข้าเคยเป็นเจ้าของและทำให้ข้าต้องตาย เพียงไม่นานกู่เจิงสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าอย่างมหัศจรรย์
ข้าลืมตาขั้นเมื่อสัมผัสถึงสิ่งที่เรียกหากู่เจิงอันเดิมแบบเดิมที่เคยเป็นของข้า ข้าลูบไล้อย่างแผ่วเบา ทั้งๆที่ข้ารู้สึกหวาดกลัวแต่ทำไมน้ำตาไหลออกมาด้วยความรู้สึกโหยหาเยี่ยงนี้ น้ำตาข้าไหลออกมาอย่างมิอาจห้ามได้ นิ้วเรียวเริ่มบรรเลงเพลงที่คุ้นเคยมายาวนาน
เสียงใสกังวานดังทั่วแผ่นดินเหมือนประกาศศักดิ์ดาว่าได้มียอดฝีมือก่อเกิดขึ้นมาแล้ว ทว่าเสียงเพลงกลับทำให้คนเพ้อฝันอย่างมีความสุข
ความยินดีปรีดาพร้อมน้ำตาไหลรินของคนที่ได้ยินได้ฟัง แม้กระทั่งในวังหลวงที่พากันเงียบงันฟังเพลงสวรรค์ที่ถูกส่งมาแต่ไม่อาจรู้ได้ว่ามาจากที่ใด
องค์ชายสามเฟยหยางก็คือหนึ่งในนั้นที่หยุดชะงักอยู่หน้าตำหนักของน้องชาย หลังจากองครักษ์บอกว่าองค์ชายหลิ่งเหวินอยากพักผ่อนไม่ต้องการให้ผู้ใดพบ จึงกำลังกลับตำหนัก
ทว่าเสียงเพลงสวรรค์ที่ดังมาทำให้หัวใจอิ่มเอม ความสุข ความหวังในหัวใจก่อเกิด สายตาเหม่อมองท้องฟ้า ในใจคิดว่าผู้ใดกันบรรเลงเพลงได้ไพเราะมากมายถึงเพียงนี้
เหล่าพรรคธรรมะและพรรคอธรรมเริ่มมีการเคลื่อนไหว เสียงเพลงใสกังวานไพเราะนั้นทำให้พวกเขาตื่นตระหนกว่าผู้ใดกันถึงมีพลังยุทธ์แกร่งกล้า จนสามารถบรรเลงเพลงสวรรค์ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนและไม่สามารถรับรู้ได้ว่ามาจากที่ใด ครานี้ยุทธภพคงจะปั่นป่วนค้นหาตัวผู้บรรเลงเพลงสวรรค์กันแน่
ผู้ที่ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังทำให้ยุทธภพปั่นป่วนนั้นยังบรรเลงเพลงด้วยรอยยิ้มทั้งน้ำตา มันไม่ใช่ความเศร้าใจก่อนจากลาแต่นี่คือเพลงแห่งการเริ่มต้น
แหวนในนิ้วเริ่มเปล่งประกายก่อนจะสลายหายไปปรากฏเป็นมังกรดำตัวใหญ่ ล่องลอยอยู่ท้องฟ้าและร้องคำรามอย่างประกาศศักดิ์ดาพร้อมกับเสียงเพลงที่เริ่มรัวเร็วขึ้นตามจังหวะและจบลงด้วยความอ่อนโยน
มังกรดำเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ก้าวเข้ามาหาสหายช้าๆ ดวงตาคมจับจ้องสหายไม่วางสายตา บัดนี้สหายกลับเป็นเพียงมนุษย์เดินดินธรรมดา ทว่าความสง่างามนั้นกลับไม่เคยแปรเปลี่ยน แต่บัดนี้มันรู้ว่าต่อไปนี้จะไม่ใช่แค่สหายของหลิ่งเหวินอีกต่อไป
แต่มันจะเป็นอาวุธทุกอย่างที่สหายต้องการ จะเป็นคมดาบตายแทนสหาย ที่ครั้งหนึ่งต้องมาตายเพราะมัน
เฟยหลงมาหยุดอยู่ตรงหน้าพร้อมคุกเข่าก้มลงกราบอย่างนอบน้อมมันเป็นหนี้ชีวิตหลิ่งเหวินจนชาตินี้ทั้งชาติก็มิอาจทดแทนคุณและชดใช้สิ่งที่สหายสูญเสียไปจนสิ้นไม่ได้
ข้ามองภาพเบื้องหน้าด้วยความเงียบงัน ความรู้สึกทุกอย่างของเฟยหลงส่งผ่านเข้ามาในดวงจิต ข้าหลับตาลงเพื่อรับรู้ความรู้สึกเหล่านั้นอดีตปัจจุบันจนบัดนี้เฟยหลงยังคงเป็นสหายเฉกเช่นเดิมแม้จะรู้ว่าบัดนี้มังกรดำตรงหน้าจะมิใช่เป็นแค่มังกรอีกต่อไป
แต่จะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าอยากให้เป็นเพื่อช่วยเหลือข้าตามบัญชาของเจ้าแม่หนี่วา ข้ารับรู้ว่าเฟยหลงถูกลงทัณฑ์ให้อยู่ในที่ไม่อาจเห็นเดือนเห็นตะวันอยู่แต่ความมืดมิดและไฟนรกแผดเผาใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมาน แต่กลับทำคุณงามความดีเพื่อแก้ตัวและยังบำเพ็ญเพียรเพื่อรอคอยข้า