บทที่ 4 ยิง

1389 Words
บทที่ 4 ยิง  หลังจากกินขนมและไอติมกันเสร็จ พวกเราต่างคนต่างแยกย้ายกันไปเรียน จนถึงคาบสุดท้าย ไม่นานก็เลิกเรียน “ พวกแก ฉันกลับก่อนนะ ลุงสอนมารับแล้ว ” มีนพูดขึ้นพร้อมยกมือขึ้นส่ายไปมาและเดินจากไป “ งั้นฉันไปก่อนนะ แล้วเจอกันวันจันทร์ ” ฉันหันไปบอกอิ่มกับนี พลางส่งยิ้มให้เพื่อนๆ แต่ก็ยังไม่เดินไปไหนเพราะยังไม่เห็นรถของที่บ้านมาเลย “ ยัยคุณหนูจะไม่เปลี่ยนใจแน่นะ ไปเที่ยวกับพวกฉันสนุกออก ดีกว่าอยู่บ้านหลายเท่าเลยนะ ” นีพูดขึ้น “ ใช่ๆ ไปเที่ยวกับพวกเรานะ ” อิ่มพูดเสริม “ ไม่เปลี่ยนใจหรอกและอีกอย่างก็ยังไม่ขอแม่ด้วย ไม่กล้าตอบตกลงหรอก ” “ อืมๆ งั้นเจอกันวันจันทร์ล่ะกัน ” แล้วนีก็เดินไปขึ้นแท็กซี่เพื่อกลับบ้าน “ ไอซ์แล้วแกจะกลับไง ” อิ่มถามขึ้น “ วันนี้คุณพ่อมารับนะ แล้วอิ่มอะกลับกับใครเหรอ? ” “ กลับกับแฟนนะ อิอิ โน่นๆพี่ซีมาแล้ว ” นิ้วของอิ่มชี้ไปยังรถกะบะสี่ประตูสีขาวที่ชะลอจอดที่หน้าฟุตบาธ “ อ๋อ กลับดีๆนะ ” ฉันยิ้มแล้วยกมือขึ้นส่ายไปมาให้เพื่อน “ ไปด้วยกันไหม ฉันไม่อยากทิ้งแกให้ยืนคนเดียวเลย ” อิ่มพูด “ ไม่เป็นไรหรอก อิ่มไปเถอะ อีกสักพักคุณพ่อคงมารับแล้ว ” รถกะบะคันนั้นจอดแน่นิ่ง คนในรถก็ไม่ลงมา น่าจะนั่งรอบนรถเลย “ งั้นเดียวฉันไปบอกพี่ซี ให้รอเป็นเพื่อนแกดีกว่า จนกว่าพ่อแกจะมา แล้วพวกเราค่อยไป ” อิ่มพูดอย่างห่วงใย ฉันไม่ทันได้เอ่ยห้าม อิ่มเดินตรงไปยังรถกะบะสี่ประตู แต่อิ่มเดินไปที่ประตูข้างหลัง ก็งงนะ ทำไมพี่ซีไม่ได้นั่งข้างหน้า หรือว่าในรถจะมีคนอื่นด้วย ไม่ทันจะได้สงสัยนาน กระจกข้างหน้าก็ค่อยๆลดลงมา จนทำให้เห็นคนที่นั่งอยู่ที่พวงมาลัยคนขับ... พี่กายนี่เอง ฉันมองพี่เขาเพียงเศษเสี้ยววินาที แล้วรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นทันที “ รอแฟนเหรอวะ ” เสียงนี้ตะโกนดังมาทางฉันทันที “ เปล่าค่ะ รอพ่อ ” หันไปตอบเขาทันที สักพักอิ่มก็เดินตรงมาหาฉัน “ พี่ซีว่าโอเค ” อิ่มพูด “ พี่กายไม่ว่าเหรอ? ” ฉันกระซิบอิ่มเบาๆ ดดูก็รู้ว่าเป็นรถของใคร “ ไม่ว่า พี่เขานั่นแหละอนุญาต ” “ แน่ใจนะ พ่อฉันไม่รู้ว่าอีกนานไหมกว่าจะถึง ดีไม่ดีพี่กายอาจจะโมโหแล้วมาปาดคอฉัน ทำไงอะ ” “ เวอร์แล้วแกอะ ” อิ่มต่อว่าฉันเล็กน้อย ก็มีคนบอกพวกนี้โหด เป็นนักเลงคุมถิ่นด้วยตอนแรกไม่ค่อยจะกลัวตอนไปซื้อไอติมนะ แต่ตอนเข้าห้องบังเอิญได้ยินเพื่อนๆในห้องพูดกันว่าพวกพี่กายไปกระทืบพี่ปีสี่ด้วยเรื่องมองหน้ากัน ฉันก็เลยนึกกลัวขึ้นมาทันที แค่นั้นไม่พอยังมีรูปเป็นหลักฐานด้วย รูปใบหน้าพี่ปีสี่ที่นองไปด้วยเลือด นึกแล้วยังสยองไม่หาย รูปพวกนี้ไม่แน่ใจว่าหลุดมาได้ไงเหมือนกัน ครึ่งชั่วโมงผ่านไป... อย่าว่าแต่คนอื่นร้อนใจ ฉันนี่ร้อนกว่าใคร เพราะกลัวพี่กายจะไม่สบอารมณ์ อิ่มก็ยืนคุยกับพี่ซีใกล้รถ “ อีกนานไหมวะ กว่าพ่อมึงจะมาอะ ” ในที่สุดพี่กายเขาก็ตะโกนถามทันทีด้วยน้ำเสียงเริ่มจะห้วนแล้ว “ เอ่อ...ไอซ์ก็ไม่แน่ใจค่ะ ” “ โธ่ ยัยบื่อ ก็โทรถามสิวะ มันจะยากอะไร ให้ไวเลย ถามดูซิพ่อมึงจะมายัง ” ฉันได้แต่อ้าปากพะงาบๆ อยากจะบอกให้เขาหยุดพูดแบบนั้นสักที มันหยาบคายเกินไปแล้วนะ ตอนนี้เพื่อนทั้งโรงเรียนกลับหมดล่ะ ลุงภารโรงมาปิดประตูโรงเรียนแล้วด้วย ฉันก็รีบทำตามโดยการหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเพื่อที่จะได้กดโทรหาคนเป็นพ่อ...แต่... ปัง ปัง ปัง “ ว้ายยย ” ฉันรีบนั่งลงแล้วเอามือปิดหูทันที ทั้งตกใจและตะลึงงัน “ ไอ้พวกเชี่- แม่งลอบกัดวะ ” ได้ยินแค่เสียงพี่กายตะโกนด่าทอพวกไหนไม่รู้ ฉันเงยหน้ามองไปยังพวกพี่กาย พี่เขาเปิดประตูรถลงมาทันที “ ลุกขึ้นดิวะ มัวแต่นั่งทำซากอะไรอยู่ อยากโดนยิงตายหรือไง ” ฉันหน้ามองพี่กายที่ตอนนี้เริ่มจะไม่สบอารมณ์แล้ว “ จะจ้องกูอีกนานไหมวะ โน่นพวกมันมากันเยอะล่ะ ” พี่กายพูดต่อ ฉันก็คงนั่งนิ่งๆเอามือปิดหูอยู่ แต่ก็โดนกระชากโดยพี่กาย ลากไปยังรถของตัวเอง ทุกคนก็เข้าไปนั่งเรียบร้อยแล้ว บรืนนนนน พี่กายออกรถอย่างเร็ว แต่ฉันควรจะโฟกัสอะไรก่อนดี ตอนนี้ฉันได้นั่งตักพี่เขาด้วย ฉันควรเขินไหม ควรจะทำไงดี เพิ่งครั้งแรกที่นั่งบนตักผู้ชายอะ บนรถ มีพี่ทิวนั่งข้างพี่กายที่ตอนนี้เอาหัวออกนอกรถยิงสวนคู่อริไป ส่วนยัยอิ่มก็นั่งตรงกลางระหว่างพี่ซีกับพี่บิล พี่บิลที่นั่งติดกระจกรถตอนนี้ก็เอาปืนออกไปนอกรถ ยิงสวนไปด้วย ต้องร้าย ต้องเถื่อน ต้องโหดขนาดไหน ที่มีคู่อริมาไล่ยิงขนาดนี้ คิดแล้วก็ขนลุกซู่ กลัวมากๆ ตัวเลยสั่นๆ เพราะในชีวิตไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ไม่เคยต้องถูกใครมาตามยิงแบบนี้เลย “ มึงเป็นไรวะ ทำไมตัวสั่นขนาดนี้ ” พี่กายขับรถแล้วพูดขึ้น ฉันนั้นได้นั่งตรงหว่างขาของพี่เขาทั้งสองข้าง ได้แต่ภาวนาในใจให้ปลอดภัย “ อะ...ไอซ์กลัวค่ะ ” น้ำเสียงก็สั่นไปด้วย “ มากับกู มึงไม่ต้องกลัวไปหรอก ” ฟังแล้วบางคนอาจจะรู้สึกดีว่าเขาสามารถปกป้องเราได้ แต่ภายในใจก็ยังกังวลอยู่ดี ครืดดด ครืดดด “ โทรศัพท์มือถือมึงสั่นอยู่นะ ไม่รู้สึกเหรอวะ ” เวลาที่พี่เขาพูดเหมือนจะกระซิบที่ข้างหูตลอด ก็แหง่ล่ะ ฉันนั่งตรงกลางหว่างขาหนิ มือทั้งสองของเขาจับพวงมาลัย เท่ากับว่าโอบกอดฉันไปด้วยนั่นแหละ ฉันก็รีบล้วงโทรศัพท์ออกมาทันที เมื่อเห็นว่าใครโทรมา ก็กดรับสายทันที ( ฉัน : ค่ะคุณแม่ ) ( แม่ : อยู่ไหน ตอนนี้แม่รออยู่หน้าโรงเรียนแล้วนะ หรือลูกยังอยู่ในโรงเรียน ) ( ฉัน : เอ่อ...หนูอยู่...) พยายามมองหน้าป้ายที่เขียนบอกสถานที่ แต่ก็หาไม่เจอสักที “ ถนนสายXX ” จู่ๆพี่กายก็พูดขึ้น ( แม่ : อยู่กับผู้ชายเหรอ? นี่อย่าบอกนะว่าแอบมีแฟน แม่บอกแล้วไง ไม่ให้รีบมีอะ ) ( ฉัน : เอ่อ...เปล่านะคะ ไม่ใช่แฟนค่ะ พี่เขาเป็นรุ่นพี่หนูค่ะ ) ( แม่ : ไม่ใช่แฟน ทำไมถึงไปด้วยกัน อยู่ด้วยกัน บอกแม่ว่ามาแกอยู่ตรงไหน แม่จะไปรับ ) น้ำเสียงที่แม่เปล่งออกมาดูก็รู้ว่าเริ่มโมโหแล้ว ซวยแล้วไง....พี่กายนะพี่กาย นึกจะพูดก็พูด ปกติเงียบอย่างกับป่าช้า ( ฉัน : เอ่อ...คุณแม่คะ ฟังหนูก่อน เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนที่ไอซ์ยืนรอรถคุณพ่อ จู่ๆก็มีนักเลงที่ไหนไม่รู้มาถึงก็กระหน่ำยิงใส่ รุ่นพี่เลยช่วยหนูกับยัยอิ่มมาค่ะ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ อีกสักพักหนูคงถึงบ้านแล้ว เอาไว้จะเล่าให้ฟังะคะ ) ( แม่ : ห้ะ โดนยิงเหรอ ลูกเป็นไงบ้าง บาดเจ็บตรงไหนไหม ใครนะที่มันบังอาจมายิงลูกสาวแม่ ) ( ฉัน : เอ่อ.... ตู๊ดดดๆ ) จู่ๆสายก็ตัดไป ยังไม่ทันได้พูดอะไรมาก สรุปแบตหมด เฮ้อ คุณแม่คงต้องดุอีกแน่ๆ เพราะยังคุยไม่เสร็จ ไม่กระจ่างเลย ?____________? นามปากกาByMinne
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD