บทที่ 3 ยั-ห่า

1473 Words
บทที่ 3 ยั-ห่า ปึก... ไม่ทันระวัง จู่ๆก็เดินชนใครไม่รู้ ดีนะที่ไม่แรงมาก เมื่อกี้ตอนที่กำลังก้าวขาออกจากโรงอาหารของโรงเรียน ก็เผลอหันกลับไปมองโต๊ะพี่ดิว เจอสายตาพี่ก็อตเข้า...ไปไม่เป็นเลย ทำให้ไม่ระวัง “ อุ้ย! ขอโทษค่ะ ” พูดออกไป พร้อมเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าทันที “ พะ....พี่กาย แกทำไมไม่เดินให้ดีๆล่ะยัยคุณหนู ” นีพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูตกใจ ตื่นกลัวแปลกๆ คนตรงหน้าทำให้ฉันมองแบบไม่กระปริบตา เขาสูง จมูกโด่งเป็นสัน ใบหน้าขาว รวมๆแล้วหล่อ ใบหน้าฉันอยู่แค่อกแกร่งเขาเอง เพราะเขาคนนี้ตัวสูงมาก “ ซะ...ซวยแล้ว ยัยไอซ์ แกจะยืนขวางทางพี่เขาทำไม หลีกทางสิ ” อิ่มพูด ทำให้ฉันถอยหลังจากเขานิดหน่อย แล้วหันไปมองเพื่อนประมาณว่าทำไม! “ มาเร็ว ” นีพูดต่อ พร้อมเดินเข้ามาดึงแขนฉัน ลากให้ไปยืนใกล้พวกนาง ที่ยืนห่างกันราวกับว่าที่ฉันยืนไม่ปลอดภัย “ ใคร? ” มีนถามขึ้น “ พี่กายDX ไงย่ะ ” นีพูด ทำให้สมองของฉันค่อยๆนึกถึงวีรกรรมที่เล่าขานกันมา ทำเอาขนลุกขนพองทันที ปกติได้ยินแต่ชื่อ วันนี้เพิ่งเจอตัว และที่คิดในหัวคือ ไม่คิดว่าจะหล่อขนาดนี้...คิดว่าหน้าตาต้องเถื่อนเหมือนนิสัยแน่ๆ “ อ้าว! ไอ้กาย มัวยืนทำเซ่ออะไรอยู่วะ พวกกูไปจองโต๊ะไว้แล้วนะ ” น่าจะเป็นเพื่อนพี่เขามาตาม ฉันก็ไม่รู้จักหรอกว่าใคร “ ไปกันเถอะ ” มีนพูดขึ้น แต่อิ่มยืนนิ่ง ฉันจับมืออิ่มแล้วดึง นางก็ไม่ยอมมา มัวแต่ยืนยิ้มอยู่ “ อะ...อ้าว น้องอิ่มกินข้าวยังครับ ” แค่นั้นแหละ พอเห็นยัยอิ่ม น้ำเสียงพี่คนนั้นก็เปลี่ยนราวกับคนล่ะคน น้ำเสียงทุ้มนุ่มมาทันที “ กินแล้วค่ะ พี่ซีเพิ่งมาเหรอคะ ” อิ่มพูด อ๋อ คนนี้นี่เองที่ชื่อซี หน้าตาก็ดูหล่อเหมือนกัน สรุปทั้งสถาบันนี้มีแต่คนหน้าตาดีเหรอ? จะว่าไปตั้งแต่มีแฟนก็แทบจะไม่เคยมองผู้ชายคนไหนเลย แต่พอโสดกลับเห็นหน้าผู้ชายหลายๆคนชัดขึ้นและเพิ่งจะรู้ว่ามีแต่คนหล่อๆ “ ครับ ไปนั่งรอพี่ก่อนนะ เดี๋ยวพวกพี่จะไปกินข้าวกันก่อน ไปนั่งกันที่ใต้ต้นไม้ใหญ่โน่น พาเพื่อนไปด้วยก็ได้นะ เดี๋ยวพี่จะเลี้ยงขนม ” “ ค่ะ ” อิ่มตอบรับทันที โดยที่ไม่ได้ถามความคิดเห็นจากพวกเราก่อนเลย แต่เพื่อนๆไม่ได้คัดค้านอะไร พี่เขาทั้งสองคนก็พากันไปกินข้าว แต่พี่คนที่ชื่อกายไม่พูดอะไรสักคำ เหมือนเป็นใบ้เลย ใต้ต้นไม้ใหญ่ “ พี่ซีน่ารักอะ สรุปเป็นแฟนกันแล้วเหรอ? ” นีถามอิ่ม คนที่ถูกถามไม่ตอบ แต่กลับส่งยิ้มหวาน พวกเราก็คุยเมาส์มอยไปสักพักใหญ่ หยอกล้อยัยอิ่มที่นั่งหน้าบานเหมือนจานดาวเทียม “ สาวๆรอนานไหมครับ นี่ขนมพี่ซื้อมาให้ครับ ” พี่ซีเดินไปนั่งข้างยัยอิ่ม ส่วนพี่กายคนที่หน้านิ่งๆมานั่งใกล้ฉัน ฉันก็ขยับตัวเล็กน้อยเพราะรู้สึกเกร็งๆยังไงไม่รู้ “ เฮ้ย!! อะไรวะ ออกไปเลย ไปนั่งตรงโน่น ” จู่ๆมีนก็พูดเสียงดัง ทำเอาฉันตกใจ แต่เพื่อนๆคนอื่นพากันหัวเราะราวกับขบขัน “ 555555+ ” “ ไอ้ทิว มึงอย่าแกล้งน้องมันดิ ” พี่ซีพูด ฉันก็มองตาม และเข้าใจทันที คือพี่คนที่ชื่อทิวไปนั่งเบียดกับมีน “ ไอ้บิลมึงเอาน้ำมาวางตรงนี้เลย ” คนชื่อบิลนั่งลงใกล้นี “ ทำไมมีแต่ขนมห่อ5บาทค่ะ ผงชูรสทั้งนั้นเลยนะ ” นีพูดขึ้น “ ทำไมเหรอหรือว่ามีใครกินไม่ได้ ” พี่ซีพูดขึ้น “ ยัยลูกคุณหนูนะสิ กินไม่ได้ ” นีพูดต่อ พี่ซีทำหน้างง คงสงสัยว่าใครคือยัยลูกคุณหนูที่นีหมายถึงล่ะมั้ง “ ยัยไอซ์กินไม่ได้ค่ะ ” อิ่มพูดแล้วบุ้ยปากมาทางฉัน พี่ซีเหมือนจะยังเคลือบแคลงใจ “ ยัยไอซ์แพ้ของพวกนี้ค่ะ ” อิ่มพูดต่อ “ อ๋อ ” พี่ซีพยักหน้าอย่างเข้าใจทันที “ เหมือนไอ้เชี่-กายแม่งเรื่องมากที่สุด ” พี่ทิวพูดพลางแกะขนมไปด้วย “ กูไม่ได้เรื่องมาก กูแค่แพ้เว่ย ” ในที่สุดพี่เขาก็พูดขึ้นมา ฉันเลยหันไปมองหน้าพี่เขาอย่างครุ่นคิด แพ้เหมือนฉันเลยเหรอ? คิดว่ามีแค่ฉันเพราะหายากนะคนที่จะแพ้ของพวกนี้ “ นั่นแหละ เรื่องมาก ” พี่ทิวพูดต่อ พี่กายไม่ได้ตอบโต้แต่เหมือนจะไม่สนใจมากกว่า ติ๊ง~ จู่ๆเสียงไลน์ฉันก็ดังขึ้น แต่ไม่ถึงกับเสียงดังมากเพราะฉันตั้งเสียงเบา มันดังขึ้นรัวๆ จนฉันต้องหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากกระเป๋าเพื่อดูว่าใครที่ส่งอะไรมาในเวลานี้ [ พี่ก็อต : ทำอะไรอยู่เหรอ ] [ พี่ก็อต : กินขนมไหม ] [ พี่ก็อต : อยากกินอะไรไหม ] [ พี่ก็อต : เดี๋ยวซื้อไปให้ ] [ พี่ก็อต : เดี๋ยวไปหา ] กดเข้าไปอ่าน แต่ไม่ได้ตอบ ไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อน ก็เลยกะจะทำเฉย ก็เลยเงยหน้าขึ้นเพราะเริ่มปวดคอแต่ต้องชะงักเพราะอีตาคนข้างๆชะโงกหน้าเข้ามาอ่านด้วย ฉันเลยรีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าทันที และขยับห่างจากเขาอีก “ ไอ้กายเอาเงินไปซื้อของสิ ” พี่ซีพูดแล้วยื่นเงินมาให้อีกคนที่ใบหน้านิ่งแต่มีความสงสัยอยู่ แต่พี่เขาไม่ได้ถามนะ นั่งนิ่งๆแล้วมองเงิน สุดยอดความนิ่งอะ “ ก็ซื้อขนมไง ขนมที่มึงกับน้องไอซ์กินได้อะ ไปสิ วันนี้กูเปย์เอง จะกินอะไรก็ซื้อเอา ” พี่ซีพูดต่อ “ เออ! ไอ้คนรวย ” พี่กายพูดแล้วรับเงินมาทันที พี่เขาลุกขึ้นยืน “ ลุกดิวะ ” จู่ๆพี่เขาก็พูดเสียงขรึมใส่ฉัน แต่ฉันไม่ได้ถามอะไร พี่เขาน่าจะพาไปซื้อด้วย เพราะไม่รู้ว่าฉันจะกินอะไร และมันก็ดีสำหรับฉันที่จะได้เลือกเองด้วย เราสองคนเดินเข้ามาในโรงอาหารอีกครั้ง พี่เขาหยุดเดินมองซ้ายขวา คงจะคิดว่าอยากกินอะไร ฉันเลยไปยืนใกล้ๆ แล้วมองตาม “ มึงอยากกินอะไร! ” โอ้พระเจ้า...ดูที่เขาพูดกับฉันสิ ฟังไม่ได้เลย “ ทำไมพี่ต้องพูดหยาบด้วยค่ะ ถามดีๆได้ไหม ” ฉันตอบกลับทันที “ แล้วไง กูว่ามึงควรตอบให้ตรงคำถามสิ ” พี่เขายักไหล่ “ อยากกินไอติมค่ะ ” แต่ฉันไม่อยากยืนที่นี่นานๆ ตอนนี้เพื่อนๆที่กินข้าวในโรงอาหารหันมามองฉันกับพี่กายหมดแล้ว ก็เลยรีบตอบไป “ ผู้หญิงก็งี้ ดัดจริตชะมัด อยากกินไอติมๆ กัดสองสามทีก็ทิ้ง เปลืองตังวะ ” อะ...อ้าว บ้าหรือเปล่าเนี่ย!? แต่พี่เขาก็เดินนำไปที่ร้านนะ คิดว่าไม่ให้ซื้อเสียอีก หน้าร้านไอติม?? “ มึงจะรสอะไร ” หันมาถาม “ พูดเพราะๆหน่อยไม่ได้เหรอคะ? ” “ เป็นแฟนกูก่อนดิ แล้วกูจะพูดเพราะๆกับมึง ” อารมณ์ไหนของพี่เขาเนี่ย “ พี่จะจีบไอซ์เหรอ! ” ไม่รู้อะไรที่ทำให้ใจกล้าถามออกไปแบบนั้น “ เปล่า กูไม่ได้จะจีบ กูก็แค่พูดไปงั้น แล้วตกลงมึงจะแดกรสไหนวะ ”ฟังแทบไม่ได้เลย แต่ก็ไม่อยากพูดมาก “ เอารสมะนาว ทุเรียน ช็อกโกแลต ” ฉันพูดจบพี่เขาหันมามองหน้าฉันทันที...ก่อนจะพูดว่า “ นี่เขาเรียกว่ากินไม่ใช่แดกใช่ปะ คนบ้าอะไรตัวเล็ก ยัดห่าไปสามแท่ง ” “ 555+ ” ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องราวน่าขบขันหรือเปล่า แต่ทำให้ฉันอดที่จะหัวเราะกับคำพูดของพี่เขาไม่ได้เลย ครั้งนี้เป็นการหัวเราะให้รอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่โดนหักอก เรื่องราวในชีวิตราวกับว่ามันจะไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเลย แต่วันนี้รู้สึกสบายใจขึ้นมานะ ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะทำตัวแปลกๆ ชื่อเสียงที่พูดต่อๆกันมาน่ากลัว แต่พอเจอตัวจริงและได้สัมผัสก็รู้ว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย ?___________? นามปากกาByMinne
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD