อาฟ้าใส

794 Words
“อยู่บ้านเหรอครับ ว้า หมอต้องทำงานซะด้วย เลยไปส่งผมที่บ้านไม่ได้ เอายังไงดีล่ะทีนี้” คุณหมอพูดไปพลางก็ทำท่าคิดหนัก เล่นเอาตัวป้อมๆ ที่มองมาแต่ช่างไม่เข้าใจว่ากำลังโดนผู้ใหญ่ “แกล้ง” คิดหนักตามไปด้วย ต่างกับคุณอาสาวที่มองเด็กอ้วนปะทะผู้ใหญ่โข่งแล้วเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว “แต่คุณหมอไม่ต้องไปส่งถึงบ้านก็ได้ ผมมากับอาฟ้าใสคับ” เด็กชายพยักพเยิดทำหน้าตาจริงจังบอกเขาไป จากนั้นก็เริ่มกวาดสายตามองหาจนทั่ว แต่ดูเหมือนหลานจะกวาดมองไปแต่ในระยะไกล จึงไม่ทันเห็นว่าเธออยู่ใกล้แค่นี้เอง “อาอยู่นี่ครับ” เสียงนั้นเรียกสายตาเด็กชายให้หันกลับมามอง พร้อมร่างสูงที่หันตามมาด้วยเช่นกัน “อ้าว คุณ…” “เอ๊ะ คุณ…” เสียงของผู้ใหญ่สองคนประสานขึ้นพร้อมกัน ทิ้งให้เด็กตัวกลมมองทางคนนู้นทีคนนี้ทีด้วยความสงสัย ณัฐรดาใช้โอกาสเพียงชั่วครู่ยามเขาเผลอ พิศมองดวงหน้าคมภายใต้กรอบแว่นอีกครั้ง แล้วก็ได้ข้อสรุปกับตัวเองในใจ การใส่แว่นอาจทำให้เจ้าของร่างสูงดูภูมิฐานขึ้นสมกับเป็นคุณหมอตามที่เขาเรียกแทนตัวเองก็จริง แต่ถ้าลองเขาถอดแว่นออกมา… แล้วยังคำอุทานราวกับจำกันได้นั่นอีก ใช่ ไม่ผิดแน่ “นี่คุณเป็นหมอเหรอคะ” หญิงสาวเอ่ยทักพลางขยับเข้ามาเกาะไหล่หลานชายที่พอเจออาได้ก็ดีใจโผเข้าหา ภาคินัยไม่แน่ใจว่านั่นเป็นหนึ่งในประโยคที่คนแปลกหน้าใช้ทักกันเวลาเจอกันอีกครั้งหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ เขารู้สึกแปลกจนบอกไม่ถูก… ก็สายตากึ่งล้อเลียนเจือด้วยรอยยิ้มระยับที่คนตัวเล็กส่งมา มันทำให้เขาอดคิดขึ้นมาไม่ได้ ว่าเธอกำลังเอาหน้าเขาในตอนนี้ไปซ้อนทับกับสภาพดูไม่ได้ในวันนั้นหรือเปล่า “ครับ บังเอิญนะครับที่ได้เจอกันอีก ขอบคุณนะครับ ขนมวันนั้นอร่อยมาก” แต่คนมีประสบการณ์ในการแก้ไขสถานการณ์คับขันเฉพาะหน้ามานักต่อนักก็สามารถตีเสียงเรียบเป็นปกติตอบกลับไปได้เป็นอย่างดี และนั่นก็เรียกประกายตาเป็นรอยยิ้มของคนถูกชมให้ฉายชัดขึ้นมาอย่างไม่ปิดบัง ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวหรอกที่จะทำให้เธอเป็นได้ขนาดนี้ แม้กระทั่งเด็กสามขวบมาชมว่าขนมของเธออร่อย คนทั้งตั้งใจและใส่ใจทำก็อมยิ้มหน้าบานไปถึงไหนต่อไหน “แล้วนี่มาทำอะไรเหรอครับ คุณหรือเจ้าตัวเล็กที่ไม่สบาย” คราวนี้เป็นคุณหมอหนุ่มที่ถามออกมาพร้อมด้วยแววตาเจือด้วยรอยยิ้มบ้าง แต่เธอควรคิดว่านั่นเป็นรอยยิ้มปกติอย่างคนทั่วไปเขายิ้มให้กันไหมนะ เพราะความรู้สึกบางอย่างมันร่ำๆ จะบอกว่าเขากำลังแหย่เธอกับ “ความลับ” ที่เธอเคยหลุดปากบอกไปถึงเรื่องความไม่ชอบหมอกับพยาบาลเอาซะเลยในวันนั้น “เอ่อ นั่นสิคะ เจ้าซาลาเปานี่ต่างหากค่ะ ส่วนฟ้าแข็งแรงจะตาย แต่ถ้าไม่สบายรับรองได้ว่าจะไม่มาหาคุณหมอแน่ๆ “คนตัวเล็กกลั้วหัวเราะเสียงใสตอบคำถาม แม้คำเรียกขาน “คุณหมอ” ในท้ายประโยคเธอจะไม่เจาะจงออกไปว่าคุณหมอที่ว่าเป็นหมอคนไหน จะหมอทั่วๆ ไป หรือ “หมออย่างเขา” แต่ภาคินัยก็จับสังเกตได้ นายแพทย์หนุ่มพยักหน้าเออออตามไป ต่างกับแววตาอมยิ้มที่มองกลับอย่างรู้ทัน “อ้อ ครับ” น้ำทุ้มกลั้วหัวเราะของเขา แม้ชายหนุ่มไม่ได้เจาะจงมองมาอย่างกล่าวหากันจริงจัง แต่เธอแน่ใจว่าเขากำลังคิดแบบนั้น “ถ้าอย่างนั้น ฟ้าขอตัวก่อนนะคะ ใกล้ถึงเวลานัดแล้ว เปปเปอร์ขอบคุณคุณหมอหรือยังครับ” คนโดนจับได้ส่งยิ้มกลับไปพอเป็นพิธี ณัฐรดาก้มลงไปบอกเจ้าตัวเล็กที่พอหาผู้ปกครองเจอได้ก็ตั้งหน้าตั้งตาหยิบขนมของชอบป้อนเข้าปากตัวเองจนมอมแมมไปหมด พอได้ยินคนเป็นอาบอก เด็กน้อยก็ไม่รอช้ารีบทำตามแต่โดยดี “ขอบคุณครับอาหมอ” ไม่พอเด็กยังเพิ่มสรรพนามเรียกแทนคนตัวโตอย่างสนิทสนม เธอไม่รู้ว่าหลานชายใช้ตรรกะอะไรผูกเรื่องโยงราวจนเรียกคุณหมอหนุ่มแบบนี้ แต่ที่แน่ๆ “เด็ก” เป็นต้นเหตุให้ผู้ใหญ่สองคนตกอยู่ในอารมณ์ที่ต่างกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD