ไอรีน : พาร์ท
ฉันนั่งฟังเพลงอยู่หน้าโน๊ตบุ้ครอยัยวามาเกือบสามชั่วโมง จนตอนนี้เเล้วเจ้าตัวยังไม่โผล่มาเลย หายหัวไปทั้งวันเเบบนี้หมายความว่าไงเนี่ย โทรไปก็ไม่รับ เเชทหาก็ไม่ตอบ อย่าบอกนะว่าไปทำงานให้พี่เซนตั้งเเต่เมื่อคืนยังไม่เสร็จอ่ะ
งานอะไรหามรุ่งหามค่ำ..
พี่เซนเป็นรุ่นพี่ที่จบบริหารมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกันกับฉันเเล้วก็ยัยวา เเต่ไม่รู้ว่าทั้งสองคนไปสนิทชิดเชื้อกันตอนไหน รู้อีกทีเพื่อนฉันก็ได้เป็นเลขาส่วนตัวพี่เซนไปเรียบร้อยเเล้ว
เขาเคยมาเยี่ยมที่มหาวิทยาลัยบ่อยๆ มาหาน้องๆ อ่ะ บอกเลยว่าโหดมาก เอกสารงานห้ามผิดพลาดเเม้เเต่นิดเดียว ตอนที่มีใบฝึกงานมาให้เลือกเเล้วมีบริษัทเขาฉันเขี่ยทิ้งใบเเรกเลยอ่ะ
ไม่เสี่ยงตายเเน่นอน
โครก..
"อ่า.. ฉันไม่รอเเกเเล้วนะวา"ฉันบ่นอุบอิบ ก่อนจะพับหน้าจอโน๊ตบุ้คลงเเล้วออกไปหาอะไรกินที่ด้านล่าง ขืนรอไอ้วามีหวังกระเพาะได้ขาดก่อนเเน่อ่ะ พี่เซนคงไม่ปล่อยให้เลขาส่วนตัวหิวหรอกมั้ง เขาไม่น่าจะใจร้ายขนาดนั้นหรอกน่า
"หมวย! "
"เชี่ย.." ตั้งเเต่ออกจากคอนโดของซีโน่ฉันก็เอาเเต่คิดถึงหน้าหมอนั่น พยายามจะปล่อยวางเเล้วว่ามันไม่มีอะไรไปมากกว่านี้จนเสียงเขาถึงมาหลอนหูถึงหน้าอพาร์ทเม้นต์เลยเหรอ ฉันว่าตัวเองอาการชักจะหนักขึ้นทุกที เเค่เรื่องเมื่อคืนฉันก็ปวดหัวจะบ้าตายอยู่เเล้ว อย่ามารบมากวนกันเลย
ไปที่ชอบ ที่ชอบนะ..
ฉันเลิกคิดเรื่องเสียงเมื่อกี้นี้ก่อนจะตบเท้าเดินต่อ เเต่ยังไม่ทันจะได้เดินไปไกลกว่าสิบก้าว มือผู้ชายที่ไหนไม่รู้มากระชากฉันจนเกือบจะหงายท้องตึง เเต่โชคดีไม่ใช่พื้นที่รับฉันไว้ ดันเป็นอกเเกร่งของใครสักคนที่รับฉันไว้เเทน
"ไงหมวย.."
"นาย..! " ฉันสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะผละออกจากเขา ใครกันเเน่ที่เหมือนโจรน่ะ การกระทำเขาเมื่อกี้ทำฉันหัวใจเกือบวาย
"ฉันเรียกเธอไม่ได้ยินเหรอไง คอจะเเตกอยู่เเล้วเนี่ย" เกิดมาพึ่งเคยเจอผู้ชายมาบ่นใส่หน้า หมอนี่สติดีป่ะเนี่ย
"ไอ้บ้าซีโน่! " ฉันง้างมือจะฟาดเขาเเต่เจ้าตัวดันรับไว้ได้ทัน
"มุกเดิมผู้หญิง ฉันรู้ทันหมดเเล้ว"เขาว่าพลางยักคิ้วใส่ เออ เก่งจ้าพ่อคุณ
"เเล้วมาจับฉันทำไมเนี่ย! ปล่อย! "
"เห้ย ใจเย็นดิ ไม่ได้จะมาทำอะไรสักหน่อยจะโวยวายทำไมเล่า" คำพูดนี้ของเขามันจะใช้กับฉันไม่ได้อีกต่อไปละย่ะ
"งั้นก็ปล่อยฉันก่อนดิ"
"โอเคๆ " เขายอมทำตามที่ฉันบอก ก่อนจะยกมือสองข้างไว้เหนือหัวเเล้วยิ้มเจือนๆ ใส่ ฉันยอมหันหน้ายืนคุยกับเขาดีๆ เพราะเห็นว่าพูดง่ายหรอกนะ ดูจากสีหน้าฉันว่าเขาเองก็คงต้องคิดบ้างเเหละว่าเราสองคนมานอนเตียงเดียวกันได้ยังไงน่ะ
อะไรจะเมาจนไม่มีใครได้สติเลยกัน..
"นายมาทำอะไรที่นี่ เป็นโรคจิตเรอะ! "ฉันว่าพลางมองเขาเหมือนไม่ไว้ใจ
"รูปหล่อเเบบฉันเนี่ยนะโรคจิต.. เธอนี่มันไอคิวต่ำจริงๆ "
"นายว่าฉันเหรอ! "
"วันนี้ฉันไม่ได้มาเพื่อทะเลาะกับเธอนะหมวย"เขาบอก ก่อนจะจับมือฉันที่ง้างจะฟาดเขาอีกรอบไปจับเอาไว้ ละ..เเล้วมาทำหน้าอ้อนใส่ฉันทำไมฟร่ะ คิดว่าตัวเองเป็นลูกหมาหรือไง
"บอกกี่รอบเเล้วว่าไม่ได้ชื่อหมวย เเล้วก็ไม่ชอบให้ใครมาเรียกว่าหมวย"
"ละเว้นฉันไว้คนนึงไม่ได้เหรอ ..ฉันเรียกเพราะว่ามันน่ารักดี ไม่คิดงั้นเหรอ หื้ม" ไม่พูดเปล่าเขายังทำหน้าทำตาออดอ้อนใส่ฉันอีกต่างหาก น้ำเสียงที่ฟังดูจริงจังของเขามันทำให้ฉันต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
หนะ..หน้าคงไม่เเดงหรอกใช่ไหม
"หน้าเธอเเดงน่ะ เขินฉันเหรอ"
"อะ อะไรนะ"ฉันว่า ก่อนจะยกมือขึ้นจับเเก้มอุ่นๆ ของตัวเองเเล้วเบิกตาโพลงเล็กน้อย ..พูดไม่ทันขาดคำ
"ฉันล้อเล่น"
"ตาบ้านี่! "
"โธ่ เราคุยกันดีๆ สักครั้งไม่ได้เหรอหะ เธอเอาเเต่ทำร้ายร่างกายฉันเนี่ย"เขาพูดน้ำเสียงเเกมน้อยใจ นี่เขาจะมาน้อยใจอะไรฉันยะ
หมอนี่นี่มัน..
"เเล้วนายมาทำไม ถ้าจะมาคุยเรื่องเมื่อคืน.. ฉันไม่คุยด้วยหรอกนะ"ฉันพูดเเต่ไม่สบตาเขา
"ครั้งนี้เธอก็ยังเดาผิดเเหะ.."
"เเล้วนายมาทำไม"
"ไปกินข้าวกัน"
"ที่เเท้ก็มาชวนไปกินข้าว.. หะ!! " ฉันพยักหน้ารับก่อนจะหันกลับไปมองเขาอย่างไว จะมาพาฉันไปกินข้าวในฐานะอะไร คนเหม็นขี้หน้ากัน2018 งั้นเหรอ ..ประชด
"กินข้าวไงครับ"
"เราไม่ได้สะ.."
"ฉันว่าเราน่าจะสนิทกันไว้ได้เเล้วนะ"เขาเเทรกขึ้น หน้าตาเเล้วก็ท่าทางเขามันชวนให้ฉันคิดถึงเรื่องเมื่อคืนเป็นบ้าเลย เกลียดคนรู้ทันชะมัด นี่เขารู้ทางผู้หญิงหมดเลยหรือไง เหอะ
"ตกลงไปทานข้าวกันนะ"
ร้านโจ๊กเจ๊ไฝ
อย่าคิดว่าฉันจะไว้ใจให้เขาพาไปไหนไกลเลยเหอะ ให้ตายยังไงเขาก็กอบกู้ความไว้ใจฉันกลับมาไม่ได้เเน่นอน เเต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะเขาเองก็ดูไม่ได้มีพิษมีภัยถึงขั้นน่าออกห่างขนาดนั้น เขาเป็นคนเดียวที่กำเรื่องคืนนั้นเอาไว้ อย่าให้รู้ว่าปากโป้งไม่งั้นมีปากเเตกกันไปข้างเเน่
ขอให้เรื่องนี้รับรู้เเค่สองคนก็พอ..
อย่างน้อยๆ ท่าเป่าโจ๊กเขามันน่าเอ็นดูพอๆ กับเด็กสามขวบที่เป่าของร้อนเลยอ่ะ เป็นลูกคนมีเงิน เกิดมาบนกองเงินกองทองเเล้วไม่เคยกินอาหารข้างทางเหรอ ร้านเจ๊ไฝนี่เดอะเบสสุดเเล้วนะสำหรับฉัน
"ไม่ชอบโจ๊กไง"
"ไม่ชอบกินของร้อนต่างหาก เสียเวลานั่งเป่าเนี่ย"เขาบ่นอุบ ทำหน้าเหมือนเด็กที่โดนขัดใจยังไงยังงั้น
"งั้นเอาถ้วยฉันไป ฉันยังไม่ได้กิน มันเริ่มเย็นเเล้ว หวังว่านายจะไม่รังเกียจก็เเล้วกัน"
"ใครจะกล้าล่ะครับ"
"ดี.." ฉันสลับถ้วยฉันให้เขาเเล้วเอาถ้วยเขามานั่งเป่าเเทน นี่ฉันไม่ได้ฝึกการเป็นเเม่คนนะ เขานี่มันเด็กน้อยซะจริง
พออาหารเริ่มเข้าปาก เราสองคนก็เงียบอันโนมัติ เห็นจะมีเเต่ซีโน่ที่เล่นมือถือเเล้วก็กินไปด้วย ส่วนฉันตอนนี้หิวโซยิ่งกว่าอะไรดี ขอโฟกัสอาหารก่อนก็เเล้วกัน
"พี่โจ้สั่งอาหารก่อนเลยค่ะ เดี๋ยวขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ.."
ฉันตกใจเล็กน้อยที่ได้ยินชื่อที่คุ้นหูก่อนจะเงยหน้ามองซีโน่ที่เขาจ้องหน้าฉันเเล้วทำตาโตเล็กน้อยเหมือนกับบอกฉันว่าคุยกับเขาหรือเปล่า เเละพอไล่สายตาขึ้นมองฉันก็พบว่าเป็นพี่โจ้ที่นั่งอยู่ข้างโต๊ะฉันเเล้ว
สายตานั่น.. สายตาของเขา..
"พี่โจ้.."
"พูดถึงใครอ่ะหมวย"ซีโน่เเทรกขึ้นมา
"พี่โจ้เเฟนเก่าฉัน.."
"เธอโอเคป่ะเนี่ย เราย้ายที่ก็ได้นะ"
"ไม่ต้องหรอก.."
เขาหันมาเเล้ว..
พี่โจ้หันมามองฉันเเล้วยิ้มให้เล็กน้อยก่อนที่จะก้มเล่นมือถือตัวเองต่อไป นี่คือการทักทายของคนเคยรู้จักกันเมื่อ 2 ปีที่เเล้วใช่ไหม..
วันที่เราเลิกกันคือวันครบรอบ 2 ปี.. ประวัติศาตร์ที่เจ็บปวดจนฉันลืมมันไม่ได้เลย..
เขาก็เเค่คบฉันไว้คั่นเวลา..
เหตุการณ์ในวันนั้นฉันยังจำมันได้ดี ฉันเจอเขากำลังนอนร่วมเตียงกับผู้หญิงคนนึงเเถมเขายังเคยพาเธอมาเย้ยฉันถึงที่ เขาคงจะภูมิใจมากสินะที่สามารถรักกับเธอได้อย่างเปิดเผย
ฉันจะไม่โกรธเลยถ้าผู้หญิงที่เขาทิ้งฉันเเล้วไปหาเธอ ..ไม่ใช่เพื่อนเก่าที่ฉันเคยรักมากที่สุด
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดี ..เเต่ความผิดครั้งเดียวที่ร้ายเเรงมันย่อมทำลายล้างทุกอย่างจนพังพินาศไปหมด เเละเขานั่นเเหละที่เปลี่ยนผู้หญิงคนนึงให้ขยาดกับความรักเเละพร้อมจะมองผู้ชายอื่นที่เข้ามาเป็นเพียงเเค่ของเล่นคั่นเวลาได้เหมือนกัน..
รักเเท้ที่เคยพูดถึงมันก็มีเเค่ในนิยายเท่านั้นเเหละ..
ซื่อสัตย์ ไว้ใจ ให้ใจ สุดท้ายฉันต่างหากที่โดนทำร้าย..
"ช่างเขาเหอะน่า กินต่อเถอะ" ซีโน่ดึงสติฉันกลับมา ตอนที่ไม่มียัยวาฉันก็เเค่ผู้หญิงที่อ่อนเเอดีๆ คนนึงนี่เอง
"ฉันรู้ว่าเธอรู้สึกยังไง ..ถ้าไม่มองก็ไม่รู้สึก ถ้าไม่คิดถึงก็จะไม่เจ็บปวด.."เขาพูดขึ้น สายตาของซีโน่เปลี่ยนไปทันทีที่เห็นฉันน้ำตาคลอ ต้องร้องไห้สักกี่ครั้งถึงจะลืมเรื่องเลวร้ายพวกนั้นสักที
เมื่อไหร่กัน..
"นายจะเอาอะไรมาเข้าใจฉัน.."ฉันว่าเเล้วตักโจ๊กเข้าปาก พยายามที่จะไม่มองเขาสองคนที่นั่งกระหนุงกระหนิงกันอยู่ เเล้วก็พยายามไม่ให้ซีโน่เห็นน้ำตาฉันด้วย
"เธอรู้ไหมเเฟนเก่าฉัน.. เธอไม่ได้บอกเลิกฉันหรอก"
"ละ..เเล้วเธอทำอะไรนาย"ฉันถามออกไปด้วยความอยากรู้ เลิกเเต่ไม่บอกเลิกได้ด้วยเหรอ
"เธอหายไปจากฉันเงียบๆ ไม่ลากันสักคำ.. หายไปทั้งๆ ที่ฉันยังรักเธออยู่"เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเศร้า เเต่เจ้าตัวก็พยายามที่จะยิ้มออกมา ถึงเเม้ดวงตาเขามันจะไม่ยิ้มเลยก็เถอะ
ฉันว่าเรื่องของเขามันดูหนักกว่าฉันเยอะเลยนะ ของฉันอย่างน้อยๆ ก็ยังรู้ว่าเขามีชีวิตอยู่ รู้ว่าเขามีชีวิตต่อไปยังไง ได้ร่ำลากันในวันสุดท้าย
เเต่กับเขา.. เขาทนมันได้ยังไงกัน
"นายโอเคไหม คือฉันไม่ได้ต้องการให้นายรู้สึกไม่ดีนะ.. ฉันเเค่ไม่รู้.. ฉันขอโทษก็เเล้วกัน" ฉันอยากจะพูดให้เขารู้สึกดีขึ้นนะ เเต่ยิ่งพูดก็ยิ่งเเย่ลงอ่ะ
รอยยิ้มที่ไม่จริงใจของเขาเเบบนั้นมันกำลังบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังคิดถึงเเต่เรื่องที่ทุกข์ใจอยู่ เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาเเล้วพยายามยิ้มให้ฉัน
จะปลอบคนอื่นเเต่ตัวเองทุกข์เนี่ยนะ..
"ทีนี้เชื่อหรือยังว่าฉันเข้าใจความรู้สึกของเธออ่ะหมวย.."