ห้องส่วนตัวของมิสเตอร์จอนนี่ อีแวนส์อยู่ห่างจากตัวไนต์คลับออกมาไกลพอสมควร สโรสินีเปิดประตูห้องทันทีเมื่อเสียงแหบแห้งของชายวัยสี่สิบกว่าที่หัวล้านเหน่งเอ่ยอนุญาต หล่อนก้าวนำหน้าลัลนาเข้าไปก่อน หล่อนเห็นสายตาที่มันมองมาเต็มไปด้วยความพึงพอใจ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นไม่พอใจเมื่อเห็นร่างของลัลนาเดินตามเข้ามา
“ฉันให้เธอไปตามฟ้ามาพบฉัน ไม่ได้ให้เธอมาพบฉันด้วย ออกไปลัลนา...”
“ดิฉันขอร้องให้สวยมาเป็นเพื่อนเองค่ะ” สโรสินีข่มความเดือดดาลต่อผู้ชายตรงหน้าเอาไว้สุดกำลัง ก่อนจะฝืนใจคลี่ยิ้มหวานฉ่ำออกมา
จอนนี่ทำท่าทางฮึดฮัดไม่พอใจอย่างมาก แต่เสียงโทรศัพท์มือถือของมันที่วางอยู่บนโต๊ะไม้ใหญ่ก็ดังขึ้นซะก่อน มันรีบเดินกลับไปหยิบมาแนบหูทันที และท่าทางของมันก็เปลี่ยนแปลงไปจากหลังเท้าเป็นหน้ามืออย่างรวดเร็วจนหล่อนกับลัลนาอดทึ่งกับความกระล่อนของมันไม่ได้
“คุณอเล็กหรือครับ... ครับที่นี่เรียบร้อยดีครับ ทุกอย่างยอดเยี่ยม...”
มันทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ ทั้งประจบประแจงคนปลายสายจนหล่อนแทบจะอาเจียนออกมาเสียให้ได้
“ว่าไงนะครับ คุณอเล็กจะมาที่นี่ พรุ่งนี้หรือครับ... โอ้ ดีครับ ผมจะจัดสถานที่ไว้ต้อนรับคุณอเล็กกับคุณแมทธิวให้ดีที่สุดครับ ครับ... สวัสดีครับ”
สโรสินีเห็นจอนนี่กดตัดสายสัญญาโทรศัพท์ จากนั้นใบหน้าที่ยิ้มแย้มก็แปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงในทันที พร้อมๆ กับคำสบถหยาบคายที่พ่นออกมาจากริมฝีปากไม่ได้รูปแถมดำคล้ำของมัน
“ระยำชะมัด จะมาทำไมวะไอ้บ้า!”
มันระเบิดอารมณ์กับตัวเองจบก็หันขวับมาจ้องมองหล่อน สีหน้าและดวงตาของมันเปลี่ยนแปลงไป คงจะมีการเปลี่ยนแผนการในใจขึ้นมาอย่างกะทันหันแน่นอน
“พรุ่งนี้ไอ้... เอ่อ คุณอเล็กซิโอจะมาที่นี่...”
มันพูดกับหล่อน และหากไม่อยากถูกไล่ออกจากงานล่ะก็หล่อนก็ควรจะต้องตอบคำถามของมัน แม้จะไม่อยากจะเสวนากับไอ้ผู้ชายคนนี้เลยก็ตาม
“ค่ะ ดิฉันพอจะได้ยิน...”
มันพยักหน้ารับน้อยๆ จ้องมองหล่อนกับลัลนาด้วยสายตาครุ่นคิด “แต่ไม่ได้มาคนเดียว คุณแมทธิวก็มาด้วย และแน่นอนว่าฉันจะต้องต้อนรับให้ดีที่สุด ซึ่งมันจะต้องดีว่าครั้งที่แล้วเมื่อปีกลายนี้ด้วย”
“เอ่อ ใช่ค่ะ แต่คุณจอนนี่ฉลาดอยู่แล้ว ทำได้แน่ค่ะ”
สโรสินีจำเป็นต้องฝืนใจชม ทั้งๆ ที่ภายในใจอยากจะวิ่งไปหาอเล็กซิโอแล้วเล่าความชั่วช้าของไอ้หมอนี่ให้กับชายหนุ่มฟังนัก แต่ก็ไม่รู้ว่าอเล็กซิโอเป็นคนยังไง เขาจะเชื่อคำพูดของสาวเสิร์ฟกระจอกๆ อย่างหล่อนกว่าคำพูดของผู้จัดการที่เขาไว้ใจหรือเปล่า
แต่ข้อมูลที่ได้ยินมาเกี่ยวกับนิสัยใจคอของอเล็กซิโอนั้นมันไม่ได้ทำให้หล่อนกล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับเขาเลยจริงๆ มัจจุราชเดินดิน นี่ไงคือฉายาที่คนทั้งโลกตั้งให้กับเขา โหดเหี้ยม เลือดเย็น แต่เซ็กซี่และน่าปรารถนาสุดใจ สโรสินีถอนใจออกมาแรงๆ เมื่อความคิดที่จะเผชิญหน้ากับมัจจุราชหล่อลากไส้อย่างอเล็กซิโอมีอันต้องจบลงตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม
“แน่นอนว่าฉันคิดได้อยู่แล้ว... แต่ต้องมีคนช่วย...”
สโรสินีหันไปสบตากับลัลนา ก่อนจะเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย เพราะลางสังหรณ์ไม่รู้ที่มากำลังบอกว่าหายนะบางอย่างกำลังมุ่งหน้าเข้ามาหาด้วยความเร็วสูง และแน่นอนว่าหลบหนีได้ยากยิ่ง หรือถ้าจะพูดให้ถูกต้องก็คือไม่สามารถหลีกหนีได้เลยแม้แต่นิดเดียวนั่นเอง
“หมายความว่ายังไงคะ”
“ก็หมายความว่าฉันกำลังจะต้อนรับคุณอเล็กกับคุณแมทธิวด้วยผู้หญิงยังไงล่ะ”
นั่นไง... ว่าแล้วเชียว สโรสินีอุทานอยู่ภายในอก หันไปมองลัลนาที่ยังยืนนิ่งอยู่ด้วยสายตาตกใจ ก่อนจะก้มหน้าไปกระซิบกระซาบด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
“สวย... ฉันว่างานเข้าแล้วแน่เลย”
“ไม่มีอะไรที่แก้ไขไม่ได้หรอกน่า... เชื่อฉันฟ้า” ลัลนายังยืนนิ่งจนน่ามอบโล่ห์รางวัลให้เหมือนเคย
จอนนี่เห็นสองสาวกระซิบกระซาบกันก็หัวเราะออกมาดังลั่น “พวกเธอคงไม่ต้องให้ฉันบอกใช่ไหมว่าสิ่งที่ฉันกำลังจะให้พวกเธอทำนั่นคืออะไร?”
รู้สิ... รู้ดีทีเดียวแหละ สายตาของมันบอกทุกอย่างเลยนี่ สโรสินีคิดอย่างแค้นเคือง หากไม่กลัวตกงานและจะพาแม่กับหลานชายอดตายล่ะก็ หล่อนคงกระโดดเข้าไปกัดหูไ*********กตัวนี้ให้หายแค้นแล้วล่ะ
“แต่พวกเราไม่ใช่โสเภณีนะคะ เราเป็นพนักงานเสิร์ฟ และกฎของที่นี่ก็ห้ามขายบริการให้กับลูกค้า นอกจากถูกใจแล้วไปตกลงกันเองข้างนอก...”
สโรสินีแย้ง แต่ไอ้หมูอ้วนมันไม่ฟังอีกตามเคย มันเดินเข้ามาใกล้หล่อน กลิ่นสาปแห่งความชั่วช้าของมันทำให้หล่อนต้องรีบถอยหลังหนีด้วยความสะอิดสะเอียน
“แต่ฉันต้องการให้เธอไปต้อนรับคุณอเล็ก... ต้อนรับให้ท่านติดใจ...”
จอนนี่กวาดตามองร่างอรชรที่สมบูรณ์แบบไปซะทุกสัดส่วนของสโรสินีแล้วก็อดเสียดายไม่ได้ ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะเรียกหล่อนเข้ามาจัดการเสียหน่อย แต่อเล็กซิโอดันโทรมาขัดจังหวะซะก่อน และนั่นก็ทำให้เขาต้องยุติความคิดที่จะเคลมสโรสินีเปลี่ยนเป็นตัดใจส่งเจ้าหล่อนไปให้บริการอเล็กซิโอแทน แม้จะเสียดายแค่ไหนแต่พอคิดว่าหากอเล็กซิโอติดใจหญิงสาวเมื่อไหร่ เมื่อนั้นเขาก็จะสามารถชักใยชายหนุ่มให้อยู่ในอุ้งมือของตัวเองได้ไม่ยากเขาก็ตัดสินใจที่จะทำในทันที เพราะเขามั่นใจว่าสโรสินีจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขามากกว่าอเล็กซิโออย่างแน่นอน
“คุณทำอย่างนั้นไม่ได้นะ คุณจอนนี่... พวกเราไม่ใช่อีตัว!”
จากที่เคยยืนนิ่ง คราวนี้ลัลนาตวาดผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้านายเสียงดังลั่น ใบหน้างดงามที่มีเพียงแป้งฝุ่นบางๆ แต่งแต้มอัดแน่นไปด้วยความเดือดดาล กลีบปากอิ่มเต็มที่ถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อนบิดเบ้ด้วยความโกรธจัด
“หุบปากไปเลยลัลนา อยากตกงานหรือไง!”
จอนนี่ตวาดลั่น จ้องหน้าลัลนาผู้หญิงที่สวยไม่แพ้สโรสินีแต่นิสัยแข็งกระด้างไม่ผิดจากผู้ชายด้วยสายตาปานจะกินเลือดกินเนื้อ ดวงตาสีน้ำตาลนั้นเต็มไปด้วยเพลิงไฟยามที่กราดมองมายังร่างของลัลนา
“แล้วอย่าเหมารวมไปว่าตัวเธอจะถูกเลือกไปด้วยสิลัลนา ผู้หญิงก็ไม่ใช่ผู้ชายก็ไม่เชิงแบบเธอ... คุณแมทธิวคงตกใจแย่หากฉันส่งเธอไปให้ท่านน่ะ”
ลัลนาหน้าแดงจัดด้วยความโกรธเพราะถึงแม้ว่าหล่อนจะรู้สึกดีๆ กับแมทธิว บราวน์อยู่บ้างแต่หล่อนก็ไม่เคยคิดจะขายตัวให้กับเขา ขณะที่สโรสินีเองก็มีสภาพไม่แตกต่างจากเพื่อนรักนัก หล่อนกำลังยืนนับหนึ่งถึงสิบอยู่ภายในใจ นับอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อที่จะทำให้อารมณ์ของตัวเองเย็นลงและไม่ตะบันหมัดใส่หน้าของไอ้ผู้ชายเห็นแก่ตัวอย่างจอนนี่ อีแวนส์ออกไป
“ดิฉันคงรับงานนี้ไม่ได้ค่ะ...” ในที่สุดสโรสินีก็เลือกที่จะปฏิเสธออกมา และนั่นก็ทำให้จอนนี่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลยทีเดียว
“เธอกล้าขัดคำสั่งของฉันเหรอฟ้า เธอไม่รู้หรือไงว่าฉันอาจจะไล่เธอออกจาก The Presidential ได้ง่ายๆ”
“ดิฉันทราบค่ะ แต่ดิฉันอยากเป็นแค่สาวเสิร์ฟ ยังไม่อยากเลื่อนขั้นเป็นอีตัวในตอนนี้...”
แทนที่ไอ้หมูตอนตรงหน้าจะเข้าใจ มันกลับหัวเราะหยันออกมาซะนี่และนั่นก็ทำให้ลัลนาแทบจะยั้งกำปั้นเอาไว้ไม่อยู่ ดีที่สโรสินีห้ามปรามเอาไว้ซะก่อน
“โปรดเข้าใจพวกเราด้วย...”
จอนนี่หัวเราะลั่น กราดสายตามองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าของหล่อนด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม ก่อนที่ปากของมันจะพ่นวาจาสุนัขไม่รับประทานออกมา