ใกล้ที่จะกำหนดวันแต่งเกาเหยาชุนเข้าจวน เพื่อป้องกันความผิดพลาดและก่อนที่จะพูดคุยกับบุตรชาย เสิ่นฮูหยินจึงเรียกกู้เฉียวจิงเข้าไปพูดคุย “ข้าคารวะเสิ่นฮูหยินเจ้าค่ะ” กู้เฉียวจิงยังคงมีอัปกริยาเรียบร้อย แม้จะไม่ตรงแบบแต่ก็มิได้ดูเคอะเขินน่าขายหน้า เสิ่นฮูหยินหรี่ตามองพินิจอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “ลุกขึ้นเถอะ เจ้ามาอยู่ที่จวนได้หลายวันแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง คุ้นเคยกับที่นี่บ้างแล้วหรือยัง” “เรียนฮูหยิน ข้าเริ่มคุ้นเคยบ้างแล้วเจ้าค่ะ” เสิ่นฮูหยินถอนหายใจเบา ๆ คล้ายมีเรื่องหนักใจบางอย่าง “ในเมื่อเริ่มคุ้นเคยแล้ว เจ้าคงพอรู้อยู่บ้างกระมังว่าท่านหงอี้โหวคือบรรดาศักดิ์ที่พระราชทาน มีฐานะสูงส่งฮูหยินเอกก็ต้องเพียบพร้อมในทุกๆ ด้าน...ข้าพูดเช่นนี้อย่าหาว่าข้าใจดำเลยนะ” กู้เฉียวจิง เงยหน้ามองเสิ่นฮูหยินคล้ายตกตะลึงอยู่บ้าง จากนั้นนางก็ก้มหน้าพูดตอบ “ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ...ข้าตระหนักถึงฐานะของตนเองดี