อี้เหมยและอี้หลิง พากู้เฉียงจิงเดินเข้าร้านเครื่องประดับ ร้านอาภรณ์ ร้านผ้าไหม ร้านเครื่องหอม เข้า ๆ ออก ๆ อยู่หลายร้าน หากมีมูลค่ามากหน่อย ก็ให้ร้านไปส่งของและเก็บเงินจากจวนตระกูลเสิ่น
บุรุษสูงโปร่งสวมชุดสีคราม ยื่นพิงเสาระเบียงหอเฟิ่งหลางท่วงท่าดูเกียจคร้าน ทว่าสายตาที่พินิจกู้เฉียงจิงกลับเฉียบคมหวังจะเห็นอีกฝ่ายให้ทะลุปุโปร่ง เขาหมุนจอกชาในมือไปมาแล้วถามขึ้น
“นั่นหรือ.. สตรีที่เสิ่นเยี่ยหงพากลับมาด้วย”
บ่าวข้างกายรีบตอบ “ขอรับ เห็นว่ามีบุตรชายด้วยหนึ่งคน”
กู้เฉียวจิงรู้สึกว่ามีสายตาจ้องมอง นางเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาดุจดั่งหยกบริสุทธิ์ผู้หนึ่ง แม้บุรุษผู้นั้นจะยิ้มทักทายอย่างบุรุษเสเพล กระนั้นนางก็รู้สึกถึงความอำมหิตของอีกฝ่าย นางรีบดึงสายตากลับอย่างไม่ใส่ใจ ที่นี่ย่อมมีบุคคลไม่ธรรมดาอยู่มาก หลีกเลี่ยงเสียหน่อยจะดีกว่า
เซียวหลีหยวนจ้องมองแผ่นหลังกู้เฉียงจิงที่กำลังเดินห่างออกไป ครุ่นคิดถึงสายตาเย็นชาของนางเมื่อสักครู่
“สมกับเป็นเสิ่นเยี่ยหง มักมีเรื่องให้ตกตะลึงอยู่เสมอ”
เมื่อเดินมากพอสมควร ร่างกายกู้เฉียวจิงก็หาได้แข็งแรงมากมายนัก ตนเองก็เหนื่อยล้าเกินทนกู้เฉียวจิงคิดว่าควรได้เวลาไปยังจุดเป้าหมายที่ต้องการเสียที
“ที่นี่เป็นโรงหมอหรือ”
“เจ้าค่ะ นั่นเป็นทั้งร้านขายยาและโรงหมอฮุ๋ยหวง”
“ตกกลางคืนมาข้ารู้สึกไม่สบาย จะไปซื้อยาสักหน่อย”
อี้เหมยได้ยินเช่นนั้น ก็รีบบอก
“แม่นางกู้ไม่จำเป็นต้องไปหาหมอเองหรอกเจ้าค่ะ ที่จวนของเรามีท่านหมอฟางลู่อยู่ประจำหากท่านรู้สึกไม่สบาย ข้าจะไปแจ้งท่านหมอให้มาตรวจดูให้ได้เจ้าค่ะ”
กู้เฉียวจิงพลันมีสีหน้าลำบากใจ อี้หลิงเห็นเช่นนั้นก็รีบพูด
“ในเมื่อแม่นางกู้อยากจะไปหาหมอ ตอนนี้ก็อยู่หน้าโรงหมอแล้ว เข้าไปตรวจเสียตอนนี้ก็คงไม่เป็นอันใด หากยังไม่ดีขึ้นกลับถึงจวนค่อยไปเชิญท่านหมอฟางมาตรวจอีกทีก็ย่อมได้”
กู้เฉียวจิงได้ยินที่อี้หลิงพูด แววตาก็ดูมีประกายขึ้นมา อี้เหมยถูกฝึกให้ดูสีหน้าเจ้านายจึงรีบพูด
“เป็นข้าที่ปากมากเอง ต้องขออภัยแม่นางด้วยเจ้าค่ะ”
“ไม่เป็นไร เช่นนั้นพวกเจ้ารอข้าอยู่ข้างนอก ข้าจะเข้าไปเพียงลำพัง” อี้เหมยไม่กล้าขัดวาจาอีก
“เจ้าค่ะ เชิญแม่นาง”
เมื่อร่างของกู้เฉียวจิงหายเข้าไปในร้าน อี้หลิงก็พูดขึ้น
“แม่นางกู้อาจจะมีเรื่องปรึกษากับท่านหมอที่นี่ เจ้าน่ะเรื่องแค่นี้ทำไมต้องกล่าวขัดด้วยเล่า”
อี้เหมยรีบโต้แย้ง “ข้าเปล่านะ สตรีสูงศักดิ์ในเมืองหลวงผู้ใดจะมาหาหมอที่โรงหมอเอง ข้าตั้งใจจะเอาใจ แม่นางกู้ต่างหาก”
อี้หลิงปิดปากหัวเราะ อี้เหมย
“เจ้าก็รู้แม่นางกู้ ยังไม่ชินขนบธรรมเนียมที่นี่ ที่เจ้าหวังดี นางอาจจะมองว่ารำคาญและถูกควบคุมก็ได้”
อี้เหมยพยักหน้าเห็นด้วย “เป็นจริงอย่างที่เจ้ากล่าว ต่อไปข้าจะระวังกว่านี้”
ในขณะนั้นกู้เฉียวจิงก็ถอนหายใจที่สามารถสลัดคนทั้งสองออกไปได้ นางเดินเข้าไปข้างในพร้อมปรายสายตามองดูรอบ ๆ เด็กจัดยาผู้หนึ่งเดินเจ้ามาทัก
“คุณหนูต้องการจะมาซื้อยาหรือมาหาหมอขอรับ”
“ข้ามาขอพบคุณหนูกัวเล่อเยี่ยน มิทราบว่าตอนนี้อยู่ที่นี่หรือไม่” แววตาของเด็กจัดยากระพือไหวเล็กน้อยแล้วพูดตอบ
“ขออภัยคุณหนู ข้าไม่เคยได้ยินนามคุณหนูกัวเล่อเยี่ยนมาก่อน ข้าขอทราบได้หรือไม่เหตุใดท่านจึงมาตามคุณหนูกัวเล่อเยี่ยนที่นี่”
ท่าทีของเด็กจัดยาทำให้กู้เฉียวจิงสรุปได้ว่า ไม่เพียงแต่ต้องรู้จักกัวเล่อเยี่ยนเป็นอย่างดี คาดว่าตอนนี้นางก็อยู่ในโรงหมอแห่งนี้ด้วย นางจึงหลุบตาต่ำลง สีหน้าเต็มไปด้วยความผิดหวัง
“เช่นนั้นหรือ ข้าได้รับสารจากคนผู้หนึ่ง ให้มาตามหานางที่นี่ เรื่องนี้เป็นเรื่องเท็จสินะ ต้องขออภัยเจ้าด้วย”
“เรื่องเล็กน้อยขอรับ ทว่าหากมาตามหาคนที่โรงหมอก็อาจจะมีเรื่องของความเจ็บป่วย คุณหนูจะพบท่านหมอหรือไม่ขอรับ”
กู้เฉียวจิงส่ายหน้าพลางพูดขึ้นด้วยแววตาและน้ำเสียงผิดหวัง “ที่ข้ามาที่นี่หาได้ต้องการพบหมอ แต่ต้องการพบคุณหนูกัวเล่อเยี่ยน ในฐานะศิษย์ร่วมสำนักเดียวกัน”
ได้ยินคำว่าศิษย์ร่วมสำนัก แววตาของเด็กหนุ่มก็ประกายวาววับขึ้นปราดขึ้น “เรื่องราวล้วนมีจริงเท็จ เหตุใดคุณหนูจึงปักใจเชื่อว่าจะมีคุณหนูลัวอยู่ที่นี่หรือขอรับ”
กู้เฉียวจิงขำในใจ ไม่มีคุณหนูกัวที่นี่ เหตุใดข้าต้องตอบด้วยเล่า แต่นางไม่มีเวลาหยอกล้อเด็กหนุ่มตรงหน้าจึงได้ตอบไป
“ข้าย่อมเชื่อเพราะวาจานี้ อาจารย์ข้าเป็นกล่าว ช่วงหนึ่งก่อนที่ท่านจะจากไป ท่านได้เล่าให้ฟังว่าศิษย์น้องของท่านรับศิษย์เป็นสตรีผู้หนึ่ง ฝีมือนับเป็นหมอเทวดาผู้หนึ่งนามว่ากัวเล่อเยี่ยน ... แต่ว่าเรื่องนี้เจ้าอย่าไปได้บอกกล่าวออกไปเล่า เรื่องที่นางเป็นศิษย์ของหมอเทวดาเหิงอวี้ เป็นความลับยิ่ง”
ตาของเด็กจัดยากระตุกขึ้น
ความลับยิ่ง
แต่ท่านพึ่งเล่าให้ข้าฟังบุคคลที่เจอไม่ถึงเค่อ ไม่ได้การณ์ต้องรีบบุคคลนี้โดยเร็ว
“คุณหนูท่านนี้ ข้าต้องเสียมารยาทแล้ว”
กู้เฉียวจิงเห็นท่าทีที่กำลังจะควบคุมคนของเด็กจัดยากำลังจะเอาปกป้องตนเอง เสียงกระจ่างใสดุจสายธารน้ำใสจับใจก็ดังขึ้น
“ฉู่อัน ห้ามเสียมารยาท...เชิญคุณหนูเข้ามาข้างใน”
มือของฉู่อันที่กำลังยกขึ้นก็ชะงักในอากาศ มันปรับเปลี่ยนเป็นประสานยกขึ้นพร้อมเสียงเชื้อเชิญ
“เชิญคุณหนูข้างในขอรับ”
กู้เฉียวจิงเดินตามฉู่อันเข้ามาข้างใน ไม่นานก็ปรากฏร่างโฉมระหง ที่อยู่ท่ามกลางขวดยาและสมุนไพร นางหันมายิ้มอ่อนละมุนให้กู้เฉียวจิง สตรีตรงหน้าทำให้กู้เฉียวจิงตกตะลึง ไม่เพียงแค่งดงามผุดผาดเจิดจรัส ทั่วกายเรือนร่างมีกลิ่นอายสูงศักดิ์เปี่ยมไปด้วยวาสนา ใบหน้ากระจ่างใสหมดจดบริสุทธิ์คล้ายอยู่ห่างออกไปสุดขอบฟ้าเหนือโลกา มิใช่อยู่ใต้หล้าเดียวกันกับนาง
นี่คือ กัวเล่อเยี่ยน นางเอกในนิยาย
ที่ผู้แต่งบรรยายเอาไว้ รูปโฉมราศีปานเซียนบนโลกมนุษย์เช่นนี้ช่างชวนให้ผู้อื่นริษยา กู้เฉียวจิงยอมรับหมดใจ บุคคลเช่นนี้ไม่ควรจะเป็นมนุษย์เดินดินเช่นนาง