ภาคินทร์สอนงานเด็กสาวอยู่นานหลายชั่วโมง ตอนนี้ลูกน้องนับสิบกำลังยืนเอาหูแนบประตูฟังว่าเสี่ยพูดอะไรและไปถึงขั้นไหน ถ้ามากเกินไปพวกเขาจะเข้าไปขัดจังหวะ ไม่มีใครเห็นด้วยกับสิ่งที่เสี่ยทำและไม่มีใครอยากให้เสี่ยหย่ากับซ้อ ยืนฟังจนแน่ใจว่าไม่มีอะไร
แกร็ก!! อยู่ๆ ประตูห้องก็เปิดออก
"เฮ้ยย!!!" เมื่อประตูเปิดออก ชายฉกรรจ์นับสิบก็พุ่งเข้าด้านใน
"ขะขอโทษครับเสี่ย"รีบขอโทษขอโพยกลัวว่าเสียจะโกรธ
"พวกมึงเป็นอะไรกันวะ ไม่มีงานมีการทำกันรึไง " มองด้วยสายตาคาดโทษ เขารู้ว่าพวกมันมายืนแอบฟัง อยู่ที่ทำงานใครมันจะกล้าทำอะไรบัดสีวะ อีกอย่างสำคัญคือยังไม่หย่ากับเมียทำได้แค่จับๆ ลูบๆ คลำๆ
"ไปละครับเสี่ย ไปละครับ" วิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิง
"เดี๋ยวไอ้คม มึงไปส่งมัดหมี่ที่ฟาร์มด้วย" อาคมเป็นคนงานที่เขาไว้ใจ
"ได้ครับเสี่ย" เด็กสาวเดินตามชายหนุ่มไป เธอหันมาสวัสดียิ้มให้เสี่ยหนุ่มด้วยใบหน้าอ่อนหวานละมุนละไม เรียกว่าเสี่ยต้องหลงกับใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กสาววัยสิบเก้าปี
เมื่อเด็กสาวกลับไป ภาคินทร์ก็เขาไปเคลียร์งานจากนั้นก็ไปหาเพื่อนที่โรงเหล้าแต่ไม่ได้กินเพราะหมอสั่งห้าม ยาที่กินอยู่ต้องงดแอลกอฮอล์ ก็เลยได้แค่นั่งคุยดูเพื่อนดื่ม เมื่อเริ่มมืดก็กลับบ้าน
กลับมาที่บ้านด้วยใบหน้าอารมณ์ดี ยิ้มแย้มมีความสุข
"ฮ่าๆ ชีวิตดีจริงเว้ยยย กูเนี่ย! อีกประเดี๋ยวก็จะได้หย่ากับเมียขี้บ่น พ่อจะฟาดสาวๆ ให้เรียบ" ตอนมีเมียก็ไม่เคยเป็นคนดีหลังจากหย่าแล้ว พ่อจะเลวให้เต็มระบบไปเลย
ร่างสูงใหญ่เดินผิวปากลงมาจากรถท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษ...
หวิดหวิ้วๆๆ
ดูอารมณ์ดีสุดๆ ได้อยู่กับเด็กมันสดชื่นดีกว่าอยู่กับเมียที่บ้านเยอะ
เปิดประตูบ้านด้วยอารมณ์เบิกบาน
แกร็ก!!
"เฮ้ยยย!!.." เมื่อเปิดประตูมาเจอนางยักษ์ยืนอยู่ ก็ตกใจแทบวิ่ง..หมดกันอารมณ์ที่กำลังเบิกบาน
"มายืนทำอะไรตรงนี้วะผัด เฮียตกใจหมด" อารมณ์กระเจิดกระเจิง เธอยืนเอามือเท้าเอวมองมาที่เขาอย่างเอาเรื่อง แต่นั่นคือความคิดของเขา
"อารมณ์ดีจังเลยนะคะ" ผัดไทยยืนมองเขาอย่างสังเกต วันนี้อารมณ์ดีแปลกๆ ตอนนี้เธอกำลังหาสร้อยคอที่ไม่รู้ว่าหล่นหายไปตอนไหน มารู้ตัวอีกทีก็ไม่อยู่ที่คอแล้ว คิดว่าหลุดหายตั้งแต่คืนก่อน แต่หาจนทั่วบ้านลื้อโซฟาก็ไม่เจอ สร้อยนี้สำคัญกับเธอมาก เธอเพิ่งจะหยิบมาใส่ได้ไม่กี่วัน ถ้าหายคงเสียใจมาก
"ก็คนมีความสุขไง ก็เลยอารมณ์ดี แล้วนี่มีอะไรกินบ้างหิวแล้ว" เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้หาเรื่องแต่กำลังยืนก้มหาอะไรเขาก็ไม่รู้ จึงเปลี่ยนเรื่องคุยจะได้ไม่ทะเลาะกัน
"มีแกงเขียวหวานไก่กับปีกไก่ทอด" ตอนแรกเธอตั้งใจจะถามเขาเรื่องสร้อยแต่คิดว่าเขาคงไม่รู้เรื่องอีกตามเคย ขนาดเสื้อผ้าของเขาเองยังถามเธอตลอด
"อืม เมนูน่าอร่อย เดี๋ยวเฮียขึ้นไปอาบน้ำเดี๋ยวลงมากินด้วย" ร่างสูงใหญ่เดินผิวปากผ่านไป ท่าทางอารมณ์ดีผิดปกติ
ผัดไทยยังคงก้มๆ เงยๆ หาสร้อยต่อไป สร้อยนี้เป็นสร้อยที่ยายให้เธอไว้ก่อนที่ท่านจะเสีย เธอจะหยิบมาใส่เป็นครั้งคราวเพราะกลัวหาย ครั้งนี้รู้สึกไม่ค่อยดีก็เลยหยิบมาใส่ไม่คิดว่าจะหายไป
"ก็คงไม่เจอแล้วสินะ เฮ้อเศร้า.. หรือว่าจะหล่นอยู่ที่โกดัง ใช่ต้องใช่แน่ๆ"วันก่อนเธอไปที่นั่นแต่จะหาเจอไหมนี่แหละคือปัญหา พรุ่งนี้เธอจะลองเข้าไปหาดู
เมื่อหาไม่เจอผัดไทยก็ต้องตัดใจเดินเข้าครัวไปจัดเตรียมกับข้าวให้สามี อารมณ์ของเธอกับเขาวันนี้ต่างกันมาก ชายหนุ่มเดินลงมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มต่างกับเธอที่บึ้งตึงเพราะมัวแต่คิดเรื่องสร้อย
โต๊ะอาหารในครัว
หนึ่งคนกินอย่างเอร็ดอร่อยส่วนอีกคนตักๆ เขี่ยๆ
"เป็นอะไร เขี่ยอยู่นั่นแหละ หรือเศร้าที่จะได้หย่ากับเฮีย ไม่ต้องเศร้าไปหรอกนะ เดี๋ยวก็หาใหม่ได้เองแหละ หรือถ้าหาไม่ได้เฮียมีแนะนำไม่ต้องห่วง แต่ถ้าจะมาง้อให้เฮียกลับไปอย่าเสียเวลาเลยนะ เฮียไม่ชอบเมียขี้บ่นและไม่คิดจะกลับไปเอา ถ้าให้พูดตรงๆ นะผัด มันเหมือนตกนรกเลยวะ ฮ่าๆ เฮียพูดเล่น" เมื่อเห็นสายตาพิฆาตจากเมีย เขาก็บอกว่าพูดเล่น คนหล่อก็งี้แหละ พอเอาเข้าจริงเมียก็ทำหน้าเศร้า คงเสียดายคนหล่ออย่างเขาไง บอกแล้วอย่าเก่ง คนอย่างเขาตัวเลือกมันเยอะ..ต้องเมียใหม่เท่านั้น
ผัดไทยวางช้อนลง มองเขาด้วยสายเอือมระอา เหนื่อยกับการหลงตัวเองของเขา พอจะอ้าปากพูดถามเรื่องสร้อย อีกฝ่ายก็แย่งพูดเสียก่อน
"จะว่าไปไอ้กฤษมันก็ดูสนใจเธออยู่นะ เมื่อวานมันก็โทรมาชมว่าผัดทำกับข้าวอร่อย ฮ่าๆ ว่าแต่เธอก็เสน่ห์แรงเหมือนกันนะผัด ทำเพื่อนเฮียหลงได้ ไม่ธรรมดาวะ เอ้อไอ้เชิดก็อีกคน มันบอกจะมารอต่อคิวคนแรก ฮ่าๆ" ภาคินทร์พูดติดตลกแต่อีกฝ่ายไม่ตลก ซึ่งนิสัยเขาก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ตลกไม่ดูเวล่ำเวลาและคำที่ไม่ควรพูดก็พูดโดยไม่คิด
"ในหัวเฮียก็คงจะมีแต่เรื่องอะไรแบบนี้สินะ เกิดมาเคยมีคำพูดที่ผ่านสมองบ้างไหมหรือไม่เคยมีสมอง" อุ้ยแรง เธอพูดแรงมากจริงๆ ซึ่งผัดไทยก็รู้ตัว เขาทำทุกอย่างเป็นเรื่องเล่นๆ ไปซะหมด หน้าเธอเหมือนคนเล่นมากมั้ง ถ้าคนที่สังเกตก็คงเห็นว่าเธอกังวลและหาอะไรอยู่ถึงได้ลื้อโซฟาลื้อบ้าน คงถามไปแล้วว่าหาอะไร ให้ช่วยหาไหม
"พูดแรงเกินไปหรือเปล่าวะ เฮียก็แค่แซวเล่นอยากให้อารมณ์ดี ถ้ามันพูดดีๆ กันไม่ได้ก็ไม่ต้องพูดกันหรอก" คำพูดของเธอทำเอาเขาไปต่อไม่ถูก ถูกด่าว่าไม่มีสมองมันเกินไปจริงๆ...ไม่เอาแล้วเมียแบบนี้ ไม่เอาแล้ว!!! ดีที่กินข้าวอิ่มพอดี
ร่างสูงใหญ่ลุงขึ้นเดินออกไปจากครัวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครว่าเขาขนาดนี้ นอกจากเมีย!!!
เครียดไปแดกเหล้า..แต่ลืมว่าหมอไม่ให้กิน ก็เลยเดินไปหยิบขวดน้ำเปล่าเข้าห้องนอนชั้นล่าง แดกเหล้าไม่ได้แดกน้ำเปล่าแทนก็ได้วะ มือใหญ่ดึงปิดประตูเสียงดัง ปึ้ง!! แม่งเอาให้ประตูหลุดไปเลย...
ประตูยังซ่อมได้แต่เมียแบบนี้ ต้องทิ้งอย่างเดียว!!!
ภายในครัว ผัดไทยนั่งหลับตาควบคุมสติ เธอพูดกับเขาแรงไปจริงๆ แต่ก็ต้องปล่อยผ่าน ใช่ว่าที่ผ่านมาเขาจะไม่เคยพูดกับเธอแรงๆ เขาพูดให้เธอแรงกว่านี้อีก ตัวเองโดนคืนบ้าง โกรธจะเป็นจะตาย ร่างบางลุกขึ้นยืนเก็บจานนำไปล้าง ทำความสะอาดครัวจากนั้นก็ขึ้นไปนอน
เช้าวันรุ่งขึ้น บรรยากาศในบ้านยังคงคลุมเครือ ภาคินทร์ยังกินข้าวเช้าที่บ้านปกติแต่ที่ไม่ปกติคือไม่พูด คงยังโกรธเธออยู่...แต่เขาก็เป็นแบบนี้หลายครั้ง หลังกินข้าวเสร็จ เขาก็เดินขึ้นไปแต่งตัวด้านบน จากที่เคยพูดใช้ให้ภรรยาหยิบนั่นหยิบนี่ให้ตลอดก็เดินไปหยิบเอง..
ภายในห้องนอน
"วันนี้เฮียจะเข้ามากินข้าวเที่ยงไหม" ที่ถามเพราะเธอจะได้เตรียมไว้ให้ พอไม่เตรียมไว้เดี๋ยวก็บ่นเอาใจยาก
"ไม่" คำเดียวสั้นๆ ก้มลงมองหาน้ำน้ำหอมที่ใช้ประจำไม่เจอก็ไม่อยากถาม ปกติจะถามเมียทุกอย่าง มือหนาหยิบขวดสเปรย์ยาวๆที่วางอยู่มาฉีดตัวแก้ขัด ใบหน้าหล่อติดบึ้งตึงไม่แสดงท่าทางทะเล้นเหมือนทุกครั้ง
ผัดไทยยืนงงที่เขาเอาสเปรย์ฉีดผมของเธอไปฉีดตัว..แต่ก็ไม่ได้พูดห้ามอะไร เก๊กได้ก็เก๊กไป มันก็จะเหนียวๆตัวหน่อยนะ
"แล้วข้าวเย็นละ"ถ้ามถึงข้าวเย็นด้วยเลย
"ไม่" ที่ตอบสั้นเพราะยังโกรธเว้ยย
"ค่ะ" ไม่กินก็ไม่เปลือง คิดว่าเธอจะง้อหรือไง ทุกครั้งที่งอนเธอก็ต้องง้อจนเคยตัว นิสัยเสียแบบนี้อย่าไปทำที่ไหนเชียวนะ ทั้งคู่พูดกันแค่นั้นก็แยกย้าย
ภาคินทร์ขับรถมาที่ลานปล่อยกู้หลังจากเคลียร์งานคุยกับลูกน้องเสร็จ ก็รับเด็กสาวขัดดอกไปกินข้าวในเมืองด้วยกัน ลูกน้องที่เห็นต่างก็ตกใจที่เจ้านายทำเหมือนว่าหย่ากับซ้อผัดแล้ว ถึงได้เปิดตัวคนใหม่
ข่าวลือเรื่องเสี่ยคินทร์กับเด็กขัดดอกดังไปทั่วฟาร์ม
ผัดไทยให้คนงานมาส่งที่ลานปล่อยกูในเวลาสิบเอ็ดโมง เป็นเวลาที่เธอทำงานบ้านเสร็จแล้ว วันนี้เธอตั้งใจจะมาหาสร้อยจากนั้นก็จะไปช่วยงานพ่อเอกในฟาร์ม
เมื่อลูกน้องเห็นว่าใครมาก็ต่างตกใจ
"ซะซ้อสวัสดีครับ" ทุกคนต่างมองตากันเลิ่กลั่ก คิดไปในทางเดียวกันว่าซ้อมาเพราะเรื่องเด็กเลี้ยงของเสี่ย ตายแน่ๆ ซวยแล้ว!!
"สวัสดีจ้ะ ผัดมีเรื่องอยากให้ทุกคนช่วยหน่อย" ผัดไทยยิ้มให้ทุกคน แปลกใจที่ทุกคนดูลนลานมีอาการแปลกๆ เบนโตะมีเหงื่อผุดขึ้นมาเต็มใบหน้า
"มีเรื่องอะไรหรือเปล่า เบนโตะ"เห็นทุกคนสั่นๆเธอก็ตกใจไปด้วย
"ปะเปล่าครับซ้อ ซ้อมีอะไรให้พวกผมช่วยบอกมาได้เลยครับ" กลัวฉี่แทบราด กลัวว่าซ้อจะจับพิรุธได้ ดีที่รถไฟไม่ชนกัน เสี่ยนะเสี่ย ทำไมทำนิสัยเลวแบบนี้
"คือวันก่อน ผัดทำสร้อยหาย ไม่รู้ว่าหล่นอยู่ที่นี่หรือเปล่า เป็นสร้อยเงินสีขาวมีจี้เล็กๆ สีเขียวมรกต" อยากเอารูปให้ดูก็ไม่ได้ถ่ายไว้ มีแต่ถาพไกลๆ มองเห็นไม่ชัด