ในช่วงเย็นของวัน
ผัดไทยลงมาทำกับข้าวให้เขาเหมือนปกติ เมื่อก้าวขาลงบันไดก็ไม่วายได้ยินเสียงบ่นตามหลัง
"นอนอิ่มแล้วละสิ ถึงลงมาได้ หน้าบวมอิ่มหมดแล้วนั่น" ใบหน้าหล่อเงยขึ้นจากโน๊ตบุ๊ค เพื่อพูดจาถากถาง
"ค่ะ นอนอิ่มแล้ว แต่คงไม่อิ่มเท่าเฮียหลอกมั้ง" เธอหันมองเขาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าทำเอาคนฟังงุนงงว่าทำไม
เมื่อร่างบางเดินลับหายไปเขาถึงนึกขึ้นได้ นี่เธอว่าเขาอ้วนหรือเปล่าวะ หรือเขาคิดมากเกินไป
ข้าวเย็นของวันนี้ก็ง่ายๆ กินเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไร คงเหนื่อยที่จะพูดแหละ เถียงกันตั้งแต่เช้ายันเย็น
เวลาสองทุ่มได้เวลานอน..
"วันนี้เฮียนอนห้องข้างล่างนะ" จะหย่ากันแล้วเขาก็ไม่อยากใกล้ ต่างคนต่างนอนดีแล้ว
"ค่ะ เชิญตามสบาย" ผัดไทยไม่ได้ว่าอะไรหลังจากทำความสะอาดครัวเสร็จแล้วเธอก็เดินขึ้นห้อง
ต่างคนต่างนอน ถ้าหากเป็นเวลาปกติที่ไม่ได้เมาภาคินทร์ยังคงเป็นผู้ชายที่มีอีโก้ในตัวเองสูงและไม่เคยรู้ว่าเวลาเมาตัวเองเป็นฝ่ายคลานขึ้นเตียงไปนอนกับเมียข้างบน แต่ตั้งแต่แต่งงานมาก็นับครั้งได้ที่เขาไม่เมา เรียกว่าเมาทุกวัน..
"นอนคนเดียวสบายจะตาย ไม่ต้องกลัวว่ามือจะไปฟาดหน้าใคร"เคยเผลอฟาดหน้าเมียไปครั้งหนึ่งโดนฟาดกลับแทบเห็นดาว วิ้งๆๆ
ร่างสูงใหญ่เดินขากระเพกเข้ามาในห้องนอนชั้นล่าง
ชีวิตดีๆ ที่ไม่ค่อยลงตัว
เช้าวันรุ่งขึ้น
ผัดไทยยังคงทำหน้าที่ทุกอย่างได้ดี เช้าตื่นมาทำกับข้าวเสร็จแล้วก็ทำงานบ้านต่อ วันนี้อาการของภาคินทร์เริ่มดีขึ้น หลังจากกินข้าวเสร็จเขาจึงอาบน้ำแต่งตัวไปที่ลานปล่อยกู้
รถสปอร์ตหรูถูกขับเข้ามาจอดที่โกดัง ทุกคนรู้ว่าเป็นรถใคร เพียงแค่แปลกใจที่วันนี้เสี่ยคินทร์ไม่ขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจมา เมื่อร่างสูงเดินลงจากรถทุกคนก็ยิ่งตกใจที่เขาเดินขากระเพกแปลกๆ
"เสี่ยสวัสดีครับ เสี่ยเป็นอะไรหรือเปล่าครับ" ลูกน้องนับสิบเป็นห่วงรีบวิ่งเข้ามาหา
"กูไม่ได้เป็นอะไร แล้วพวกมึงจัดการทุกอย่างไปถึงไหนแล้ว" หยิบแว่นดำขึ้นสวมให้ดูหล่อโหดยิ่งขึ้น
"ถ้าเมื่อวานไม่ได้ซ้อผัดมาช่วย พวกผมก็คงแย่เลยครับ ซ้อเก่งจนพวกผมทุกคนทึ้งกันหมด หลังจากจบงานซ้อก็ซื้อไก่ทอดมาเลี้ยง พวกผมกินกันจนท้องแทบแตก" ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซ้อผัดมาช่วยงานที่ลานปล่อยกู้ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ซ้อได้เป็นฝ่ายเจรจากับพวกชาวบ้าน
"พวกมึงว่าอะไรนะ ผัดมาที่นี่เหรอ" ภาคินทร์ทำหน้าสงสัย จะเป็นได้ยังไงในเมื่อเธอนอนอยู่ในบ้านทั้งวัน
"อะอ้าว ซ้อไม่ได้บอกเสี่ยหรอกเหรอครับ "เกาหัว เป็นผัวเมียกันจริงปะเนี่ย
"มีอะไรพวกมึงพูดมาให้หมด เมียกูมาทำอะไรที่นี่บ้าง"
เบนโต๊ะเล่าให้เจ้านายฟังตั้งแต่ไปรับซ้อที่บ้าน มาจนถึงพูดคุยกับพวกชาวบ้านที่มาประท้วง ซ้อผัดได้เจรจาอธิบายเรื่องดอกเบี้ยให้ชาวบ้านฟังอย่างละเอียด ละเอียดในแบบที่คนธรรมดาไม่มีทางอธิบายได้และพวกเขาก็มั่นใจว่าเสี่ยก็ทำไม่ได้ ซ้อผัดหารเลขเป็นเปอร์เซ็นต์โดยไม่ต้องใช่เครื่องคิดเลข เรียกได้ว่าทำทุกคนอึ้งกันหมด แล้วยังอธิบายเรื่องดอกเบี้ยได้ละเอียดสุดๆ นับถือความสามารถของซ้อจริงๆ เรียกว่ารู้ลึกรู้จริงและยังสอนพวกชาวเรื่องรายรับรายจ่ายการบริหารเงินจนพวกชาวบ้านต้องเปลี่ยนมาขอบคุณ นึกว่ามารอประชุมไม่ได้มาประท้วง ซ้อทุ่มเทมากใช้เวลาพูดคุยนานเกือบสามชั่วโมงและแค่นั้นยังไม่พอเจ้ยังสั่งไก่ทอดแบรนด์ดังมาเลี้ยงชาวบ้านและเลี้ยงพวกเขาทุกคน พวกเขามีความสุขกินอิ่มกันสุดๆ
ภาคินทร์ยืนฟังอ้าปากพะงาบๆ อยากจะแย้งแต่ลูกน้องเขาก็พูดชมไม่หยุด ไม่รู้ว่าทำไมคนอื่นถึงเห็นไม่เหมือนที่เขาเห็น สำหรับเขาผัดไทยไม่ได้เป็นคนดีคนเก่งอะไรขนาดนั้น หรือนี่จะเป็นแผนของเธอ คนอคติก็ยากที่จะยอมรับ อาจเป็นเพราะเขาไม่เคยสังเกต ไม่เคยสนใจในสิ่งที่เธอทำ
"ที่ผมพูด ผมไม่ได้อวยซ้อนะครับ ทุกอย่างมาจากใจล้วนๆ ถ้าเสี่ยไม่เชื่อก็ถามพวกชาวบ้านหรือคนอื่นๆ ได้เลยครับ" เห็นสีหน้าเสี่ยก็รู้ว่าไม่เชื่อที่เขาพูด
"เออๆ กูเชื่อก็ได้ เอาบัญชีมาให้กูที่ห้องแล้วไปตามมัดหมี่ที่ฟาร์ม มาหากูที่นี่" อวยไม่อวยเขาไม่สน ปกติก็ไม่ได้สนอยู่แล้ว
ภายในห้องทำงานเปิดแอร์เย็นฉ่ำ
ร่างสูงใหญ่สวมเสื้อเชิ้ตสีดำ นั่งไขว่ห้างรอเด็กเลี้ยงขัดดอก เปิดอ่านบัญชีไปมา ถ้าเทียบกับเล่มที่เมียที่บ้านทำ เล่มนี้ไม่ได้เศษเสี้ยว ผัดไทยทำบัญชีให้เขาได้ละเอียดยิบ นั่งไปสักพักเด็กที่เขาต้องการเจอก็มา ใบหน้าหล่อตีเคร่งขรึมทั้งที่ในใจก็แอบยิ้มอยู่นิดๆ ได้เห็นอะไรแบบนี้ค่อยกระชุ่มกระชวยขึ้นมาหน่อย
"เสี่ยคินทร์สวัสดีค่ะ" เด็กสาวใบหน้าจิ้มลิ้มเดินเข้าด้านในตามคำสังของเสี่ยคินทร์ หัวใจของเธอเต้นแรงทุกครั้งที่เจอเสี่ย ต้องเรียกว่าเต้นแรงตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรก
"อืม นอนที่ฟาร์มเป็นไงบ้าง พอนอนได้ไหม มานั่งตรงนี้สิ ฉันจะสอนงาน" เรียกว่าไม่เคยสอนใคร ถูกใจไม่จำเป็นต้องมากพิธี หย่ากับเมียเมื่อไหร่เขาจะให้ไปอยู่ที่บ้าน ทำงานบ้านแทนก็แล้วกัน ขาดแม่บ้านอยู่พอดี
เด็กสาวยกมือเกลี่ยผมขึ้นมาทัดหู ท่าทางเหนียมอาย เธอยังเด็กมากถ้าเทียบกับเขา
"มัดนอนได้สบายมากค่ะ เสี่ยจะให้มัดทำอะไรเหรอคะ" แค่เข้ามาในห้องเธอก็แทบช็อก ถ้าต้องใกล้มากกว่านี้ก็กลัวว่าตัวเองจะไม่ไหว เสี่ยคินทร์หล่อมาก หล่อแบบที่เธอก็ไม่เคยเจอใครที่หล่อได้ขนาดนี้ แต่เธอก็เพิ่งรู้มาว่าเสี่ยมีเมียอยู่แล้ว ตรงนี้ที่ทำให้เธออกหักตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มรัก
"ก็ทำบัญชีอย่างที่เคยบอก พอทำได้ใช่ไหม ถ้าทำไม่ได้ก็บอก ลองเอาไปอ่านดู ถ้าทำได้ก็เริ่มทำวันนี้ได้เลย อะซี๊ดด!!" แค่ขยับตัวผิดท่าก็เจ็บซี๊ดที่ไข่ ยังไม่หายดีแต่เขาก็อยากมา ไม่อยากอยู่บ้านเบื่อเมีย ออกมาเจอเด็กเอ๊าะๆสบายหูสบายตากว่าเยอะ
"เสี่ยเป็นอะไรหรือเปล่าคะ" มัดหมี่ตกใจที่เห็นว่าเขาเจ็บ
"ฉันเจ็บขานิดหน่อยไม่เป็นอะไร ไหนลองทำให้ฉันดูหน่อยซิ" ภาคินทร์ลองให้เด็กสาวนั่งทำบัญชี เด็กสาวนั่งลงเก้าอี้ที่วางอยู่ข้างๆ เขา ก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำเงียบๆ แต่ก็ตัวสั่นมาก
"กลัวฉันหรือไงถึงได้สั่นขนาดนี้" มือใหญ่ยื่นออกไปจับที่ไหล่บางบีบนวดคลึงเบาๆ เด็กสาวสะดุ้งตกใจ
"ปะเปล่าค่ะ มัดไม่ได้กลัว" เธอไม่เคยกลัวใคร แค่ตื่นเต้นที่อยู่ใกล้คนหล่อยิ่งถูกสัมผัสตัวก็สั่นสะท้านไปทั้งร่าง กลิ่นหอมๆ จากตัวเขาทำให้ใจเธอสั่นมาก แต่ต้องท่องเอาไว้ว่าเขาไม่โสด
"มาอยู่แบบนี้ แฟนไม่ตามหรือไง" ถามหยั่งเชิง ว่ามีแฟนยัง
"มัดยังไม่มีแฟนค่ะ" เด็กสาวเงยหน้าขึ้นสบตาแล้วรีบก้มลง
"โกหกผู้ใหญ่มันบาปนะ"
"มัดไม่ได้โกหกค่ะ" เธอไม่เคยมีแฟนเลยด้วยซ้ำ ถ้าพ่อไม่เป็นหนี้เธอก็จะตั้งใจเรียนจนกว่าจะจบ
"แล้วมีแฟนคนล่าสุดเมื่อไหร่" ค่อยๆ หลอกถามไป
"มัดไม่เคยมีแฟนค่ะ"
"อย่ามาโกหก" มองอย่างไม่เชื่อ เด็กสมัยนี้อนุบาลก็มีแฟนแล้ว
"ก็แล้วแต่เสี่ยจะเชื่อ มัดบอกไม่มีก็คือไม่มีค่ะ เป็นเสี่ยหรือเปล่าคะที่มี" เขาถามเหมือนจะจีบเธอ คงลืมว่าเขานั่นแหละที่มีเมีย ถึงเธอจะชอบเขาแต่เธอก็มีศีลธรรมมากพอ
"ฮ่าๆ อีกยี่สิบกว่าวันฉันก็จะหย่าแล้ว หลังจากนั้นก็โสด"เขาดูออกว่าเด็กสาวมีใจให้เขาตั้งแต่แรก เธอก็แค่ตัวเลือกของเขาในช่วงเวลาโสด สาเหตุที่ภาคินทร์ต้องรอหย่าถึงจะมีใหม่ได้เพราะเป็นกฎเหล็กตั้งแต่เริ่มแรกและเขาก็ไม่ใช่คนผิดคำพูด
"จริงเหรอคะ" เด็กสาวแววตาเป็นประกาย ดูดีใจเกินหน้าเกินตา
"ดีใจขนาดนี้ ชอบฉันอยู่แล้วหรือไง" เขามันคนหล่อใครๆ ก็ชอบ
"เอ่อคือมัด..มัดแค่ตกใจ" ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าใจเธอเต้นแรงแค่ไหน ถ้าเขาโสดเธอก็ไม่ติด
"เอาไว้ฉันหย่ากับเมียก่อนนะ ถ้าอยากอยู่ที่นี่ก็ทำตัวดีๆ เชื่อฟังฉันเข้าใจไหม" มือใหญ่ยกขึ้นลูบผมเด็กสาวเบาๆ
"ค่ะ มัดจะเชื่อฟังเสี่ยทุกอย่าง"
ภาคินทร์เพิ่งจะสังเกตว่าเด็กสาวมีชื่อคล้ายกับภรรยา คนหนึ่งชื่อผัดคนหนึ่งชื่อมัด นี่เขาจะหนีไม่พ้นชื่ออะไรแบบนี้ใช่ไหม..
"ดีมาก ช่วงนี้ก็อยู่เงียบๆ ไปก่อนนะ เดี๋ยวทุกอย่างดีขึ้น ฉันจะให้ย้ายไปอยู่ที่บ้านไปทำงานบ้าน นอนห้องแอร์เย็นๆ"
"ขอบคุณค่ะเสี่ย ขอบคุณที่เมตตาหนูนะคะ" เด็กสาวก้มลงกราบกลางอก เสี่ยหนุ่มก็กอดปลอบลูบหลังไม่ห่าง ยังไม่ทันหย่าหางก็เริ่มโผล่ให้เห็น
"ไม่เป็นไร ฉันชอบคนกตัญญู" ก้มลงหอมหัวเด็กหนึ่งที กลิ่นเด็กนี่มันดีจริงๆ หอมชื่นใจ