ปึงๆๆๆ
“อื้อๆ มะ
ไม่ไหวแล้ว นายท่านคะ
อ๊าย!!”
“หันไปสิวะ อื้อ ถ้าฉันยังไม่พอใจเธอก็ห้ามหลับ!”
ปึงๆๆๆ
“จะขาดใจแล้ว อ๊าๆ
แรงเกินไป อ๊า”
“โว้ย!!! ไม่ไหวแล้วเว้ย
เอากันเบาๆหน่อยได้มั้ยคะคนจะนอน!!” นี่มันเกิดเหตุฆาตกรรมกันข้างห้องฉันหรือเปล่าเนี่ย!
เสียงบ้านี่มันไม่หยุดมาห้าชั่วโมงแล้วนะและเหมือนว่ามันจะไม่หยุดง่ายๆด้วย
...คนบ้าอะไรมันจะอึดได้ขนาดนั้นวะ
ตึงๆๆๆ
“ไอ้โรคจิต!!! ....ฮือ
ฉันง่วง ฉันอยากนอน”
ฉันเอาทั้งเอียร์ปลั๊กมาใส่ทั้งเอาหมอนปิดหูก็ไม่ช่วยให้เสียงทุเรศพวกนี้หยุดเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้เริ่มสงสัยแล้วว่าซื้อคอนโดราคาหลายสิบล้านเพื่อมาฟังเสียงทุเรศๆแบบนี้น่ะเหรอ
“เออ! ไม่นอนก็ได้เว้ย
ไปนอนโซฟาก็ได้” ฉันขนหมอนกับผ้าห่มลากไปที่โซฟาด้านนอกก่อนจะทิ้งตัวลงนอนหลับอย่างสบายใจ
เห้อ การนอนนี่มันดีต่อใจฉันจริงๆ
Rrrrrrrrr
เว้ยย อะไรกันนักกันหนา
คนจะนอนเนี่ย
“ว่า! ถ้าโทรมาเรื่องไร้สาระขอวางค่ะ”
(แหม เรื่องถ่ายแบบนี่ไร้สาระมั้ยคะลูกสาว)
เสียงแบบนี้มันเจ๊สวยนี่หว่า! ซวยแล้วไอ้กิเอ้ยย
“แหะๆ กินึกว่าพวกประกันโทรมาอ่ะ
งานอะไรคะ ค่าตัวเท่าไหร่”
(มาที่บริษัทเดี๋ยวจะบอกให้ทุกอย่าง แล้วก็มาไวๆนะจ้ะเพื่อนหล่อนนั่งกันหน้าสลอนเลยเนี่ย)
“เอ้า พวกมันก็รับด้วยเหรอ
กรี๊ดด เดี๋ยวรีบไปเลยค่า”
ฉันหยิบเสื้อมาสวมแล้วเดินออกจากห้องในชุดเสื้อเอวลอยสีขาวกับกางเกงวอร์มสีดำ
ก็แหมปกติเวลาผู้หญิงอยู่ห้องเขาใส่เสื้อกันที่ไหนเล่า
จริงมะ?
“พวกคนบ้า กลางวันแสกๆยังฟัดกันเสียงดังขนาดนี้
หึ่ย ขนลุก”
ฉันเดินผ่านห้องข้างๆก็ยังได้ยินเสียงครางของสองคนนั้นอยู่เลย
คิดแล้วก็ขนลุก ผู้หญิงคงช้ำในตายไปแล้วมั้งโดนทำรุนแรงขนาดนั้นน่ะ
“โชคดีนะเธอ ขอให้ปลอดภัย”
PD ON
ปึกๆๆๆๆ
“แฮ่กๆ ไม่ไหว
ไม่ อื้อ...”
ผู้หญิงคนนี้อยู่ๆก็หลับไปเฉยเลย อะไรวะ! ยังไม่ทันระบายอารมณ์ออกหมดเลยแค่ห้าชั่วโมงกว่าเอง
ผมไม่นิยมมีอะไรกับศพหรอกนะ ไอ้ประเภทคนหลับแล้วลักลับมันไม่เร้าใจว่ะ
หึ
“ให้แม่บ้านขึ้นมาทำความสะอาดแล้วเตรียมรถฉันจะไปร้านไอ้ทอย”
เศษถุงยางใช้แล้วกระจายเกลื่อนทั่วห้องไม่ต้องอธิบายให้มากความ
พวกลูกน้องก็ชินแล้วที่เห็นภาพแบบนี้เพราะผมเป็นพวกมีอารมณ์ทางเพศสูงและมีรสนิยมที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษ
...อย่างเช่น การมีเซ็กแบบรุนแรงให้คู่ขาเจ็บตัว เป็นต้น
“แล้วคุณซินดี้ล่ะครับ” อืม
ชื่อซินดี้เหรอ? ผมโบกมือไล่ให้เอาไปไว้ที่อื่น
ก่อนจะจุดบุหรี่ขึ้นสูบจนเต็มปอดแล้วปล่อยออกมาในครั้งเดียว
“โอนเขาบัญชีไปตามชั่วโมงที่ทำได้” พวกลูกน้องก้มหัวแล้วเดินออกไปด้านนอก ห้องกลับเป็นห้องเหมือนเดิมไม่มีกลิ่นคาวสวาทหลงเหลืออีก
...นี่ผมใช้ชีวิตแบบนี้มานานขนาดไหนแล้ววะ
หรือตั้งแต่ตอนนั้น
“เห้อ ช่างแม่ง
คิดแล้วปวดหัวเลิกคิดเหอะ” ผมเดินเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกาย
รอยสักที่เพิ่มมาในแต่ละปียิ่งทำให้รู้ถึงลิมิทความซาดิสม์ของผมว่ามันเพิ่มมากขึ้นขนาดไหน
“นายครับ ...คุณนายโทรมาครับ”
ผมรับโทรศัพท์มาเปิดลำโพงแล้วโยนมันทิ้งไว้ที่โซฟา
...อยากจะรู้นักว่าจะโทรมาพูดอะไรอีก
(แผ่นดิน ทำไมถึงไม่กลับบ้านเลยล่ะพ่อเธอคิดถึงมากนะ)
น้ำเสียงยั่วยวนน่าสะอิดสะเอียนทำให้ผมแทบขย้อนอาหารที่เพิ่งกินไปออกมาอย่างง่ายดาย
“อืม แล้วไง?”
(ฉันก็คิดถึงเธอนะ ...คิดถึงเรื่องเมื่อหลายปีก่อนด้วย
กลับมาอยู่บ้านได้แล้วนะ) ลูกน้องเห็นว่ามันคือเรื่องส่วนตัวก็ขอที่จะเดินออกไปแต่ผมยกมือไม่ให้มันเดินออกไป
...ความแพศยาของผู้หญิงคนนี้มันไม่ได้จบแค่คำพูดพวกนี้หรอก
“คิดถึงฉันหรือคิดถึงไอ้นั่นของฉันกันแน่ คุณแม่เลี้ยง” แทนที่เธอจะโมโหที่ผมพูดแบบนั้นกลับหัวเราะแบบชอบใจซะอีก
(จริงๆก็คิดถึงทั้งสองอย่างนั่นแหละแต่คิดถึงอย่างหลังมากกว่า)
“ร่าน! เก็บคนงานที่บ้านฉันไปกี่คนแล้วล่ะ
ตรวจโรคบ้างก็ดีนะระวังจะตายก่อนได้เป็นคน” ผมตัดจบด้วยการตัดสายทิ้งแล้วโยนโทรศัพท์ลงตู้ปลาก่อนจะแต่งตัวเพื่อเตรียมออกไปข้างนอก
“เอ่อ นายครับ”
มาร์คทำหน้าอึดอัดใจ ผมก็เข้าใจนะว่าทุกครั้งที่แม่นั่นโทรมามาร์คจะต้องอยู่ฟังความแพศยาที่ผู้หญิงคนนี้พูดจนจบทุกครั้ง
ที่มันต้องทนเพราะว่าผมสั่งยังไงล่ะ
“ไม่ต้องคิดมากหรอก มึงควรจะชินได้แล้ว”
ผมพูดแค่นั้นแล้วเดินไปขึ้นรถทันที โทรศัพท์เครื่องใหม่ถูกวางไว้ที่รถเรียบร้อยพร้อมกับข้อความจากเพื่อนชั่วๆที่ผมคบอยู่ด้วย
-ของพนันมาถึงแล้วเหลือแค่มึงคนเดียว-
“หึ แบบนี้ค่อยน่าสนุกหน่อย” ทันทีที่รถเคลื่อนตัวมาจอดหน้าร้านไอ้ทอย
ใจผมนี่แม่งเต้นแรงอย่างกับเด็กที่รู้ว่ากำลังจะได้ของเล่นชิ้นใหม่จากพ่อแม่
...ที่มันน่าตื่นเต้นกว่าปกติคือของเล่นชิ้นนี้มีชีวิตยังไงล่ะ!
“ไหนวะ ของพนันชิ้นใหม่”
พวกมันมองไปที่สาวๆสี่คนที่กำลังโพสท่าเซ็กซี่ตามคอนเซปต์ที่พวกเราตั้งไว้ตั้งแต่แรก
ทุกคนสวยมาก สวยทั้งหมดแต่ไม่รู้ทำไมสายตาผมถึงตามมองแต่ผู้หญิงคนนั้นอยู่ตลอดเวลาเลยวะ
“เจอเหยื่อแล้วดิมึง” ผมไม่ตอบอะไรแต่กลับมองสำรวจร่างกายเธอจนแทบจะทะลุปรุโปร่ง
แค่มองเท่านั้นเองดูเหมือนว่าลูกชายผมก็ตื่นตัวเต็มที่ซะแล้ว
...เธอมันแม่มดชัดๆ
“พายัยนั่นไปรอในห้องดิ๊” ลูกน้องผมลากพนักงานหญิงที่รุปร่างดีในระดับนึงเข้าไปในห้องซึ่งเธอก็เหมือนจะเต็มใขที่จะเดินเข้าไปด้วยซ้ำ
“กูไปปล่อยของก่อน แล้วเดี๋ยวออกมา”
ผมพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินเข้าห้องไป
“รู้งานดีนี่ ...รูดซิบฉันลงก็พอแล้วก็ขึ้นให้เสร็จ”
จากตอนแรกที่เธอทำหน้าเอียงอายตอนนี้กลับแปลงร่างเป็นเสือสาวที่พร้อมจะขย้ำผมให้จมเขี้ยว
เหอะๆ มาดูกันว่าใครจะจมเขี้ยวใคร
“มองอะไรอ่ะ เริ่มดิเสียเวลา”
“ได้ค่ะ นายท่าน”