ขยี้ครั้งที่ 2 - เลี้ยงไม่เชื่อง

2084 Words
“ทะ ที่รัก มันไม่ใช่แบบที่ยูคิด เบบี๋...ไออธิบายได้” แบรนดอนถลาตัวเข้าหาแฟนสาวอย่างหมดท่า ตื่นตกใจจนลืมไปว่าตัวเองมีสภาพที่ไม่น่ามองเท่าไหร่ และนั่นยิ่งทำให้จิรัชญารู้สึกรังเกียจ ร่างกายสูงใหญ่ของหนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกันเปลือยเปล่า เนื้อตัวยังหลงเหลือร่องรอยจากเซ็กซ์ก่อนหน้า ทั้งรอยกัด รอยดูด รอยเล็บ ยกเว้นตรงนั้นที่แห้งเหี่ยวไม่เหลือสภาพตั้งแต่เห็นหน้าแฟนสาวอย่างเธอ แฟนสาวที่ไม่ใช่แค่แฟน แต่เป็นเหมือนบ่อเงินบ่อทองที่ปล่อยให้หลุดมือไปไม่ได้ หลังจากคบหากัน นายแบบปลายแถวอย่างเขาก็มีงานเข้ามาไม่ขาดสาย ใคร ๆ ก็อยากจ้างงานคนที่กุมหัวใจนางร้ายนิสัยเสียที่ไม่เคยเห็นหัวใครอย่างเธอทั้งนั้น สามเดือนที่ผ่านมาแบรนดอนไต่เต้าจากนายแบบโนเนมไม่มีใครรู้จัก เป็นนายแบบระดับกลาง ๆ ที่มีงานเข้ามาตลอดได้ก็เพราะคบหากับเธอ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าผู้ชายหลาย ๆ คนเข้าหาตัวเองเพราะอะไร เพราะรู้...จิรัชญาถึงไม่เคยมอบใจให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น ที่ยอมคบกับแบรนดอนก็ไม่ใช่เพราะความรัก เธอแค่ต้องการใครสักคนที่คอยเอาอกเอาใจ คอยตามใจ ไม่มีปากเสียงให้ระคายหู และแบรนดอนก็ทำได้ดีมาตลอด เธอถึงคบหากับเขาได้นานกว่าใคร แต่สุดท้ายก็เหมือนกันหมด พวกผู้ชายมันเลี้ยงไม่เชื่อง ไม่รู้จักพอ ถมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม “อย่าเอาเนื้อตัวสกปรกโสมมของยูมาใกล้ไอ ขยะแขยง” สายตาที่ใช้มองแฟนหนุ่มเต็มไปด้วยความหยามเหยียด “ที่จริงไอไม่ควรเปรียบเทียบยูกับหมาด้วยซ้ำ เพราะหมาบางตัวมันยังรู้จักเลือก แต่ยู...มั่วยิ่งกว่าหมา” “เบบี๋” แบรนดอนคุกเข่าลงกับพื้น ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวด้วยความทุกข์ตรม ปกติจิรัชญาไม่ใช่คนปากหวาน แต่ก็ไม่เคยถึงขั้นต่อว่ารุนแรงขนาดนี้ หญิงสาวลุกขึ้นยืน ปรายตามองร่างที่คุกเข่าหมดสภาพบนพื้นอย่างสมเพช ก่อนจะตวัดสายตามองคนที่อยู่บนเตียง ได้ยินว่าหล่อนเรียกเธอว่าพี่จี จิรัชญาพอจะคุ้นหน้าอยู่บ้าง เหมือนจะเคยเล่นละครด้วยกัน แต่จำไม่ได้ว่าหล่อนชื่ออะไร ดวงตาคู่สวยคมกริบราวกับใบมีด มองสำรวจเรือนร่างที่สั่นเป็นลูกนกใต้ผ้านวมผืนใหญ่ หล่อนไม่กล้ามองตาเธอด้วยซ้ำ ริมฝีปากเล็ก ๆ นั่นถูกฟันคมขบกัดจนห้อเลือด “กล้าแอบกินของ ๆ คนอื่นลับหลัง ก็กล้า ๆ มองหน้ากันหน่อย” “.....” “ไม่รู้หรือไงว่าแบรนดอนคบหากับฉันอยู่?” จิรัชญาแสร้งถามทั้ง ๆ ที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว คนที่สนใจวงการบันเทิงไม่มีใครไม่รู้ว่าแบรนดอนเป็นแฟนของเธอ พวกเราออกงานด้วยกันหลายครั้ง และเธอก็ไม่เคยปิดบังสถานะ ยิ่งคนในวงการเดียวกันยิ่งไม่มีทางที่จะไม่รู้ มีแต่พวกที่รู้ดี...แต่ก็ยังกินไม่เลือก ยิ่งคิดว่าได้กินของต่อจากจิรัชญาก็ยิ่งภูมิใจ คิดว่าตัวเองชนะที่นอนกับแฟนของเธอได้ น่าสมเพช “เบบี๋” “ไอไม่ได้ถามยูแบรนดอน” เธอเอ่ยเสียงเรียบ เพียงแค่นั้นหนุ่มลูกครึ่งตัวใหญ่ก็ปิดปากฉับ “ว่าไง ถามไม่ได้ยินเหรอ?” “ได้ยินค่ะ” “ได้ยินก็ตอบ” “...ค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงสั่นเครือด้วยความกดดัน หล่อนหลุบตามองคู่นอนที่ไม่ปกป้องกันสักนิด ก่อนจะตอบคำถามอย่างคนที่ไม่มีอะไรจะเสียอีกต่อไปแล้ว “รู้ค่ะ รู้ดีเลย” “แปลว่าตั้งใจสินะ รู้ทั้งรู้แต่ก็ยังนอนกับเขา” “ค่ะ” “ดี ฉันชอบคนพูดตรง ๆ แบบเธอ ไม่ใช่เอาแต่เสแสร้งเล่นละคร มันน่ารำคาญ” จิรัชญาแสยะยิ้ม เธอก้าวเข้าไปใกล้คนบนเตียง โน้มตัวลงจนสายตาอยู่ในระดับเดียวกัน “เด็กน้อย เธอยังอ่อนต่อโลกนัก” “.....” “นึกยังไงถึงยอมนอนกับผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่ไม่มีอะไรเลยถ้าไม่มีฉัน มันคุ้มแล้วเหรอ?” “จี! พอได้แล้ว” คราวนี้แบรนดอนลุกขึ้นยืน เอ่ยปรามแฟนสาวเสียงดังอย่างไม่พอใจ สิ่งที่จิรัชญาพูดคือเรื่องจริง แต่มันเป็นเรื่องจริงที่เขาไม่อยากฟัง เรื่องจริงที่ทำให้ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายตกต่ำ ว่าเขาเป็นผู้ชายที่เกาะแฟนสาวเพื่องานและชื่อเสียง แต่จิรัชญาไม่ยอมหยุด “ถ้าคิดว่าได้ผู้ชายคนนี้ไปแล้วจะทำให้ตัวเองอยู่เหนือกว่าฉัน เธอคิดผิด เพราะต่อให้ฉันเสียผู้ชายคนนี้ไป ชีวิตของฉันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กลับกัน... ถ้าแบรนดอนเสียฉันไป เธอลองถามเขาดูสิว่าเขาจะสูญเสียอะไรบ้าง” “ฮึก” “พูดแบบนี้ ไม่ได้แปลว่าฉันจะลดตัวลงไปแย่งผู้ชายคนนี้กับเธอหรอกนะ อยากได้นักก็เอาไป เพราะถึงเธอไม่เอา...ฉันก็จะทิ้งเขาอยู่ดี” “เบบี๋ ไม่ทำแบบนี้นะ!” แบรนดอนพุ่งเข้าไปกอดแฟนสาว แต่ก็คว้าได้แค่อากาศเพราะร่างระหงขยับหนีทันที “ที่รัก ไอขอโทษ ไอผิดไปแล้ว เราไม่เลิกกันนะ” “ยูมีสิทธิ์ร้องขออะไรด้วยเหรอ?” “เบบี๋...” “ส่วนเธอ ผู้ชายคนนี้ฉันยกให้ แล้วก็ไม่ต้องเอากลับมาคืนนะ เพราะฉันไม่นิยมใช้ของเก่าที่ทิ้งไปแล้ว” “จี!!” พูดจบจิรัชญาก็รีบเดินออกมาจากห้องนั้นทันที ราวกับว่าถ้าทนอยู่ต่ออีกเพียงเสี้ยววินาที เธออาจจะติดเชื้อโรคความมั่วไม่เลือกจากสองคนนั้น “จี ฟังไอก่อน!” ประตูลิฟต์ปิดลงก่อนที่แบรนดอนจะแทรกตัวเข้ามาได้ จิรัชญาถอนหายใจยาว วันนี้เธอก้าวขาออกจากจากเพนท์เฮ้าส์ผิดข้างหรือยังไงนะ ถึงได้มีแต่เรื่องแบบนี้ พูดตามตรง เธอไม่ได้รู้สึกเสียดายแบรนดอนเลยสักนิด อย่างที่บอกว่าเธอไม่ได้รักเขา...ไม่เคยรักใครทั้งนั้น ทุกคนที่เคยคบหาด้วยก็เป็นฝ่ายชายที่เข้ามาจีบก่อนทั้งนั้น ตอนมาจีบก็แสนดี บอกว่ารับได้ทุกอย่าง แต่พอเจอนิสัยเอาแต่ใจ ปากร้าย ใครร้ายมาก็ร้ายตอบของเธอก็คบกันได้ไม่นานสักคน มีแค่แบรนดอนที่ทนเธอได้มากที่สุด และเธอก็คิดไว้ว่าอาจจะคบกับเขาไปเรื่อย ๆ เพราะถึงไม่ได้รัก แต่อยู่ด้วยก็ไม่ได้ลำบากใจอะไร อีกฝ่ายเทคแคร์ดี โรแมนติกและเอาใจใส่แบบที่ชอบ เราต่างก็ได้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ในครั้งนี้ เธอได้คนคอยเอาอกเอาใจ ส่วนเขาก็ได้งาน ได้ชื่อเสียงเงินทองเพราะคบหากับเธอ มันก็วินวินทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เหรอ? แต่ก็อย่างที่เห็น สุดท้ายก็ไม่ซื่อสัตย์ ถึงเธอจะร้ายจะแรงแค่ไหน แต่เวลาคบใครเธอคบทีละคน เธออาจจะไม่ใช่แฟนที่ดี แต่ก็ไม่เคยทำตัวมั่วสำส่อนแบบนี้ และที่สำคัญ เธอเกลียดคนประเภทนี้ที่สุด อย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลย คำขอไม่เป็นผล เพราะเดินออกจากลิฟต์ได้ไม่นานแบรนดอนก็วิ่งตามมาติด ๆ สภาพของเขายิ่งทำให้เธอรู้สึกสมเพชเข้าไปใหญ่ อดีตแฟนหนุ่มลูกครึ่งสวมใส่แค่ชุดคลุมอาบน้ำตัวเดียว วิ่งกระหืดกระหอบมาดักหน้าเธออย่างไม่ยอมแพ้ “เบบี๋! ที่รัก ฟังไอก่อน” “ไม่จำเป็นต้องฟังอะไรทั้งนั้น ไอไม่ได้ตาบอด สิ่งที่ไอเห็นมันชัดเจนทุกอย่างแล้ว” เธอตอบกลับเสียงเรียบ “หลีกไป” “ไม่!!” กฤตินเงยหน้าขึ้นจากเอกสารเพราะเสียงที่ค่อนข้างดังนั้น เขาเห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังพูดคุยบางอย่างกัน มันดูไม่ปกติเพราะฝ่ายชายอยู่ในสภาพไม่น่าดู ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็คือคนที่เขาเคยเห็นก่อนหน้านี้ ไม่ใส่แว่นดำแล้วสวยกว่าเดิมอีก “อย่าพูดไม่รู้เรื่องนะแบรนดอน หลีกไป ไอไม่อยากเห็นหน้ายูอีก” หญิงสาวชุดแดงตอบกลับด้วยเสียงที่ราบเรียบและเบากว่าฝ่ายชายหลายเท่า แต่กฤตินที่นั่งห่างออกมาไม่ถึงเมตรได้ยินทุกคำ ดูเหมือนจะเป็นคู่รักที่กำลังทะเลาะกัน ทั้งคู่ไม่เห็นว่ามีเขานั่งอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ กฤตินทำเหมือนไม่สนใจแต่ลอบฟังอยู่ตลอด ไม่ใช่เพราะเขาอยากยุ่งเรื่องของชาวบ้าน แต่ยังไงอีกคนก็เป็นผู้หญิง ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลจะได้ช่วยเหลือได้ทัน “ไม่อยากเห็นหน้า หรือแค่ไม่กล้ายอมรับความจริงว่าเรื่องวันนี้ยูเองก็เป็นคนผิด” “ไอเนี่ยนะเป็นคนผิด? ไอเป็นคนชี้นิ้วสั่งให้ยูไปเอากับผู้หญิงคนอื่นเหรอ?” “ถ้ายูเป็นแฟนที่ดี ไอจะมีคนอื่นเหรอ?” “ไอ้!!” จิรัชญาโกรธจนหัวร้อนไปหมด มีอย่างที่ไหน ตัวเองสำส่อนเองแต่มาโทษว่าเป็นความผิดของเธอได้หน้าตาเฉย นี่เธอทนคบกับผู้ชายคนนี้มาได้ยังไงตั้งสามเดือน “หรือที่ไอพูดมันไม่จริง เพราะยูไม่เคยสนใจไอเลย คบกับไอ แต่ทำเหมือนไอเป็นคนอื่น โทรไปก็ไม่รับ ข้อความก็ไม่ตอบ นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป ไอไม่ใช่ของตายนะ!” “ก็ไอทำงาน ก่อนไอจะคบกับยู ยูก็บอกเองไม่ใช่เหรอว่ารับได้ ไอก็เป็นของไอแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ถ้ายูรับไม่ได้ทำไมไม่เลิก ไปนอนกับคนอื่นทั้ง ๆ ที่ยังคบกันแบบนี้แล้วจะบอกว่าตัวเองไม่ผิดเหรอ? ยูนี่มัน.. ไม่เคยโทษตัวเองเลยสินะ” “ยูก็ไม่เคยโทษตัวเองเหมือนกันนั่นแหละ!” หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ เสียงของแบรนดอนทำให้เริ่มมีไทยมุงมองมาอย่างสนอกสนใจ หลายคนหยิบมือถือขึ้นอัดคลิป ดูเหมือนว่าพรุ่งนี้เธอจะมีหัวข้อข่าวให้ชาวบ้านเมาท์ถึงสองเรื่องด้วยกัน เรื่องแรก วีนสไตลิสต์ เรื่องที่สอง ทะเลาะกับแฟนที่ล็อบบี้คอนโด “ในเมื่อไอเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่อง งั้นเราเลิกกันก็ถูกแล้ว จบนะ” จิรัชญาสรุป บทสนทนาก่อนหน้าไม่มีใครได้ยินว่าเธอเจอกับอะไรมาบ้าง ต่างจากตอนนี้ที่หลายคนหันไปซุบซิบนินทาเพราะได้ยินชัดเจน สิ่งที่เธอพูดน่าจะกลายเป็นหัวข้อหลักของข่าว ‘ราชินีของวงการบันเทิงโดนแฟนทิ้งเพราะทำตัวแย่จนเกินจะรับไหว’ อะไรทำนองนี้ และเธอก็ไม่คิดจะแก้ข่าวด้วย เพราะแก้ไปก็ไม่มีใครฟังอยู่ดี อยากเชื่อแบบไหนก็เชื่อไปเถอะ จิรัชญาปรายตามองใบหน้าหล่อเหลาของแฟนเก่าเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไป ท่าทีของเธอดูไม่เสียใจเลยสักนิดที่เพิ่งเลิกรากับคนรัก ต่างจากนายแบบหนุ่มที่ถึงกับหมดแรงยืนไม่ไหว และทันทีหญิงสาวก้าวขาพ้นจากคอนโดไป เสียงซุบซิบที่ไม่เบาก็ดังขึ้นตามหลังยิ่งกว่าเงาตามตัว “อีกแล้ว เธอเลิกกับแฟนอีกแล้ว” “เชื่อสิว่าอีกไม่นานก็มีใหม่ คนแบบนั้นโสดได้ไม่นานหรอก” “แต่ก็คบได้ไม่นานเหมือนกัน ใครมันจะไปทนนิสัยได้ ร้ายกาจขนาดนั้น” “คนนี้ถือว่าเก่งมากนะ ทนคบมาได้ตั้งสามเดือน ไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้โชคร้ายคนต่อไป” “เฮ้อออ ฉันล่ะสงสารผู้ชาย” เหมือนทุกคนจะเลือกโทษฝ่ายหญิงกันหมด คงเพราะท่าทีของฝ่ายชายที่เหมือนผู้ถูกกระทำมากกว่า แต่คนที่ได้ยินมาตั้งแต่ต้นอย่างกฤติน กลับไม่เห็นด้วย ผู้ชายคนนี้นอกใจเธอ ไม่เลิกสิแปลก แต่ในเมื่อตัวเธอเองยังไม่คิดจะแก้ต่างให้ตัวเอง เขาก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่ง มันไม่ใช่เรื่องเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD