ทะเลาะกันหรือเปล่า

1271 Words
ตอนที่7 ทะเลาะกันหรือเปล่า ร่างบอบบางของพริตายังคงอยู่ที่เดิมแม้เวลาผ่านมาราวชั่วโมงแล้ว ดีแลนยังใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติแม้ว่าหญิงสาวจะเอาแต่ร้องไห้อยู่ตรงนั้น “ว่าไง” “เมื่อคืนนายทะเลาะกับแพรหรือเปล่า แพรไม่อยู่ห้อง” เสียงของแคลอรีนที่ดังขึ้นจากสมาร์ทโฟนทำให้พริตารีบเงยหน้าขึ้นและก็ต้องเจอกับรอยยิ้มที่เธอเกลียดที่สุด “ทะเลาะกันนิดหน่อย แต่ไม่ได้รุนแรง” “ฉันโทรหาแพรก็ไม่รับสาย ไม่รู้ว่างอนหรือเปล่า ว่าแต่นายไม่ได้ทำให้แพรโกรธอีกใช่มั้ย” ดีแลนไม่ได้ตอบปลายสายแต่เลิกคิ้วขึ้นต้องการคำตอบจากอีกคนแทน “แดน นายทำอะไรอยู่เปิดประตูห้องให้ฉันสิ” กริ๊ง ๆ ๆ เพราะไม่รู้รหัสใหม่ทำให้แคลอรีนต้องยืนรอพร้อมกดกริ่งเรียก ดีแลนหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทำท่าจะเดินไปที่ประตูร่างบางจึงร้องห้ามเขาเอาไว้ “อย่านะแดน!” “อะไรนะ” “อย่าเปิดประตู” “แคลรออยู่ ทำไมถึงไม่ให้เปิด” “แพรไม่อยากให้ใครมารู้เรื่องทุเรศนี่” สองเท้าหนาเปลี่ยนเป้าหมายมาที่พริตาแทนแม้เสียงกริ่งจะดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาย่อตัวลงนั่งจนใบหน้าเกือบจะอยู่ในระดับเดียวกัน “อื้อออ” สองมือจับล็อคใบหน้าเรียวเล็กของเธอไว้แน่นและยัดเยียดจูบป่าเถื่อนให้กับเธอให้สาสมกับอารมณ์ที่ครุกรุ่น ‘เรื่องทุเรศอย่างนั้นเหรอวะ’ “อื้ออ” ใบหน้าสวยสะบัดตามแรงเหวี่ยงของมือหนา พริตาจ้องเขาผ่านม่านน้ำตาอย่างเจ็บใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย “ถ้าไม่อยากให้ใครรู้เรื่องทุเรศนี้ก็อย่าดื้อด้านกับฉัน” “เกลียดอะไรเแพรหรือเปล่าแดน ทำไมถึงได้ทำกันขนาดนี้” “ไม่ต้องสงสัยความรู้สึกของฉัน จำเอาไว้” หญิงสาวปิดเปลือกตาลงเมื่อดีแลนกำลังเลียริมฝีปากของเธออย่างน่าขยะแขยง เธอกำมือแน่นเมื่อทำได้แค่อดทน “อ่อ อย่าคิดให้ใครมาซ้ำรอย รอให้ฉันคายเธอทิ้งซะก่อนแล้วจะไปเอากับใครก็ไป” “ฮือออ” เขาพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไปจากห้องนี้ พริตาไม่รู้ว่าเขาออกไปไหน หรือแค่ออกไปเจอแคลอรีนที่ยืนรออยู่ เธอยังคงร้องไห้อยู่ตรงนั้นจนขมับทั้งสองข้างปวดตุบ กระบอกตาร้อนผ่าว ครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนตอนที่เป็นไข้ไม่มีผิด ..... เพราะเป็นวันอาทิตย์ที่ปกติก็แยกย้ายกันใช้ชีวิตแคลอรีนเลยไม่ได้รู้ว่าพริตายังอยู่ที่นี่เพียงแต่ไม่ใช่ห้องของเธออย่างที่ควรจะเป็น “ป่านนี้แล้วทำไมแพรยังไม่มาอีกนะ” “อาจจะมาเช้าหรือเปล่า พรุ่งนี้เรียนบ่ายนะ” “จริงด้วย ฉันโทรก็ไม่รับ” ตอนนี้ทั้งสามอยู่ในห้องของแคลอรีน ทั้งที่ปกติควรไปนั่งกันอยู่ที่ผับหรือเขาควรอยู่ในห้องของผู้หญิงคนหนึ่งกับถุงยางสองสามชิ้น “เออ เมื่อเช้าฉันเจอถุงยางในห้องแพร” “แล้ว?” “ก็แพรคุย ๆ อยู่กับรุ่นพี่ปีสี่คณะสถาปัตย์” “แล้วยังไงต่อ” วชิรวิชญ์ถามลองเชิงเผื่อว่าจะทำให้คนแถวนี้แสดงอาการอะไรบางอย่างออกมา ‘แต่มันยังนิ่งอยู่’ “โอ้มายก็อด ไซส์ห้าสิบแปดไม่น่าเชื่อ ถ้าเป็นลูกครึ่งอย่างแดนก็ว่าไปอย่าง” “แปลกอะไร ฉันก็ห้าสิบแปด” “โม้” “อาจจะไม่ใช่ของไอ้เวรนั่น” “บ้าเหรอแดน ไม่ใช่ของพี่คินแล้วจะเป็นของใครก็แพรบอกว่าคุยกับพี่เขาอยู่” ดีแลนทำเพียงยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มปล่อยให้ลูกพี่ลูกน้องงงอยู่กับคำถามนั้น ตั้งแต่ออกมาจากห้องนี่ก็หลายชั่วโมงแล้วไม่รู้ว่าพริตายังอยู่หรือดื้อกับเขา พรึ่บ “อะไรวะ ยังไม่ทันเมา” “เบื่อ มึงอยู่กับยัยนี่มาก ๆ ระวังได้กันเองล่ะ” “กู ไม่ใช่มึงครับ” วชิรวิชญ์ตอบด้วยรอยยิ้มร้ายกาจและมันก็ยิ่งทำให้แคลอรีนสงสัยหนัก “พูดเรื่องอะไรกัน” “ไปละ” ดีแลนเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงห้องของตัวเอง เขากวาดสายตาจนทั่วก็ไม่เจอพริตาอยู่แล้วรวมถึงกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอด้วย “ตัวร้อนมากเลยน้องแพร กินยาหรือยัง” “กินไปแล้วค่ะ เดี๋ยวคงดีขึ้น” “ถ้าไม่ดีขึ้นไปหาหมอนะ อย่าดื้อ” พริตาพยักหน้ารับ หน้าผากของเธอมีเจลลดไข้ฝีมือมารดาติดอยู่ จู่ ๆ ก็มีแท็กซี่เอาลูกสาวคนเล็กมาส่งทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกว่าจะไม่กลับบ้าน “แม่เคลียร์งานอยู่ในห้องนะ ไม่ไหวเรียกแม่เข้าใจมั้ย” “เข้าใจแล้วค่า บอกแพรแบบนี้หลายรอบแล้วนะ” “ก็เรามันคอยแต่จะดื้อไง แล้วนี่แคลรู้หรือเปล่าว่าแพรไม่สบายแบบนี้” “...” “ไม่รู้แน่เลย ถ้ารู้คงไม่ปล่อยแพรกลับแท็กซี่” “แพร..เกรงใจแคลน่ะค่ะเลยไม่ได้บอก” “จ้ะ นอนต่อเถอะจะได้หาย” ก่อนออกไปจากห้องแม่ของเธอก็ไม่ลืมที่จะปิดไฟให้และมันทำให้เห็นแสงสว่างวาบจากหน้าจออย่างชัดเจน แดน พริตาน้ำตาคลอเพียงแค่เห็นชื่อของเบอร์ที่โทรเข้า และเธอก็ปล่อยให้สายมันตัดไปเอง ติ๊ง “ฮืออ แดน...” “หน้าโคตรยั่ว” พริตาดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันทีที่เผลอกดดูข้อความที่เขาส่งมาแล้วเจอกับภาพเคลื่อนไหวสภาพที่เธอเปลือยเปล่า เมื่อเขาโทรมาอีกครั้งหญิงสาวก็ไม่ลังเลที่จะกดรับสาย “แดน!” “อยู่ไหน” “ทำแบบนี้ทำไมแดน เราไม่เคยมีปัญหาอะไรกันนะ” “ก่อนสี่ทุ่มเธอต้องถึงห้องฉัน” “ไม่...” “ฉันไม่ได้ขู่นะแพร” น้ำเสียงของเขาจริงจังจนพริตาไม่กล้าเสี่ยง เธอรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและคว้ากระเป๋าออกมาจากห้องนอนตัดสินใจค่อยโทรกลับมาบอกมารดาว่าเธอกลับคอนโดแล้ว “ไปส่งตอนนี้เหรอครับคุณหนูแพร” “ใช่ค่ะ แพรลืมทำงาน... เอาป้าน้อยนั่งรถไปเป็นเพื่อนด้วยนะคะ” “ได้ครับ เดี๋ยวผมไปเรียกน้อยก่อนนะครับ” หญิงสาวเม้มปากลดอาการประหม่า เธอโกหกครั้งแรกในชีวิตแถมยังต้องรบกวบคนขับรถกับแม่บ้านในเวลานี้อีก “ขอโทษที่รบกวนนะคะ แพรลืมจริง ๆ ว่ามีงาน” “ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณภารู้หรือเปล่าครับว่าคุณหนูแพรกลับ” “ยังค่ะ เดี๋ยวแพรโทรบอกคุณแม่เอง” พริตาสวมแมสไม่ได้เพื่อปิดบังใบหน้าแต่เพราะกลัวจะแพร่เชื้อหวัดในอากาศ อีกไม่ถึงสิบนาทีจะสี่ทุ่มเธอกลัวอะไรที่คาดเดาไม่ได้ที่สุด ติ๊ง “อ้าวแพร ไปไหนหรือเพิ่งกลับ” “วิน...” พริตาเผลอถอยออกห่างคนที่เพิ่งออกมาจากลิฟต์อย่างไม่รู้ตัว ดีแลนทำให้เธอระแวงไปหมด “เป็นอะไร กลัวเราเหรอ” “เปล่า วินจะไปไหนเหรอ” “หาสาวน่ะสิ นัดไว้” “จ้ะ ขับรถดี ๆ นะ” วชิรวิชญ์ขมวดคิ้วเมื่ออยู่ ๆ เขาก็ถูกหญิงสาวรักษาระยะห่าง 'ไอ้เพื่อนตัวดีคงไม่ได้ทำอะไรไว้หรอกนะ' “ให้เราขึ้นไปส่งหน้าห้องมั้ย” “ไม่เป็นไร วินมีนัดก็รีบไปเถอะ” ติ๊ง “เธอเหลือเวลาไม่มากนะแพร”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD