ตอนที่10 เหตุผลคนเลว
‘เธอก็หวังว่าจะเป็นว่าจะเป็นอาหารที่ดีแลนกินแค่สองเวลานะ’
พริตามาตามที่เขาสั่งหลังจากหมดเวลาเรียนแล้วเขาก็ลุกออกมาทันที ในห้องน้ำมาที่นัดกันค่อนข้างเงียบเพราะส่วนมากคนบางประเภทใช้มันทำเรื่องน่าอายกัน
“แดน…”
“เข้ามา” คนที่ยืนพิงสะโพกกับขอบอ่างล้างหน้าในมือคีบบุหรี่พูดกับเธอ
“มีอะไร”
“ไม่มี” พริตาเผลอแสดงความไม่พอใจผ่านทางสายตา แต่เมื่อเธอจะไปจากตรงนี้เขาก็ไม่อนุญาต
“คนที่จะบอกให้ไปหรืออยู่คือฉัน”
“ความผิดของแพรคืออะไรเหรอแดน ทำไมแพรต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย”
“ไม่ผิดหรอก ฉันเหี้ยเอง”
“ที่ผ่านมาแพรมองไม่ออกเลย”
“ไม่แปลก เพราะฉันตั้งใจ” ดีแลนขยับเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของหญิงสาวก่อนจะพ่นควันบุหรี่ใส่เธออย่างจัง
แค่ก ๆ
“สำออย”
“แน่จริงก็กลืนมันลงไปสิ อย่าพ่นออกมา” คนสำลักบุหรี่ว่าให้อย่างเหลืออด ที่ผ่านมาเขากับวชิรวิชญ์ไม่เคยสูบมันให้เห็นด้วยซ้ำ
“เธอกับยัยแคลกำลังจะทำอะไร”
“ไปร้านยา แพรต้องกินยาคุม”
“ก็ดีที่เธอฉลาด จำเอาไว้ถ้าท้องขึ้นมาฉันไม่เอา”
“แพรก็ไม่เอาเหมือนกัน” พริตาที่เคยช่างใจทุกครั้งกว่าจะพูดกับเขาได้แต่ละประโยคในตอนนี้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง แถมเธอยังจ้องเขาอย่างเคลียดแค้นอีก
“อยู่ ๆ ก็อยากขึ้นมาว่ะ”
“อย่านะดีแลน”
“อย่าหรือหยุดขึ้นอยู่ที่ฉัน…ไม่ใช่เธอ”
พรึ่บ
ร่างบอบบางปลิวตามแรงกระชากของดีแลน ยังไม่ทันตั้งตัวลำคอของเธอก็ถูกคมเขี้ยวของเขาเข้าให้
“โอ้ยยย แดนทำอะไร” ความเจ็บเริ่มเบาลงแต่กลีบปากยังไม่ผละออก เขาแปรเปลี่ยนเป็นซุกไซร้จนบางอย่างดุนดันกางเกงสัมผัสกันเรือนร่างของหญิงสาว
“ดะ..แดนหยุดนะ แพรขอร้อง”
“อื้มมม”
“ไม่นะแดน กรี๊ดด” ร่างบางลอยขึ้นเหนือพื้นก่อนสะโพกจะถูกวางลงบนขอบอ่างล้างมือ พริตาต้องเกาะไหล่หนาเอาไว้เพราะกลัวตก
“ผ่านมาตั้งหนึ่งคืน เธอคิดว่าเชื้อของฉันมันไปถึงไหนแล้ว”
“สารเลว ทำไมสารเลวขนาดได้ขนาดนี้”
“นี่เธอยังเจอความเลวของฉันไม่หมดเลยนะ” ดีแลนพูดพร้อมกับแยกเรียวขาของหญิงสาวออกกว้าง ถึงเธอจะขัดขืนยังไงเขาก็ชนะอยู่ดี
“ไม่นะดีแลน”
“เราไม่สนิทกันแล้วอย่างนั้นสินะ ถึงได้เรียกดีแลน”
“แพรไม่นับคนเลวเป็นเพื่อน”
“เหมือนกันเลย เธอก็ไม่เคยเป็นเพื่อนฉัน” ชายหนุ่มปลดกางเกงนักศึกษาลงเล็กน้อยเพื่อเอาสิ่งที่กำลังขยายออกมา พริตาพยายามหาทางรอดเธอจะไม่ยอมมีอะไรกับเขาในสถานที่แบบนี้แน่
“อย่านะ นี่ห้องน้ำมหาลัย”
“หรือจะเอาที่ลานจอดรถ กลัวให้คินมาเห็นมั้ยล่ะ”
แอดด
พริตารับซุกใบหน้าให้จมไปกับแผงอกของเขาหลังได้ยินเสียงประตูถูกผลักเข้ามา
“อุ้ยย! โทษทีตามสบายนะ” เสียงชายหนุ่มพูดขึ้นและเหมือนว่าเขาจะเลือกไปจากที่นี่โดยไม่ลืมปิดประตูไว้ให้เหมือนเดิม
ปึง
“ฮื้อออ”
“ไปไกล ๆ ไป หมดอารมณ์” ร่างเล็กถูกเขาเหวี่ยงลงมาจากขอบอ่าง เธอล้มลงที่พื้นห้องน้ำพร้อมกับน้ำตาที่เผาะแต่ไม่ใช่เพราะความเจ็บที่ล้มลงมา
“รีบไปก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจเอาแม่งตรงนั้น”
ตึก ๆ ๆ ๆ
เสียงรองเท้าของพริตารีบเอาตัวเองออกไปจากที่นี่ด้วยความเร็วส่วนเขาก็สวมกางเกงกลับตามเดิมและส่งข้อความหาคู่ขาที่น่าจะบำเรอเขาได้ในตอนนี้
“แพร มีอะไรหรือเปล่า” แคลอรีนที่ถูกบอกให้รอที่รถถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของเพื่อน ก่อนสายตาจะมองเห็นร่องรอยอะไรบางอย่างที่ลำคอระหง
“เปล่า ไปกันเถอะ”
“ไม่มีอะไรแน่นะ”
“ไม่มีจ้ะ”
เมื่อถึงร้านยาที่หมายพริตาก็ลงไปซื้อยาด้วยตนเองเพราะมีหนึ่งสิ่งที่เธอต้องซื้อแต่ให้ใครรู้ไม่ได้ เธอรวบรวมความกล้าแกะมันกินที่ร้านยานั้นเพราะรู้ว่าต้องกินมันให้เร็วที่สุดจะยิ่งดี
“ได้ยาอะไรมาบ้าง”
“พาราแหละ”
“โหยย พาราที่ห้องเราก็มีแพรไม่บอกว่าจะเอาแค่นี้” แคลอรีนขับรถกลับมหาลัยอีกครั้งเพราะยังมีเรียนอีกหนึ่งคาบ ขณะที่กำลังจะขับเข้าไปจอดรถที่เดิมก็เจอกับกลุ่มนักศึกษากำลังรุมใครสักคนอยู่ข้างทางโดยที่ไม่มีใครกล้าห้าม
“ลงไปช่วยมั้ยแพร”
“ไปสิ สงสารเขา” ไม่รอช้าสองสาวก็รีบลงจากรถและเป็นเวลาเดียวกับที่กลุ่มคนรุมเริ่มสลายตัว
“เฮ้ยย จะหนีไปไหนวะ”
“พี่คิน!” เสียงร้องขึ้นของพริตาทำให้แคลอรีนต้องหันไปมองคนเจ็บให้เต็ม ๆ ตา ภาคินหนุ่มรุ่นพี่ที่ตามจีบเพื่อนเธอโดนรุมทำร้าย
“พาพี่คินไปโรงพยาบาลเถอะแพร เหมือนจะเจ็บเยอะ” สองสาวและพลเมืองดีช่วยกันนำร่างของภาคินขึ้นรถของแคลอรีนและพวกเธอก็เป็นคนพาเขาส่งถึงมือหมออย่างรวดเร็ว
“เอาไงต่อ”
“แพรว่าจะอยู่รอจนกว่าพี่เขาจะฟื้น เผื่อจะช่วยติดต่อแม่พี่เขาได้บ้าง”
“งั้นเราอยู่เป็นเพื่อนนะ”
ติ๊ง
“ผลงานฉันเป็นยังไง ผ่านมั้ย” แค่เพียงอ่านข้อความจากดีแลนมือก็สั่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เธอเดินเลี่ยงแคลอรีนออกมาให้ห่างก่อนจะกดโทรหาคนที่เธอไม่คิดจะโทรมาก่อน
“ว่าไง”
“ดะ..แดน ที่พี่คินเจ็บฝีมือแดนเหรอ”
“เธอก็มองฉันในแง่ร้ายเกิน ไอ้พวกนั้นมันหาเงินฉันเลยหางานให้ทำแค่นั้น” เรียวปากของหญิงสาวสั่นระริกคิดไม่ถึงเลยว่าเพื่อนที่รู้จักมาห้าปีว่าเขาเย็นชาจะเลวได้ขนาดนี้
“ทำไปทำไมเหรอ แค่ไม่พอใจ...”
“ใครที่มันมายุ่งกับเธอก็ต้องเจอตีนทั้งนั้นแหละ” ปลายสายพูดน้ำเสียงยียวนและกลายเป็นพริตาที่ทนฟังเหตุผลคนเลวนั้นไม่ไหวกดตัดสายเขาไป
“แพร พี่คินฟื้นแล้วนะ”
“จ้ะ แพรคุยธุระเสร็จพอดี”
ฟกช้ำไปทั้งตัว ฟันเคลื่อนต้องรักษากันยาว ใบหน้าเต็มไปด้วยแผลแตกจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม
“เอาเรื่องให้ถึงที่สุดเลยค่ะพี่คิน”
“พี่จำพวกมันไม่ได้ พี่ไม่เคยมีเรื่องกับใครเลยนะ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวแคลจะไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดให้ พี่คินต้องไม่เจ็บตัวฟรี” แคลอรีนเดือดดาลแทนชายหนุ่มรุ่นพี่ถึงขีดสุด เธอมั่นใจมากว่าคนอย่างภาคินไม่เคยมีปัญหากับใคร
“แพร เราดีขึ้นหรือยัง”
“พี่คิน.. ยังจะห่วงแพรอีกค่ะ” ‘ที่เขาต้องเจ็บก็เพราะเธอแท้ ๆ’ พริตาร้องตะโกนคำว่าขอโทษในใจเป็นพัน ๆ ครั้ง และมันยิ่งทำให้เธอเกลียดดีแลนหนักเข้าไปอีก
“ไม่ต้องโทรบอกใครให้พี่นะครับ พ่อแม่พี่กำลังไปเที่ยวไม่อยากให้พวกเขารีบกลับ”
“งั้นแพรจะอยู่เฝ้าพี่คินเองนะคะ”
“แคลด้วยค่ะ พี่คินไม่ต้องกลัวเหงานะ”
“ขอบคุณครับ”