13

1647 Words
13 “ผมคิดว่ายังก่อนดีกว่าครับ ผมเพิ่งรู้ธุรกิจด้านมือของเธอ แล้วเธอให้ความไว้วางใจผม ถ้าเผื่อแผนการจับกุมไม่เป็นผล สาวถึงพี่ดุจไม่ได้ เธออาจจะระแวงผมเพราะการทำธุรกิจของเธอที่ผ่านมาไม่เคยถูกจับได้เลยสักครั้ง พอผมรู้ความลับเธอ กลิ่นก็โชยเข้าจมูกตำรวจ ผมว่ารอการขนสินค้ารอบที่สามหรือสี่ดีกว่านะครับ แล้วระหว่างนี้ผมก็จะพยายามเก็บรวบรวมหลักฐานมัดตัวพี่ดุจไปด้วย พอถึงเวลาที่เหมาะสมงานจะได้ไม่พลาด” เอกบุรีให้เสนอแนะและให้เหตุผล ซึ่งอีกสี่คนที่นั่งฟังอยู่ก็เห็นด้วยความความคิดของสายลับหนุ่ม การวางแผนจับกุมดุจดาราต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ พวกเขามีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียว และต้องไม่มีคำว่าพลาด “ฉันเห็นด้วยกับความคิดของเอก ไหนๆ เราก็รอคอยที่จะจับกุมเจ๊ใหญ่มานานแล้ว ทำไมจะรอต่อไปอีกสักนิดไม่ได้ เราจะได้มีเวลาวางแผนกันด้วย” อารยาเอ่ยขึ้น “ตกลงตามนี้ก็แล้วกันนะ รออีกสักระยะ ระหว่างนี้เอกก็คอยหาข้อมูลไปเรื่อยๆ เก็บหลักฐานไว้ให้มากที่สุด พอถึงวันนั้นเราจะได้มีเชือกรัดเจ๊ใหญ่ไม่ให้ดิ้นหลุด” เสียงของสารวัตรเกียรติศักดิ์ดังขึ้นบ้าง ล้วงหยิบบางอย่างส่งให้เอกบุรี “ผมจะพยายามทำงานเต็มที่ครับ รับรองว่าทุกคนจะไม่ผิดหวังในตัวผม” เอกบุรีพูดเสียงหนักแน่น แววตามุ่งมั่น แม้ว่าดุจดาราจะดีและรักเขามาก แต่นั่นมันคนละส่วนกับความเลวที่นางทำไว้กับสังคมไทย รวมถึงการเสียชีวิตของเอกวัตร เขายอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้คนชั่วลอยนวล ใช้เงินจากสิ่งผิดกฎหมายอย่างสบายใจ ถึงเวลาแล้วที่ดุจดาราจะชดใช้ในสิ่งที่ทำ สามหนุ่มเพื่อนรักพากันเดินเข้ามาในคลับเอส สถานบันเทิงที่พวกเขาเลือกมาใช้บริการเป็นครั้งที่สองด้วยเหตุผลด้านบริการระดับพรีเมี่ยม ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่เป็นแรงจูงใจหลักให้พวกเขาหวนกลับมาที่นี่อีกครั้ง นั่นคือเหตุผลของหัวใจ “นายแน่ใจนะ ว่าจะจีบเจ้าของคลับเอสจริงๆ” นิรัติศัยถามหัสดินอีกครั้ง ขณะก้าวเดินไปภายในสถานบันเทิง คนถามจำวินาทีที่หัสดินบอกว่า ชอบอารยาและต้องการจีบเธอมาเป็นคนรัก เขาแทบจะสำลักกาแฟที่กำลังจิบ เพราะหัสดินไม่คิดจีบสตรีคนใดมาก่อน ที่ผ่านมามีแต่สาวๆ ทอดสะพานให้ทั้งนั้น หรือไม่ก็เงินซื้อความสุขแบบครั้งคราว ไม่มีการผูกมัดใดใด แต่กับอารยาไม่ใช่ หัสดินคิดไกลไปถึงตอกเสาเข็มลงหลักปักฐานใช้ชีวิตคู่ร่วมกับเธอ ได้ยินน้ำเสียงอันจริงจังของเพื่อนแล้ว จะไม่ให้เขาสำลักกาแฟคงไม่ได้ “แน่ใจสิ” หัสดินตอบโดยไม่คิด “นายอยากจะถามฉันมากกว่านี้ใช่ไหม อยากจะถามว่า แน่ใจแล้วเหรอที่จีบเปิ้ล เจ้าของสถานบันเทิงที่อาจจะมองว่า ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ” หัสดินเหมือนรู้ใจนิรัติศัย ที่อาจจะอยากถามคำถามนี้ตั้งแต่รู้ครั้งแรกว่า เขาชอบอารยา ไม่ได้ชอบธรรมดาแต่ชอบถึงขั้นจีบมาเป็นคนรัก ซึ่งเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาคิดเช่นนี้ด้วย “อืมใช่” นิรัติศัยตอบตามตรง “คนเรามีอดีตด้วยกันทั้งนั้นโฮป ฉันไม่สนใจอดีตของเปิ้ล ขอเพียงปัจจุบันและอนาคตเธอมีฉันคนเดียวพอ” หัสดินไม่ใช่คนยึดติดกับอดีต เขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่รับเรื่องนี้ได้ หากเขารักผู้หญิงคนไหน ต่อให้เธอคนนั้นเคยผ่านผู้ชายมาแล้ว เขาก็ไม่ถือสา ขอเพียงนับต่อจากนี้เธอซื่อสัตย์ต่อเขาคนเดียวแค่นั้นเป็นพอ “ฉันก็เหมือนเอ็กซ์ ถ้าฉันรักใคร ฉันจะไม่สนใจอดีตของเธอคนนั้น ฉันรักที่ตัวเธอมากกว่าสนใจเรื่องที่ผ่านมา ฉันคิดว่า ไม่มีใครดีทั้งหมดและทุกอย่าง มันก็ต้องมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ส่วนเรื่องอดีต มันก็คืออดีต เรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ คนเราต้องยึดติดกับปัจจุบัน อนาคตมันถึงจะมี” กันต์ธีร์ออกความคิดเห็นบ้าง เพราะตอนนี้เขาก็กำลังสนใจคนที่มี “อดีต” อยู่ และอยากจะสานต่อความสัมพันธ์อยู่ร่วมกันในอนาคต “ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะถ้าฉันรักใคร ฉันก็ไม่สนใจอดีตเหมือนกัน เพราะฉันเองก็ไม่รู้ว่า ว่าที่เจ้าสาวจะเป็นคนยังไง เคยผ่านอะไรมาแล้วหรือเปล่า” นิรัติศัยเป็นคนหัวสมัยใหม่ ไม่คิด ไม่ติดใจเรื่องพรรค์นี้ “ขอแค่เธออยู่กับฉัน แล้วไม่สวมเขาให้ฉันก็พอ” “แต่ฉันว่า เธอน่าจะมีดีอยู่นะ ไม่อย่างนั้นม้าคงไม่อยากให้นายแต่งงานกับเธอมากขนาดขู่จะตัดขาดความเป็นแม่ลูกกับนายหรอก” “เอ็กซ์พูดถูก ว่าที่เมียนายคงมีอะไรดีแน่นอน ไม่งั้นม้าคงไม่ขอมาเป็นลูกสะใภ้” กันต์ธีร์คิดตรงกับหัสดิน “ก็คงมีดีมั้ง” นิรัติศัยหยักไหล่ตอบ ดวงตาเขามีความแปลกใจเมื่อเห็นคนคนหนึ่ง “เฮ้ย! นั่นเกียรตินี่หว่ามันนี่ก้าวหน้าแฮะ หนีเมียมาเที่ยวด้วย” การสนทนาของสามหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง เมื่อนิรัติศัยมองเห็นเกียรติศักดิ์ เพื่อนสนิทสมัยมัธยมต้นที่ยังคบหากันถึงทุกวันนี้ หัสดินกับกันต์ธีร์มองตามไปก็เห็นว่า เป็นร้อยตำรวจเอกเกียรติศักดิ์จริงๆ “ไอ้เกียรติ” หัสดินเป็นคนเรียกชื่อเล่นเพื่อนที่กำลังเดินเลี้ยวไปยังห้องน้ำ คนถูกเรียกชะงักเท้า หันมามองต้นเสียง เมื่อรู้ว่าใครเรียก เขาจึงเดินมาหาสามหนุ่มหล่อสามสไตล์ “พวกนายมาได้ไงเนี่ย” เกียรติศักดิ์ทักเพื่อนๆ “ฉันน่าจะถามนายมากกว่า ว่ามาที่นี่ได้ยังไงหรือแก้วปล่อยให้นายมาเที่ยว” นิรัติศัยถาม “ฉันไม่ได้มาเที่ยว ฉันมาทำงาน” เกียรติศักดิ์ตอบ “มาทำงานที่นี่เนี่ยนะ” หัสดินเลิกคิ้ว ทวนถามเสียงสูง “มีงานอะไรให้นายทำที่นี่วะ” “งานราชการลับ” เกียรติศักดิ์ตอบเท่าที่ตอบได้ “ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน ฉันไม่มาที่นี่หรอก นายสามคนก็รู้ว่า ฉันไม่ชอบเที่ยวสถานที่แบบนี้ แล้วแก้วก็รู้ด้วยว่าฉันมาทำอะไรที่นี่ เพราะแก้วเป็นเพื่อนกับเจ้าของคลับเอส” “แก้วเป็นเพื่อนเปิ้ลเหรอ” หัสดินรีบถาม “ก็ใช่น่ะสิ เป็นเพื่อนตอนเรียนมหา’ ลัย” “ถ้าอย่างนั้นนายก็รู้จักเปิ้ลด้วยสิ” หัสดินถามต่อ “ก็เออสิวะ นายถามมากทำไมเอ็กซ์ มีอะไรหรือเปล่า” ความที่เป็นตำรวจและเป็นคนช่างสังเกต ทำให้เกียรติศักดิ์ชักสงสัยหัสดินขึ้นมา “ที่เอ็กซ์ถามนายมากเพราะมันตั้งใจจะจีบคุณเปิ้ล เจ้าของที่นี่น่ะสิ มันตกหลุมรักคุณเปิ้ลตั้งแต่แรกเห็น จนต้องหวนกลับมาใช้บริการที่นี่อีก เรื่องมันก็เป็นเช่นนี้” นิรัติศัยเป็นคนตอบ เกียรติศักดิ์แทบจะไม่เชื่อหูตัวเองว่า หัสดินจะหลงรักอารยา เป็นเพราะหัสดินเป็นหนุ่มไฮโซ รู้จักลูกคุณหญิงคุณนายเยอะ อีกทั้งลูกสาวนักธุรกิจก็รู้จักมาก หัสดินยังไม่สนใจ กลับมาสนใจเจ้าของสถานบันเทิงแห่งนี้ น่าแปลกประหลาดใจเหลือเกิน “นายแน่ใจเหรอเอ็กซ์ ว่าจะจีบเปิ้ล ฉันอยากให้นายมั่นใจก่อนนะว่าจะจีบเปิ้ลจริงๆ ฉันรู้จักเปิ้ลมานาน ไม่อยากให้เปิ้ลผิดหวังหรือเสียใจ นายก็เพื่อน เปิ้ลก็น้อง เดี๋ยวจะพากันเข้าหน้าไม่ติด” ด้วยความที่รู้จักทั้งสองฝ่าย ทำให้เขาเกิดความลำบากใจขึ้นมา เกียรติศักดิ์รู้จักนิสัยหัสดินดีพอๆ กับรู้นิสัยใจคออารยา เขาไม่อยากเป็นคนกลางที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกหากหัสดินไม่จริงใจกับอารยา เห็นเป็นเพียงของเล่นเช่นผู้หญิงที่ผ่านมา เขาไม่อยากผิดใจกัยใครไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือน้องสาว “นายเคยเห็นฉันอยากจีบผู้หญิงคนไหนหรือเปล่าล่ะ ที่ผ่านมามีแต่ผู้หญิงเสนอตัวให้ฉันทั้งนั้น หรือไม่ก็ใช้เงินซื้อ แต่กับเปิ้ลฉันคิดจะจีบ นั่นก็หมายความว่าต้องคิดจริงจังสิ” หัสดินตอบเสียงหนักแน่น “แล้วนายก็ต้องช่วยฉันด้วย” “ไม่ช่วยโว้ย ตัวใครตัวมัน งานนี้ฉันไม่ยุ่ง” เกียรติศักดิ์ปฏิเสธทันควัน ไม่ใช่เขาจะไม่อยากช่วย แต่เขาไม่อยากนำตัวเองเข้าไปยืนเป็นคนกลาง ที่อาจจะลำบากใจภายหลัง “ถ้านายไม่ช่วยฉัน ฉันจะบอกความลับเรื่องที่นายไปนอนกับโคโยตี้ตอนที่แก้วท้อง รับรองว่าแก้ววีนแตกใส่นายแน่ ดีไม่ดีอาจจะขอเลิกกับนายเลยก็ได้” หัสดินใช้ไม้เด็ด หยักคิ้วให้นายตำรวจหนุ่มอย่างเป็นต่อ เกียรติศักดิ์ทำหน้าตกใจ ความลับนี้รู้กันเพียงห้าคนคือเขากับสามหนุ่มเพื่อนสนิท และอีกคนคือสาวโคโยตี้ที่เขามีความสัมพันธ์ทางกายด้วย ไม่ใช่เพราะเขาหลงเสน่ห์หรือคิดนอกใจภรรยา แต่เป็นเพราะความเมาเป็นเหตุ “เออก็ได้วะ ช่วยก็ช่วย” เกียรติศักดิ์จำยอมอย่างไม่เต็มใจนัก “จะให้ช่วยยังไงก็ว่ามา” หัสดินยิ้ม กอดคอเกียรติศักดิ์แล้วพากันเดินเข้าไปในผับ นั่งดื่มไปด้วยคุยเรื่องแผนการจีบอารยาไปด้วย เพราะยืนคุยกันหน้าผับไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไหร่ เกียรติศักดิ์ กันต์ธีร์และนิรัติศัยได้ฟังแผนการจีบอารยาของหัสดินแล้วพากันยิ้ม กับแผนการเห่ยๆ ของหัสดิน เพราะไม่คิดว่าหัสดินจะมีแผนจีบผู้หญิงเช่นนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD