เพื่อนสนิท : EP8

1282 Words
ผมเดินมาที่ซุ้มข้างตึกคณะ กลอยมองหน้าผมเหมือนอยากถามอะไร แต่เธอก็ไม่ได้ถาม อาจเป็นเพราะเพื่อนอยู่กันเยอะ ก็เลยยังไม่ถาม ไม่ถามต่อหน้าเพื่อนแบบนี้ เดาไม่ยากเลยว่าจะถามผมเรื่องอะไร… ไม่พ้นเรื่องอุ๋มแน่นอน LINE LINE LINE เสียงแจ้งเตือนดังติดต่อกัน สงสัยพี่ชายผมจะมีเรื่องอะไร ส่งข้อความมาติด ๆ กันแบบนี้ มีแค่พี่เกมส์คนเดียว แต่พอผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูก็ต้องแปลกใจปนตกใจ ที่เจ้าของข้อความพวกนั้นเป็นอุ๋ม AUM : โกรธอุ๋มเหรอ AUM : ไม่มีอะไรจริง ๆ นะ AUM : เขาเป็นแค่เพื่อน ไม่ได้พิเศษกับอุ๋มเหมือนกราฟนะ ใบหน้าของผมมีรอยยิ้มผุดขึ้นมาทันที ดีใจที่อุ๋มส่งมาง้อต่อ แถมยังบอกว่ารู้สึกพิเศษกับผมอีก ผมนั่งนึกคำตอบ จะตอบอะไรกลับไปดีล่ะ อืม : GRAPH ตอบไปแบบสั้น ๆ นี่แหละ เผื่อว่าอุ๋มจะส่งอะไรมาง้ออีก และก็เป็นอย่างที่ผมคิด เธอส่งมาอีก AUM : อุ๋มมีงานที่สนามแข่งรถด้วย เห็นชื่อทีมกราฟด้วยอะ เดี๋ยวเสร็จงานแล้วไปกินข้าวกันปะ งานแข่งรถ? มีงานด้วยเหรอวะ ไม่เห็นรู้เรื่อง “ช่วงนี้มีแข่งรถเหรอวะ” ผมละสายตาจากหน้าจอสมาร์ตโฟนแล้วถามพวกเพื่อน “เสาร์หน้าไง สนามเดิม” ไอ้ไฟตอบเสียงเรียบ “มึงถามเหมือนมึงไม่รู้” “ไม่ได้ดูไลน์กลุ่มหรือไง” ไอ้ภีมถามต่อจากไอ้ปืน ผมส่ายหน้าช้า ๆ ให้เป็นคำตอบ ช่วงนี้เบื่อ ๆ เซ็ง ๆ ไม่ค่อยได้ดูได้คุยกับพวกพี่ ๆ ในทีม ผมกดเข้าไลน์กลุ่มวินโซน ข้อความค้างเยอะมาก ค่อย ๆ ไล่ดูก็เห็นว่าพี่ลมส่งไว้ในกลุ่มตั้งนานแล้ว รอบนี้แข่งกันหลายทีม และคนที่เป็นนักแข่งที่จะลงแข่งก็คือไอ้ไฟคนดีคนเดิม คนที่ไม่เคยแพ้เลยสักครั้ง “พริตตี้ของทีมเรานี่ใครวะ” ผมถามต่อ ทีมอื่นมีพริตตี้ ทีมเราก็ต้องมีสิ “ไอติมไง” ไอ้ไฟตอบ ที่แท้ก็แฟนมันเองที่จะมาเป็นพริตตี้ให้ทีม คู่นี้ดีว่ะ กอบโกยเงินเข้ากระเป๋ากันทั้งคู่ นี่ถ้าผมคบกับอุ๋มเมื่อไหร่ ผมก็จะให้อุ๋มมาเป็นพริตตี้ทีมเราบ้าง แย่งกันทำมาหากินแน่คราวนี้! “มึงยิ้มเชี่ยอะไร” ฟองถามขึ้นมา เบื่อเสียงมันที่สุดอะ มันชอบ ส่งเสียงทำลายสิ่งที่ผมมโน กำลังเพ้ออยู่ว่าถ้าอุ๋มมาเป็นพริตตี้ให้ทีมวินโซน ผมจะเป็นช่างภาพให้เธอเอง “กูมีความสุข” ผมตอบกลับแล้วไหวไหล่ด้วยท่าทางกวน ๆ “จินตนาการจนมีความสุขสินะ” กลอยเผยรอยยิ้มร้าย ผมเลยดันตัวลุกขึ้นแล้วเอื้อมมือไปตีหน้าผากกลอยเบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้ พูดมาก! ผมตอบอุ๋มกลับไปแล้วแยกย้ายกันไปขึ้นเรียน ขณะที่เรียนก็คิดแต่เรื่องอุ๋ม ถ้าเธอเป็นแบบนี้ไปตลอดก็คงดีไม่น้อย… สาย ๆ ของวันหยุดแบบนี้กลอยก็คงยังไม่ตื่น ผมก็ไม่ได้โทรมาปลุก แต่ผมมาถึงหน้าห้องเธอเลย ยื่นนิ้วไปกดออดหลายครั้ง ยืนรออยู่ราว ๆ ห้านาที กว่าที่คนด้านในจะมาเปิดประตูให้ “มึงมาทำไม พริตตี้เทมึงอีกแล้วหรือไง” “เปล่าโว้ย” ผมดันหน้าผากกลอยให้เธอถอยหลังเข้าไปในห้อง โซฟานุ่ม ๆ ของกลอยเป็นที่เอนตัวของผม รู้สึกว่าพื้นที่ข้าง ๆ ยุบลง ก็ไม่พ้นเจ้าของห้องนั่นแหละที่มานั่ง เธอเอามือขยี้เส้นผม ท่าทางหงุดหงิดไม่น้อยที่ผมมาปลุก “มึงมาทำไม มึงพูดมาเลย” ใบหน้าสวยงอง้ำ แสดงถึงความไม่พอใจ “จะชวนไปทำสิ่งที่มึงชอบ” ผมตอบไปยิ้มไป ส่วนคนข้าง ๆ ไล่สายตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า คงนึกแปลกใจว่าผมมาไม้ไหน “อะไรวะ” กลอยถามกลับมา “จะชวนไปถ่ายรูป กูอยากเป็นคนถ่ายรูปให้อุ๋มเอง แต่กูถ่ายไม่สวย ไม่รู้มุม กูเลยจะชวนมึงไปเป็นนางแบบให้กูหน่อย” ผมส่งสายตาอ้อนวอน ในขณะที่กลอยกลอกตาไปมา สีหน้าของกลอยในตอนนี้เป็นคำตอบได้ดีว่าไม่! เธอไม่ได้ชอบถ่ายรูปขนาดนั้น ถ่ายเวลาไปเที่ยวอะถ่าย แต่ถ้าจะมาถ่ายแบบนี้เธอไม่ถ่ายหรอก “กูขอร้องนะกลอย ช่วยกูหน่อยดิ” ผมจับมือกลอยไว้แล้วพูด เสียงอ่อนเสียงหวาน หวังให้กลอยเห็นใจ แต่สุดท้ายเธอก็ส่ายหน้ากลับมา แถมยังยกมือป้องปากหาว ตอกย้ำว่าเธอต้องการนอนเสียมากกว่า ไม่รู้แหละ อย่างไรผมก็ต้องตื๊อให้กลอยยอมไปกับผมให้ได้! “เดี๋ยวเลี้ยงหมูทะ” ผมยื่นข้อเสนอ ถ้ากลอยยอมไปเดี๋ยวผมพาไปเลี้ยงจริง ๆ “ไม่อะ” แต่กลอยก็ตอบแบบไม่ต้องคิดอยู่ดี “ชาบูปะ” เผื่อจะกลัวหัวเหม็นจากหมูกระทะ ผมเลยเปลี่ยนเป็นชาบูแทน “ไม่อะ” “อาหารทะเลไหม ปูสด ๆ หวาน ๆ กุ้งตัวโต ๆ งี้” เอาของโปรดมาล่อ เผื่อกลอยเปลี่ยนใจ “ไม่อะ” “บุฟเฟ่ต์โรงแรมปะล่ะ เอาแบบที่ติดแม่น้ำเลย หรือจะล่องเรือก็ได้นะ เอาปะ” ผมทุ่มเกินไปปะวะเนี่ย แต่ก็เอาวะ เผื่อกลอยสนใจ “ไม่! กูไม่ได้หิว กูง่วง กูต้องการนอน” กลอยพูดจบก็เอนตัวล้ม ลงนอนบนโซฟาแล้วปิดเปลือกตาไปเลย ผมไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยลงนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นตรงหน้ากลอย ก้มหน้าลงไปใกล้ ๆ ให้กลอยลืมตาขึ้นมาก็เห็นหน้าอ้อน ๆ ของผมเป็นอันดับแรก “เป็นนางแบบให้กูหน่อยน้า กูขอร้อง” หัวคิ้วเรียวขยับย่นเข้าหากัน เธอคงนึกแปลกใจว่าทำไมเสียงผม อยู่ใกล้ขนาดนี้ กลอยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา “กราฟ! มึงทำไรเนี่ย” กลอยพยายามจะถอยหนี แต่ผมก็เลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ อีกทั้งยังส่งสายตาออดอ้อน กลอยเผยอปากเล็กน้อยแล้วยกมือขึ้นกุมหน้าอกตัวเอง แล้วค่อยดันตัวขึ้นนั่งเพื่อให้ใบหน้าของเราห่างกัน ผมไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่รู้สึกว่าพวงแก้มของกลอยขึ้นสีแดงระเรื่อ ปกติกลอยก็แก้มแดงอยู่แล้ว เลยทำให้ผมไม่มั่นใจ “ไปเถอะนะ” ผมขอร้องกลอยอีกครั้ง คราวนี้เธอหันหน้าหนีเหมือนไม่อยากมองหน้าผม “เออ ๆ ไปก็ไป” แต่สุดท้ายเธอก็ตอบตกลง “เยส!” ผมเอ่ยออกมาด้วยความดีใจที่กลอยตอบตกลงไปเป็นนางแบบให้ผม แต่ไม่ได้แสดงอาการดีใจแค่เสียงเท่านั้น ผมโผเข้ากอดกลอยไว้ด้วย “ถ้ากูได้คบกับอุ๋มเมื่อไหร่ กูจะไม่ลืมบุญคุณของมึงเลย” กลอยเป็นคนที่อยู่ข้าง ๆ ผมมาตลอด ขอร้องให้ช่วยอะไรก็ช่วย เพื่อนผมมันน่ารักจริง ๆ “ตอนนี้ช่วยปล่อยกอดกูก่อน ร่างกายกูจะเก็บไว้ให้ว่าที่ผัวเท่านั้นจ้ะ” ผมปล่อยกอดแล้วมองหน้ากลอยนิ่ง ๆ กอดแค่นี้ทำเป็นหวง นี่ถ้าไม่ติดว่ากลอยมีบุญคุณนะ จะเบิดกะโหลกสักที!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD