CHAPTER 4
Graph’s part
ผมนั่งดูรูปกลอยที่ผมเป็นคนถ่ายไว้ ทั้งตั้งใจและตอนที่กลอยเผลอ ตลอดหลายวันมานี่ผมถ่ายรูปกลอยไว้เยอะมาก เลื่อน ๆ ดูมีแต่รูปกลอย รูปเพื่อนคนอื่นก็มีบ้าง แต่รูปกลอยสักร้อยรูป ถึงจะมีรูปมีนสักหนึ่งรูป ส่วนมากจะถ่ายตอนที่กลอยเผลอ ที่ชอบถ่ายตอนนั้นพราะเพื่อนผมน่ารักดี ยิ่งลองเอามาแต่ง ปรับแสงบ้าง ภาพยิ่งดูสวย
จะว่าไปผมก็มีฝีมือเหมือนกันนะเนี่ย ไม่ใช่ว่าชมตัวเองนะครับ แต่หลักฐานก็อยู่ที่รูปกลอยนี่แหละ เดี๋ยวแต่งหลาย ๆ รูปแล้วจะอัปลงเฟซ ไอจี สักหน่อย จะได้อวดฝีมือไปด้วย
พวกเพื่อนผมก็รู้นะครับว่าช่วงนี้ผมฝึกถ่ายรูปไปเพื่ออะไร พวกมันเห็นผมทำแล้วมีความสุข แม้มันอยากจะขัดแต่มันก็ไม่ขัด โดยเฉพาะฟอง
“มึงถ่ายสวยว่ะ ถ่ายให้กูบ้างดิ แฟนกูถ่ายห่วยมาก” ฟองชะโงกหน้ามามองหน้าจอสมาร์ตโฟนของผม แล้วปรายตามองไปทางไอ้มาร์ช
“เปลืองพื้นที่ในเครื่องกู” ผมดันหน้าผากฟองให้เธอถอยกลับไป
“มึงลบรูปกลอยทิ้งบ้างอะไรบ้าง มึงถ่ายเยอะขนาดนั้น กินพื้นที่ เหลือพื้นที่ให้ใบหน้ากูบ้าง”
“กลอยมันสวย แต่มึงมันหลอน ตุ๊กตาผี!”
“ผีเชี่ยไร” ฟองลุกขึ้นแล้วส่งกำปั้นมาที่ใบหน้าผม โชคดีที่ผมหลบทัน ไม่อย่างนั้นคงเข้าเบ้าตาผมเต็ม ๆ
ฟองมันน่ารักมากกกก แต่ดูมันทำแต่ละอย่าง แบบนี้จะไม่เรียกว่าตุ๊กตาผีได้อย่างไร ฉายานี้ก็แฟนมันนั่นแหละที่เป็นคนตั้ง
“มึงส่งรูปมาให้กูบ้างดิ มึงจะได้ลบออกจากเครื่องบ้าง” กลอยเอ่ยออกมา สงสัยกลอยจะคิดว่าความจำเต็มจริง ๆ มั้ง ที่จริงยังเหลืออีกเยอะ แต่ผมแค่แกล้งฟองเล่น
“เดี๋ยวกูส่งให้ แต่กูไม่ลบรูปมึงออกจากเครื่องกูหรอก”
ผลงานของผม ผมไม่ลบทิ้งหรอก รูปสวย ๆ ทั้งนั้น เก็บไว้ให้ภูมิใจดีกว่า ผมนั่งแต่งรูปเล่นโดยที่ไม่ได้สนใจใคร แต่ก็พอรู้เรื่องแหละว่าพวกมันคุยเรื่องอะไรกัน พวกสาว ๆ ก็คุยกันแต่เรื่องความสวยความงาม นุ่นจะลดน้ำหนักงี้ ผอมอย่างกับแผ่นกระดานบอกอ้วน… ส่วนพวกหนุ่ม ๆ ก็คุยกันแต่เรื่องรถ ไอ้ภีมอยากได้มอเตอร์ไซค์ไว้ขี่หนีว่าที่เมีย งงกับความคิดมันจริง ๆ
“มึงว่าดีปะวะไอ้กราฟ” ไอ้ภีมถามขึ้นมา
“ไม่ดีอะ” ผมเงยหน้าขึ้นตอบ
“รุ่นนี้ไม่ดีเหรอวะ” ไอ้ภีมมันทำหน้าเหมือนเสียดาย ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่ามันเสียดายอะไร
“อะไรวะ” ผมทำหน้างง
“กูถามถึงรุ่นนี้ มึงว่าดีไหม เท่ไหม” ไอ้ภีมหันหน้าจอสมาร์ตโฟนที่มีภาพบิ๊กไบค์อยู่ในนั้น
“อ้าว กูนึกว่ามึงถามถึงเรื่องกลอยจะไปฟิตเนสกับนุ่น” ประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินคือกลอยพูดว่ากลอยจะไปฟิตเนสกับนุ่น แล้วไอ้ภีมก็ถามต่อเลย ผมก็นึกว่าพวกมันจะแห่ไปฟิตเนสกันหมด เห็นทำอะไรแต่ละครั้ง ต้องแห่กันไปทั้งแก๊งตลอด
“คนละเรื่องเลย ฉิบหาย” ไอ้ภีมส่ายหน้าด้วยความระอา คนอื่น ๆ ก็หัวเราะบ้าง ยิ้มบ้าง มีแต่กลอยที่ทำหน้าแปลก ๆ เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ผมก้มหน้าก้มตาแต่งรูปเหมือนเดิม เดี๋ยวค่อยให้ไอ้ไฟสรุปเรื่องที่คุยให้ฟังก็แล้วกัน
เย็นวันนี้ผมเอารถที่จอดโชว์อยู่ในเต็นท์พี่ลมออกไปล้าง พรุ่งนี้จะไปสนามแล้ว จะได้รับอุ๋มขึ้นนั่งหน้าคู่กับผมสักที รถต้องเอี่ยม ๆ หน่อย ภายนอกน่ะพวกพี่ ๆ เขาคอยให้พนักงานเช็ดให้ แต่ภายในเนี่ยสิ
ที่จริงมันก็ไม่ได้สกปรกอะไรหรอกนะ แต่จะรับสาวทั้งทีมันต้องเป๊ะ!
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจที่สุดเลยก็ว่าได้ อุ๋มทักหาผมและโทรหาผมตรงเวลาตลอด ไม่หายไปเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เราคุยกันดีขึ้นเรื่อย ๆ คิดว่าเรากำลังเดินหน้ากันไปแบบที่ไม่มีสะดุด ถ้าเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกก็คงดีไม่น้อย
Rrrr
-อุ๋ม-
เสียงเรียกเข้าดังขึ้นมา เธอโทรมาตรงเวลาเป๊ะ ไม่มีเลทไปสักนาที ผมคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วกดรับสาย
“กำลังคิดถึง” ผมกรอกเสียงเข้าไปในสาย
[เวอร์ ๆ เมื่อตอนเที่ยงก็เพิ่งจะโทรคุยกัน] ปลายสายตอบมาด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี ก่อนจะถาม [กราฟอยู่ไหนอะ ทำอะไรอยู่]
“กราฟเอารถมาล้าง พรุ่งนี้จะรับพริตตี้ขึ้นรถ รถต้องเอี่ยม ๆ หน่อย”
[พริตตี้ไหน นอกใจเหรอ] เดี๋ยวนี้มีเล่นมุกซะด้วย ผมหัวเราะออกมาเล็กน้อยแล้วค่อยตอบกลับไป
“ก็รับอุ๋มไง”
[พรุ่งนี้อุ๋มไปทำงานนิ กราฟก็ต้องอยู่กับทีมไม่ใช่เหรอ จะรับอุ๋มไปไหนได้ล่ะ] พูดแบบนี้เหมือนไม่มุกเลยแฮะ รู้สึกว่าเธอจริงจังมากกว่า
“เดี๋ยวนะ อุ๋มเป็นคนชวนกราฟไปกินข้าวหลังเลิกงานนะ ลองไปย้อนไลน์ดูดิ” ผมพูดจบ อุ๋มก็เงียบไปแป๊บหนึ่ง แล้วค่อยหัวเราะคิกคัก
[อุ๋มแค่แกล้งเล่น รู้แล้วน่าว่าเราจะไปหาอะไรกินกันต่อ]
“กราฟก็นึกว่าอุ๋มพูดจริงซะอีก” เธอแกล้งผมได้เนียนมากกกก เล่นซะผมใจแป้วเลย
เราคุยกันต่ออีกไม่กี่คำก็วางสายไป เดี๋ยวสี่ทุ่มเธอก็โทรมาใหม่ โทรมาบอกฝันดีก่อนเข้านอน เราแบ่งเวลากันโทร เช้า และเที่ยงเป็นผมที่โทรหา แต่พอเย็นและกลางคืน จะเป็นอุ๋มที่เป็นฝ่ายโทรหา
ผมขับรถออกมา มุ่งตรงไปที่เต็นท์พี่ลม ระหว่างทางเห็นคนที่คุ้นเคยกำลังเดินอยู่กับหนุ่ม ถ้าไม่ติดว่าขับมาเร็วก็คงจะจอดแซวกลอยสักหน่อย ไหนว่าไม่ได้คิดอะไร แต่ทำไมมากับเขา เห็นทีพรุ่งนี้จะต้องไปแซวที่สนามหน่อยแล้ว…