PROLOGUE
ใจตรงกันไปอีก!
ฉันมุ่ยหน้าเมื่อเห็นว่าคนที่นัดมากำลังแสยะยิ้มให้กับการแต่งกายของเราสองคนที่บังเอิญว่าอยู่ในสีเดียวกันทั้งที่ค่ำคืนที่ได้ชื่อว่าเป็นคืนแห่งความรัก น่าจะแต่งกายด้วยโทนสีสดใส
แต่เราสองคนกลับออลแบล็ก!
“ใจตรงกันเนอะ” โอ๊คหัวเราะออกมานิด ๆ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องขบขันสำหรับเขา แต่สำหรับฉันมันขำไม่ออก
หากคนตรงหน้าไม่ใช่บุคคลที่ฉันควรขีดเส้นหนา ๆ ว่าอย่าเข้าใกล้ก็คงจะขำไปด้วย แต่นี่…แค่ยิ้มยังไม่อยากทำ
“นึกไงใส่สีดำ” ชายหนุ่มที่นัดฉันมาลากเก้าอี้ออกให้อย่างที่เคยทำในตอนที่คบกันในสถานะ ‘แฟน’ ภายใต้ใบหน้าเจ้าเล่ห์และนิสัยยียวนกวนบาทา ก็มีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่ไม่น้อย
“แบดวาเลนไทน์” ไม่ได้มีแค่เสียงของฉัน แต่ยังมีเสียงของโอ๊คผสานอยู่ด้วย การที่เราพูดออกมาพร้อมกันยิ่งทำให้โอ๊คหลุดเสียงหัวเราะออกมา
ฉันถอนหายใจพรืดยาวแล้วหย่อนสะโพกนั่งลง พนักงานนำไวน์มาเสิร์ฟพร้อมทั้งรินใส่แก้วให้เราทั้งคู่
“ขอถ่ายรูปด้วยหน่อยได้ปะ”
“เพื่อ?” ฉันเลิกคิ้วขึ้นสูง ระหว่างเราไม่ควรที่จะถ่ายภาพเก็บไว้ให้เปลืองพื้นที่ในสมาร์ตโฟนไปเปล่า ๆ
“เออน่า”
“ถ้าบอกว่าไม่?”
“ก็อด”
ฉันกลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่ายและพยักหน้าส่ง ๆ ไปราวกับจนใจที่จะคัดค้านแล้ว การมาครั้งนี้จะต้องไม่เสียเปล่า ฉันจะต้องได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปด้วย
โอ๊คเอาสมาร์ตโฟนของตัวเองให้กับพนักงาน พลันหัวคิ้วของฉันก็ย่นเข้าหากันเพราะเขาไม่ได้ถ่ายให้เห็นหน้าฉัน เขาถ่ายด้านหลังของฉัน
เขารับสมาร์ตโฟนกลับไปแล้วกดยุกยิกอยู่ครู่หนึ่ง ฉันชำเลืองมองก็เห็นว่าเขากำลังเข้าแอปไอจี ฉันจึงเอามือถือของตัวเองขึ้นมาแล้วกดเข้าแอปเดียวกันกับเขา
Oak.XWIN
ไอจีที่ฉันอันฟอลไปนาน วันนี้กลับต้องกดเข้าไปดูอีกครั้งเพราะอยากรู้ว่าเป็นอย่างที่ตัวเองสงสัยหรือไม่
ภาพล่าสุดที่เขาเพิ่งลงไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา เป็นรูปคู่ของเราที่พนักงานถ่ายให้ และแคปชันที่ไม่มีข้อความอะไร มีแค่อีโมจิหัวใจสีแดง ทำให้ริมฝีปากของฉันเบ้ขึ้นทันที
“หัวใจ?” ฉันหันหน้าจอของตัวเองไปทางเขา แล้วถามถึงอีโมจิที่เขาโพสต์ไว้กับรูป
“แอบส่อง?” เขาดันถามกลับมาแทน แต่นั่นก็ไม่ทำให้ฉันสะทกสะท้านและล้มเลิกที่จะถามต่อ
“แคปชันแบบนี้คือ?”
“ก็รักไง อย่ามึนดิ”
“โอ๊ค!!!” ฉันถลึงตาใส่เขาซึ่งอีกฝ่ายก็หัวเราะร่วน แต่พอเขาเห็นว่าฉันไม่ตลกด้วยก็หยุดขำและมองสบตาฉันด้วยแววตาเรียบนิ่ง
“ก็รักไง”
“…”
“รักเหมือนเดิม ไม่งั้นก็คงไม่ชวนมาเดตคืนนี้ นี่มันคืนวาเลนไทน์ไม่ใช่ว่าจะเดตกับใครก็ได้”
“แต่เราไม่ได้เป็นแฟนกัน เราเป็นแค่แฟนเก่า”
“แฟนเก่าแล้วไง?”
“…” เห็นสีหน้าที่คล้ายจะยียวนแต่ก็ไม่ของเขาทำให้ฉันคิดคำพูดไปตอบเขาไม่ทัน ยิ่งประโยคถัดมายิ่งทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออก หนำซ้ำหัวใจยังสั่นรัว
“ถึงจะเป็นแฟนเก่าแต่ก็รักเหมือนเดิม”
CHAPTER 1
Oak’s part
“สวัสดีค่าชาวเคเค ห่างหายไปนานคิดถึงกันบ้างไหมคะ”
เสียงนี้นี่มัน…
“ดีเจพริกกลับมาทำหน้าที่ทุกวันศุกร์เหมือนเดิมแล้วค่ะ ประเดิมการกลับมาด้วยเพลงอะไรดีน้า เสนอเข้ามาในไลฟ์ของเพจเคเคทูทอล์คได้เลยค่า”
ใช่จริง ๆ ด้วย…
ทั้งที่เสียงหวานใสที่ดังออกมานั้นดังพอสมควร แต่หูของผมกลับอื้ออึงจนฟังไม่รู้ความ ข่าวสารของมหา’ลัยที่ดีเจสาวอ่านอยู่นั้นไม่ได้เข้ามาในหูของผมเลยสักนิด
สิ่งที่ฉายชัดในห้วงความคิดและประโยคที่ดังเข้ามาในโสตประสาทกลับเป็นวันสุดท้ายที่เราได้เจอกัน
วันที่พริกบอกเลิก…
“ฮั่นแน่ หงอยเชียวไอ้เหี้ย” เจ้าของเสียงแซวคือไอ้หมอก เพื่อนเวรที่ขยันแซวเรื่องพริกทิ้ง
ทั้งที่สาเหตุที่ผมโดนพริกทิ้งส่วนหนึ่งก็มาจากมัน แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้สลดเลยสักนิด!
“มานี่ กูส่งเข้าไปในไลฟ์ให้” เอ็มดึงสมาร์ตโฟนออกจากมือของผม ทันทีที่ผมจะแย่งคืนก็โดนไอ้หมอกล็อกแขนเอาไว้ คิดจะยกขาขึ้นถีบไอ้เอ็มก็ไม่ได้เพราะไอ้คุณก็กดขาผมเอาไว้ด้วย
“เพลงไรดีวะ ๆ” คนที่ถือสมาร์ตโฟนอยู่ในมือกลับถามคนอื่นอย่างลนลานคาดว่าในตอนนี้คอมเมนต์คงหลั่งไหลเข้าไปไม่ขาดสาย จนดีเจเลือกไม่ถูกแล้ว
“เธอไม่เคยเป็นแฟนเก่า”
“สุดยอด” ไอ้เอ็มหันมายกนิ้วโป้งให้ไอ้คุณ แล้วมันก็จัดการพิมพ์ส่งไปตามที่เพื่อนบอก จากนั้นสองมือของมันก็ยกมือขึ้นมาพนมไว้ “สาธุ ขอให้พริกเลือกเพลงนี้”
“สาธุ” ไอ้คุณและไอ้หมอกก็ร่วมด้วย
ส่วนตัวผมนั้นก็ได้แต่มองมันตาขวางแล้วเอาโทรศัพท์มากดดู คอมเมนต์ของผมมีคนมากดไลก์กดหัวใจและกดเศร้าหลายคน เนื่องจากพวกเขาเหล่านั้นคงรู้ข่าวการเลิกราของเราสองคนจากที่เพจบ้านี่ลงไว้
แต่แล้วก็มี 1 คนที่กดหัวเราะ
“พริกกดขำ ฮ่า ๆ ๆ” หมอกชะโงกหน้ามาดูแล้วหัวเราะร่วน ท่าทางจะสะใจมาก
“สัส!” นอกจากด่าก็คิดไม่ออกว่าจะจัดการไอ้เวรนี่ยังไง
“เธอไม่เคยเป็นแฟนเก่า…มีคนกดไลก์เพียบเลย อยากฟังเพลงนี้กันเหรอคะ…อืมมมม ดีเจก็ต้องตามใจผู้ฟังเนอะ เรามาฟังเพลงเธอไม่เคยเป็นแฟนเก่า จากด็อกเตอร์ฟูกันเลยค่า”