ภายในห้อง ของ จางเฟยฮวา ตอนนี้มีเพียง ซูซู สาวใช้คนสนิทของนางที่กำลังป้อนยาให้กับนางอยู่ ขณะที่กำลังตักยาป้อนนางอีกครั้ง จู่ ๆ ดวงตากลมโตก็ลืมตาโตขึ้นทันที
“ คุณหนู ท่านฟื้นแล้วเหรอเจ้าคะคุณหนูข้าคิดว่าท่านจะไม่รอดซะแล้วคุณหนูข้าดีใจเหลือเกิน “เสียงของ ซูซูเอ่ยด้วยความดีใจเมื่อเห็นนายสาวฟื้นซะที
ดวงตากลมโต กรอกไปมา ด้วยความสงสัยและแปลกตากับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ก่อนจะค่อย ๆ หันมามอง ตามเสียงที่เอ่ยดังอยู่ข้าง ๆ แต่เมื่อมองเห็น เจ้าของเสียง ดวงตากลมโตก็ต้องเบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะหลบตาลงอีกครั้ง แล้วก็ลืมตาขึ้นมามองใหม่อีกครั้งแต่ก็ยังคงเป็นภาพเดิม คือหญิงสาวในชุดโบราณ
“นี่ฉันกำลังฝันหรือเปล่า หรือว่า ฉันตายไปแล้วเหรอ แล้วที่นี่ที่ไหน “และคนที่กำลังถามตัวเองอยู่ตอนนี้ก็คือ เซียวอี้ถงนั่นเอง เธอขยับตัวลุกขึ้นนั่ง โดยมี หญิงสาวที่แต่งชุดโบราณเข้ามาช่วยพยุงร่างเล็กของเธอ
“เธอเป็นใครแล้วที่นี่ที่ไหน หรือว่ากองถ่ายละครเรื่องอะไร ”เสียงหวานเอ่ยถาม ด้วยความสงสัย เพราะเธอจำได้ว่าเธอประสบอุบัติเหตุรถคว่ำและตอนนั้นเธอคิดว่าเธอคงไม่รอดเพราะศีรษะของเธอกระแทกกับพวงมาลัยรถอย่างแรงด้วย เมื่อคิดได้ดังนั้นมือเล็กก็ยกขึ้นมาจับศีรษะของตัวเอง แต่ปรากฎว่าไม่ได้เป็นอะไรมีเพียงแค่อาการสลึมสลือนิดหน่อยเท่านั้นเอง
“แล้วฉันมาอยู่ที่กองถ่ายนี้ได้ยังไงกัน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ “เซียวอี้ถงได้งงและถามตัวเอง อยู่แบบนั้น
“คุณหนูเจ้าคะ ท่านเป็นอะไรเจ้าคะ ทำไมท่านถึงได้พูดแปลก ๆ เจ้าคะ คุณหนู “ซูซูเอ่ยถามนายสาวอีกครั้ง ด้วยความสงสัยกับท่าทางของนาง ในตอนนี้
เมื่อได้ยินหญิงสาวพูด เซียวอี้ถงได้แต่แปลกใจ นี้เธอกำลังฝันหรือยังไงกัน
“ที่นี่ที่ไหน “เซียวอี้ถงถามอีกครั้ง
“หอฟู่หรงฮวาแห่งเมืองเจาโจไงเจ้าคะคุณหนู นี่ท่านเป็นอะไรเจ้าคะ ทำไมท่านเหมือนจะจำอะไรไม่ได้เลยเจ้าคะคุณหนูเฟยฮวา”ซูซูเอ่ยถามด้วยความสงสัย แต่เมื่อเธอได้ยินชื่อที่หญิงสาวคนนี้เรียกเธอทำให้ เซียวอี้ถงต้องขมวดคิ้ว
“เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ เฟยฮวา ใครคือเฟยฮวา “เซียวอี้ถงถามด้วยความสงสัย
“นี่คุณหนู ท่านถูกวางยาจนจำอะไรไม่ได้เลยหรือเจ้าคะ คุณหนู”ซูซูถามด้วยน้ำเสียงเศร้า และเสียใจแทนเจ้านายสาว
“เจ้าเรียกข้าว่าเฟยฮวาอย่างนั้นเหรอ “เซียวอี้ถงเอ่ยถาม ด้วยความตกใจ และหันซ้ายหันขวา เพราะเธอรู้สึกแปลก ๆ แล้วในตอนนี้ เพราะถ้าเธอกำลังอยู่ในกองละครจริง เธอถึงจำบทพูดไม่ได้ อีกอย่างนักแสดง เธอก็ไม่รู้จัก แล้วกล้องถ่ายอยู่ไหน ผู้กำกับอยู่ไหน ทีมงานอยู่ไหน ทำไมมีแค่เธอกับนักแสดงหญิงคนนี้
เซียวอี้ถงก้มมองตัวเอง ก็พบว่าเธอแต่งตัวด้วยชุดโบราณ และมองหากระจกเพื่อจะส่องดูตัวเอง
“ฉันขอกระจกได้ไหม “เซียวอี้ถงเอ่ยถามจากหญิงสาว และซูซูก็หันไปหยิบกระจกมาส่งให้กับนาง แต่สายตาก็ยังคงสงสัย
“นี่เจ้าค่ะคุณหนู “
เซียวอี้ถงรับมาและส่องมองใบหน้าของตัวเองที่อยู่ในกระจกนั้น และเธอก็ต้องตกใจอีกครั้ง เพราะหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้นั้น ช่างมีใบหน้าที่งดงามราวกับ ภาพวาด ปากนิดจมูกหน่อย คิ้วโก่ง ดวงตากรมโต บอกได้คำเดียวว่าสวยมาก ไหนจะทรงผมในแบบ ผู้หญิงในยุคโบราณ เธอจำได้ เพราะบางครั้ง เธอก็เคยแสดงหนังในแนวโบราณแบบนี้เหมือนกัน การแต่งตัวการทำผม จะเป็นแบบคนตรงหน้าเธอในตอนนี้
มือเล็ก เผลอลูบใบหน้าตัวเอง และได้แต่บอกว่า ช่างแต่งหน้าของกองละครกองนี้ช่างแต่งหน้าได้สวยเกินจริงไปมาก เปลี่ยนจากใบหน้าดุนิ่งและเรียบเฉยของเธอให้มองดูสวยหวานได้ขนาดนี้ คือเก่งมาก และทุกครั้งการแต่งหน้าของเธอจะ มาในแนวแรง ๆ เหวี่ยง ๆ แต่ตอนนี้เธอดูตัวเอง ช่างเหมือนสาวน้อยไร้เดียงสาเหลือเกิน น่าทะนุถนอมซะจริง
“อือ ช่างแต่งหน้ากองนี้เก่งจริง เหมือนคนละคนเลย” เซียวอี้ถงเอ่ยพึมพำ
“คุณหนูว่าอย่างไรนะเจ้าคะ ตอนนี้คุณหนูรู้สึกเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”ซูซูเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเจ้านายสาว
“หรือว่านี่จะเป็นรายการวาไรตี้อำกันเล่นหรือเปล่า “เซียวอี้ถงถามอีกครั้ง
“คุณหนูพูดว่าอะไรนะเจ้าคะ วา ไร ตี อะไรนะเจ้าคะ “ซูซูถามด้วยความแปลกใจ เมื่อเจ้านายสาวพูดแปลก ๆ ในภาษาที่นางไม่เข้าใจ
“เลิกเล่นได้แล้ว ฉันจับได้แล้ว ออกมาเถอะ ทีมงาน ผู้กำกับ ทุกคนเลยออกมาเถอะ ค่ะ “ เซียวอี้ถงบอก อีกครั้ง แต่คนที่มองเธอนิ่งอย่างซูซูได้แต่แปลกใจและสงสัย
“ข้าว่าข้าไปตามหมอมาตรวจคุณหนูอีกครั้งดีกว่าเจ้าค่ะ”
ซูซูพูดจบและกำลังจะเดินออกไปก็ถูกมือเล็กของ เซียวอี้ถงจับที่แขนเรียวของนางไว้ซะก่อน
“เดี๋ยวก่อน จะไปไหน เหรอ “
ขณะที่สองสาวกำลังคุยกันนั้นประตูก็ถูกเปิดเข้ามาและคนที่เดินเข้ามาก็คือ มาม่าหลี่ นั่นเอง
“เป็นอย่างไร บ้าง ซูซู คุณหนูของเจ้าฟื้นแล้วใช่ไหม “มาม่าหลี่เอ่ยถามและสายตาก็มองเห็น เฟยฮวา ที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“อ้า ในที่สุดเจ้าก็ฟื้นแล้ว เฟยฮวา มา เถอะมานั่งตรงนี้ ข้าเป็นห่วงเจ้าจริง ๆ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง รู้สึกเจ็บปวดที่ใดหรือไม่ “มาม่าหลี่เอ่ยถามและมือก็จับที่ร่างเล็ก เพื่อสำรวจ ว่านางปกติดีหรือเปล่า
“คุณเป็นใคร “เซียวอี้ถงเอ่ยถาม และมองใบหน้าของหญิงวัยกลางคน ที่ถ้าประเมินด้วยสายตา เธอน่าจะเรียกเธอว่าป้าได้เลย
“เจ้าพูดอะไรเฟยฮวา พูดจาแปลก ๆ “มาม่าหลี่ ถามเมื่อเห็นว่านางดูแปลก ๆ ไป
“มาม่าหลี่ เอ่อ คุณหนูอาจจะกำลัง ละเมอเพราะฤทธิ์ยานะเจ้าค่ะ มาม่าหลี่ไม่ต้อง กังวลเจ้าค่ะ ข้ากำลังจะแต่งตัวให้ คุณหนูเจ้าค่ะ “ซูซูรีบเอ่ยบอก นาง
“อย่างนั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็รีบ แต่งตัวให้คุณหนูของเจ้าซะ เพราะกองคารวานใกล้จะมาถึงแล้ว รีบเข้า”มาม่าหลี่ลุกขึ้น และหันมาบอก ซูซู ก่อนจะเดินออกไป
“คุณหนู เจ้าคะ ไปเถอะเจ้าค่ะ ข้าจะแต่งตัวให้คุณหนู “ซูซูเดินมา จับที่ข้อมือเล็กของนางให้ลุกขึ้น
“นี่เรื่องจริง เหรอ ฉันไม่ได้ฝัน และนี่ก็ไม่ใช่กองถ่ายละครอย่างนั้นเหรอ “เซียวอี้ถง เอ่ยพึมพำ ขณะที่กำลังถูกมือเล็กของซูซูดึงให้ไปที่อ่างที่อยู่ด้านหลัง เพื่อ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งชุดใหม่
“เดี๋ยว ๆ ฉัน เอ่อ ข้าขอถามอะไรหน่อยสิ “เซียวอี้ถง พยายามที่จะพูดด้วยภาษาที่พวกเธอพูด
“เจ้าค่ะคุณหนู มีอะไรจะถามหรือเจ้าคะ “ซูซูตอบรับ และหันมามองนายสาว
“เอ่อ เจ้าบอกว่าข้าป่วยเหรอ “
“เจ้าค่ะ คุณหนูถูกวางยาพิษ เพิ่งจะฟื้นเจ้าค่ะ แต่ทุกคนต่างคิดว่าคุณหนูคงจะไม่รอดแล้วเจ้าค่ะ “ซูซู เอ่ยบอก
“เอ่อ มิน่าข้าถึงจำอะไรไม่ค่อยได้เลย เอ่อ เจ้าบอกได้ไหมว่า ที่นี่คือที่ไหน ข้าชื่ออะไร และข้ามาทำอะไรที่นี่อย่างนั้นเหรอ “เซียวอี้ถง เอ่ยถามเป็นชุด แต่คำถามของเธอทำให้หญิงสาวตรงหน้าต้องขมวดคิ้วมองอีกครั้ง
“คุณหนู นี่ท่าน จำอะไรไม่ได้เลยเหรอเจ้าคะ ทำไม......”ซูซู กำลังจะถามต่อ
“เอ่อ ก็เจ้าบอกว่าข้า ถูกวางยาพิษ ก็คงจะเป็นผลจากเรื่องนี้หรือเปล่า เจ้าบอกข้ามาเถอะ ซูซู” เซียวอี้ถงเอ่ยชื่อของนาง เพราะได้ยิน ผู้หญิงคนเมื่อกี้เรียกชื่อนาง
“เจ้าค่ะ ที่นี่คือ ฟู่หรงฮวา หอนางโลมชื่อดังของเจาโจ เจ้าค่ะและคนที่ดูแลที่นี่ก็คือ มาม่าหลี่คนเมื่อสักครู่นี้เจ้าค่ะ ส่วนเท่านชื่อ จางเฟยฮวา หญิงงาม อันดับหนึ่งของฟู่หรงฮวาแห่งนี้เจ้าค่ะ “ซูซูเอ่ยบอกนาง
“ห๊า ฉันเป็นหญิงบริการอย่างเหรอ “เซียวอี้ถงอุทานเสียงดัง ด้วยความตกใจ
“คุณหนูว่าอะไรนะเจ้าคะ หญิงบริการคืออะไรเจ้าคะ “ซูซูถามอีกครั้ง
“ข้าหมายถึง ขาเป็นหญิงคณิกาคอยปรนนิบัติผู้ชายที่มาเที่ยวที่นี่อย่างนั้นเหรอ “เซียวอี้ถงถามด้วยน้ำเสียงเข้ม และคิดในใจว่า นี่เธอ ตายแล้วหรือว่ากำลังฝัน หรือว่าเธอทะลุมิติมาอีกโลกงั้นเหรอ ยิ่งกว่านั้นคือเธอทะลุมิติมาอยู่ที่หองนางโลม ซะด้วยสิ จะบ้าตาย เป็นไปได้ยังไงกัน
“คุณหนูไม่ใช่คณิกาเจ้าค่ะแต่คุณหนูแค่ทำการแสดง เท่านั้น เพราะคุณหนูบอกมาม่าหลี่ตั้งแต่แรกแล้วว่าคุณหนูจะไม่ขายตัวเป็นคณิกา แต่คุณหนูจะทำการแสดงให้กับ บรรดาแขกที่มาได้เพลิดเพลินเท่านั้นเจ้าค่ะ “ซูซูบอกรายละเอียด และทำให้ เซียวอี้ถง รู้สึกโล่งอก แต่ถึงอย่างนั้น จะมีใครเชื่อ ในเมื่อเธอ อยู่ที่หอนางโลม แบบนี้
“แล้วมาม่าหลี่ยอมเหรอ “เซียวอี้ถงถามอีกครั้ง
“ไม่ยอมก็ต้องยอมเจ้าค่ะ เพราะไม่อย่างนั้นคุณหนูจะไปจากที่นี่เจ้าค่ะ “ซูซูบอกอีกครั้ง
“อย่างนั้นเหรอ “
“แต่ว่าก็มีแขกบางคนที่ไม่คิดอย่างนั้นเจ้าค่ะ เพราะมีบางครั้ง ที่มาม่าหลีเองก็ช่วยท่านไม่ได้ “
“แล้วข้าทำยังไง ยอมขายตัวปรนนิบัติ พวกนั้นอย่างนั้นเหรอ “เซียวอี้ถงถามอีกครั้ง
“คุณหนูก็หาทางเอาตัวรอดได้ทุกครั้งเจ้าค่ะ “
“อ้อ เหรอ “
“แต่ว่าคราวนี้ ไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไรเจ้าค่ะ แต่ว่าคุณหนูน่าจะหาทางหนีที่ไร่ไว้ด้วยเจ้าคะ เพราะข้าไปสืบประวัติของหัวหน้ากอง คารวานครั้งนี้แล้ว ไม่ธรรมดาเจ้าค่ะ ดุร้าย ถ้าไม่พอใจก็จัดการด้วยวิธีป่าเถื่อน และเช่นกันถ้าพอใจแล้วก็ยากที่จะมีใครปฏิเสธได้เจ้าค่ะ คุณหนู”ซูซูเอ่ยบอกนายสาว
“หัวหน้ากองคารวานอย่างนั้นเหรอ “
“เจ้าค่ะ หรูอันฉี คือชื่อของหัวหน้ากองคารวานจากเมืองอัน เจ้าค่ะ “ซูซูบอกต่อ
“เจ้าเคยเห็นหน้าไหม ซูซู “เซียวอี้ถงถามต่อ
“ไม่เจ้าค่ะ แต่ข้าว่าก็คงจะดุร้ายหน้ากลัวเจ้าค่ะ ไม่อย่างนั้นใคร ๆ เมื่อได้ยินชื่อ ของเขาต่างหวาดกลัวกันทั้งนั้นเจ้าค่ะ คุณหนู”
“แล้วทำไมข้าจะต้องทนอยู่ที่นี้ด้วยซูซู ทำไมข้าไม่ไปจากที่นี่ “เซียวอี้ถง ถามด้วยความไม่พอใจเมื่อคิดว่าทำไม นางถึงไม่หนีไป จากที่นี่ ถึงยอมอยู่ที่หอนางโลมแห่งนี้ เสี่ยงกับอันตรายจากผู้ชายมักมากพวกนี้กัน เซียวอี้ถงได้แต่ สงสัย