‘โลกโคตรกลมเลย ไม่ชอบการกลับมาเจอกันในสถานะนี้เลยผับผ่าสิ’ โดมินิกคิดในใจ แล้วต้องกลับมาสู่บทสนทนาปัจจุบันเมื่อเสียงหวานใสตะคอกเข้าหู
“เท็ดอยู่ที่ไหน คุณต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่ๆ ฉันเห็นเขาวิ่งหนีอะไรสักอย่าง เขาหนีคุณใช่ไหม คุณทำอะไรเขา”
โดมินิกยกยิ้มยียวน “ถามเป็นชุดผมไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี แต่ผมตอบได้อย่างหนึ่งว่าผมกำลังตามไล่ล่าเขาอยู่เพราะแฟนใหม่คุณมันก่อคดีใหญ่เอาไว้กับผม”
พบขวัญหน้าซีดด้วยความกลัว นี่เขากลายเป็นพวกมาเฟียเถื่อนตั้งแต่เมื่อไร ถึงจะหวาดหวั่นแต่ก็ฝืนถามต่อ “เท็ดหนีคุณจริงๆด้วย พวกคุณมีปัญหาอะไรกัน เขาไปทำอะไรให้คุณ”
คราวนี้คนถูกถามมีสีหน้ากระด้างขึ้นจนพบขวัญสังเกตเห็น แล้วต้องตกใจ เมื่อเขาจับข้อมือเธอยึดไว้ราวกับกลัวเธอจะหนีไปอีกคน
“มันไม่ได้ทำอะไรผมหรอก แต่มันทำน้องสาวผมท้องน่ะสิ” เขาพูดแทบเป็นคำรามจนพบขวัญสะดุ้ง
“น้องสาวคุณท้อง!” พบขวัญตกใจ เธอสงสัยว่าเท็ดไปยุ่งกับน้องสาวของโดมินิกตอนไหน
“ไม่ต้องตกใจ ผมก็ตกใจเมื่อรู้เรื่องนี้ ผมถึงได้มาลากตัวมันไปรับผิดชอบกับสิ่งที่มันทำอย่างไงล่ะ คุณอาจต้องผิดหวังหน่อยนะที่ไม่ได้เข้าพิธีวิวาห์กับไอ้หน้าตัวเมียนั่น รู้ไหมผู้ชายที่เลวที่สุดในความคิดผม คือไอ้พวกผู้ชายที่ทำผู้หญิงท้องแล้วเสือกไม่รับผิดชอบ”
พบขวัญจ้องตาเขาไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะคิดแบบนี้ ถ้าหากเธอบอกเขาก็หมายความว่าเขาจะรับผิดชอบเธอกับลูกอย่างนั้นหรือ แต่เธอไม่อยากให้เขารับผิดชอบเธอต้องการอยู่กับลูกอย่างสงบ “คุณคิดอย่างนั้นจริงๆเหรอ”
“จริงสิ แฟนใหม่คุณมันไม่สมควรเกิดเป็นผู้ชาย”
“เท่าที่ฉันรู้จักเท็ดเขาไม่ใช่คนแบบนั้น” พบขวัญเถียง เพราะหลายปีที่ผ่านมาเจตนิพัทธ์ดีกับเธอมาตลอด ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษทุกครั้งที่พบกัน เธอจึงไม่เชื่อที่โดมินิกพูด
“อ้อ เข้าข้างกันเสียด้วย งั้นเราต้องคุยกันยาว ไปกับผมเดี๋ยวนี้”
“ไม่ฉันไม่ไป คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน ปล่อยฉันนะ”
“ถ้าไม่อยากให้แฟนใหม่ เอ่อ...ผมว่าเป็นสามีใหม่คุณไปแล้วมั้ง ถ้าไม่อยากเห็นมันถูกซ้อมจนตายก็อย่าเล่นตัวรีบตามผมมา เรื่องจะได้ง่ายขึ้น หรืออยากดูว่าผมจะทำจริงไหมจะได้สั่งไอ้พวกนั้นให้ตัดหูมันมาให้คุณดูก่อนสักข้าง”
พบขวัญเบิกตากว้าง แวบหนึ่งเธอเห็นแววเลือดเย็นพาดผ่านในดวงตาสีฟ้า “อย่าทำอะไรเขานะ”
“ถ้าไม่อยากให้ทำ ก็รีบตามมาก่อนที่ผมจะโมโหมากกว่านี้แล้วเปลี่ยนใจทำลงไปจริงๆ ไม่งั้นผัวใหม่คุณได้หูแหว่งแน่ หูแหว่งไม่เท่าไหร่แต่ถ้าผมหมั่นไส้มันมากๆ ไอ้ตรงนั้นผมจะตัดมันทิ้งทั้งแท่ง”
ที่บอกว่าหมั่นไส้โดมินิกก็เผลอพูดไปอย่างลืมตัว พอนึกถึงภาพที่มโนขึ้นในหัวว่าพบขวัญอยู่ใต้ร่างของไอ้หมอนั่นก็ทำให้เขาอยากสั่งกระทืบให้เจตนิพัทธ์กระอักเลือดตายไปซะตอนนี้แต่ติดว่าหลานอาจเป็นกำพร้าพ่อตั้งแต่ลืมตาดูโลกได้ไม่กี่เดือน
พบขวัญตัวแข็งทื่อคาดไม่ถึงว่าโดมินิกจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ เมื่อก่อนเขาเป็นนักธุรกิจที่ดูสุขุม นุ่มลึก หรือนี่คืออีกมุมหนึ่งของเขาที่เธอไม่รู้เอง เธอเคยเสียท่าเขามาแล้ว จึงไม่อยากตามเขาไปที่ไหนอีก แต่เรื่องที่เขายกมาข่มขู่ก็ทำให้พบขวัญหมดทางปฏิเสธ เจตนิพัทธ์ดีกับเธอและลูกมาก เธอจะปล่อยให้เขาเป็นอะไรไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร ถ้าเธอทำนิ่งเฉยก็คงกลายเป็นคนเนรคุณเกินไป
“ฉันยอมไปก็ได้ ถ้าคุณสัญญาว่าเท็ดจะปลอดภัย”
โดมินิกมองคนพูดด้วยความหงุดหงิด เขาโกรธที่รู้ว่าพบขวัญเป็นคนที่เจตนิพัทธ์จะแต่งงานด้วยจนทำให้เจตนิพัทธ์คิดหนีไปเมื่อเช้านี้ ถึงเมื่อสักครู่ได้รายงานจากลูกน้องว่าตามจับกลับมาได้แล้วแต่ก็ผิดที่ลูกน้องเลินเล่อไม่ทันระวังจนเจตนิพัทธ์หลุดออกมาจากห้องเพ้นต์เฮ้าส์ เขาโมโหมากที่เจตนิพัทธ์ไม่ยอมทำตามที่รับปากไว้ว่าจะกลับไปอเมริกาแต่โดยดี เพราะดูเหมือนว่าต้นเหตุของเรื่องจะเป็นที่ร่างเล็กตรงหน้าที่ผูกใจของเจตนิพัทธ์ไว้จนต้องพยายามหาทางหนีกลับไป
โดมินิกระซิบข้างหูอย่างหมั่นไส้ “ถามจริงเถอะใช้ท่าไหนเล่นสนุกกับมัน มันถึงติดใจอยู่หมัดเลย”
พบขวัญสุดทนมือขวาที่กำแน่นยกขึ้นมาแล้วซัดไปที่ดั้งจมูกโด่งจัดขณะที่คนถามไม่ทันระวังตัวส่งผลให้เลือดฝอยในโพรงจมูกแตกทันที เลือดสดๆ ไหลออกมาจนพบขวัญรีบถอยหนีจากการกระทำของตัวเอง
“พบขวัญ! คุณชกผม เขาชี้หน้าเธอดวงตาราวกับเสือที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อที่มันตะปบไว้ได้แล้ว
“ฉันจะทำมากกว่านี้อีกถ้าคุณพูดจาดูถูกฉัน”
“ได้ งั้นผมอยากลองดีกับคุณซะแล้วสิ ผมอยากรู้ว่าคุณจะทำอะไรผมได้ อย่างมากก็บิดเร่า ร้องครางอยู่ใต้ร่างผมนั่นแหละ” เขาบอกแล้วหัวเราะเบาๆทำให้พบขวัญเงื้อมือจะตบอีกแต่คราวนี้โดมินิกคว้าไว้ได้แล้วดึงเข้าหาตัวอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนทรงพลัง
พบขวัญหวีดร้อง ดิ้นขลุกขลักไปจนถึงเพ้นต์เฮ้าส์ ไม่มีใครกล้ายุ่งเพราะเขาสั่งให้บอดี้การ์ดไปเคลียร์หมดแล้ว พบขวัญถูกอุ้มขึ้นมาแล้วโยนไปที่โซฟาในห้องทำงาน
“เรามีเรื่องต้องตกลงกัน ผมต้องการให้คุณยกเลิกการแต่งงานกับเจตนิพัทธ์ แล้วเลิกติดต่อกับเขาอย่างเด็ดขาดในทุกๆทาง” โดมินิกเปิดเรื่องทันทีที่นั่งลงบนโซฟาหนังอย่างดีตรงข้ามกับเธอ
“ฉันไม่ได้คิดแต่งงานกับเขา ส่วนเรื่องที่ให้ฉันเลิกติดต่อกับเขาทุกช่องทางคงทำไม่ได้ เขาเป็นคนดี ฉันไม่มีเหตุผลที่ฉันต้องเลิกคบกับคนดีๆคนหนึ่ง คุณนี่ท่าจะเพี้ยนนะที่มาสั่งให้ฉันลืมคนนั้นคนนี้ มันไม่ได้ลืมง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือนะ”
“ทีเรื่องคืนนั้นที่คุณยกพรหมจรรย์ให้ผม ผมว่ามันลืมยากนะคุณยังลืมได้ง่ายๆเลย”
พบขวัญอ้าปากค้างแล้วแหวกลับเสียงสูง “คนบ้าเรากำลังพูดเรื่องของเท็ดคุณอย่าวกไปเรื่องอื่นสิคะโดยเฉพาะเรื่องนั้นเลิกพูดได้ไหมมันเป็นเรื่องเก่าไปแล้ว”
“ก็ได้ผมไม่เอาไปเปรียบเทียบกับเรื่องเก่าแต่เรื่องนี้คุณต้องทำ เพราะคุณเป็นต้นเหตุที่ทำให้เจตนิพัทธ์ไม่ยอมกลับไปแต่งงานกับวิโอเล็ต หรือว่าคุณต้องการเงินเท่าไรถึงจะเลิกกับเจตนิพัทธ์ได้ หลานผมจะได้มีพ่อ”
พบขวัญกัดฟันกรอดกับคำดูหมิ่นของเขา “ฉันพูดคำไหนที่ทำให้คุณคิดว่าฉันต้องการเงินของคุณ คุณเก็บเงินของคุณไว้เถอะ สำหรับฉันแล้วคนดีๆที่นานๆจะเจอเสียที มีเงินก็หาซื้อไม่ได้ คุณควรจะทราบไว้ว่าฉันกับเขาเราอยู่ในฐานะเพื่อนที่ดีต่อกัน”
“เพื่อนบ้าอะไร ก็เห็นอยู่กับตาว่ามันขอคุณแต่งงาน”
พบขวัญถอนใจ “ฉันปฏิเสธคำขอแต่งงานของเขา แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเท็ดคือเพื่อนที่ดีที่สุด”
แต่ดูเหมือนโดมินิกยังไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด เพราะประโยคเหน็บแนมต่อมาของเขา “เพื่อนคุณมันดีจนแตะไม่ได้ แต่ผมไม่ได้มาเพื่อฟังเรื่องไร้สาระพวกนี้ ผมไม่สนใจหรอกนะว่าเจตนิพัทธ์มันจะเป็นคนดีพ่อพระมากขนาดไหน ตอนนี้แค่คุณยอมทำตามที่ผมบอกก็พอ ผมต้องการให้เจตนิพัทธ์กลับไปแต่งงานกับน้องสาวของผมเท่านั้น”
พบขวัญไม่เห็นด้วยกับวิธีการบังคับขู่เข็ญเลย เธอไม่เชื่อว่าวิธีการของโดมินิกจะสำเร็จ “คุณมีหัวใจไว้ใช้แค่ให้มันเต้นอยู่ใช่ไหมคะ คุณถึงได้คิดกะเกณฑ์ให้ใครรักใคร เลิกรักกับใครก็ได้”