“ไปไหนกันมา!” เพลงตายืนเท้าสะเอวอยู่หน้าบ้านไม่ทันจะก้าวลงจากรถก็ได้ยินเสียงไม่พึ่งประสงค์ราวกับพายุจะลงอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า
“ไปคาเฟ่ามาฮะหม่ามี้” เอเดนเป็นฝ่ายตอบแทน
“จริงเหรอ” หรี่ตามองลงเพื่อจับผิดลูกชายตัวแสบของเธอ ไม่รู้ว่ามีแผนการอะไรไว้หรือเปล่า ถึงได้ออกไปข้างนอกพร้อมกันสองพี่น้องแล้วยังพาหลานไปด้วยอีก
“จริงฮะ ของกินอร่อยมากเลย วันหลังให้ลุงพรายพาหม่ามี้ไปกินนะฮะ”
“จ้ะ” ตอบสั้นๆ ทว่าปรายตามองพี่ชายทั้งสองคนอย่างไม่ไว้วางใจ เธอสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่ถูกปิดบังไว้อยู่
“พี่เพลงค่ะ ภาซื้อขนมเค้กมาฝากเยอะแยะเลยค่ะ” ภารดารีบเอ่ยแทรกก่อนที่บรรยากาศจะอึมครึมไปมากกว่านี้ เธอชูถุงหลายใบตรงหน้าเพื่อเบี่ยงเบนความนใจของหญิงสาว
“ขอบคุณมากเลยจ้ะน้องภา ไหนเอามาดูสิว่ามีอะไรบ้าง พี่อยากกินเค้กอยู่พอดี”
เปลี่ยนอารมณ์เพียงชั่วพริบตาสองหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วงอย่างโล่งอก เมื่อกี้เกือบเผลอหลุดไปแล้วสิ
“เด็กๆ เข้าบ้านกันดีกว่านะ วันนี้ลุงพรายว่างจะอยู่ดูการ์ตูนกับพวกเรา”
“เย้! ไปดูเบนเทนกันฮะ กำลังสนุกเลย” ว่าแล้วก็เดินเข้ามาจูงมือคนเป็นลุงเดินเข้าบ้านตามพาไปยังห้องห้องนั่งเล่นที่เต็มไปด้วยของเล่นสารพัดมากมายจนแทบไม่มีทางเดิน
“เกือบไปแล้วสิ” เพลิงพิษว่าพลางพ่นลมหายใจออกมา ยัยเพลงกำชับย้ำกำชับหนาห้ามเอาไปเป็นพ่อสื่อให้กับใครอีกแค่นี้ก็แก่แดดเกินวัยมากพอแล้ว
ความจริงเอเดนน่ะฉลาดเกินวัย ตำพูดคำจามักจะเหมือนผู้ใหญ่ นิสัยเจ้าชู้พ่อปลาไหล วาจาคมคายก็ได้มาจากพ่อมันล้วนๆ เชื้อไม่ทิ้ง ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ยังไม่รวมกับลุงสองคนที่เป็นคาสโนว่าพอๆ กันเลยสืบทอดกันมาทุกระเบียบนิ้ว
“ขนมมาแล้วจ้ะเด็กๆ” ภารดาเดินออกมาพร้อมกับจานขนมที่ซื้อมาจากร้านของรดา ไม่ใช่มีเพียงแค่ขนมเค้กเท่านั้น ยังมีคุกกี้อีกด้วย กลิ่นหอมอบอวลตั้งแต่เปิดกล่อง จริงอย่างที่พนักงานบอกร้านไม่มีนโยบายชมอาหารของตัวเอง แต่ให้ลูกค้าพิสูจน์ด้วยตัวเองดีกว่าว่ารสชาติอาหารของทางร้านไม่เป็นสองรองใคร ของคาวก็อร่อย ของหวานก็เลิศ
“พรุ่งนี้พี่จะอาสาเลี้ยงเอเดนเองนะ น้องภาจะได้มีเวลาพักบ้าง” พระพรายกล่าวพลางหันมองหน้าน้องสาวตัวแสบที่คอยจ้องจับผิดอยู่ตลอด
“มาแปลกจังเลยนะคะพี่พราย มีอะไรหรือเปล่า” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ร้อยวันพันปีพี่ชายเขาคนนี้ไม่เคยจะเอ่ยปากอาสาเลี้ยงหลานเลยสักครั้ง นอกขอวานช่วยเท่านั้น
พระพรายถึงกับน้ำท่วมปากพูดไม่ออกพลางหันมองหน้าพี่ชายห้าช่วยอีกแรง ทว่าดันหลบหน้าเขาหนีอีก
“ช่วงนี้พี่ว่าง เลยอยากจะช่วยเลี้ยงหลานสักหน่อย ไม่ได้เหรอ”
“ได้ค่ะ เพลงแค่แปลกใจเท่านั้น”
“ไม่ดีหรือไง เราจะได้เตรียมตัวกลับไปช่วยพี่เพลิงทำงาน มีคนช่วยดูแลลูกสบายจะตายไป”
“ค่ะ”
แม้ว่าจะข้องใจในพฤติกรรมของพี่ชาย ทว่าอีกใจก็ดีเหมือนกันเธอจะได้สบายไม่ต้องมาปวดกับลูกๆ ในช่วงนี้
@เช้าวันต่อมา
เมื่อเขาก็ลองโทรไปหารดาช่วงตอนสามทุ่ม ลุ้นแทบตายคิดว่าเธอจะไม่รับสายแต่ไม่เป็นดั่งคาดการณ์ไว้เธอรับสายแล้วยังคุยกับเขาชั่วโมงกว่าถึงจะได้วางสายกัน เขาแอบถามถึงเรื่องสารพัดสุขดิบของเธอ รวมทั้งแพลนในแต่วันว่าต้องไปไหนบ้าง พรุ่งนี้เธอต้องไปเอาขนมเค้กไปส่งให้ลูกค้าที่ต่างจังหวัดคนเดียว เขาเลยอาสาเป็นคนขับรถให้ โดยขอสอยติดเอเดนด้วย โดยให้เหตุผลว่าเขาต้องรับหน้าที่เลี้ยงดูเอเดนในช่วงนี้ ไปไหนก็ต้องหิ้วตามไปด้วยตลอด ซึ่งหญิงสาวก็ไม่ได้ว่าอะไรกลับชอบใจด้วยซ้ำ
“วันนี้เราไปหาพี่รดากันนะเอเดน” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยบอกในหลังจากกินมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อยและทุกคนต่างก็พากันไปทำงานของตัวเอง ส่วนเพลงตาต้องไปส่งอีวานที่เรียนพิเศษและแวะไปหาลูกสาวที่บ้านของสามี ส่วนพี่เพลิงกับน้องภา ก็เข้าบริษัทเพื่อประชุมแต่เช้า
“จริงเหรอฮะลุงพราย เอเดนจะได้กินของอร่อยๆ ใช่มั้ยฮะ” ตาลุกวาวโตเท่าไข่ห่านเมื่อรู้ว่าจะได้ไปหาพี่สาวคนสวยอีก
“ใช่แล้ว แต่ต้องสัญญากับลุงก่อนนะว่าจะเป็นเด็กดี วันนี้ลุงต้องพาพี่รดาไปส่งเค้กที่ราชบุรี”
“เข้าใจฮะ แต่ต้องมีขนมติดรถไปด้วยนะ เอเดนเป็นเด็กกินจุ” ว่าพลางลูบท้องน้อยๆ แม้ว่าจะเพิ่งกินโจ๊กหมูสับหมดไปสองชามแล้วก็ตาม
“จ้าๆๆ เจ้าหมูอ้วนตัวน้อยของลุง” เขาหยิกแก้มด้วยความมันเขี้ยว พลางหยิบกระเป๋าเป้ลายเบนเทนสะพ่ายไหล่และตามด้วยปิ่นโตข้าวเที่ยงของหลานรักที่ต้องพกติดตัวไปด้วยยังไม่รวมตะกร้าของว่างอีกหนึ่งชุดใหญ่ๆ บอกแล้วว่าหลานของเขาแต่ละคนเนี่ย เรื่องกินต้องมาก่อนเสมอ ไปไหนต้องมีของคาว ของหวานติดรถไว้ตลอด เด็กอะไรหิวได้ทุกเวลา
เขาใช้เวลาไม่นานก็มาถึงยังคาเฟ่ของหญิงสาวซึ่งตอนนี้เตรียมของรอเขาไว้อยู่แล้ว เขาจอดลงแล้วเดินเข้าไปยังภายในร้านโดยมีเอเดนวิ่งนำหน้าไปก่อน
“สวัสดีฮะพี่สาวคนสวย” กระพุ่มมือยกไหว้ฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี
“สวัสดีครับสุดหล่อ ขอชื่นใจหน่อยได้มั้ยคะ”
“ได้ฮะ” ว่าแล้วก็ยื่นแก้มนุ่มนิ่มให้พี่สาวคนสวยหอมฟัดสองข้างหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างมีความสุขพลอยทำให้คนเป็นลุงมองด้วยความอิจฉาพลางเบะปากมองบน
“สวัสดีค่ะคุณพราย รบกวนด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับผมเต็มใจ เราจะไปกันเลยมั้ยครับ ใช้เวลาเดินทางกว่าจะไปถึงก็เกือบสองชั่วโมง”
“เด็กๆ ช่วยยกกล่องโฟมไปที่รถคุณพรายหน่อยนะ อย่าตกหล่นละ เดี๋ยวลูกค้าจะกินหัวพี่เอาได้ ไม่มีของไปส่ง”
“ค่า”
พนักงานสาวสามคนช่วยกันยกกล่องใส่ขนมโดยมีพระพรายช่วยอีกแรงจะได้เสร็จไวๆ พลันสายตาเหลือบมองไปเห็นตะกร้าใส่ขนมและขวดน้ำว่างอยู่ หญิงสาวคงน่าจะเอาเพื่อไว้กินระหว่างทาง เข้าทางเขาสุดๆ
“พี่คนสวยมีขนมอะไรให้เอเดนกินบ้างฮะ เมื่อวานหม่ามี้ชมไม่หยุดเลยว่าขนมเค้กกับคุกกี้อร่อย”
“จริงเหรอคะ พี่รดาดีใจจังเลย พี่เตรียมของอร่อยไว้ให้แล้วนะคะ รับรองว่าเอเดนต้องถูกใจแน่ แล้วก็มีน้ำผลไม้อีกด้วยนะคะ ชอบกินน้ำทับทิมหรือเปล่า พี่รดาปลูกเองเลยนะ”
“ชอบกินฮะ หม่ามี้กับคุณยายให้เอเดนกินน้ำผักผลไม้ทุกวันเลยบอกว่าดื่มแล้วร่างกายจะแข็งแรง เป็นเด็กต้องกินผักเยอะๆ”
“น่ารักที่สุดเลยค่ะ งั้นเราไปกันดีกว่านะ เดี๋ยวถึงราชบุรีช้า พี่รดาจะโดนลูกค้าเอ็ดเอาได้” ว่าแล้วก็จูงมือหนุ่มน้อยเดินตรงไปยังรถซึ่งสตาร์ทเครื่องรอไว้อยู่แล้ว
เธอเปิดประตูรถให้หนุ่มน้อยขึ้นไปก่อนและตามด้วยตะกร้าเอาเข้าไปวางแล้วเดินไปเปิดประตูข้างหน้าเพื่อนั่งข้างเขาเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้
“จะออกเดินทางแล้วนะครับ ผู้โดยทั้งสองคนโปรดรัดเข็มขัดและนั่งให้เรียบร้อยด้วย ผมพระพรายทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้ในวันนี้”
“ไปกันเลยฮะ”
“อิอิ” หญิงสาวยกมือปากหัวเราะให้กับความทะเล้นของลุงหลานคู่นี้ช่างน่ารักเหลือเกิน