คุณอารสแซ่บ ตอนที่ 9

1103 Words
ดอกสีขาวมีเกสรสีเหลืองให้กลิ่นหอมอ่อนๆ หล่นอยู่เกลื่อนพื้นกระดานไม้ ดูสวยและอ่อนหวานเสียจนมัสยาต้องก้มหยิบขึ้นมาสูดดม พลางหันมองอีกซีกด้านที่ยังไม่ได้เดินไปถึง และเมื่อเห็นว่าอารักษ์รูปหล่อยังยืนคุยกับช่างรับเหมาไม่เสร็จ มัสยาจึงเดินสำรวจต่อไปในทันที           ทิวไม้ตัดแต่งเป็นกำแพงบดบังสายตาจากคนภายนอกนั้นถูกแบ่งแยกให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของผู้บริหาร โดยจัดเป็นบันไดเชื่อมขึ้นไปถึงเรือนไทยอีสานที่ตั้งเยื้องอยู่ในฝั่งขวามือ แม้จะมองออกว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่มัสยากลับไม่รอช้าที่จะขึ้นไป เพราะถือว่าไหนๆ เธอก็ยังไม่ตัดสินใจที่จะฝึกงานที่นี่หรือไม่ อย่างน้อยก็ขอให้เธอมีโอกาสเห็นสถานที่ทำงานของอารักษ์ให้ทั่วทุกซอกทุกมุม เพราะหากเธอเลือกเปลี่ยนที่ฝึกงาน เธอคงไม่มีโอกาสไหนที่จะได้เข้ามาสำรวจแบบนี้อีกแน่           และมัสยาก็รู้ว่าเธอเลือกไม่ผิด เพราะระเบียงด้านบนนี้ทำให้เธอมองเห็นพื้นที่โดยรอบของร้านอาหารแทบทุกมุม โดยเฉพาะโซนเอ้าท์ดอร์ด้านหน้าที่จัดโต๊ะไว้ตามมุมต่างๆ พร้อมประดับไปด้วยต้นไม้ดูร่มรื่น ซึ่งหากอารักษ์หรืออาจมีผู้บริหารท่านอื่น อยากรู้ว่าช่วงเวลานี้มีลูกค้ามากหรือน้อยก็แค่เดินออกมาดูเท่านั้น เช่นเธอยังเห็นอารักษ์คุยอยู่กับผู้รับเหมาอยู่ในขณะนี้           สำหรับพื้นที่ด้านบนนี้จัดสร้างไว้เป็นห้องหับแยกเป็นโซนซ้ายขวา ด้านซ้ายมือใกล้กับจุดที่เธอยืนอยู่นั้น เป็นห้องที่ปิดประตูหน้าต่างเอาไว้อย่างมิดชิด ตรงไปด้านหน้าเป็นอีกห้องที่ติดตั้งไม้ระแนงสูงจากระดับเอวจนจรดหลังคา และทางฝั่งขวามือเป็นห้องยาวขนาบตลอดทั้งแนว ทุกห้องจะมีระเบียงเป็นตัวเชื่อมพื้นที่เข้าหากันทั้งหมด และห้องที่ใกล้ที่สุดนี่แหละ เธอจะเข้าไปสำรวจเป็นห้องแรก           ฝ่ามือบอบบางผลักประตูไม้เข้าไปด้านในและเป็นตามที่เธอคิดไว้ เพราะหน้าต่างไม้ที่สูงกว่าปกติทำให้พอจะคาดเดาได้ว่าห้องนี้น่าจะเป็นห้องรับแขกหรือห้องคุยงานที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว เพราะโซนด้านล่างที่เดินผ่านมานั้นเป็นบริเวณของห้องครัวและโต๊ะทานอาหารทั้งหมด หากจะมีการเจรจางานใดๆ ก็น่าจะเป็นห้องนี้ที่ดูเป็นทางการ           และชุดฟูกยัดนุ่นตัดเย็บเป็นวัฒนธรรมอีสานถูกจัดวางไว้แต่ละตำแหน่งทำให้มัสยาต้องยิ้มออกมาอีกครั้ง เพราะแม้แต่จุดที่ไม่เป็นที่สังเกตของลูกค้า เจ้าของเรือนนี้ยังคงใส่ใจ           แรกที่ได้รู้จากพ่อกับแม่ว่าอารักษ์จะมาทำร้านอาหารที่เมืองไทย เธอยังคิดว่าจะต้องเป็นร้านอาหารฝรั่งอย่างแน่นอน เพราะคนที่เป็นลูกครึ่ง แถมอยู่เมืองนอกมา 10 ปีเต็ม คงจะถนัดอาหารฝรั่งมากกว่าเพราะกินอยู่ทุกวัน แต่สรุปว่าเธอคาดผิด           เพราะร้านอาหารที่อารักษ์ตั้งใจมาทำนั้นจะมีเมนูเป็นอาหารอีสานและอาหารไทยทั้งหมด โดยที่เมืองไทยนี้คือ ‘แซ่บ อินดี้’ สาขา 2 การทำตลาดทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาตินั้นก็ไม่ยาก เพราะสาขา 1 ที่ฟลอริดาจะช่วยโปรโมตให้           และห้องถัดมาที่เห็นเป็นไม้ระแนงต่อโปร่งนั้น ข้างในถูกตกแต่งด้วยชุดเครื่องครัวฝรั่ง มีที่เตรียมอาหารขนาดกะทัดรัดแต่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เตาแก๊ส ไมโครเวฟ หรือแม้แต่ซิงค์น้ำก็ยังมี การันตีได้ว่าอารักษ์ของเธอขาดห้องครัวไม่ได้จริงๆ           มัสยาเดินมาถึงห้องสุดท้ายที่ขนาบระเบียงด้านข้างตลอดเป็นแนวยาว ห้องนี้มัสยาคาดเดาไม่ได้ว่าเป็นห้องอะไร ห้องรับแขกก็มีแล้ว ห้องครัวก็มีแล้ว แล้วห้องนี้ล่ะ จะว่าห้องนอนก็ไม่น่าจะใช่ เพราะที่ร้านกับบ้านก็ไม่ได้ไกลกันมากนัก อารักษ์น่าจะอยู่บ้านมากกว่า แต่เตียงใหญ่ขนาดคิงไซส์ตั้งเด่นอยู่กึ่งกลางห้องทำให้มัสยาถึงกับอึ้ง           “ห้องนอน... ของใคร อารักษ์จะมาอยู่ที่นี่เหรอ แล้วที่บ้านล่ะ”           “บ้านก็เก็บไว้แบบนั้น”           “อุ้ย! อารักษ์”           มัสยาสะดุ้งทันทีเพราะคำพึมพำกับตัวเองนั้นได้รับคำตอบ และอารักษ์ที่ก้าวเข้ามาก็ทำให้เธอกระเถิบห่างโดยอัตโนมัติ แต่ถึงอย่างนั้นเธอยังเห็นว่าริมฝีปากมีรอยหยักลึกกำลังเม้มเข้าหากันอย่างสะกดกลั้นรอยยิ้ม ‘อารักษ์ขำเธองั้นเหรอ’ แค่คิดความร้อนก็พวยพุ่งขึ้นสู่ใบหน้า จนเธอต้องหันหนีพร้อมฝืนกลั้นรอยยิ้มไว้เหมือนกัน           “อาว่าจะรีโนเวทบ้านใหม่ ก็เลยจะย้ายมาอยู่ที่ร้านก่อนน่ะ เป็นยังไงบ้าง น้องปลาดูแล้ว สวยมั้ยคะ”           “สวยค่ะ สวยมากเลย”           “อายังไม่ได้ดูของจริงเลยนะ ไม่รู้จะสวยเหมือนรูปหรือเปล่า” พูดพลางเดินสำรวจไปตามจุดต่างๆ ในห้องนอนของตนเอง           “เหมือนรูปเหรอคะ” หัวคิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน นี่อารักษ์ทำงานผ่านภาพถ่ายหรือยังไง           “ใช่สิ ก็ทำงานผ่านอินเตอร์เน็ตนี่ ผู้รับเหมาเขาส่งความคืบหน้าของการก่อสร้างให้อาดูทุกอาทิตย์ นี่ก็เสร็จทั้งหมดแล้วนะ เหลือแค่เข้าอยู่และจัดเตรียมพนักงานเท่านั้นแหละ”           “อารักษ์เก่งจังค่ะ”           น้ำเสียงเอ่ยชมแสดงความจริงใจอย่างทำให้ลูกแก้วสีเขียวสดใสสะท้อนแต่ภาพของเธออยู่ภายใน มัสยาอึกอักพูดต่อไม่ถูกเพราะดวงตาที่จ้องมองมาที่เธอคล้ายกับจะบอกอะไรบางอย่าง ซึ่งเธอจะไม่ยอมให้ความรู้สึกบ้าๆ นี้อยู่นาน           แค่การแอบรักใครบางคนมาตลอดชีวิตก็น่าละอายพอแล้ว อย่าให้ต้องมาสำคัญตัวผิดเพราะคิดว่าเขามองมาด้วยจิตพิศวาสเลย เพราะทั้งหมดนั้นเธอนั่นแหละที่จะเจ็บนาน           “เออ... น้องปลาว่าเราออกไปข้างนอกกันดีกว่าค่ะ”           “ทำไมล่ะ”           ‘ทำไม’ นั่นสิทำไม อยากบอกว่าเธอรู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่กับอารักษ์สองต่อสองในห้องนี้ อึดอัดที่ต้องเก็บกั้นความรู้สึกเอาไว้ให้มิดชิด อึดอัดที่อารักษ์ทำเหมือนเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมาไร้ความหมาย เพราะอารักษ์ไม่พูดถึงอีกเลย อึดอัด... อึดอัด... และก็อึดอัดอย่างหาคำอธิบายต่อไม่ได้    
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD