คุณอารสแซ่บ ตอนที่ 5

1056 Words
          ในวันนั้นมัสยาจำได้ว่าเธอไม่ได้ตอบโต้อะไรออกไปเลย หนึ่งนั้นคือไม่เข้าใจว่าทำไมอารักษ์ต้องเอาลิ้นเข้าไปพันกับหล่อนด้วย สองคือไม่คิดว่าจะได้ยินคำเหยียดหยามกับสายตาดูแคลนจากปากของผู้หญิงที่อารักษ์พามาบ้าน แต่เมื่อโตขึ้นก็ทำให้เธอเข้าใจว่าสิ่งที่เพื่อนสาวของอารักษ์มองเห็นในตัวเธอนั้น ‘เป็นจริง’           หน้าตาและรูปร่างจึงเป็นสิ่งที่เธอใส่ใจ สวย หุ่นดี และหน้าอกต้องใหญ่กว่าแม่นั่น เธอจึงกลายเป็นหญิงสาวใส่ใจการกินอาหารพอๆ กับการออกกำลังกายเพื่อบริหารหน้าอกให้ยกกระชับและสวยงามอยู่เสมอ โชคดีเป็นของเธอเมื่อแม่รักเธอมาก ถึงกับให้มาเยอะอย่างไม่หวง           และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ แม้จะมาโดยไม่คาดฝันแต่ก็สร้างความมั่นใจให้เธอเต็มร้อย ‘รักษ์เป็นของฉัน’ จะไม่มีวันให้เป็นไปตามที่พิซซี่บอกแน่ เพราะตอนนี้มั่นใจอย่างที่สุดว่าสวยกว่าแม่นั่นแน่ ไม่อย่างนั้นอารักษ์คงไม่ ‘จูบ’ เธอในทันทีที่เห็นหน้าหรอก โดยเฉพาะขนาดของหน้าอก เธอมั่นใจว่าทั้งใหญ่และเต่งตึงกว่าแม่นางแบบ ‘พิซซี่’ หลายคัพทีเดียว           ทรวงอกขนาดใหญ่กระเพื่อมขึ้นลงตามแรงเคล้นคลึงจากฝ่ามือของเขาทำให้อารักษ์มันในอารมณ์เสียจนต้องคลุกเคล้าใบหน้าลงบนความสวยงามนั้นไม่หยุด ทั้งกดเคราสากขึ้นลง ทั้งซุกไซ้จมูกดอมดมความหอม แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้เขาสะใจที่ได้ฟอนเฟ้นเต้าอวบใหญ่นี้           ริมฝีปากจึงอ้าออกและดูดกลืนปลายยอดสีแดงสดพร้อมกับตวัดปลายลิ้นเลียไล้ไปมา และเมื่อได้ยินเสียงร้องครวญครางของเธอดังชัด เขาก็ยิ่งตวัดปลายลิ้นให้รัวเร็วมากยิ่งขึ้น           ‘อา... อื้อ... อา... อารักษ์ขา... อา... อารักษ์ขา... อูย... อูย... อารักษ์... โอว... อารักษ์ขา... โอว...’           เสียงครวญครางแว่วหวานเปล่งออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มเผยอน้อยๆ ร้องเรียกชื่อเขาด้วยความเสียวซ่าน ในทุกครั้งที่เขาตวัดปลายลิ้นลงไป เธอจะบิดกายพร้อมเปล่งเสียงร้องเรียกชื่อเขาไปด้วย ‘อารักษ์ขา...’ และยิ่งเธอครวญครางเท่าไร ก็คล้ายกับเป็นแรงกระตุ้นให้เขาตื่นตัวมากขึ้นเท่านั้น ทว่า... คนที่เรียกเขาแบบนี้มีเพียงคนเดียว           ดวงตาคมเข้มเปิดขึ้นอย่างเร็วก่อนร่างแข็งแกร่งเปลือยเปล่าท่อนบนจะทะลึ่งลุกขึ้นพรวด ฝ่ามือทาบปิดใบหน้าของตนเองเอาไว้ เพื่อสะกดกลั้นความต้องการตามธรรมชาติให้ลดน้อยถอยลง เพราะภายใต้กางเกงนอนขายาวลายสก็อตนี้ ต้องทำหน้าที่กักเก็บความมหึมาเอาไว้อีกแล้ว และเขาก็รู้ดีว่ามันมหึมามากมายขนาดไหนยามพร้อมจะออกศึก           “เฮ้อ!”           ถอนหายใจหนักๆ เพราะศึกครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะทุกครั้งนั้นเขาเป็นฝ่ายบุกทลายจนข้าศึกแตกกระจุยและเขาก็ได้ครอบครองพื้นนี้นั้นด้วยความเต็มตื้นอย่างที่สุด แต่ในเวลานี้เขากลับต้องพยายามเจรจาและสงบศึกลงให้จงได้ จะไม่ยอมให้ต้องเสียเลือดเสียเนื้อเด็ดขาด           แต่ยิ่งคิดก็คล้ายกับว่าจะยิ่งตอกย้ำความเป็นจริงมากขึ้นไปอีก เพราะหากเขาช่วงชิงเอาพื้นที่นี้ไว้ได้ การเสียเลือดเสียเนื้อครั้งนี้ก็จะคุ้มและทำให้เขามีความสุขอย่างท่วมท้นมากที่สุด           “ไอ้รักษ์ แกอย่าบ้านะ นั่นมันน้องปลานะโว้ย! แกไม่ควรคิดกับน้องปลาแบบนี้”           “แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง น้องปลา... ใหญ่โตซะขนาดนั้น ทั้งใหญ่ ทั้งเต่งตึง โอ้ย! ฉันไม่ได้อยากคิด แต่ฉันห้ามมันไม่ได้”           “หักใจให้ได้อารักษ์ แกคิดกับน้องปลาแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแกได้ถูกฉลามกินแน่”           “ฉัน...”           อารักษ์พูดโต้ตอบกับตัวเองไม่ต่างจากคนบ้า เพราะไม่ใช่ไม่รู้ว่าสิ่งที่คิดและเก็บเอามาฝันนั้นไม่ถูกไม่ควร และเขาก็ควรจะตัดไฟเสียแต่ต้นลมให้เร็วที่สุด แต่สิ่งเร้าจากเรือนร่างของมัสยาทำให้เขาหวั่นไหวเหลือเกิน ใครจะคาดคิดไปว่า เด็กหญิงรูปร่างอ้วนป้อมในวันนั้นจะกลับกลายเป็นสาวสวยได้มากขนาดนี้ โดยเฉพาะ ‘หน้ามัธยมแต่นมปริญญาเอก’ นั่น ก็ยิ่งการันตีความเป็นไปได้ที่เขาจะฝันหามัสยาให้มากขึ้นไปอีก           แค่คิดถึงเต้าอวบอิ่มสีชมพูคู่นั้น อารักษ์คล้ายจะเห็นตัวเองกลายร่างเป็นพระอภัยมณีกำลังซุกไซ้ริมฝีปากและปลายจมูกลงไปที่เต้าทรวงอวบอิ่มของนางเงือกสาวสวย ที่พาเขาโลดแล่นลงไปในสายน้ำเย็นเยียบเพื่อดับคลายความร้อนรุ่มจากกายเนื้อนี้ให้เบาบางลง และในเวลานี้เขาต้องการมากมายเหลือเกิน             หัวคิ้วขมวดเข้าหากันพร้อมกับดวงตาที่เขม่นมองมาทำให้อารักษ์รู้สึกคล้ายกับว่าจะหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาเสียดื้อๆ เมื่อเจ้าของบ้านข้างเคียงที่เขาตั้งใจมาสวัสดีทักทายพร้อมเอาของฝากมาให้ กำลังส่งสายตาพิฆาตมองมาอย่างจับผิด หรือว่าเหตุการณ์เมื่อคืนกำลังจะส่งผลในเช้าวันนี้           ไม่น่า... เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ‘ฉลาม’ หรือ ‘พี่หลาม’ ตามที่เขาเรียกอย่างสนิทสนมนั้นคงลากปืนมายิงเขาทิ้งไปแล้วล่ะ แต่ไอ้สายตามองมาแบบนี้จะหมายความว่ายังไงกันล่ะ           “เอ่อ... พี่หลามมีอะไรหรือเปล่าครับ” ถามพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เพราะฉลามยังไม่ละสายตาจากเขา ทั้งยังทำท่าคล้ายกับจะครุ่นคิดอะไรบางอย่างอีกด้วย           “รักษ์”           “ครับพี่!”           “ตกใจอะไร พี่ก็เรียก”           “เอ่อ... พี่หลามมีอะไรจะถามผมหรือครับ”           น้ำเสียงติดตลกของฉลามเหมือนกับว่ากำลังขำขันในตัวเขาทำให้อารักษ์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และกล้าจะส่งคำถามไปใหม่ เพราะถ้าเป็นเรื่องของมัสยาจริง ฉลามคงไม่มานั่งยิ้มทำสีหน้ากรุ้มกริ่มใส่เขาแบบนี้แน่ เพราะพ่อที่ไหนล่ะจะยิ้มถ้ารู้ว่าเขาขโมยจูบแรกและบีบเต้าครั้งแรกของลูกสาวตัวเองไปแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD