EP.10 CRAZY LOVE คลั่งรัก ♥
ตอน ทำร้ายจนกว่าจะพอใจ
"ไปให้พ้น!" ฉันพยายามจะสะบัดฝ่ามือตัวเองออกจากพันธนาการของเขา
"แล้วเธอร้องไห้ทำไม?" เขาเปลี่ยนน้ำเสียงถามขึ้นพร้อมกับค่อย ๆ ปล่อยข้อมือของฉันให้เป็นอิสระในที่สุด
ส่วนฉันก็เลือกที่จะเมินใส่เขาและไม่ตอบอะไรไปทั้งนั้น เอาแต่ปาดน้ำตาตัวเองอย่างลวก ๆ เพราะกลัวว่าใครจะผ่านมาเห็นเอาได้
"เฮ้อ" ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ใส่หน้าของเขาอีกครั้ง
เพราะยิ่งอยู่ใกล้คนอย่างเขา มันก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดมาก ๆ เหมือนหายใจไม่ค่อยออกเลยจริง ๆ
"ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย!" ฉันพูดอย่างไม่อยากจะมองหน้าเขา ก่อนจะหันหลังให้เขาเพื่อเดินเลี่ยงออกมาอีกทาง แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะก้าวขาไปได้ไกล
"เดี๋ยว!" เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจังกว่าทุกครั้ง
"เธอ...กินยาคุมฉุกเฉินรึยัง?" เสียงของฟาเรนเอ่ยถามดังมาจากทางด้านหลัง
และคำถามของเขานั้น มันก็ทำเอาฉันชะงักไปเลยเหมือนกัน
ฉันมัวแต่วิตกเรื่องอื่น ๆ จนลืมเรื่องยาคุมฉุกเฉินไปซะสนิทเลยจริง ๆ
เพราะถึงแม้ว่าฟาเรนจะปล่อยน้ำสกปรก ๆ นั้นด้านนอก แต่มันก็ไม่ได้ปลอดภัยจากการตั้งครรภ์ได้ 100% เพราะเขาไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย ยังไงก็เสี่ยงท้องอยู่ดี
"ทำไมฉันถึงลืมเรื่องนี้ไปได้นะ" ฉันยกมือทุบหัวของตัวเองอย่างเครียดหนักกว่าเดิมไปอีกเท่าตัว
"ยัยโง่เอ๊ย!" ฟาเรนสบถออกมาทันทีก่อนจะปล่อยบุหรี่ทิ้งและขยี้มันด้วยเท้าของเขา
เขาเดินมาหาฉันจากทางด้านหลัง และยังไม่ทันที่ฉันจะตั้งตัว ใบหน้าที่เย็นเฉียบของคนตัวสูงก็ยื่นมาข้าง ๆ ใบหน้าของฉันแล้ว
"อสุจิของฉันเพียงหยดเดียว ถ้ามันพุ่งเข้าไปในตัวของเธอ" ฟาเรนกัดริมฝีปากเล็กน้อยและพูดอย่างตรงไปตรงมา
"ก็ปั้นเด็กได้เป็นตัวแล้วนะ ยัยโง่!" เขาลูบที่หน้าท้องของฉันเบา ๆ ในท่าทางที่เหมือนเขากำลังโอบกอดฉันจากทางด้านหลัง
"ปล่อยนะ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น" ฉันพยายามจะสะบัดตัวออกแต่ฟาเรนก็รัดเอวของฉันเอาไว้แน่น
"เธอคงไม่ได้คิดจะจับฉันด้วยวิธีนี้หรอกใช่ไหม?" แบดบอยอย่างฟาเรนกระซิบด้วยเสียงกระเส่า ๆ ที่ข้างใบหูของฉัน
"ฉันไปซื้อยาคุมกินเดี๋ยวนี้แหละ" ฉันพยายามจะงัดฝ่ามือหนา ๆ ของเขาออกจากเอวของตัวเองให้ได้
"ไม่ต้องไป!" ฟาเรนถอนหายใจออกมา
จู่ ๆ เขาก็เอื้อมมือมาบีบปากของฉันและแกะยาคุมฉุกเฉินออกจากกล่อง และยัดใส่ปากของฉันสองเม็ดทันที
"อื้อ ~" ฉันพยายามจะขัดขืนแต่ก็ต้องกลืนยาเม็ดนี้ลงคอไปในที่สุด
พอกรอกยาเสร็จ เขาก็กรอกน้ำตามทันทีอย่างไม่มีรีรอและแทบไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้หายใจสักนิด
"อึก อึก ~" ฉันฝืนกินน้ำไปจนเกือบครึ่งขวดได้ แต่ความดิบเถื่อนของคนอย่างฟาเรนทำเอาฉันแทบจะสำลักน้ำออกมา
"ให้ฉันกินเองก็ได้!" ฉันผลักท่อนแขนแกร่งของเขาออกไปทันที เพราะเกือบจะสำลักน้ำที่เขาเทกรอกใส่ปากอย่างทารุณ
ฉันหันไปมองค้อนใส่ฟาเรนเล็กน้อย
"แค่ก แค่ก" ฉันไอสำลักออกมาอย่างรู้สึกแสบทั้งลำคอ
"ก็ป้อนให้ไง" เขาตอบกลับมาด้วยสายตาที่ไม่ได้รู้สึกผิดใด ๆ
ฉันหันกลับไปสบตากับคนสารเลวนั้น พลางลูบลำคอของตัวเองเบา ๆ
"ว่าแต่ เธอคุยกับอาจารย์ที่คณะนานจังเลยนะ" ฟาเรนเลิกคิ้วและเอ่ยถามขึ้น พลางมองนาฬิกาข้อมือของเขาไปด้วย
"นายรู้ได้ไงว่าฉันไปคุยกับ..." ฉันเหลือบมองไปทางห้องอาจารย์วารีและหันกลับไปเผชิญหน้ากับเขาแต่ยังไม่ทันจะพูดจบดี
"อาจารย์ยกเลิกทุนของเธอแล้วใช่ไหม?" ฟาเรนเอ่ยถามสวนขึ้นมาอย่างหน้าตาเฉย
ฉันนิ่งไปพักใหญ่อย่างพยายามรวบรวมสติของตัวเอง
"นี่เป็นฝีมือของนายงั้นเหรอ?" ฉันถลึงตาใส่เขาอย่างแค้นจับใจ
"ก็อาจารย์ของเธอมาถามฉันเอง"
"ว่าจะให้ลงโทษเธอยังไงดี?" เขาหัวเราะในลำคอเล็กน้อย
"แล้วนายก็เลยบอกให้อาจารย์ตัดทุนการศึกษาของฉันเนี่ยนะ?" ฉันถามกลับไปอย่างเสียงสั่น
"ใช่" ฟาเรนเหยียดยิ้มตอบกลับมาทันที
"มันไม่มากไปหน่อยเหรอ" ฉันถามกลับไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"ฟาเรน?" น้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาอีกครั้งอย่างพูดไม่ออกเลยจริง ๆ
"ก็เธอทำให้ฉันกลายเป็นตัวตลกในสายตาของคนอื่นก่อน"
ฟาเรนเบะปากใส่อย่างไม่สนใจว่าสิ่งที่เขาทำเลว ๆ ลงไปมันมากเกินไปสำหรับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง
"ไอ้พวกคู่อริของฉัน มันก็หัวเราะฉันจนฟันแทบร่วงเลยมั้งตอนเห็นคลิปนั้น" เขาพูดกลับมาอย่างใส่อารมณ์
"ฉันมีหน้ามีตาในสังคมนะ ไม่ใช่สาวบ้าน ๆ อย่างเธอสักหน่อย"
เขาพูดใส่หน้าของฉันด้วยแววตาดูถูกดูแคลน
ในหัวสมองของเขาคิดแค่ว่าฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนอื่น ๆ หัวเราะเขาได้ที่ถูกผู้หญิงตัวเล็ก ๆ สาดน้ำและด่ากราดใส่
ยิ่งเขาอ่านคอมเมนต์ต่าง ๆ ในเว็บบอร์ดของมหาลัย เขาก็เลยพยายามจองเวรจองกรรมฉันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแบบนี้น่ะเหรอ?
"ถามจริง ๆ นะ ว่าสิ่งที่ฉันทำมันเลวร้ายสำหรับนายมาก"
"ขนาดที่นายต้องทำลายชีวิตฉันเพื่อชดใช้ในสิ่งที่ฉันทำกับนายเลยเหรอ?" ฉันเอ่ยถามเหตุผลจากคนสารเลวตรงหน้า
"ใช่!" เขากระแทกเสียงกลับมาทันที
"ก็ฉันไม่เคยกลายเป็นตัวตลกแบบนี้มาก่อน" ฟาเรนพูดเสริมและมองหน้าฉันอย่างคาดโทษ
"และไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำร้ายร่างกายฉันได้ถึงสามครั้งเหมือนเธอ" เขาจ้องมองมาที่ฉัน ที่ตอนนี้มีแต่น้ำตาคลออยู่ในหน่วยตา
"ครั้งแรกที่เจอ เธอกัดหูของฉันจนเป็นแผลเป็น" ฟาเรนชี้ไปที่ใบหูของเขาที่เกิดจากตอนที่เราทะเลาะกันในสนามแข่งบอล ซึ่งมันเป็นรอยฟันจริง ๆ ตรงติ่งหูข้าง ๆ รอยสักสุดเท่ของเขา
"ครั้งที่สองเธอเตะฉันจนล้มลงไปนอนกับพื้นลานจอดรถ ถ้ามันใช้ไม่ได้เธอจะรับผิดชอบยังไง?" ฟาเรนชี้ไปที่ส่วนนั้นของเขา แถมยังจับดุ้นแข็ง ๆ นั้นโชว์ฉันอีก
"ครั้งที่สามเธอตบหน้าฉันต่อหน้าเพื่อนและคนอื่น ๆ กลางผับ"
"และครั้งสุดท้าย เธอสาดน้ำใส่ฉันที่หน้าตึกคณะของฉัน และยังมีคลิปหลุดออกมาจนฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเลย"
"ทุกเหตุการณ์ เธอยังจำได้อยู่ไหมว่าเธอเองก็เหี้ยกับฉันไม่ต่างกัน"
ฟาเรนขยับใบหน้าเข้ามาหาฉันจนปลายจมูกของเขาชนกับปลายจมูกเล็กของฉัน อย่างไม่อาจจะหันหน้าหนีไปทางอื่นได้เลย
"เธอทำให้ฉันไม่ต่างอะไรจากตัวตลก ทั้งที่ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยเป็นตัวตลกของใครทั้งนั้น!" เขาจ้องเข้ามาในแววตาของฉันและร่ายยาวออกมาแทบไม่มีจังหวะได้หายใจเลย
"แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ...น้ำขิง!" ฟาเรนดันตัวของฉันชิดกำแพงและพูดใส่หน้าฉันด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
ฉันเงียบ รับฟังเขาทุกถ้อยคำอย่างไม่เถียงหรือพูดแทรกอะไรกลับไปเลย
เพราะเรื่องทั้งหมดมันก็เป็นเรื่องจริง แต่ฉันมองว่าเขาเองก็แรงกับฉันก่อน ฉันก็แค่ปกป้องตัวเองเพียงเท่านั้น
"แล้วต้องการให้ฉันชดใช้แบบไหนดีล่ะ" ฉันเอ่ยออกไปทั้งน้ำตา ที่ไม่อาจจะกลั้นเอาไว้ได้อีกแล้ว
"นายถึงจะพอใจ?"
"นายทำให้ฉันโดนไล่ออกจากงาน!!"
"นายข่มขืนฉันและยังถ่ายคลิปเอาไว้รอวันประจาน!"
"และนายทำให้ฉันถูกตัดทุนการศึกษา ซึ่งมันคืออนาคตดี ๆ เพียงหนึ่งเดียวที่ฉันมี!"
ฉันพูดไปร้องไห้ไปด้วย แม้ว่าจะพยายามกัดฟันและเก็บอารมณ์ให้ได้มากที่สุด เพราะกลัวคนอื่น ๆ จะผ่านมาเห็น แต่ความเจ็บปวดของฉันในตอนนี้ มันเหยียบเอาไว้ไม่มิดแล้วจริง ๆ
"นายจะไม่คิดเหลือที่ยืนเล็ก ๆ บนโลกนี้"
"ให้ฉันได้ยืนเลยใช่ไหม?"
ฉันระบายออกไปทั้ง ๆ ที่เริ่มมีอาการปวดหัวแทบจะระเบิดออกมาและแทบจะยืนต่อไม่ไหวแล้ว
"แล้วฉันต้องทำยังไงเหรอ" ฉันทุบลงกับแผ่นอกของตัวเองอย่างแรง
"ถึงจะสาแก่ใจนายสักที?" ฉันตวาดลั่นและระเบิดอารมณ์ถามเขาไปทั้งน้ำตา
"ฆ่าฉันให้ตายเลยดีไหม?" ฉันคว้าฝ่ามือหนา ๆ ของเขามาวางพาดที่ลำคอของตัวเอง ก่อนจะบังคับให้เขาบีบคอของฉัน
"เพราะทุกวันนี้ที่เป็นอยู่"
"มันก็ไม่ต่างจากตกนรกทั้งเป็นเลยสักนิด" ฉันเอ่ยถามฟาเรนไปตรง ๆ ขณะที่เขาเองก็เอาแต่ยืนนิ่งไม่ตอบอะไรกลับมาเลยทั้งนั้น
"เอาเลยฟาเรน"
"นายบีบคอฉันให้ตายไปเลยก็ได้"
"เชิญทำร้ายฉันจนกว่านายจะพอใจ" ฟาเรนเกร็งมือของเขาเอาไว้ไม่ยอมบีบคอของฉันแต่อย่างใด
"..." ฟาเรนมองฉันด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
เขาไม่พูดไม่อะไรเลยหลังจากที่ฉันเริ่มร้องไห้หนักขึ้น ๆ และระบายความเจ็บปวดนี้ออกมาจนหมด
ฉันกำหมัดทั้งสองข้าง ๆ แน่น
ฉันพยายามสูดลมหายใจเข้าออกช้า ๆ อย่างตั้งสติ เพราะเริ่มมีคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเหลือบมองทางเราอยู่ไม่น้อย แม้ว่ามันจะเป็นมุมตึกแคบ ๆ ก็ตาม
"ถ้าเป็นคนอื่นทำร้ายฉันแบบที่เธอทำ มันไม่มีชีวิตมายืนร้องไห้อยู่ตรงหน้าฉันแบบตอนนี้หรอก"
ฟาเรนพูดออกมาหน้าตาเรียบนิ่งและสะบัดมือของตัวเองออกจากลำคอของฉันทันที
แต่ในขณะที่ยืนจ้องหน้าฟาเรนอย่างเจ็บแค้นนั้น ฉันก็เริ่มรู้สึกเวียนหัวขึ้นมาแบบดื้อ ๆ เหมือนว่าฉันจะเครียดและโกรธมากจนปวดหัวไมเกรนขึ้นมาฉับพลัน
ใบหน้าของเขาเริ่มมัว ๆ เบลอ ๆ จนมองเห็นไม่ค่อยชัดเลย
"เป็นไรไป" ฟาเรนถามอย่างเสียงแข็ง ๆ เมื่อเห็นว่าฉันเซถอยหลังไปเล็กน้อย
"เปล่า" ฉันกะพริบตาถี่ ๆ เพราะรู้สึกเหมือนมันวูบ ๆ
"สำออย เรียกร้องความสนใจจากฉันงั้นเหรอ?" ฟาเรนถามกลับมาอย่างมั่นหน้า
"ก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉันสิ" ฉันผลักแผ่นอกแกร่งของเขาออกไปอย่างแรง
"หรือนี่เป็นวิธีเรียกร้องความสงสารของเธอ?" ยังไม่ทันที่ฟาเรนจะพูดจบอยู่ ๆ
ฟุ่บ
จู่ ๆ ฉันก็หน้ามืดและล้มลงใส่แผ่นอกของเขา
"เป็นไรอะ?" ฉันได้ยินเสียงของฟาเรนที่เอ่ยถามเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนที่สติจะค่อย ๆ กับวูบไปช้า ๆ
จากภาพตรงหน้าที่มองเห็นค่อย ๆ เลือนรางและกลายเป็นสีดำสนิทไปในเสี้ยววินาทีสั้น ๆ
END OF NAM KHING’S PART