“อะไรนะคะ” ผิงผิงถามกลับพร้อมกับหันไปมองหน้าว่าที่พี่สะใภ้กับพี่ชาย
“ค่ะ พี่หลิวสอนภาษาไทยอยู่ที่นี่เหมือนกัน” หลิวหันมาตอบพร้อมรอยยิ้ม
ดาริกาได้ยินค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมา
‘ดวงสมพงศ์กันนะ เราสามคน ชาติก่อนผิงผิงเคยไปแย่งคนรักของพี่หรือคะ ชาตินี้ก็เลยมาแย่งคนรักของผิงผิงกลับ’ เธอคิดในใจ
“ดีใจจังค่ะ พรุ่งนี้ผิงผิงต้องไปรายงานตัว รบกวนพี่หลิวให้คำแนะนำด้วยนะคะ”
“อุ้ย... พรุ่งนี้พี่หลิวต้องไปสัมมนาที่ต่างจังหวัดเริ่มเดินทางตั้งแต่หัวรุ่ง ให้พี่สิงห์ไปส่งสิคะ ถึงพี่สิงห์ไม่ได้สอนที่นี่ แต่ก็รู้จักทุกคนเลย” หลิวหันไปส่งยิ้มให้กับพี่ข้าวโพด
“เหรอคะ” คำพูดที่มาพร้อมกับสายตาเยาะหยันในตัวเองนิด ๆ
‘ผิงผิงมาช้าไปเหรอคะ’ เธอถามพี่ข้าวโพดในใจ
“ไปส่งน้องหน่อยสิพรุ่งนี้” ป้าไก่รีบทำเสียงเข้มใส่เจ้าลูกชาย
“แม่... เออ...” ข้าวโพดทำท่าจะปฏิเสธ
“หยุด! ไม่ต้องพูดเลยมารับน้องแปดโมงตรงนะ” คุณแม่ยังทำเสียงดังอีกทั้งยกนิ้วชี้ขึ้นมาชี้ไปยังหน้าของลูกชาย
“ขอบคุณมากนะคะพี่ข้าวโพด” ผิงผิงแสดงความดีใจออกมาอย่างชัดเจน
“เฮ้อ!” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเบา ๆ
“ขอบคุณมากนะคะสำหรับอาหารมื้อแรกในเมืองไทยของผิงผิง อร่อยที่สุดเลยค่ะ ดีใจที่ได้กลับมาบ้านของเราอีกครั้ง”
ป้าไก่หันหน้าไปกอดหลานสาวเอาไว้ทั้งตัว
“อยู่กับเราให้นาน ๆ สิลูก”
“ค่ะ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผิงผิงอยากจะอยู่เมืองไทยมากกว่า”
“ทำไมพูดแบบนั้น” ป้าไก่รีบดักคอ เพราะเห็นหลานสาวทำหน้าจ๋อย ๆ ปรายตามองคนรักคู่นั้นด้วยหัวใจที่เจ็บจี๊ด ๆ
“พูดเล่นหรอกค่ะป้าไก่ขา แล้ววันนี้ให้ผิงผิงนอนกับใครคะ” เธอรีบเปลี่ยนเรื่องพูด
“นอนกับพ่อสิ” ไผทรีบพูดขึ้นมาทันที
“ใช่ พี่จัดที่นอนไว้เรียบร้อยแล้ว นอนรวมกันทุกคนเลย” ข้าวผัดชี้นิ้วไปยังลูกชายอีกสองคนด้วย
“ค่ะ” ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้ม
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จก็มานั่งรวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่น
สิงขรให้สีหราชเอาไวน์ที่ผลิตเองมาเปิดเพื่อให้หลานสาวคนสวยได้ชิมด้วย สามหนุ่มต่างวัยจึงยกกระดกแก้วไวน์เข้าปาก
ดาริกานั่งลงใกล้ ๆ คุณพ่อของเธอ พี่ข้าวโพดจึงรินไวน์ให้เธอหนึ่งแก้ว
“ดื่มสักหน่อย ชิมฝีมือการบ่มไวน์ของที่นี่ดูสิ” ข้าวโพดส่งยิ้มพลางคะยั้นคะยอ
“หอมดีนะคะ” ดาริกาบอกกับทุกคน หลังจากที่ยกขึ้นมาดมกลิ่นของไวน์ ก่อนจะวนแก้วแล้วยกขึ้นแตะที่ริมฝีปาก เธอยกขึ้นดื่มจนหมดแก้ว
“อร่อยค่ะ” เธอบอกกับลุงดำ คำพูดของหลานสาวทำให้ลุงยิ้มกว้าง
“ต้องชมพ่อไผ่สิ สูตรของเขาเลยล่ะ”
“คุณพ่อของผิงผิงเก่งที่สุดอยู่แล้ว”
เธอสอดแขนเข้าไปโอบกอดรอบเอวของพ่อเอาไว้ แล้วซบหน้าลงไปแนบอก ไผทยกมือขึ้นโอบกอดตอบ แล้วก้มลงไปหอมที่ผมของลูกสาว
บทสนทนาและคำถามต่าง ๆ พรั่งพรูออกมาจากปากของทุกคน เพื่อถามไถ่เรื่องราวที่ทุกคนอยากรู้จากปากของดาริกา
“พี่สิงห์คะ” ครูหลิวเรียกชื่อคนรัก
“จ้า” สีหราชขานรับเสียงหวาน
“หลิวยังไม่ได้เก็บเสื้อผ้าเลยค่ะ”
“อ้อ... ได้สิ ขอตัวทุกคนก่อนนะครับ ผมต้องไปส่งหลิว พรุ่งนี้ต้องเดินทาง” ข้าวโพดรีบขอตัว
“เอ่อ... เรื่องโบสถ์ว่ายังไง จะให้พ่อจองวันไหน ได้วันดีหรือยัง” สิงขรถามสวนขึ้นมาทันที
“ต้องแล้วแต่หลิวครับ” ข้าวโพดตอบคุณพ่อ
“ยังเลยค่ะคุณพ่อ รอฤกษ์จากคุณแม่ของหลิวก่อนนะคะ แล้วค่อยโทรมาบอกคุณพ่ออีกทีค่ะ” ครูหลิวรีบตอบแทนข้าวโพด
สิงขรไม่พูดอะไรได้แต่พยักหน้าให้
“พี่เข้าห้องน้ำแป๊บนะ หลิวออกไปรอได้เลย” สีหราชหันหน้ามาบอกคนรัก เขาเดินเลี่ยงไปยังห้องน้ำที่อยู่ใต้ถุนเรือนหลังใหญ่
ดาริกาถอนหายใจออกมาเบา ๆ กับสิ่งที่ได้ยิน ความรู้สึกข้างในอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก หญิงสาวลุกขึ้นเดินตามพี่ข้าวโพดไปทางห้องน้ำ ดักรอเขาอยู่ที่หน้าประตูนั้น
“โอ้... ตกใจหมดเลย” ข้าวโพดสบถออกมาทันทีที่เปิดประตูออกมาเจอผิงผิง
“ทำไมพี่ข้าวโพดทำกับผิงผิงอย่างนี้คะ” เธอโพล่งปากถามออกไปทันที ใบหน้าของผิงผิงแดงก่ำเพราะฤทธิ์ดีกรีของแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ในไวน์ ปกติหญิงสาวไม่เคยแตะต้องมันเลยด้วยซ้ำไป แต่วันนี้เห็นว่าเป็นไวน์ที่พ่อทำเอง และดื่มอยู่ในบ้าน
“ผิงผิงเรื่องอะไร?” ข้าวโพดย้ำเพื่อความแน่ใจ
“เรื่องที่พี่ต้องแต่งงานกับคนอื่น แล้วไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผิงผิง”
“โธ่... ผิงผิงน้องสาวของพี่ เรื่องเมื่อผิงผิงตัวกะเปี๊ยกยังจำได้อีกหรือเรา”
เขายิ้ม ๆ แล้วยกมือขึ้นขยี้หัวน้องสาวด้วยความเอ็นดูแต่ดาริกาไม่ได้เห็นเป็นเรื่องขบขัน เธอทำน้ำตาคลอ ก่อนจะยึดเอามือของพี่ข้าวโพดมาถือเอาไว้ แล้ววางมันไว้ที่หน้าอกของตัวเอง ตรงตำแหน่งของหัวใจ
“ผิงผิงไม่เคยลืม ยังยึดมั่นคำตอบของพี่ข้าวโพดเสมอ”
“แต่พี่ไม่ได้รักเราแบบนั้นนะ พี่เอ็นดูผิงผิงแบบน้องสาวที่น่ารักของพี่มากกว่า” คำพูดและสายตาของสีหราชคือพี่ชายที่แสนดี
ทันใดนั้น ดาริกากลับสอดแขนของตัวเองขึ้นรั้งไปที่ท้ายทอยของชายหนุ่ม ก่อนจะดึงโน้มใบหน้าเท่ ๆ ของพี่ชายเข้ามาหา เธอเผยอปากเขย่งปลายเท้าขึ้นประกบกับริมฝีปากของพี่ข้าวโพดทันที
สีหราชได้แต่ยืนอึ้ง ปล่อยให้น้องสาวคนสวยสอดแทรกปลายลิ้นเข้ามาในโพรงปากของเขา และดูดดึงปลายลิ้นของเขาเพื่อเชิญชวนสีหราชยกมือขึ้นผลักใบหน้าสวย ๆ ของน้องสาวให้ออกห่าง ก่อนจะจับแขนของเธอทั้งสองข้างเอาไว้แน่น
“อย่าทำแบบนี้อีกนะผิงผิง” เขาทำหน้าดุ เสียงเข้ม ใบหน้าแดงก่ำด้วยความกระดากอายแทน
แต่ตอนนี้ผิงผิงกลับยืนน้ำตาซึมกับสายตาที่เย็นชาของเขา แล้วเขาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วดาริกาเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง เธอนิ่งงันกับหัวใจเหี่ยวเฉา
‘ทำไมคะ...’ เธอถามตัวเองได้แค่นั้น
อีกมุมหนึ่งมนัสวีย์มองการกระทำของสีหราชกับดาริกาที่ประกบริมฝีปากกันแนบแน่น มันเป็นเวลาที่เนิ่นนานพอจะทำให้ความรู้สึกของครูสาวกระตุกได้เช่นกัน
เธอสะบัดหน้าหนีก่อนที่ทั้งสองจะผละออกจากกัน หลิวยกมือขึ้นกุมที่หน้าอก หายใจติดขัด เพราะความหึงหวง เธอเดินลิ่ว ๆ กลับไปรอเขาที่รถ