ความ- "ดีมาก งั้นเริ่มงานเลยนะ เดี๋ยวจะส่งข้อมูลทางแช็ทให้ อ้อ กลับก่อนนะ ฝากปิดร้านด้วย ร้านนี้เป็นของนายตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปนะ" ชายวัยกลางคนพูดยิ้ม ๆ แล้วเดินจากไปอย่างไม่เหลียวหลัง เล่นเอานวนนท์ถึงกับอึ้งและทึ่งในความใจของป๋าแก {ผมว่าลูกสาวป๋าก็คงเหมือนป๋าแหละ} นวนนท์ได้แต่คิดในใจ
…………………………………
อ้าวป๋าเข่ง ไหงเป็นงี้ล่ะ ผมยังไม่ได้โอเคเซย์เยสเลย..กลับมาก่อนป๋า วุ่ย! ทำไมยุ่งอย่างนี้ว๊ะแล้วร้านที่กุจะตกลงเซ้งเค้าล่ะ เค้าจะว่าไง เดี๋ยว ๆ ก่อน กุต้องโทรไปยกเลิกเค้าก่อน ไหนว๊ะเบอร์ ๆ โอ่ย เสียหมาเลยกู ป๋านะป๋า ทำกันได้
นวนนท์ไล่ดูเบอร์ที่โทรออกแล้วโทรหาเจ้าของร้านที่จะขอเช่าต่อเพื่อขอยกเลิกการเช่าทันที
สายโทรออก ชายหนุ่มต่อสายสักพักก็ได้ยินเสียงปลายสาย
เฮียครับ คือผมจะโทรมาขอยกเลิกเรื่องเช่าร้านทำขนมน่ะครับ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ………./ห๊ะ เฮียว่าไงนะครับ ไม่เป็นไรเลยหรือครับ เฮียไม่เรียกค่าปรับจากผมหรือครับ………../โอ ขอบคุณครับเฮีย ยิ่งเฮียดีกับผมผมยิ่งรู้สึกผิดครับ…………/ขอบคุณอีกครั้งครับ ครับ สวัสดีครับ…….ครับ-นวนนท์กดวางสายอย่างนึกแปลกใจระคนงงงวย
เฮ๊อ…ปิดร้านดีกว่า กุญแจอยู่ไหนนี่เฮีย ไปก็ไม่บอกว่าอะไรอยู่ตรงไหนเลย ดูซิ๊ อะไรเนี่ย อะไรก็ไม่รู้เรื่อง ใครเป็นใคร ยังไง ป๋าเข่ง… นวนนท์บ่นกระปอดกระแปดไปเรื่อยพร้อมตรวจตราความเรียบร้อยเช็ดโต๊ะเก้าอี้ ปิดหน้าต่าง ประตู ลั่นกุญแจ แล้วเดินมาที่มอร์เตอร์ไซค์คันหรูแล้วขับออกไปทันที
อีกด้านของคนที่บอกว่าจะกลับแล้วแท้จริงเขายังไม่ได้กลับไปไหน ยังคงเฝ้าดูเด็กหนุ่มที่ตรวจตราความเรียบร้อยก่อนปิดร้านซึ่งพึ่งจะกลับไปไม่นานนี้
อืม..ทำงานเรียบร้อยดี ถูกใจป๋าว่ะไอ้ลูกชาย นายนี่แหละที่ป๋าหมายมั่นปั้นมือ อย่าทำให้ป๋าผิดหวังล่ะ เขมรัฐที่นั่งซุ่มอยู่ในรถยนต์ในที่มืด ๆ ได้แต่รำพึงรำพันในใจ มุมปากยกยิ้ม
"เอ่อ..นายครับ นายจะเอาแบบนี้จริง ๆ เหรอครับ ถ้าคุณหนูรู้จะไม่วีนบ้านแตกหรือครับ" ชายวัยกลางคน คนสนิทของเขมรัฐเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกกังวล
"ไม่ต้องห่วงไปหรอกเฮียตู้ผมว่าผมมองคนไม่ผิดหรอก กลับกันเถอะ อยากพักผ่อนแล้ว คิดถึงกับข้าวฝีมือไทเฮาแล้วเนี่ย เปิดกระจกยุงก็กัด ไม่รู้จะลงทุนอะไรขนาดนี้เนี่ย ไปเร็ว" เขมรัฐบ่นกระปอดกระแปดกับคนสนิททั้งที่ความเป็นจริงเป็นเขาเองที่สั่งให้คนสนิทดับเครื่องยนต์แล้วเปิดกระจกไว้เพราะไม่อยากให้ชายหนุ่มเห็น
"ครับนาย"
@บ้านพลผลาดล
"นู่นมากันแล้วทั้งนายทั้งลูกน้อง" คุณนายวรรณดาบุ้ยใบปากให้ลูก ๆ ดู
"แม่ก็อย่าไปว่าเตี่ยซิ่ เค้าก็ไปดูร้านของเค้ามาแหละ" เขมณัฐลูกชายคนรองเอ่ยแก้ให้บิดาสุดที่รัก
"อะไรนักหนา กะอิแค่ร้านขนมไทย กะอาหารเลี่ยน ๆ ขายให้ชาวต่างชาติกิน มันทำรายได้เป็นกอบเป็นกำขนาดนั้นเลยเหรอ ไอ้ทีบริษัทนี่ปล่อยให้ลูก ๆ ทำจนฉั๊นแทบจะไม่ได้เห็นหน้าลูกอยู่แล้ว" วรรณดาบ่นด้วยความรู้สึกอัดอั้นกับความชิลล์ของสามี
"จุ๊จุ๊จุ๊..เบา ๆ ครับแม่ เตี่ยเดินมาโน่นแล้ว เดี๋ยวเตี่ยได้ยินจะเสียใจเอาได้นา ผมมีเตี่ยคนเดียวนะหาแบบนี้ที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว" เขมยุทธลูกชายคนเล็กเอ่ยกลั้วหัวเราะ
"………." วรรณดาเงียบปากแต่ส่งค้อนวงใหญ่ลูกชายคนเล็ก
อีกด้านของผู้มาใหม่
"มีอะไรกินบ้างจ๊ะแม่ หิวแล้วเนี่ย ขอกินข้าวหน่อย/มะเฮียตู้นั่งลงเร็วกินข้าวกัน" เขมรัฐพูดกับภรรยาอย่างอ้อน ๆ แล้วหันไปเรียกคนสนิทให้มานั่งร่วมโต๊ะอาหารแบบเนียน ๆ
"เชิญค่ะเฮียตู้ เดี๋ยวจะให้คนไปเอาจานมาเพิ่ม/ เนี่ยน๊า…พาเฮียแกไปก็ไม่รู้จักเลี้ยงข้าวแกมั่งปล่อยให้หิวกลับมากินที่บ้าน ไม่ไหวนะเฮีย น้ำค่ะเฮีย จิบน้ำก่อน" คุณนายวรรณดาบ่นไปเรื่อยพลางหยิบนั่นจับนี่หาน้ำหาท่าให้สามีและแขกอย่างกระตือรือร้น
"มาแล้วครับจานช้อนของลุงตู้ ทานเลยครับ พวกผมรอทานกับเตี่ยกับลุงตู้เลยนะเนี่ย" เขมยุทธพูดอย่างเอาใจคนฟัง ส่วนพี่ ๆ ก็ได้แต่ยิ้ม ๆ และหันไปสบตากันอย่างรู้ใจ แต่ลงมือกินกันได้ไม่กี่คำก็ต้องชะงักมือทันที
"กินข้าวไม่รอใบตองเลย กลับค่ำนิดเดียวเอง/คุณป้าแม่บ้านจ๋าขอจานข้าวให้น้องใบตองด้วยนะจ๊า" ณรรรดาเอ่ยเสียงแจ๋วมาจากหน้าบ้านดังมาถึงห้องอาหารทั้งที่ตัวยังมาไม่ถึง
"อ้าวใบตองแม่คิดว่าหนูจะทานกับเพื่อนเสียอีกเห็นว่าไปเลี้ยงฉลองที่ได้งานใหม่นิ่" วรรณดาเอ่ยขึ้นอย่างนึกประหลาดใจเพราะลูกสาวสั่งไว้แล้วว่าจะไปทานข้าวข้างนอกกับเพื่อน ไหงจึงกลับมาขอทานข้าวที่บ้านเสียได้
"เรื่องมันเศร้าค่ะ แม่ เตี่ย คือว่า.." หมับ…(เคี้ยวตุ้ย ๆ) จ้วงตักกับข้าว งั่บ.. (เสียงงับช้อนกินข้าวด้วยความหิวระคนโมโห)
"กินให้อิ่มก่อนเถอะลูก กินตอนโมโหนี่มันจะกินได้เยอะนะลูกสาว..มันจะอ้วนไม่สวยเอานาเตี่ยจะบอกไว้ก่อนเผื่อไม่รู้ไ เขมรัฐสัพยอกลูกสาวยิ้ม ๆ
"เหรอคะเตี่ย ไม่ได้ หนูต้องกินให้เรียบร้อยใช่มั๊ยคะเตี่ย แม่อย่าถามอะไรหนูตอนนี้นะคะให้หนูกินข้าวให้เสร็จก่อนแล้วค่อยเล่าทีเดียว" ว่าแล้วคนกลัวอ้วนก็ค่อยละเลียดข้าวแทบจะนับเมล็ดได้เข้าปากและค่อย ๆ เคี้ยวช้า ๆ อย่างพิจารณาอย่างกับพระธรรมยุทธ์
"ค่ะลูก" วรรณดาได้แต่รับคำลูกสาวแล้วหันไปยิ้มให้พี่ ๆ ของเธอเบา ๆ