สูตรสำเร็จรัก 6
ตึกหลังใหญ่ตั้งโชว์เด่นอยู่ตรงหน้า วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันจะได้เริ่มฝึกงาน ซึ่งเป็นระยะเวลาก่อนกำหนดอยู่มากเพราะบริษัทสะดวกช่วงนี้ ดีที่คณะไม่บังคับช่วงเวลาฝึกแต่ต้องฝึกให้ครบสี่เดือนและก่อนสิ้นสุดปีการศึกษาเท่านั้น เพื่อนฉันเริ่มฝึกอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า ฉันและเพื่อนจะฝึกเสร็จก่อนปีการศึกษาเกือบสองเดือนเลยนะ มีเวลาให้พักนานอยู่เหมือนกัน
วันนี้เข้ามารายงานตัวและพี่ ๆ จะแบ่งให้ไปอยู่ที่แผนกเป็นหลักโดยมีพี่เลี้ยงคอยดูแลและสอนงานให้ แล้วจำเพื่อนคนนั้นได้ไหมคะคนที่นั่งคุยกับฉันก่อนเข้าสัมภาษณ์ อยากจะบอกว่าเธอคนนั้นได้ฝึกที่แผนกเดียวกับฉันด้วย พี่ ๆ จัดโต๊ะให้เรานั่งข้างกันและด้านหนึ่งของฉันจะเป็นพี่เลี้ยงของฉันชื่อพี่เหมียว แผนกบริหารมีนักศึกษาฝึกงานสองคนถ้วนนั่นก็คือฉันและกล้วยนั่นเอง
เดิมทียื่นฝึกผู้ช่วยเลขา แต่ถูกปฏิเสธไปและถูกส่งมาทำฝ่ายบริหารจัดการ พี่ ๆ อธิบายงานให้ฟังเบื้องต้นแล้วและวันนี้ก็ให้ศึกษาระบบการทำงานก่อนคร่าว ๆ พี่ ๆ เคลียร์งานเสร็จจะสอนและมอบหมายงานให้ทำเพื่อเป็นการเรียนรู้เพิ่มเติม
“นี่ ๆ เที่ยงนี้ไปลองกินข้าวที่ศูนย์อาหารกันดีไหม?” กล้วยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เอียงหน้ามากระซิบคุยกับฉัน หลังจากที่เรานั่งอ่านและทำความเข้าใจหน้าที่ของเราเสร็จแล้ว
“เอาสิ แล้วนี่พักแถวไหน”
“พักที่หอxx”
“ไกลอยู่นะ มายังไง”
“ซิ่งมอเตอร์ไซค์มาสิ แกล่ะ”
“ขับรถมาเหมือนกัน” ตอบเพื่อนใหม่
“เด็ก ๆ มานี่ มีงานให้ช่วย”
“ค่ะพี่” เราทั้งสองขานรับและเดินไปช่วยพี่ ๆ เตรียมเอกสารเข้าประชุมในช่วงบ่ายนี้ เอกสารเกือบห้าสิบชุดเลยล่ะ แต่ละชุดไม่ต่ำกว่าสิบหน้าด้วย ดีที่ช่วยกันสองคนเลยไม่งงเท่าไหร่ และเราก็เตรียมช่วยกันเสร็จก่อนเที่ยง เมื่อเสร็จก็ช่วยกันนำไปเตรียมที่ห้องประชุมโดยมีพี่เหมียวพาไปรวมถึงแนะนำสถานที่ต่าง ๆ ภายในบริษัทให้เราได้ฟังไปพร้อม ๆ กัน
“ผู้บริหารหลักในตอนนี้...”
“เหมียวมานี่หน่อย”
“จ้าพี่ ไปรอที่ศูนย์อาหารนะ เดี๋ยวพี่ตามไป” พี่เหมียวรีบเดินไปตามเสียงเรียกทั้งที่ยังแนะนำเราไม่ทันจบประโยคด้วยซ้ำ ส่วนฉันและกล้วยจึงเดินไปที่ลิฟต์เพื่อไปรอพี่เหมียวที่ศูนย์อาหาร ตอนนี้เที่ยงสิบห้าแล้วคนที่ศูนย์อาหารไม่มากแต่ก็ไม่น้อยเพราะบางส่วนก็ออกไปกินที่ร้านอาหารรอบ ๆ บริษัท
ฉันและกล้วยเดินไปจองโต๊ะก่อนจะนั่งมองร้านอาหารที่มีเกือบยี่สิบร้านเลยทีเดียว คนนอกเข้ามากินได้ในราคาปกติส่วนพนักงานกินในราคาที่ต่ำลงมานี่เป็นหนึ่งในสวัสดิการของพนักงานอีกข้อ ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ช่วยประหยัดได้เยอะเลยเหมือนกันนะ
“ที่แผนกเราก็มีมุมเบรกใช่ไหม?” กล้วยเอ่ยถามฉันเมื่อเจ้าตัวมีร้านในใจแล้ว
“ใช่ ๆ โซนหลังโต๊ะพี่ธิดาน่ะ แล้วนี่เลือกได้หรือยังว่าจะกินอะไร” เอ่ยถามเพื่อนใหม่
“เลือกได้แล้ว”
“งั้นแกไปซื้อก่อนแล้วสลับกันเฝ้าโต๊ะ” ฉันเสนอ
“ได้ เดี๋ยวรีบกลับมา” กล้วยรีบเดินออกไปยังร้านอาหารฉันจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นไปเรื่อย ๆ มีคอมเมนต์แกล้งพี่วิคที่อัพรูปแมวและรอยแดงบนแขน เจ้าตัวบอกว่าลูกไม่รัก คงจะโดนแมวข่วนละมั้งดูจากสไตล์พี่วิคดูขี้แกล้งมากไม่รู้แกล้งแมวจนแมวหงุดหงิดหรือเปล่าถึงได้ฝากรอยแผลชัดเจนแบบนั้น
ฉันเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์เล่นไปเรื่อย ๆ ก็เจอกับโพสต์ร้านก๋วยเตี๋ยวพี่จี้ ที่แจ้งว่าร้านเปิด ช่องคอมเมนต์ในเพจสนุกมากทั้งมาแซวมาจีบแม่ค้า ทั้งตัดพ้อว่าไม่เคยทัน ไหนจะบนขอให้ไปทันร้านเปิดอะไรแบบนั้น ตลกมากเลยล่ะ
“ยินดีไปซื้อข้าวก่อนเร็ว” กล้วยเดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับอาหารในจาน
“โอเค เดี๋ยวมา” บอกเพื่อนใหม่ ก่อนจะเดินไปดูร้านอาหารที่คิดว่าน่าจะอร่อย มองไปเรื่อย ๆ ก็เจอกับร้านข้าวมันไก่ร้านหนึ่ง ฉันรีบเดินตรงเข้าไปหมายมั่นว่าจะต้องซื้อมาให้ได้เพราะไก่ทอดในจานของพี่คนที่เดินผ่านก่อนหน้านี้ดึงดูดฉันมาก
“ข้าวมันไก่รวมหนึ่งจานค่ะ”
“ของเจ้านายที่สั่งไว้ได้หรือยังคะ”
แต่ฉันและพี่ผู้หญิงคนหนึ่งดันเอ่ยบอกพ่อค้าพร้อมกัน ฉันจะไม่รู้สึกเสียใจหรือตกใจเลยหากพ่อค้าร้านข้าวมันไก่ไม่มองฉันและพี่ผู้หญิงคนสวยสลับกันไปมาอย่างลำบากใจ
“เอ่อ ข้าวมันไก่เหลือแค่ชุดเดียวครับ” อ่า จะไม่ได้กินอย่างนั้นสินะ
“อ้อ ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ” เอ่ยบอกพ่อค้าพร้อมกับรอยยิ้มก่อนจะเดินมองหาร้านอาหารใหม่อีกครั้ง
“เอ่อ น้องคะ น้องชื่ออะไรนะ?” แต่พี่ผู้หญิงคนนั้นกลับเอ่ยเรียกฉันไว้เสียก่อนพร้อมกับรอยยิ้มเป็นมิตรที่ถูกส่งมาให้อย่างเปิดเผย
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อยินดีค่ะ ฝึกงานที่แผนกการจัดการค่ะ” รีบเอ่ยแนะนำตัวกับพี่ตรงหน้า
“สวัสดีค่ะพี่ชื่อดารา ข้าวมันไก่เมื่อกี้คุณยินดีเอาไปเลยก็ได้ค่ะ”
“คะ? ทำไมละคะพี่ไม่กินแล้วเหรอ?” ทวนถามด้วยความสงสัย เพราะพี่ผู้หญิงเหมือนจะมาสั่งให้ใครสักคนมากว่าสั่งให้ตัวเอง หากเปลี่ยนเมนูไปแบบนี้คนที่ฝากจะไม่พอใจเอาได้นะ
“อ้อ เปลี่ยนแล้วค่ะ คุณยินดีเอาไปได้เลยค่ะ”
“พี่ดาราอย่าเรียกคุณสิคะ หนูไม่ชินเลย เรียกแค่ชื่อนะคะ”
“แบบนั้นก็ได้ค่ะ นั่งโต๊ะไหนเดี๋ยวพี่ไปนั่งกินด้วยได้ไหม?” พี่ดารามองฉันพร้อมกับรอยยิ้ม
“ได้ค่ะ หนูนั่งตรงนั้นค่ะ หลังฉากกั้นหน้าร้านน้ำ”
“โอเคค่ะ เดี๋ยวพี่ลงมา” พี่ดาราส่งยิ้มให้ก่อนจะเดินไปที่ร้านอาหารตามสั่งแทน ส่วนฉันก็ได้ข้าวมันไก่รวมมาครอบครอง ท่ามกลางสายตาเกรงใจของคุณลุงเจ้าของร้าน
“กี่บาทคะคุณลุง”
“คุณดาราจ่ายแล้วครับ ไม่เป็นไร”
“อ่า ขอบคุณค่ะ” ส่งยิ้มให้ลุงก่อนจะเดินถือจานข้าวกลับมาพร้อมกับพี่เหมียวที่เดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมจานข้าวพอดี ไม่รู้ลงมาที่ศูนย์อาหารกันตั้งแต่เมื่อไหร่
“ได้อะไรมา” พี่เหมียวเอ่ยถามฉันพร้อมกับวางจานข้าวลงบนโต๊ะพร้อมกับฉันนั่งลงที่เก้าอี้
“หนูได้ข้าวมันไก่ค่ะ”
“หือ? ร้านนั้นหมดแล้วนี่”
“ค่ะจานสุดท้ายพี่ดาราเลยให้หนูแทน” เอ่ยตอบไปตามความจริง แต่เป็นพี่เหมียวเสียเองที่เงยหน้าหรี่ตามองฉันด้วยความสงสัย
“รู้จักคุณดาราด้วยเหรอ?” พี่เหมียวกระซิบถามเสียงเบา เราทั้งสามคนแทบจะยื่นหน้ามาติดกันอยู่กลางโต๊ะ ก็พี่เหมียวอะยื่นหน้าเข้ามาก่อน ฉันและกล้วยเห็นแบบนั้นเลยยื่นหน้าเข้าไปด้วยเนี่ย เหมือนอุปทานหมู่เลย
“เพิ่งรู้จักเมื่อกี้เลยค่ะ หน้าร้านข้าวมันไก่”
“แปลก แปลกมาก ๆ” พี่เหมียวพึมพำ แต่ยังไม่ทันจะได้คุยกันต่อก็พี่ดาราก็เดินเข้ามาพร้อมกับจานข้าว
=====
เอ๊ะ? ยังไง เธอเป็นใครกันนะ