สูตรสำเร็จรัก 7

1501 Words
สูตรสำเร็จรัก 7 “รู้จักคุณดาราด้วยเหรอ?” พี่เหมียวกระซิบถามเสียงเบา เราทั้งสามคนแทบจะยื่นหน้ามาติดกันอยู่กลางโต๊ะ ก็พี่เหมียวอะยื่นหน้าเข้ามาก่อน ฉันและกล้วยเห็นแบบนั้นเลยยื่นหน้าเข้าไปด้วยเนี่ย เหมือนอุปทานหมู่เลย “เพิ่งรู้จักเมื่อกี้เลยค่ะ หน้าร้านข้าวมันไก่” “แปลก แปลกมาก ๆ” พี่เหมียวพึมพำ แต่ยังไม่ทันจะได้คุยกันต่อก็พี่ดาราก็เดินเข้ามาพร้อมกับจานข้าว “ขอนั่งด้วยนะ” “อ้อ เชิญค่ะ นั่งเลยค่ะ” พี่เหมียวเอ่ยชวนพี่ดาราอย่างเป็นกันเอง และทำราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีเรื่องสงสัยอะไรกัน เรากินข้าวและคุยกันนิดหน่อยเพื่อไม่ให้บรรยากาศเงียบจนเกินไป “คุณยินดีชอบข้าวมันไก่เหรอคะ?” พี่ดาราเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าฉันดูมีความสุขกับการกินข้าวมันไก่จานนี้เหลือเกิน “คือ หนูชอบกินของอร่อยค่ะ อะไรอร่อยหนูชอบหมดเลยค่ะ” “เลี้ยงง่ายเหลือเกินเด็กคนนี้” พี่เหมียวถึงกับหลุดขำยามได้ยินคำตอบจากฉัน พี่ดาราเองก็ยิ้มขำเช่นเดียวกัน ส่วนกล้วยรายนั้นก้มหน้ากินข้าวไม่สนใจอะไรแล้วค่ะ บอกว่าหิวจัด “ถ้าอย่างนั้นว่าง ๆ เราไปกินข้าวด้วยกันนะคะ พี่มีร้านอร่อยเยอะเลย พี่เหมียวด้วยนะ” “ได้ค่ะ เดี๋ยวเราค่อยนัดกันก็ได้ค่ะ” พี่เหมียวรับปากด้วยท่าทีเกรงใจ จะว่าไปฉันไม่รู้เลยว่าพี่ดาราทำงานที่แผนกไหน แต่ก็ไม่กล้าถาม กลัวว่าจะเสียมารยาทเอาได้ เป็นแค่เด็กที่เข้ามาฝึกงานแต่ดันไปถามรุ่นพี่พนักงานว่าทำงานแผนกไหนออกไปแบบนั้นคงจะดูไม่ดีแน่ ๆ เลยต้องเก็บความสงสัยไว้ “งั้นเราสร้างกลุ่มไลน์ดีไหมคะ เอาไว้แชร์ร้านอร่อย” กล้วยเสนอ “ดีนะ พี่เองก็ชอบกินของอร่อย” พี่เหมียวเองก็เห็นด้วย มื้อเที่ยงของเราสิ้นสุดลงพร้อมกับกลุ่มไลน์ของอร่อยหนึ่งหนึ่งกลุ่มที่เดิมทีประกอบด้วยสมาชิกสี่คน พอใกล้เวลาเลิกงานก็มีคนเข้ามาเพิ่มอีกหนึ่งพี่ดาราบอกว่าเป็นเพื่อนที่ทำงานกับพี่ดาราและชอบของอร่อยเหมือนกันกับเราเลยเชิญเข้ามา พี่เหมียวที่นั่งข้าง ๆ ฉันบ่นงึมงำก่อนจะเพิ่มพี่ ๆ ที่แผนกเข้าไปด้วยในกลุ่มบอกไว้ว่าเผื่อชวนไปเที่ยวแล้วก็กินของอร่อยด้วยกัน จากกลุ่มเล็ก ๆ เพิ่มเป็นกลุ่มใหญ่มาก กล้วยเองก็ตกใจที่จู่ ๆ กลุ่มชวนกินข้าวมีพี่ ๆ เสียหลายคนทำให้เราไม่กล้าคุยกันในนั้นเลยต้องแยกออกมาคุยแชทส่วนตัวกันเอง หากจะคุยเล่นด้วยกันหรือฝากซื่อน้ำหวาน “เด็ก ๆ เย็นนี้จะพาไปเลี้ยงต้อนรับนะลืมบอก” พี่ดารินทร์หัวหน้าแผนกที่ประชุมเพิ่งเสร็จเดินเข้ามาบอกกับเราสองคนที่กำลังเก็บโต๊ะเตรียมจะกลับบ้าน “ค่ะพี่” ขานรับและหันไปมองเพื่อน “ไปด้วยกันไหม” ถามกล้วยที่ขี่มอเตอร์ไซค์มาแล้วตอนนี้ก็เย็นมากแล้วด้วย เดี๋ยวฉันไปส่งแล้วพรุ่งนี้ไปรับมาด้วยกันก็ได้ “ไม่ ๆ เจอกันที่ร้านเลย” เพื่อนใหม่บอกแบบนั้นฉันเองก็จะไม่บังคับ “แบบนั้นก็ได้” “เด็ก ๆ ไปร้านxx นะรู้จักไหม?” พี่ดารินทร์แจ้งเพิ่มเติม “รู้จักค่ะพี่” กล้วยตอบแทบจะทันที ส่วนฉันนั้นไม่เคยไปคงต้องเปิดแผนที่ไปนั่นแหละ “ยินดีรู้จักไหม?” พี่ดารินทร์เอ่ยถาม ฉันส่งยิ้มเขิน ๆ ให้พี่หัวหน้าแผนกก่อนจะเอ่ยตอบไปตามจริง “ไม่รู้จักค่ะพี่ แต่เดี๋ยวหนูเปิดจีพีเอสไปค่ะ” “มีใครไม่ได้ขับรถมาบ้าง” พี่ดารินทร์หันไปมองพี่ ๆ พนักงานในปกครองตัวเองแทน “หนูพี่” พี่เหมียวยกมือทันที ที่เดินกลับเข้ามาในแผนก “งั้นเหมียวนั่งรถไปเป็นเพื่อนน้องนะ พี่กลัวน้องหลง” “ยินดีเหรอ?” “ใช่ ๆ ไปเป็นเพื่อนน้องหน่อย” พี่ดารินทร์เอ่ยย้ำ “ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูไปกับน้องเอง” พี่เหมียวรับปาก สักพักโทรศัพท์ของพี่ ๆ ก็มีเสียงแจ้งเตือนในเวลาใกล้ ๆ กัน ฉันและกล้วยก้มหน้าเก็บโต๊ะเสร็จก็รอเวลาพี่ ๆ เดินออกไปก่อน “ทางนี้ค่ะพี่เหมียว” เอ่ยเรียกพี่เหมียวที่พ่วงตำแหน่งพี่เลี้ยงฉันให้เดินไปยังจุดที่จอดรถอยู่ ฉันปลดล็อกรถและเชิญพี่เหมียวขึ้นรถก่อนจะสตาร์ทรถรอพี่เหมียวบอกเส้นทางรวมถึงเปิดจีพีเอสไว้ด้วยกันพลาด “โห รถสวยมาก” “ขอบคุณค่ะพี่เหมียว” รถคันนี้ป๊าซื้อให้ตอนฉันเข้าเรียนปีหนึ่งบอกว่าเป็นของขวัญที่สอบติด ทีแรกท่านจะซื้อรุ่นที่ท่านชื่นชอบให้แต่ราคาสูงเกินไปฉันเลยต้องขอเลือกรุ่นที่ต่ำลงมาหน่อยแต่ยังคงเป็นแบรนด์เดียวกันกับป๊า ก็อยู่กับรถรุ่นนี้มาตั้งแต่จำความได้เลยชอบไปด้วยอย่างไร้เหตุผลเลยล่ะ “พี่เองก็ชอบรุ่นนี้นะ แต่มีแต่ราคาสูง ๆ ทั้งนั้นเลย” พี่เหมียวมองรถอย่างหลงใหล ดวงตานั้นเปล่งประกายไม่น้อย “มีมือสองสภาพดีนะคะ” “หือ? ยังไงเหรอ?” “น้องชายหนูจะเปลี่ยนรถค่ะรุ่นนี้แหละแต่น้องไม่ค่อยได้ขับ มีคันที่ขับประจำอยู่แล้ว เห็นว่าจะขายพี่สนใจไหม?” “ฮื่อ สนใจสิ แต่ราคาสูงไหมอะ” พี่เหมียวถามต่อฉันก็ขับรถพร้อมกับดูท้องถนน “หนูยังไม่มั่นใจราคา แต่ถ้าพี่อยากได้หนูจะให้น้องลดให้ อ้าว โทรมาพอดีขอรับสายแป๊บนะคะพี่เหมียว” บอกพี่ที่นั่งมาด้วยอย่างเกรงใจ “ได้ ๆ คุยเลย” “ขอบคุณค่ะพี่ ว่าไงตัว” เอ่ยทักทายปลายสายที่โทรเข้ามา และฉันเลือกที่จะรับสายและกดเปิดลำโพงก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้ที่ตักตัวเอง (เป็นยังไงบ้างฝึกงานวันแรก) พอใจเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “สบายใจ พี่ ๆ ที่แผนกสอนงานเค้าด้วยนะ” (ก็ดีแล้ว เหนื่อยไหมวันนี้) “ไม่เหนื่อย แต่ตื่นเต้นนิดหน่อย วันนี้พี่ ๆ ก็พามาเลี้ยงต้อนรับด้วย” รีบเล่าให้น้องชายฟังอย่างเป็นปกติ (ห้ามดื่มนะรู้ไหม) “รู้แล้วเค้าไม่ดื่มแน่นอน อ้อตัวเค้ามีเรื่องจะถาม” (ครับ ถามอะไร) “รถที่ตัวจะขายรุ่นไหนนะ” (จะขายเอสองร้อย เพราะไม่ค่อยได้ใช้น่ะ ปกติจี้ก็ใช้รถตัวเองเค้าก็ใช้สามสองศูนย์ดี ทำไมเหรอ) “พี่ที่ฝึกงานเค้าอยากได้รถใหม่ เลยถามตัวดูว่าขายแพงไหม” (ถ้าพี่ที่ตัวรู้จักเค้าก็จะขายไม่แพง) “ไม่แพงเท่าไหร่” ถามน้องต่อ มือก็หมุนพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปจอดที่ลานจอดรถของร้านอาหาร ระหว่างนี้พี่เหมียวก็นั่งฟังฉันด้วยอาการลุ้นตัวโก่ง (คันนี้เค้าซื้อล้านล้านเก้าอะ ขายต่อล้านสาม) “สดหรือผ่อน” (ได้หมดแล้วแต่คนที่ซื้อ) “โอเคถ้ายังไงเดี๋ยวเค้าบอกตัวอีกที แต่เค้าต้องวางแล้วนะถึงร้านอาหารแล้ว” (ได้ มีอะไรรีบโทรมา) “จ้า รู้แล้วแค่นี้แหละ” วางสายจากน้องชายก็ชวนพี่เหมียวเดินเข้าร้านอาหารพร้อมกับพูดคุยเรื่องรถด้วยกัน พี่เหมียวดูตื่นเต้นมากสอบถามไม่หยุดและบอกว่าพรุ่งนี้จะมาให้คำตอบฉัน “อะไรกัน รับงานเสริมขายรถเหรอยินดี” พี่เข้ม รุ่นพี่ที่แผนกเอ่ยแซวฉันหลังจากได้ยินเรื่องที่พี่เหมียวเล่าให้ฟัง “ฮ่า ๆ ๆ ช่วยน้องขายค่ะน้องจะขายเฉย ๆ พี่สนใจไหม มีมอเตอร์ไซค์ด้วยนะคะ” แกล้งถามกลับไป แต่ไม่คิดว่าพี่เข้มจะดวงตาวาวโรจน์แบบนั้น รวมถึงคนที่นั่งข้าง ๆ ฉันอย่างกล้วยนี่อีก “สนใจ มีรุ่นไหนขายพี่บ้างมือสองราคาดีอะ” “พี่จริงจังไหมเนี่ย” ถามกลับพร้อมกับเสียงหัวเราะของพี่ ๆ คนอื่น “มาลุ้นกันว่าน้องมันจะขายได้กี่คัน” พี่ดารินทร์ถึงกับหัวเราะเมื่อเห็นว่าพี่เข้มและกล้วยถามฉันเรื่องรถไม่หยุด พี่เหมียวก็กำลังคำนวณเงินเก็บตัวเองไปพลางด้วยความตื่นเต้น “เอาละ ๆ ค่อยคุยกันต่อกินข้าวได้แล้วเย็นหมดแล้ว “ครับ ๆ” “ค่ะพี่รินทร์” “ค่ะพี่” ขอบคุณพี่ดารินทร์ที่เอ่ยเตือน ไม่อย่างนั้นมื้อเย็นเราคงเปลี่ยนเป็นการดิลซื้อขายรถไปแล้ว พอใจ ถ้าเค้าขายได้ ขอเปอร์เซ็นต์ด้วยนะ อิอิ ===== หลานสาวเราคืออายุน้อยร้อยอาชีพจริงๆ ล่าสุดจะเป็นนายหน้าขายรถให้น้องชายแล้วนะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD