3 อาการป่วย

1169 Words
วันต่อมา... ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตูห้องตรวจของหมอวัยกลางคนดังขึ้นพร้อมกับพยาบาลสาวที่เอ่ยบอก "คุณซัมมายด์มาแล้วค่ะ คุณหมอ" พูดจบ พยาบาลสาวก็หันไปส่งยิ้มให้กับร่างเล็กที่ยืนอยู่เป็นเชิงบอกให้สามารถเข้าไปด้านในได้ ซัมมายด์ก็ยกยิ้มบาง ๆ ตอบกลับด้วยท่าทีนอบน้อม ก่อนจะเดินตรงเข้าไปภายในห้องตรวจหมอประจำตัวพ่อของตัวเอง "สวัสดีค่ะคุณหมอ" "อื้ม เชิญนั่งก่อนสิ" "..." คนตัวเล็กก็ยิ้มรับเดินเข้าไปนั่งลงยังเก้าอี้ที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับหมอวัยกลางคน "หมอไม่อ้อมค้อมเลยแล้วกันนะ เราก็พอรู้เกี่ยวกับอาการของพ่อเราบ้างแล้วใช่ไหม" "ค่ะ มันเกิดจากอะไรเหรอคะ" "เป็นเรื่องปกติที่เวลาร่างกายเราอ่อนแอ ก็จะมีภาวะแทรกซ้อนขึ้นมาได้ ซึ่งในเคสของพ่อเรา..." "...บอกตรง ๆ หมอค่อนข้างกังวล" "ทะ...ทำไมล่ะคะ" "เพราะพ่อเราเป็นไตวายระยะสุดท้าย ร่างกายมันหนักอยู่แล้ว แล้วพอมาเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นมาอีก หมอว่ามันอันตรายเกินไป" "ละ...แล้วแบบนี้ จะต้องทำยังไงเหรอคะ" เรียวปากเล็กถามน้ำเสียงเริ่มสั่นคลอน หมอวัยกลางคนที่เห็นก็รู้สึกเห็นใจอยู่ไม่น้อย ทว่าก็พยายามแนะนำหนทางที่ดีที่สุด "หมอคิดว่า เราควรที่จะย้ายพ่อไปรักษากับโรงพยาบาลที่พร้อมกว่าที่นี่" "ยะ...ย้ายโรงพยาบาลเหรอคะ" "อืม อย่างที่เรารู้ ที่นี่เป็นโรงพยาบาลของรัฐบาลที่อยู่นอกเขตตัวเมือง ทำให้ค่อนข้างที่จะมีอุปกรณ์ไม่มากพอที่จะรักษาอาการป่วยแทรกซ้อน และภาวะเสี่ยงของพ่อเราได้" "ฮึก..." ร่างเล็กอดไม่ไหวที่จะร่ำไห้ออกมา "ย้ายไปโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือแพทย์พร้อมกว่านี้เถอะนะ ถ้าอยากให้พ่อของเรามีอาการที่ดีขึ้น" "แล้วแบบนี้...ควรจะเป็นโรงพยาบาลอะไรคะ" "ถ้าจะให้น่าไว้ใจมากที่สุด หมอแนะนำบางกอกแพทย์นะ ที่นั่นเครื่องมือพร้อมทุกอย่าง แม้กระทั่งหมอก็เก่งทุกคน" "บางกอกแพทย์เหรอคะ" "อืม เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุด แต่..." "...ก็อย่างที่รู้ ที่นั่นเป็นโรงพยาบาลเอกชน ค่าใช้จ่ายก็จะสูงขึ้นเช่นกัน" "..." ซัมมายด์ก็นิ่งเม้มปากแน่นด้วยความเครียดกับสิ่งที่ได้ยิน เธออยากย้ายโรงพยาบาลให้พ่อตามที่หมอแนะนำ แต่...เธอไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น "เราลองเก็บไปคิดและตัดสินใจดูก็แล้วกัน แล้วถ้าอาการแทรกซ้อนดีขึ้น ค่อยกลับมารักษาที่นี่" "สามารถทำได้ใช่ไหมคะ" "อืม ก็ให้หมอที่นั่นส่งตัวกลับมา" "ค่าใช้จ่ายที่นั่น...สูงมากไหมคะ" "เอ่อ...ก็..." หมอวัยกลางคนไม่อยากเอ่ย เพราะเกรงว่าจะทำให้อีกคนเสียกำลังใจไป ทว่าจะให้เขาพูดไม่จริง ก็ไม่สามารถทำได้ "ซัมเข้าใจแล้วค่ะ" เรียวปากเล็กบอกอย่างเข้าใจได้ทันทีกับท่าทีของหมอตรงหน้า "ยังไงก็ไปลองตัดสินใจดูนะ แต่หมอคิดว่า ถ้าจะย้าย ควรย้ายให้เร็วที่สุด" "ค่ะ" ใบหน้าใสพยักหน้าตอบ ก่อนจะค่อย ๆ เดินออกจากห้องตรวจไปด้วยความเหม่อลอย ภายในหัวเอาแต่นึกหาหนทางที่จะสามารถพาพ่อตัวเองไปรักษายังโรงพยาบาลเอกชนที่หมอประจำตัวพ่อแนะนำ "..." ริมฝีปากบางอมชมพูเม้มเข้าหากันแน่นอีกครั้ง เมื่อยิ่งคิดเท่าไรก็คิดไม่ตก แต่แล้วในตอนนั้นเอง "อาอ้อ" เสียงหวานพึมพำเอ่ยออกมาหลังจากที่นึกถึงอาผู้เป็นน้องชายของพ่อ คนเดียวที่จะสามารถให้ความช่วยเหลือได้ในตอนนี้ โดยซัมมายด์ก็ไม่รอช้าที่จะรีบเดินออกไปจากโรงพยาบาลเพื่อตรงไปยังบ้านของอาแท้ ๆ ของตัวเองในทันที ใช้เวลาไม่นานร่างบางก็มาถึงบริเวณหน้าบ้านขนาดกลางที่มีอาสะใภ้ยืนอยู่ "มาทำไม" เสียงของเล็กเอ่ยถามหลานสาวของสามีด้วยสีหน้าไม่ต้อนรับ "พอดีซัมมีเรื่องอยากคุยกับอาอ้อหน่อยน่ะค่ะ" "ทำไม จะมายืมเงินอีกเหรอ" หญิงวัยกลางคนถามด้วยความไม่พอใจ นึกไม่ชอบหน้าหลานสามีคนนี้ที่เคยมายืมเงินจำนวนหนึ่งแล้วสุดท้ายก็ไม่ได้คืน เพราะสามีเธอที่เอ็นดูหลาน ออกปากยกหนี้ให้ "..." ซัมมายด์ก็นิ่งหน้าชา "คราวก่อนก็ยกหนี้ไปให้แล้ว ยังจะกล้ามาขอใหม่อีกเหรอ!?" "พอดีคุณพ่ออาการไม่ดี..." "ก็ปล่อยให้ตาย ๆ ไปเลยสิ จะปล่อยไว้ให้เป็นภาระคนอื่นทำไม!" "คะ...คุณอา..." เรียวปากเล็กเอ่ยด้วยความอึ้ง ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดพวกนั้นออกมา "ตั้งแต่พ่อเธอป่วย ก็มาเป็นภาระให้อาเธอไม่หยุด ทำไม คิดว่าบุญคุณตอนที่พ่อเธอมี จะสามารถมาเบียดเบียนคนอื่นเขาได้ตลอดเหรอ!?" "ซัมไม่ได้คิดแบบนั้นนะคะ" "ก็เลิกมาขอความช่วยเหลือสักทีสิ!!" "มีเรื่องอะไรกัน" เสียงอ้อที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายเดินออกมา ก่อนจะเห็นหลานสาวตัวเล็กยืนอยู่ "อ้าว ซัมมายด์ มาหาอาเหรอลูก" "..." คนตัวเล็กก็ยืนนิ่งเม้มปากแน่นด้วยความกดดันไปกับสายตาเหยียดของอาสะใภ้ที่ยังส่งมาถึงเธอ รวมถึงคำพูดที่เหมือนต้องการให้พ่อเธอหายไปจากโลกนี้เมื่อกี้ "ทำไมเงียบไปล่ะลูก เข้ามาในบ้านก่อนสิ" "มะ...ไม่เป็นไรค่ะ" "หือ?" "ซัมก็แค่แวะมาทักทายอาอ้อกับอาเล็กน่ะค่ะ ยังไง ซัมขอตัวก่อนนะคะ" พูดจบ คนตัวเล็กก็พยายามฝืนยิ้มให้กับผู้ใหญ่ทั้งสอง ก่อนจะสาวเท้าเดินออกไปในทันทีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเครียดปนนึกเสียใจ ทว่าซัมมายด์ก็ไม่ได้คิดโกรธเคืองอะไรภรรยาของคนเป็นอาแม้แต่น้อย เธอเองก็ขอความช่วยเหลือจากพวกเขามาบ่อยจริง ๆ จนกลายเป็นเงินก้อนโตที่ไม่สามารถหามาคืนได้ จนอาเธอเห็นใจยอมยกหนี้ให้ ส่วนที่อาสะใภ้เธอพูดถึงเรื่องที่พ่อเธอเคยมี นั่นหมายถึงเมื่อก่อน ก่อนที่พ่อเธอจะล้มป่วย พ่อเธอเคยเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างมาก่อน ทำให้พ่อเธอมีฐานะในระดับหนึ่งและเป็นเหมือนเสาหลักของครอบครัว พ่อเธอทำหน้าที่ของท่านเป็นอย่างดีมาโดยตลอด กระทั่งวันที่ท่านล้มป่วยจากโรคไตวาย... ที่ซัมมายด์ต้องดร็อปเรียนสองปีก็เพื่อที่จะทำงานหาเงินสลับกับคอยดูแลพ่อของเธออยู่คนเดียว เพราะแม่ของเธอได้ทิ้งเธอกับพ่อเธอไปตั้งแต่ที่พ่อเธอเริ่มทำงานไม่ได้ ทำให้ทั้งสองเหลือกันเพียงแค่สองคนพ่อลูก "ซัมจะต้องหาวิธีให้ได้ ฮึก พ่อจะต้องไม่เป็นอะไรนะคะ พ่อต้องอยู่กับซัมไปนาน ๆ นะคะ..."
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD