บทที่ 3 วิกฤต

2104 Words
ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งนึง ก๊อก ก๊อก ก๊อก.... “อืม เข้ามา” เสียงทุ้มตอบรับอย่างเหนื่อยหน่าย “นายครับ คือว่า...” บอดี้การ์ดคนสนิท อึกอัก เขารู้ดีว่าหากเอ่ยชื่อของคนที่เข้าเยี่ยม อาจเกิดปัญหาขึ้นได้ “มีอะไรก็พูดมา” ควินท์ปรายตามองอย่างไม่สบอารมณ์หนัก “คือ มีคนมาขอเยี่ยมครับ” ชายร่างยักษ์ก้มศีรษะลง เขาไม่กล้าแม้จะสบตานายของตน ในเวลานี้เท่าไหร่นักเพราะหลังจากที่นายฟื้นขึ้นมา เขาดูน่ากลัวกว่าเดิมยังไงไม่รู้ นิ่ง และเงียบกว่าปกติ ใครทำอะไรก็ไม่พอใจไม่หมด “ฉันว่าฉันพูดไปแล้วนะ ต้องให้พูดซ้ำ?” เขาเลิกคิ้วสูงพร้อมหันมองชายร่างยักษ์ตรงหน้าที่ตอนนี้ตัวสั่นเทาเหมือนลูกหมาตัวน้อย “ตะ แต่ว่า.” “...” “ขะ ขอโทษครับ ผมจะรีบไล่ไปเดี๋ยวนี้ไม่ให้เธอเข้ามาอีก” ชายร่างยักษ์รีบตอบอย่างรวดเร็ว เมื่อได้ยินเสียงถอนหายเบาๆ จากนายของเขา แม้หน้าตาที่ดูเกลี้ยงเกลาคมคายงดงามไม่มีที่ตินี่จะดูดีเพียงใด แต่ดวงตาสีแดงเข้มและเสียงทุ้มต่ำที่ทำเอาลูกน้องบางคนกลัวจนฉี่ราดมาแล้ว....เพราะอะไรนะเหรอ? ก็นี้คือควินท์ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่ และการที่ตระกูลได้ขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ก็เกิดจากเขาที่เข้ามาดูแลภายในไม่กี่ปี อย่างว่าแหละใครๆต่างก็รู้ดีว่าตระกูลนี้เลี้ยงลูกได้น่ากลัวขนาดไหน “นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบ...” ครืดดด ปัง!!! ไม่ทันที่ควินท์จะเอ่ยจบ ประตูบานใหญ่ถูกเลื่อนออก พร้อมเสียงโวยวายจากด้านหน้าโดยคนของเขาและเสียงเจื้อยแจ้วที่เล็ดลอดออกมา “ผมจะรีบจัดการครับ” คริสรีบหันหลังกลับโดยเร็ว เขารู้ว่าถ้าช้ากว่านี้ต้องมีใครสักคนได้นอนบนเตียงที่นี่แน่ “ฉันจะเข้าไป!! นี้!! พวกนายกล้าแตะตัวฉันเหรอ?!” มาเรียโวยวายลั่น เธอคิดว่าการเข้าพบต้องยากอยู่แล้ว เพราะเธอและเขาต่างเป็นศัตรูกัน แต่เธอเองก็ไม่ใช่คนธรรมดา เธอเป็นถึง มาเรีย เคเฟียน่า ลูกเจ้าของตระกูลหลักทรัพย์และที่ใครๆรู้กันคือพ่อแม่ของเธอมีธุรกิจค้าอาวุธสงคราม จึงทำให้เธอมีทั้งเงินและอำนาจมากพอที่จะใช้ข่มคนได้ “เดี๋ยว!! ให้เธอเข้ามา” ควินท์เอ่ยสั้นๆ เมื่อเขาได้ยินเสียงของมาเรีย” ใช่แล้วหละ ยังไงควินท์ต้องให้ฉันเข้า...เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ควินท์ยอมให้ฉันเข้าไปด้วยเหรอ จะง่ายเกินไปแล้ว แผนของฉันคือการที่มาโวยวายแล้วดึงดันจะเข้าไปหาเขาเอง เพื่อแสดงถึงความห่วงใยอย่างสุดซึ้ง และเขาจะเห็นความพยามที่จะปรองดองกันของเราหลังจากนั้นเราจะเปิดใจคุยกัน และจบอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง “จะยืนตรงนั้นอีกนานมั้ย?” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น ทำให้มาเรียหลุดจากภวังค์ “อะ เอ่อ..โทษที” มาเรียยิ้มแห้งแก้เขินก่อนจะเดินตรงเข้าไป โดยมีเหล่าบอดี้การ์ดของเธอถือดอกไม้เข้ามาที่ห้องอย่างใหญ่โต รวมถึงผลไม้หลากหลายชนิด ชายที่นอนเองหลังพิงหมอนหันมามองเธอด้วยสายตาเรียบเฉย ดวงตาสีแดงที่ใครๆก็ต่างหวาดกลัว มีเพียงเธอที่หลงใหลและยังคงจ้องหน้าเขาแทบตาไม่กระพริบ จะบ้า!! ไม่คิดว่าตัวจริงควินท์จะหล่อขนาดนี้ ผมสีขาวหม่น กับดวงตาสีแดง ดูร้ายกาจบาดใจมากจนอดเสียดายที่เขาเป็นแค่ตัวร้าย พระเจ้าช่างสรรค์สร้างเขาจริงๆ อย่างว่า…ตัวร้ายมักหล่อกระชากจิต “เธอทำหน้าอะไรของเธอ” ควินท์เอ่ยพลางขมวดคิ้ว “ปะ ป่าวฉันจะมาเยี่ยมนาย!! หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ฉันอยากจะคุยกับนายสักหน่อย” มาเรียพูดพลางคลี่ยิ้มบาง “นาย? ไม่ใช่ แก หรอกเหรอ ที่เธอเรียกใช้ฉัน...หึ” มุมปากกระตุกขึ้นเล็กน้อยหลังเจ้าของร่างเอ่ยเสียงต่ำ โห..เปิดมาก็ยากเลย ยัยรินเธอต้องสู้นะ เพื่อภารกิจ!! ไม่สิ มาเรีย ฉันคือ มาเรีย!! “เอาหล่ะ ฉันอยากคุยกับนายสองคน.....ได้มั้ย?” มาเรียสูดดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนที่จะเอ่ยเสียงเรียบเพื่อควบคุมสถานการณ์ เธออยากจะเริ่มแผนการที่คิดไว้เพราะเธอรู้ดีว่าจุดอ่อนของควินท์คืออะไร “หึ..ตลกดีนี่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันเรียกเธอเพื่อมาคุยกันสองคน แต่ผลลัพธ์ก็อออกมาเป็นแบบนี้...” แม้เขาจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเย็นชา แต่แววตาเขากับสั่นไหว และมาเรียสังเกตเห็นมันแม้จะเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววิก็ตาม “ฉะ ฉันขอโทษ...” มาเรียที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน เธอรู้ดีว่าก่อนจะมาสิงร่าง มาเรียตัวจริงได้ทำร้ายจิตใจควินท์ไว้มากขนาดที่เธอเองยังเกลียดตัวละครตัวนี้ เธอจึงอยากจะชดใช้เขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ “..... ออกไปกันให้หมด” เสียงทุ้มเอ่ยสั้นๆ ทำให้บอดี้การ์ดพร้อมใจกันก้มหัวโค้งคำนับก่อนจะเดินจากออกไป เฮ้อออ ไว้ครั้งหน้าฉันต้องหาแผนใหม่แล้วหล่ะ มาเรียคิดในใจก่อนจะหันหลังเดินออกมาด้วยสีหน้าเศร้าหมอง แม้จะรู้ว่าภารกิจนี้มันไม่ง่ายเลย แต่มันก็ยากเย็นซะเหลือเกิน “จะไปไหน” ควินท์เอ่ยทักหลังเห็นร่างบางเดินคอตกตีหน้าเศร้ากำลังทำท่าจะเปิดประตู “ก็นายบอกให้ออกกันไปให้หมด” มาเรียทำหน้างุนงง เธอคิดว่าเธอได้ยินไม่ผิด “เฮ้ออ มีอะไรก็พูดมา” ควินท์ทำสีหน้าเบื่อหน่าย ก่อนจะมองมาที่เธอนิ่ง “ฉันอยากจะถามนายเรื่องวันนั้น...คือว่าฉัน” “ฉันลืมไปหมดแล้ว” ควินท์พูดแทรกขึ้นก่อนที่มาเรียจะกล่าวจบ “หา?! นายหมายถึง..” ดวงตากลมโตเบิกโพลง เธอตกใจสุดขีด เพราะว่าเธอกะจะมาถามเรื่องราวในวันนั้นจากเขา “ก็หมายถึงฉันลืมไง” ควินท์พูดพลางมองไปที่ผลไม้ที่มาเรียเอามาให้ “เดี๋ยวฉันช่วยนะ” มาเรียรีบวิ่งเข้ามาเพื่อช่วยคนป่วยบนเตียง แม้ว่าเขาจะดูไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก็ตาม แต่เธอแค่อยากทำ อาจเพราะความเคยชินที่ชาติก่อนเธอเคยเฝ้าไข้พี่ชายอยู่บ้างก็เป็นได้ ควินท์มองการกระทำที่ผิดแปลกไปของร่างบางตรงหน้าที่ตอนนี้กำลังเปิดกล่องผลไม้ปอกพร้อมทาน ก่อนที่จะจิ้มผลไม้ยื่นให้เขา “...” “ไม่มียาพิษหรอกหน่า ฉันกินให้ดูกก่อนก็ได้” มาเรียรีบเอาเข้าปากเพื่อเป็นการยืนยัน “อ๊ะ กินสิ” มาเรียยังคงยื่นผลไม้ให้เขา แต่ครั้งนี้ควินท์ยอมก้มลงมากินแอปเปิ้ลที่เธอป้อนให้ แม้เขาจะไม่ได้กลัวเรื่องยาพิษเลยก็ตาม เพราะเขาเองก็โดนฝึกมาให้กินยาพิษ เพื่อที่ร่างกายจะได้ทนต่อพิษต่างๆได้ แต่เขาเพียงแค่สับสนในสิ่งที่เธอกำลังทำ เพราะโดยปกติแล้วมาเรียแทบจะรังเกียจเขาเสียด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่ป้อนผลไม้เลย แค่หายใจร่วมกันเขาก็ผิดแล้ว “ว่าแต่..นายลืมเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนั้นหรือความจำเสื่อมทั้งหมดเลย?” มาเรียยังไม่ลดความพยายาม เธอจ้องเขาเพื่อเค้นหาคำตอบ จนเผลอเข้าไปใกล้ “อืม” “แล้วไอ อืม นี้คืออันไหนละ” มาเรียเท้าเอวอย่างลืมตัว ก่อนจะพูดเสียงดังขึ้น “ก็คือ อืม ยังไงละ ฉันจำไม่ได้ทั้งหมด” ควินท์ตอบอีกครั้ง พลางยักไหล่ แม้จะดูเหมือนเขาโกหกก็ตามที แต่สายตาเขากับว่างป่าวจนอดคิดไม่ได้ว่า เขาเองก็คงพูดจริง “อ่า..งั้นไม่เป็นไร” มาเรียส่งยิ้มไปให้เขา “ทำไมถึงถามเรื่องนี้?” “กะ ก็ฉันแค่..” “จะว่าไป คนที่ดูเหมือนความจำเสื่อมน่าจะเป็นเธอต่างหาก” แววตาเจ้าเล่ห์แฝงไปด้วยรอยยิ้มของควินท์ทำให้ ดวงใจน้อยๆของเธอสั่นไหว “ชะ ใช่!! เหตุการณ์วันนั้นทำฉันเสียความทรงจำบางช่วงไป” มาเรียเอ่ย ด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกะ “....” ควินท์ทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะมองมาที่ร่างบางด้วยดวงตามีแววสงสัย “ฉันเลยจะมาขอความช่วยเหลือจากนาย” มาเรียยังคงเอ่ยต่อ เธอพยายามหาข้ออ้างเพื่อจะได้แวะเวียนมาหาเขาบ่อยๆ “ฮ่าๆๆๆ” ควินท์พ่นเเสียงหัวเราะดังลั่น เขายกมือขึ้นปิดหน้าหล่อๆนั้นก่อนจะหยุดเสียงหัวเราะของตนเองแล้วหันมาสบตาเธอ “เธอขอให้ฉันช่วย?” ควินท์ทวนเสียงสูง “ก็เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะนาย ถ้านายไม่เรียกตัวไปจนฉันต้องกลายเป็นแบบนี้ ฉันจะไม่มานั่งขอร้องอะไรแบบนี้หรอก” มาเรียกอดอกแน่น เธอพยามหาทางที่จะพูดเพื่อให้เขายอมรับข้อเสนอ “แล้วทำไมฉันต้องช่วย เธอเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วนี้” ใบหน้าคมคายฉายแววลึกลับเข้าใจยาก “หึ สุดท้ายนายก็กลัวสินะ นายกำลังคิดว่าถ้าฉันลืมทุกอย่าง ทุกคนก็จะกับมารัก มาสนใจนาย?” มาเรียทำหน้าเย้ยหยันก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ควินท์ จนหน้าทั้งคู่ห่างกันแค่คืบ “...” ควินท์จ้องเข้ามาในดวงตาสีเทาที่ส่อแววเจ้าเล่ห์ “ต่อให้ฉันจำอะไรไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะทอดทิ้งฉัน…เหมือนที่นายโดน” มาเรียกระตุกยิ้มเมื่อเห็นคนตรงหน้าเริ่มฉายแววเย็นชา เธอจับที่ปลายคางของเขาเบาๆเพื่อหยียวนกลัวประสาทเขา “ไสหัวออกไป ก่อนที่ฉัน จะเด็ดหัวเธอ” ควินท์กัดฟันแน่น ก่อนจะเค้นเสียงพูดอย่างเย็นเยือกแววตาคมกริบดูโหดเหี้ยมกว่าเดิม “หึ อย่าลืมสิว่า ถ้าฉันได้ความทรงจำกลับมา นายเองก็จะได้ข้อมูลสินค้าที่ฝ่ายตรงข้ามซื้อไป นั้นนะคือสิ่งที่นายต้องการไม่ใช่หรอ?” มาเรียยกยิ้มที่มุมปากบางอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้เพื่อกระซิบข้างหู “ไหนว่าลืม?” ควินท์เอ่ยเสียงเรียบ เขาพยายามข่มอารมณ์ที่พลุพล่านของตน “หึ ฉันยอมรับว่าลืม แต่ไม่ได้ทั้งหมด ฉันไม่ได้มาขอความช่วยเหลือนายอย่างเดียว นายจะได้ค่าตอบแทนอย่างสาสมเลยแหละ” มาเรียยิ้มหวานให้ก่อนจะผละตัวออก ฉันเองก็เตรียมข้อมูลมานะ ควินท์เรียกมาเรียไปส่วนหนึ่งมาจากที่คู่แข่งของเขามีการซื้ออาวุธสครามจากตระกูลมาเรีย แต่เขาต้องการทราบข้อมูลเพื่อเตรียมรับมือ และเขาเองก็ต้องการซื้ออาวุธรุ่นพิเศษที่ตระกูลของเราจำหน่าย แต่ดันเกิดเรื่องซะก่อน ฉันเลยต้องงัดไม้เด็ดมา เพราะถ้าฉันให้ข้อมูลง่ายไปหรือทำตัวดีเกินไป ควินท์ไม่ยอมคุยกับฉันแน่ เพราะคงหมดสนุกและน่าเบื่อไปสำหรับเขา ฉันเลยต้องพูดจาทำร้ายจิตใจเขาให้มากที่สุด เพื่อให้เขายอมฟัง....ถึงจะโหดร้ายแต่เพื่อภารกิจ!!! “ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่าเธอจะไม่ตุกติก” ควินท์เอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปสักพัก “ฉันจะให้ข้อมูลนายก่อน และให้เวลานายตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ แลกกับที่นายต้องมาเจอฉัน อาทิตย์ละ 2 วัน” “3 ฉันขอ 3 วัน” “ได้!! งั้น 3 วัน อาทิตย์นึง เราต้องมาเจอกันที่คฤหาส์ของนายเป็นไง” “ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี” ควินท์คิดว่าข้อเสนอนี้เขามีแต่ได้กับได้ จนอดไม่ได้ที่จะคืบแคลงใจ “งั้นเป็นอันจบ หลังจากที่นายออกจากโรงพยาบาล ฉันจะเริ่มไปหานายเลยแล้วกัน” มาเรียคิดว่ายิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะการที่จะทำให้ควินท์เป็นคนดีได้ เธอต้องทลายกำแพงของเขาและเธอก่อน “อีก 1 อาทิตย์เจอกัน” แววตาลึกล้ำจับจ้องที่ดวงหน้างามแสนเย่อหยิ่ง “ดี...งั้นเจอกัน” มาเรียเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะเดินออกจากห้องไป แม้หัวใจเธอจะเต้นโครมครามจนแทบทะลุ เพราะคนตรงหน้าช่างหน้ากลัวเสียนี้กระไร หลังจากนี้ฉันจะเป็นยังไงละเนี่ย ถึงเขาจะหล่อขนาดไหน แต่ทุกครั้งที่จ้องเข้าไปในดวงตาแดงเข้ม ใจของเธอกับสั่นไหวไปหมด

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD