บท5เปิดโลกสีเทา

1704 Words
“รีบแต่งตัวแล้วออกไปกับฉัน” ทิวาที่กำลังจะสวมชุดนอนหลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว แต่ทว่าต้องเดินไปเปลี่ยนชุดใหม่เพราะได้ยินคำสั่งจากมาเฟียหนุ่ม “ไปไหนคะ” “สนามแข่ง” บอกแค่นั้นก็รีบมุ่งหน้าไปขึ้นรถด้วยความหงุดหงิดและหัวเสียไม่ใช่น้อย ความเงียบถูกปกคลุมภายในรถแทบจะไม่ได้ยินเสียงพูดคุย ใบหน้าหวานหันมองนอกหน้าต่างเพื่อสำรวจเส้นทางในระหว่างรถขับเคลื่อน แอบหรี่ตามองร่างสูงเมื่อได้ยินเขายกโทรศัพท์มือถือขึ้นคุยงานอยู่ตลอดตั้งแต่ขึ้นรถมา น้ำเสียงและสีหน้าบ่งบอกถึงความเคร่งเครียด แสงสว่างและผู้คนมากมายยืนโห่เชียร์การแข่งขันกันอย่างครึกครื้น ดวงตาคู่สวยจ้องมองอย่างสนใจหลังรถเลี้ยวเข้ามาจอดในสนามแข่งรถใจกลางเมืองที่ใหญ่ติดอันดับหนึ่งในสามของโลก “ลงมาสิ” ทิวาก้าวลงจากรถไปยืนใกล้ๆ มาเฟียหนุ่ม ก่อนจะหันไปเห็นเหล่าบอดี้การ์ดจำนวนมากยืนรายล้อมเกือบสามสิบกว่าคน เมื่อเห็นคนข้างๆ เดินเข้าไปหญิงสาวไม่รอช้ารีบเดินตามไปติดๆ “คุณทิวาเชิญห้องนี้ครับ” เอดีสรีบมาดักทางผู้หญิงของเจ้านายเอาไว้ พาร่างบอบบางเปลี่ยนเส้นทางไปยังห้องวีไอพีแทนการไปห้องเชือดที่เจ้านายหนุ่มเพิ่งเดินเข้าไป “แล้วคุณพันแสงล่ะคะ” “นายมีธุระนิดหน่อย วันนี้มีรอบการแข่งขันคุณทิวาเชิญนั่งดูก่อนระหว่างรอนะครับ” ใบหน้าหวานพยักหน้าเล็กน้อยอย่างจำใจ เธอเดินมานั่งเกาะขอบกระจกใสที่มองเห็นการแข่งขันรถ เสียงโห่ร้องและผู้คนมีมากมายกว่าที่คิด ปัง! “โอ๊ย! อย่าทำอะไรผมเลยนะครับ” พันแสงยกปืนขึ้นยิงขาไอ้คนที่มันกล้ามาสร้างปัญหาให้เขา แววตาดุดันจ้องมองคนตรงหน้าด้วยอารมณ์ร้ายที่ใครเห็นก็ต่างหวาดกลัวจนต้องก้มกราบแทบเท้าเพื่อร้องขอชีวิตรอด “มึงกล้าดียังไง ถึงเอายามาขายในสนามกู!” สนามแข่งที่ถือว่าได้มาตรฐานสูงของเขาต้องโดนตรวจสอบเพราะได้รับแจ้งข่าวว่ามีการลักลอบค้ายาเสพติด และมันก็พบจริงๆ เงินกว่าหลายสิบล้านต้องเอาไปใช้ปิดปากไอ้พวกทางการ ทำเอามาเฟียหนุ่มหงุดหงิดแทบบ้า บัดซบ! “ผม คือผม...” “มึงรู้ไหมกูต้องสูญเสียเงินไปเท่าไหร่!” “ผมขอโทษครับนาย” “จะยิงหัวตัวเองหรือให้กูยิง” เสียงเย็นยะเยือกเอ่ยออกมาด้วยความเลือดเย็น เขาไม่เคยให้โอกาสคนที่มันกล้าขัดคำสั่งและจะกำจัดมันทิ้งให้สิ้นซากโดยไม่เก็บเอาไว้ให้หงุดหงิดใจ “ถ้ากูยิงเอง มึงได้ทรมานจนต้องร้องขอชีวิตแน่” ปืนกระบอกที่บรรจุกระสุนหนึ่งนัดถูกโยนไปตรงหน้าไอ้เศษสวะ ร่างซูบผอมสะดุ้งตกใจทันทีเมื่อเห็นอย่างนั้น น้ำตาไหลอาบอย่างรู้ชะตากรรมตัวเอง “นับหนึ่งถึงสาม!” “หนึ่ง” “สอง” “สาม” ปัง! เสียงปืนดังขึ้นสนั่นห้อง มือขวาอย่างเอดีสเดินเข้าไปใกล้ร่างไร้สติที่นอนจมกองเลือดด้วยมือตัวมันเอง กระสุนฝังบนศีรษะและลมหายใจที่ดับสนิท “มันตายแล้วครับนาย” “เอามันออกไป” พันแสงมองภาพตรงหน้าอย่างไร้ความรู้สึก หันหลังเดินออกมาจากห้องก่อนจะตรงไปยังห้องวีไอพีที่เขาพาร่างเล็กมาด้วย ดวงตาคู่คมฉายแววไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันทีหลังพบแต่ความว่างเปล่า “ทิวาไปไหน” “คุณทิวาไปเข้าห้องน้ำครับ” “แล้วพวกมึงเสือกมายืนอยู่ตรงนี้ทำไม!” ทันทีที่ตวาดดังลั่นพวกมันก็รีบแห่ไปกันดูในห้องน้ำอย่างกลัวตาย ความกลัวฉายชัดขึ้นมาเมื่อมองไม่เห็นแม้แต่เงาผู้หญิงของเจ้านาย “เอ่อ...เธอหายไปแล้วครับ” “ไอ้พวกเวร! โดนกูเล่นรายตัวแน่!” ร่างกำยำรีบเดินลงจากตัวอาคารด้วยความเดือดดาล แววตาคู่คมสอดส่องหาร่างบอบบางที่กล้าคิดจะหนีเขาออกมา อย่าให้เจอตัวเธอโดนไม่ใช่น้อยแน่! เท้าเรียวรีบวิ่งออกมาด้วยความเหนื่อยหอบ แววตาสั่นไหวเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา ทิวามองเห็นทุกการกระทำในห้องนั้น เสียงปืน คำขู่ และภาพคนที่นอนจมกองเลือดติดอยู่ในความทรงจำของเธอ น่ากลัวแบบนี้หญิงสาวไม่กล้าอยู่กับเขา เลือกหนีสู้มาตายเอาดาบหน้ายังดีเสียกว่า ผู้คนพลุกพล่านมากหน้าหลายตาทำเอาคนตัวเล็กหายใจแทบไม่ออก เธอค่อยๆ ดันตัวเองออกมาเพื่อมองหาประตูด้วยหัวใจที่เต้นรัวเร็วกลัวมาเฟียหนุ่มจะจับได้ “นั่นไง!” เมื่อพ้นเหล่าผู้คนที่แออัดออกมาสู่ภายนอกบริเวณ ชายร่างกำยำหลายสิบคนต่างชี้มายังร่างเล็กของเธอ จนทิวารีบวิ่งใส่เกียร์หมาวิ่งสุดชีวิต ทันทีที่พ้นประตู ใบหน้าหวานก็หันซ้ายแลขวาก่อนจะเข้าไปหลบในพุ่มไม้ทึบ เหล่าบอดี้การ์ดเมื่อไม่เห็นผู้หญิงของเจ้านายก็สบถออกมาด้วยความหัวเสีย พวกเขารีบแยกตัวกันออกตามหา ดวงตากลมโตจ้องมองตามรูร่องของต้นไม้ เห็นทางสะดวกก็วิ่งขึ้นถนนเพื่อหารถแท็กซี่ที่ขับผ่าน เสียงบีบแตรดังสนั่นพร้อมกับรถหรูที่หมายจะพุ่งเข้ามาชนเธอ ทำเอาทิวารีบกระโดดหลบด้วยความกลัวก่อนจะล้มหน้าคะมำอยู่ที่ทางเท้า “โอ๊ย! ซวยอะไรอย่างนี้” เลือดสีแดงสดไหลออกมาตามหัวเข่ามนและข้อศอกขาว เสียงหวานคางออกมาด้วยความเจ็บปวดจนลุกขึ้นหนีแทบไม่ไหว “วิ่งหนีสนุกพอหรือยัง!” คำตวาดลั่นทำเอาคนที่นอนกองอยู่บนฟุตบาทสะดุ้งตกใจด้วยความกลัว รีบขยับถอยห่างหลังร่างสูงเดินมานั่งยองๆ ลงตรงหน้า “ปล่อยฉันไปเถอะนะ” หญิงสาวยกมือที่เจ็บขึ้นพนมไหว้ขอร้องมาเฟียหนุ่มด้วยเนื้อตัวสั่นเทา ภาพที่เขายิงคนและขู่สั่งฆ่าผู้ชายคนนั้นยังคงติดตาเธอ “โอ๊ย! เจ็บนะ” “เจ็บก็ดี จะได้รู้ว่าทีหลังอย่าทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้อีก!” พันแสงกระชากร่างเล็กขึ้นมาจากฟุตบาทด้วยความกรุ่นโกรธ กล้ามากที่มาขัดคำสั่งของเขาเพราะฉะนั้นเตรียมรับการลงโทษที่เธอคาดไม่ถึงได้เลย “ฮือ อย่าทำพวกเขานะ!” ทิวาร้องไห้อย่างหนักออกมาหลังเห็นเหล่าลูกน้องที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องวีไอพีโดนรุมซ้อมด้วยสภาพแทบดูไม่ได้ หันมองมาเฟียหนุ่มก็เห็นเขายกไวน์ในแก้วดื่มด้วยความสบายอารมณ์ เลือดเย็นที่สุด! “เห็นความผิดที่เธอทำหรือยังทิวา” “แกมันใจร้ายทำคนไม่มีทางสู้ ไอ้เลว!” “ซ้อมมันอีก!” สิ้นคำพูดนั้นเหล่าบอดี้การ์ดก็ถูกแท่งเหล็กตีเข้าใส่ร่างเต็มแรง บางคนทนไม่ไหวจนนอนสลบ หญิงสาวพยายามผลักคนที่ล็อกตัวเธอเอาไว้ให้ออกห่าง เลือดสีแดงไหลเปรอะเปื้อนเต็มไปหมด “อย่าทำเขา ฮึก” ทิวาทรุดนั่งกับพื้นมองกองลูกน้องที่นอนหายใจรวยรินต่อหน้าต่อตา เป็นเพราะเธอคนเดียวพวกเขาจึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิดจนใจเจ็บไปหมด “ขอร้องนะ ปล่อยพวกเขาไปเถอะ” พันแสงหันมองหญิงสาวทรุดนั่งร้องไห้อย่างอ่อนแรง ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยคราบน้ำตา หัวเข่าและข้อศอกมีเลือดไหลไม่หยุดจนเขาใจกระตุกขึ้นมา “เอาพวกมันออกไป” หันไปออกคำสั่งกับมือขวาคนสนิท ก่อนจะเดินมาทรุดนั่งตรงหน้าคนตัวเล็ก ใช้มือเชยคางสวยขึ้นมาพร้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น “ส่วนเธอ สำนึกหรือยัง” “ฉันจะไม่หนีไปไหนอีก ได้โปรดอย่าทำพวกเขาเลยนะ” “เธอกล้ายอมโดนลงโทษแทนพวกมันไหม?” “ฮึก ฉันยอม” “จำคำพูดของตัวเองไว้ให้ดีทิวา” มาเฟียหนุ่มพยุงตัวผู้หญิงของตัวเองขึ้นเพื่อพาไปทำแผล มองใบหน้าหวานเบ้ออกมาเมื่อเกิดความรู้สึกเจ็บทันทีที่หมอประจำตัวทำความสะอาดแผล ดวงตาคมกริบตวัดมองจนหมอมือสั่นเทา “เบาหน่อย” เอ่ยเตือนคนที่นั่งทำแผลหลังได้เห็นหญิงสาวน้ำตาไหลอาบแก้มเพราะทนเจ็บไม่ไหว แต่เธอยังคงเม้มริมฝีปากกดกั้นเสียงครางตัวเองไว้แน่นไม่ให้เล็ดลอดออกมา “ใกล้เสร็จหรือยัง” “เสร็จแล้วครับคุณพันแสง” ชายหนุ่มหันไปมองลูกน้องให้พาหมอส่วนตัวของเขาไปส่งที่ห้อง ก่อนจะทรุดนั่งข้างๆ คนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้างุดหลบซ่อนสายตาอยู่บนโซฟา “อวดเก่งไม่เข้าท่า” ทิวากัดริมฝีปากล่างเมื่อได้ยืนคำดุจากมาเฟียหนุ่ม แต่ทว่ากลับต้องสะดุ้งตกใจออกมาเพราะอยู่ๆ ชายหนุ่มสอดแขนอุ้มร่างเล็กของเธอเข้าไปยังห้องนอน “คิดจะหนีทำไม” วางหญิงสาวนั่งลงบนเตียงเห็นเธอขยับถอยหนีด้วยความกลัวก็ลอบถอนหายใจออกมา เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นพร้อมใช้มือบีบแก้มนุ่มนิ่มให้เงยหน้ามาสบตา “นายฆ่าคน” “เผื่อเธอไม่รู้ว่าฉันเป็นมาเฟีย คนที่มันกล้าหักหลังคิดว่าควรจะเก็บไว้ไหม” “นายจะทำแบบนั้นกับฉันไหม” ทิวาถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ริมฝีปากสั่นระริกด้วยความหวาดหวั่นไม่ใช่น้อย ก่อนจะเห็นมาเฟียหนุ่มเลิกคิ้วมองด้วยสายตาดุดัน “ทำ! ถ้าเธอกล้าหักหลังฉันก็เตรียมเป็นอย่างมันได้เลย” “นายจะปล่อยฉันไปตอนไหน” พันแสงชักจะหงุดหงิดขึ้นมาหลังได้ยินคำถามที่ค่อนข้างไม่น่าพึงพอใจ มองแววตาคู่สวยเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและเกรงกลัวเขา “ตอนฉันเบื่อเธอ” “อีกนานไหมกว่านายจะเบื่อฉัน” “ไม่ต้องห่วงสาวน้อย ฉันไม่เคยเห็นพวกผู้หญิงอย่างเธอสำคัญจนต้องเก็บไว้ข้างกายนานขนาดนั้น”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD