“รีบแต่งตัวแล้วออกไปกับฉัน”
ทิวาที่กำลังจะสวมชุดนอนหลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว แต่ทว่าต้องเดินไปเปลี่ยนชุดใหม่เพราะได้ยินคำสั่งจากมาเฟียหนุ่ม
“ไปไหนคะ”
“สนามแข่ง”
บอกแค่นั้นก็รีบมุ่งหน้าไปขึ้นรถด้วยความหงุดหงิดและหัวเสียไม่ใช่น้อย ความเงียบถูกปกคลุมภายในรถแทบจะไม่ได้ยินเสียงพูดคุย
ใบหน้าหวานหันมองนอกหน้าต่างเพื่อสำรวจเส้นทางในระหว่างรถขับเคลื่อน แอบหรี่ตามองร่างสูงเมื่อได้ยินเขายกโทรศัพท์มือถือขึ้นคุยงานอยู่ตลอดตั้งแต่ขึ้นรถมา น้ำเสียงและสีหน้าบ่งบอกถึงความเคร่งเครียด
แสงสว่างและผู้คนมากมายยืนโห่เชียร์การแข่งขันกันอย่างครึกครื้น ดวงตาคู่สวยจ้องมองอย่างสนใจหลังรถเลี้ยวเข้ามาจอดในสนามแข่งรถใจกลางเมืองที่ใหญ่ติดอันดับหนึ่งในสามของโลก
“ลงมาสิ”
ทิวาก้าวลงจากรถไปยืนใกล้ๆ มาเฟียหนุ่ม ก่อนจะหันไปเห็นเหล่าบอดี้การ์ดจำนวนมากยืนรายล้อมเกือบสามสิบกว่าคน เมื่อเห็นคนข้างๆ เดินเข้าไปหญิงสาวไม่รอช้ารีบเดินตามไปติดๆ
“คุณทิวาเชิญห้องนี้ครับ”
เอดีสรีบมาดักทางผู้หญิงของเจ้านายเอาไว้ พาร่างบอบบางเปลี่ยนเส้นทางไปยังห้องวีไอพีแทนการไปห้องเชือดที่เจ้านายหนุ่มเพิ่งเดินเข้าไป
“แล้วคุณพันแสงล่ะคะ”
“นายมีธุระนิดหน่อย วันนี้มีรอบการแข่งขันคุณทิวาเชิญนั่งดูก่อนระหว่างรอนะครับ”
ใบหน้าหวานพยักหน้าเล็กน้อยอย่างจำใจ เธอเดินมานั่งเกาะขอบกระจกใสที่มองเห็นการแข่งขันรถ เสียงโห่ร้องและผู้คนมีมากมายกว่าที่คิด
ปัง!
“โอ๊ย! อย่าทำอะไรผมเลยนะครับ”
พันแสงยกปืนขึ้นยิงขาไอ้คนที่มันกล้ามาสร้างปัญหาให้เขา แววตาดุดันจ้องมองคนตรงหน้าด้วยอารมณ์ร้ายที่ใครเห็นก็ต่างหวาดกลัวจนต้องก้มกราบแทบเท้าเพื่อร้องขอชีวิตรอด
“มึงกล้าดียังไง ถึงเอายามาขายในสนามกู!”
สนามแข่งที่ถือว่าได้มาตรฐานสูงของเขาต้องโดนตรวจสอบเพราะได้รับแจ้งข่าวว่ามีการลักลอบค้ายาเสพติด และมันก็พบจริงๆ เงินกว่าหลายสิบล้านต้องเอาไปใช้ปิดปากไอ้พวกทางการ ทำเอามาเฟียหนุ่มหงุดหงิดแทบบ้า
บัดซบ!
“ผม คือผม...”
“มึงรู้ไหมกูต้องสูญเสียเงินไปเท่าไหร่!”
“ผมขอโทษครับนาย”
“จะยิงหัวตัวเองหรือให้กูยิง”
เสียงเย็นยะเยือกเอ่ยออกมาด้วยความเลือดเย็น เขาไม่เคยให้โอกาสคนที่มันกล้าขัดคำสั่งและจะกำจัดมันทิ้งให้สิ้นซากโดยไม่เก็บเอาไว้ให้หงุดหงิดใจ
“ถ้ากูยิงเอง มึงได้ทรมานจนต้องร้องขอชีวิตแน่”
ปืนกระบอกที่บรรจุกระสุนหนึ่งนัดถูกโยนไปตรงหน้าไอ้เศษสวะ ร่างซูบผอมสะดุ้งตกใจทันทีเมื่อเห็นอย่างนั้น น้ำตาไหลอาบอย่างรู้ชะตากรรมตัวเอง
“นับหนึ่งถึงสาม!”
“หนึ่ง”
“สอง”
“สาม”
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นสนั่นห้อง มือขวาอย่างเอดีสเดินเข้าไปใกล้ร่างไร้สติที่นอนจมกองเลือดด้วยมือตัวมันเอง กระสุนฝังบนศีรษะและลมหายใจที่ดับสนิท
“มันตายแล้วครับนาย”
“เอามันออกไป”
พันแสงมองภาพตรงหน้าอย่างไร้ความรู้สึก หันหลังเดินออกมาจากห้องก่อนจะตรงไปยังห้องวีไอพีที่เขาพาร่างเล็กมาด้วย ดวงตาคู่คมฉายแววไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันทีหลังพบแต่ความว่างเปล่า
“ทิวาไปไหน”
“คุณทิวาไปเข้าห้องน้ำครับ”
“แล้วพวกมึงเสือกมายืนอยู่ตรงนี้ทำไม!”
ทันทีที่ตวาดดังลั่นพวกมันก็รีบแห่ไปกันดูในห้องน้ำอย่างกลัวตาย ความกลัวฉายชัดขึ้นมาเมื่อมองไม่เห็นแม้แต่เงาผู้หญิงของเจ้านาย
“เอ่อ...เธอหายไปแล้วครับ”
“ไอ้พวกเวร! โดนกูเล่นรายตัวแน่!”
ร่างกำยำรีบเดินลงจากตัวอาคารด้วยความเดือดดาล แววตาคู่คมสอดส่องหาร่างบอบบางที่กล้าคิดจะหนีเขาออกมา
อย่าให้เจอตัวเธอโดนไม่ใช่น้อยแน่!
เท้าเรียวรีบวิ่งออกมาด้วยความเหนื่อยหอบ แววตาสั่นไหวเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา ทิวามองเห็นทุกการกระทำในห้องนั้น เสียงปืน คำขู่ และภาพคนที่นอนจมกองเลือดติดอยู่ในความทรงจำของเธอ
น่ากลัวแบบนี้หญิงสาวไม่กล้าอยู่กับเขา เลือกหนีสู้มาตายเอาดาบหน้ายังดีเสียกว่า
ผู้คนพลุกพล่านมากหน้าหลายตาทำเอาคนตัวเล็กหายใจแทบไม่ออก เธอค่อยๆ ดันตัวเองออกมาเพื่อมองหาประตูด้วยหัวใจที่เต้นรัวเร็วกลัวมาเฟียหนุ่มจะจับได้
“นั่นไง!”
เมื่อพ้นเหล่าผู้คนที่แออัดออกมาสู่ภายนอกบริเวณ ชายร่างกำยำหลายสิบคนต่างชี้มายังร่างเล็กของเธอ จนทิวารีบวิ่งใส่เกียร์หมาวิ่งสุดชีวิต ทันทีที่พ้นประตู ใบหน้าหวานก็หันซ้ายแลขวาก่อนจะเข้าไปหลบในพุ่มไม้ทึบ
เหล่าบอดี้การ์ดเมื่อไม่เห็นผู้หญิงของเจ้านายก็สบถออกมาด้วยความหัวเสีย พวกเขารีบแยกตัวกันออกตามหา ดวงตากลมโตจ้องมองตามรูร่องของต้นไม้ เห็นทางสะดวกก็วิ่งขึ้นถนนเพื่อหารถแท็กซี่ที่ขับผ่าน
เสียงบีบแตรดังสนั่นพร้อมกับรถหรูที่หมายจะพุ่งเข้ามาชนเธอ ทำเอาทิวารีบกระโดดหลบด้วยความกลัวก่อนจะล้มหน้าคะมำอยู่ที่ทางเท้า
“โอ๊ย! ซวยอะไรอย่างนี้”
เลือดสีแดงสดไหลออกมาตามหัวเข่ามนและข้อศอกขาว เสียงหวานคางออกมาด้วยความเจ็บปวดจนลุกขึ้นหนีแทบไม่ไหว
“วิ่งหนีสนุกพอหรือยัง!”
คำตวาดลั่นทำเอาคนที่นอนกองอยู่บนฟุตบาทสะดุ้งตกใจด้วยความกลัว รีบขยับถอยห่างหลังร่างสูงเดินมานั่งยองๆ ลงตรงหน้า
“ปล่อยฉันไปเถอะนะ” หญิงสาวยกมือที่เจ็บขึ้นพนมไหว้ขอร้องมาเฟียหนุ่มด้วยเนื้อตัวสั่นเทา ภาพที่เขายิงคนและขู่สั่งฆ่าผู้ชายคนนั้นยังคงติดตาเธอ
“โอ๊ย! เจ็บนะ”
“เจ็บก็ดี จะได้รู้ว่าทีหลังอย่าทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้อีก!”
พันแสงกระชากร่างเล็กขึ้นมาจากฟุตบาทด้วยความกรุ่นโกรธ กล้ามากที่มาขัดคำสั่งของเขาเพราะฉะนั้นเตรียมรับการลงโทษที่เธอคาดไม่ถึงได้เลย
“ฮือ อย่าทำพวกเขานะ!”
ทิวาร้องไห้อย่างหนักออกมาหลังเห็นเหล่าลูกน้องที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องวีไอพีโดนรุมซ้อมด้วยสภาพแทบดูไม่ได้ หันมองมาเฟียหนุ่มก็เห็นเขายกไวน์ในแก้วดื่มด้วยความสบายอารมณ์
เลือดเย็นที่สุด!
“เห็นความผิดที่เธอทำหรือยังทิวา”
“แกมันใจร้ายทำคนไม่มีทางสู้ ไอ้เลว!”
“ซ้อมมันอีก!”
สิ้นคำพูดนั้นเหล่าบอดี้การ์ดก็ถูกแท่งเหล็กตีเข้าใส่ร่างเต็มแรง บางคนทนไม่ไหวจนนอนสลบ หญิงสาวพยายามผลักคนที่ล็อกตัวเธอเอาไว้ให้ออกห่าง เลือดสีแดงไหลเปรอะเปื้อนเต็มไปหมด
“อย่าทำเขา ฮึก”
ทิวาทรุดนั่งกับพื้นมองกองลูกน้องที่นอนหายใจรวยรินต่อหน้าต่อตา เป็นเพราะเธอคนเดียวพวกเขาจึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิดจนใจเจ็บไปหมด
“ขอร้องนะ ปล่อยพวกเขาไปเถอะ”
พันแสงหันมองหญิงสาวทรุดนั่งร้องไห้อย่างอ่อนแรง ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยคราบน้ำตา หัวเข่าและข้อศอกมีเลือดไหลไม่หยุดจนเขาใจกระตุกขึ้นมา
“เอาพวกมันออกไป” หันไปออกคำสั่งกับมือขวาคนสนิท ก่อนจะเดินมาทรุดนั่งตรงหน้าคนตัวเล็ก ใช้มือเชยคางสวยขึ้นมาพร้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น “ส่วนเธอ สำนึกหรือยัง”
“ฉันจะไม่หนีไปไหนอีก ได้โปรดอย่าทำพวกเขาเลยนะ”
“เธอกล้ายอมโดนลงโทษแทนพวกมันไหม?”
“ฮึก ฉันยอม”
“จำคำพูดของตัวเองไว้ให้ดีทิวา”
มาเฟียหนุ่มพยุงตัวผู้หญิงของตัวเองขึ้นเพื่อพาไปทำแผล มองใบหน้าหวานเบ้ออกมาเมื่อเกิดความรู้สึกเจ็บทันทีที่หมอประจำตัวทำความสะอาดแผล ดวงตาคมกริบตวัดมองจนหมอมือสั่นเทา
“เบาหน่อย”
เอ่ยเตือนคนที่นั่งทำแผลหลังได้เห็นหญิงสาวน้ำตาไหลอาบแก้มเพราะทนเจ็บไม่ไหว แต่เธอยังคงเม้มริมฝีปากกดกั้นเสียงครางตัวเองไว้แน่นไม่ให้เล็ดลอดออกมา
“ใกล้เสร็จหรือยัง”
“เสร็จแล้วครับคุณพันแสง”
ชายหนุ่มหันไปมองลูกน้องให้พาหมอส่วนตัวของเขาไปส่งที่ห้อง ก่อนจะทรุดนั่งข้างๆ คนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้างุดหลบซ่อนสายตาอยู่บนโซฟา
“อวดเก่งไม่เข้าท่า”
ทิวากัดริมฝีปากล่างเมื่อได้ยืนคำดุจากมาเฟียหนุ่ม แต่ทว่ากลับต้องสะดุ้งตกใจออกมาเพราะอยู่ๆ ชายหนุ่มสอดแขนอุ้มร่างเล็กของเธอเข้าไปยังห้องนอน
“คิดจะหนีทำไม”
วางหญิงสาวนั่งลงบนเตียงเห็นเธอขยับถอยหนีด้วยความกลัวก็ลอบถอนหายใจออกมา เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นพร้อมใช้มือบีบแก้มนุ่มนิ่มให้เงยหน้ามาสบตา
“นายฆ่าคน”
“เผื่อเธอไม่รู้ว่าฉันเป็นมาเฟีย คนที่มันกล้าหักหลังคิดว่าควรจะเก็บไว้ไหม”
“นายจะทำแบบนั้นกับฉันไหม”
ทิวาถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ริมฝีปากสั่นระริกด้วยความหวาดหวั่นไม่ใช่น้อย ก่อนจะเห็นมาเฟียหนุ่มเลิกคิ้วมองด้วยสายตาดุดัน
“ทำ! ถ้าเธอกล้าหักหลังฉันก็เตรียมเป็นอย่างมันได้เลย”
“นายจะปล่อยฉันไปตอนไหน”
พันแสงชักจะหงุดหงิดขึ้นมาหลังได้ยินคำถามที่ค่อนข้างไม่น่าพึงพอใจ มองแววตาคู่สวยเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและเกรงกลัวเขา
“ตอนฉันเบื่อเธอ”
“อีกนานไหมกว่านายจะเบื่อฉัน”
“ไม่ต้องห่วงสาวน้อย ฉันไม่เคยเห็นพวกผู้หญิงอย่างเธอสำคัญจนต้องเก็บไว้ข้างกายนานขนาดนั้น”