บทที่ 12 สิ่งดีๆ กำลังเข้ามา

1930 Words
เมื่อได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว จ้าวเว่ยหลงก็ได้ขอตัวกลับตอนนี้จึงเหลือเพียงสามคนแม่ลูกที่ช่วยกันเก็บของเพื่อที่จะกลับบ้าน หลินเจียวเจียวเธอไม่ได้พาลูกน้อยทั้งสองคนกลับไปที่บ้านตัวเอง แต่แวะไปที่บ้านพ่อกับแม่ก่อน ตลอดทางกลับนั่นเด็กน้อยโดนแม่ของตัวเองชมที่วันนี้ทำให้ขายของหมดแล้วยังมียอดสั่งซื้อทุกวันอีกด้วย หากเธอได้วันละ หนึ่งร้อยหยวน เดือนนึงเธอสามารถหาเงินได้ตั้ง สามพันหยวนเชียวนะ “เหมยจู จื้อผิงรู้ไหมหากว่าเราทำของส่งคุณลุงจ้าวเดือนนึงเรามีเงินเก็บมากเลยทีเดียว แม่สามารถส่งลูกเรียนสูงๆ ได้เลย ลูกสองคนดีใจไหม วันนี้ลูกทั้งสองคนเก่งมาก ช่วยแม่ขายของหมดเลย” หลินเจียวเจียวเอ่ยชมลูกๆ ไม่ขาดตลอดทาง เมื่อมาถึงบ้านพ่อแม่หลินเจียวเจียวก็อยากจะแกล้งคนในบ้านจึงตะโกนเรียกซะดังลั่น ซ่งเหมยจูนั้นรู้ว่าแม่ตัวเองต้องการแกล้งบ้านคุณยายอีกแน่ ก็ได้แต่นั่งหัวเราะคิกคักกับจื้อผิง พร้อมกับกินขนมน้ำตาลปั้นที่แม่เจียวเจียวซื้อให้เธอและน้องชาย “แม่ พ่อ พี่รอง อยู่บ้านไหม” “โอ้ยเจียวเจียว มีลูกโตขนาดนี้แล้วยังทำตัวเป็นเด็กไปได้ ดูหลานๆ สิยังเรียบร้อยกว่าน้องอีกนะเจียวเจียว” คนที่ออกมาไม่ใช่พ่อกับแม่แต่เป็นพี่ใหญ่ของเธอ “พี่ใหญ่กลับมาแล้วเหรอ ฉันพึ่งจะไปหาพี่เมื่อสองวันก่อนเองถึงวันหยุดแล้วเหรอ” หลินเจียวเจียวถามพี่ชายไม่ใช่อีก สองวันหรือไงถึงจะหยุด “เข้ามาคุยในบ้านนี่ เหมยจู จื้อผิง มาหาลุงใหญ่ลูก เข้าบ้านกันดีกว่าเนอะ” หลินต้าจินบอกทั้งสามคนให้เข้ามาในบ้านก่อน “เจียวเจียว เป็นไงบ้างวันนี้ขายได้ไหม” จางย่าเจียวเมื่อเห็นหลานๆ และลูกสาวกลับมาแล้วก็ถามด้วยความเป็นห่วง นี่ยังไม่ถึงเวลาที่ตลาดนัดเลิก “เกือบไม่ได้แหละแม่ วันนี้มีมารมาป่วน แต่ดีที่เหมยจูกับจื้อผิงหาวิธีช่วยจนขายหมดทุกอย่าง ยังมีอีกนะแม่คุณจ้าวเจ้าของร้านอาหารรัฐที่อยู่ในเมือง เขายังสั่งให้ฉันทำซาลาเปาส่งวันละ สองร้อยยี่สิบลูก ไส้เนื้อ หนึ่งร้อยห้าสิบไส้ผัก เจ็ดสิบแถมเกี๊ยวอีก สามร้อยตัวทุกวันด้วยนะแม่ งานนี้ต้องขอบคุณเด็กๆ ที่ช่วย” หลินเจียวเจียวเล่าเรื่องราวให้ฟังทั้งหมด เมื่อทั้งบ้านได้ฟังต่างก็พากันดีใจในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ ใครบ้างไม่รู้ว่าร้านอาหารนั้นใหญ่แค่ไหน “ไม่ใช่ว่าหลันหลินนั้นชอบสามีเราด้วยเหรอเจียวเจียว พี่ว่าเป็นไปไม่ได้หรอกที่เธอจะทำแบบนี้เพื่อสหายอย่างซูเย่วเอิง” หลินตงหนิงพูดกับน้องสาว “นั่นสิ แม่ก็คิดแบบนั้น” จางย่าเจียวก็เห็นด้วยกับลูกชาย เธอคิดว่าไม่ใช่เพียงเพื่อสหายหรอกที่หลันหลินต้องทำแบบนั้น “แต่ว่าเจียวเจียวจะไม่อันตรายเหรอลูก ที่ทำของส่งขายเยอะขนาดนั้น ลูกก็รู้ว่าตอนนี้ค้าขายยังปิดอยู่” “แม่ไม่ต้องกลัวหรอก ในเมืองมีใครบ้างไม่รู้จักคุณจ้าวว่าเขาใหญ่ขนาดไหน จริงสิเจียวเจียว ขนมน้องอร่อยมาก และยังมียอดสั่ง อีกนะ พี่เอามาให้แล้ว แต่ว่าน้องจะทำทันไหม อาทิตย์หน้าพี่จะเข้ามาเอา” หลินต้าจินส่งรายการขนมให้น้องสาว เจียวเจียวเห็นยอดสั่งขนมก็ยิ้มแก้มปริ จะไม่ให้ดีใจได้ยังไงยอดสั่งเกือบ สองร้อยชิ้น “เอางี้พี่ใหญ่ฉันจะเอาไปให้พี่เอง ถ้าพี่มาเอามันจะเสี่ยงเกินไป ฉันค่อยขอติดรถลูกน้องของคุณจ้าวไปเองดีกว่า” หลินเจียวเจียวไม่อยากให้พี่ใหญ่ของเธอเสี่ยงไปมากกว่านี้ “ได้สิ เอาอย่างที่น้องว่านั่นแหละ แต่ว่าพี่ถามหน่อยทำไมน้องถึงไม่อยากให้พี่แวะที่ไหนก่อนจะกลับบ้านละ” หลินต้าจินถามน้องสาว วันนี้ตอนเขากลับมาที่หมู่บ้านก็เจออาจงสหายชวนเขาไปดื่มแต่เขาได้ปฏิเสธไปเพราะน้องสาวสั่งไว้ “สหายที่ชื่ออาจงใช่ไหมพี่ ชวนพี่ไปดื่ม” “เจียวเจียวน้องรู้ได้ยังไง”หลินต้าจินถามด้วยความตกใจ เพราะเขายังไม่ทันได้บอกเลย แล้วน้องสาวรู้ได้ยังไง “ก็เพราะฉันบังเอิญได้ยินบ้านนั้นคุยกัน ก่อนที่ฉันจะป่วย น้องสาวของพี่อาจงตอนนี้ท้องได้เกือบสองเดือนแล้ว แต่เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็ก ทางบ้านนั้นเลยวางแผนจะให้พี่รับผิดชอบแทนยังไงละ เอาเป็นว่าทุกคนรู้ใช่ไหมว่าน้องสาวพี่อาจงนั้นวุ่นวายอยู่กับกลุ่มอันธพาลในหมู่บ้าน” หลินเจียวเจียวแต่งเรื่องว่าเธอรู้ได้ยังไงขึ้นมา ใครจะกล้าบอกว่าเธอรู้ตอนที่เป็นวิญญาณละ เมื่อทุกคนได้ยินในสิ่งที่หลินเจียวเจียวบอก ก็ไม่มีใครคิดเลยว่าหลินเจียวเจียวจะแต่งเรื่องขึ้นมา ถ้าแม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะร้ายกาจแต่ไหน แต่หลินเจียวเจียวไม่เคยโกหก หลินต้าจงนั้นไม่คิดว่าสหายที่โตมาด้วยกันจะกล้าทำกับเขาแบบนี้ ทำให้เขาเสียใจอย่างมาก แต่ก็ดีนะที่เจียวเจียวน้องสาวเขาได้ยินในสิ่งที่บ้านอาจงคุยกัน เขาคิดว่าคงต้องตัดกับสหายคนนี้แล้วละ หลินเจียวเจียวเมื่อคุยกับทุกคนและกินอาหารเสร็จก็ขอตัวกลับบ้านเธอบอกว่าต้องกลับไปเตรียมของเพื่อจะทำของส่งพรุ่งนี้ จางย่าเจียวกลัวว่าลูกสาวจะทำไม่ทันจึงอาสาจะไปช่วย หลินเจียวเจียวก็ไม่ปฏิเสธ แต่บอกให้แม่ค่อยตามไปช่วงบ่ายๆ เธอบอกว่าขอเตรียมแป้งกับไส้ก่อน แม่ค่อยมาช่วยเธอห่ออย่างเดียว จางย่าเจียวก็ไม่ปฏิเสธ เมื่อเธอกับลูกๆ ทั้งสองคนกำลังเดินกลับบ้านก็เจอกับพี่สามีและสหายที่ช่วยกันซ่อมแซมบ้านเดิมของพี่สะใภ้ เจียวเจียวคิดในใจว่าสงสัยพี่ใหญ่คงจะไม่ทนแล้วจริงๆ แต่ว่าเธอยังไม่ได้ข่าวนี่ว่าพี่ใหญ่จะแยกบ้าน แต่การมาซ่อมแซมบ้านขนาดนี้พี่สามีคงจะเตรียมการเป็นอย่างดีแล้วละที่จะแยกบ้านจากคนพวกนั้น “พี่ใหญ่พี่สะใภ้เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง” “อ้าวสะใภ้สามเองเหรอ หัวหลิงดีขึ้นมากแล้ว”ซ่งฮ่าวหยูตอบน้องสะใภ้ ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาคุยด้วย “สะใภ้สามเงินที่ให้พี่มาวันก่อน พี่ยังไม่ได้ใช้ พี่ขอยืมก่อนนะ พี่กับพี่สะใภ้ตัดสินใจแยกบ้านตอนนี้พี่กำลังหาซื้อหม้อ กระทะอยู่ พี่คิดว่าบ้านใหญ่คงไม่ให้อะไรหรอก แล้วพี่จะทยอยคืนให้ได้ไหม” ซ่งฮ่าวหยูบอกน้องสะใภ้ด้วยความเกรงใจ “ไม่เป็นไรพี่ใหญ่ พี่เป็นพี่เฉินหยางก็เหมือนพี่พี่ชายฉันอีกคน อย่าคิดมากเลย แต่ว่าพี่จะหาซื้อได้เหรอ ตอนฉันไปดูที่สหกรณ์ยังต้องสั่งล่วงหน้าเป็นเดือนเลยนะพี่” ซ่งฮ่าวหยูพอได้ยินน้องสะใภ้พูดแบบนั้นเขาก็ทำหน้าเครียดขึ้นมา “เอาอย่างนี้ไหมพี่ ถ้าพี่ไม่คิดมากว่ามันจะเป็นของที่ใช้แล้วก็ไปเอาที่บ้านฉัน ฉันพึ่งจะได้ของใหม่มา พอดีว่าฉันทำของขายตลาดนัดเลยต้องใช้อันที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย” “ไม่เลยน้องสะใภ้ พี่ขอบใจมากนะ ขอแค่ให้พี่ได้แยกบ้านต่อให้ไม่มีอะไรเลยพี่ก็ยอม พี่สงสารหัวหลิงกับลูกๆ” “ถ้าพี่แน่ใจว่าจะแยกบ้านจริงๆ ฉันก็จะช่วย เย็นนี้พี่พาพี่สะใภ้และเด็กๆ มาที่บ้านฉันนะ ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย พี่ไม่ต้องห่วงเรื่องดีแน่นอน เพราะเรื่องนี้สามารถทำให้ครอบครัวพี่ลืมตาอ้าปากได้เลยละ เดี๋ยวบ่ายๆ แม่ฉันก็จะเข้ามาที่บ้านด้วย พี่อย่าลืมนะ” หลินเจียวเจียวพูดกับพี่สามีอีกนิดหน่อยก่อนจะพาลูกน้อยทั้งสองคนกลับบ้าน ซ่งฮ่าวหยูมองตาหลังน้องสะใภ้ที่เดินจากไปด้วยแววตาที่ล้ำลึกและสับสน เขาไม่คิดว่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นหญิงที่ร้ายกาจของหมูบ้านจะให้การช่วยเหลือครอบครัวเขามากขนาดนี้ คงจะจริงอย่างที่เจ้าสามพูดไว้ว่าเนื้อแท้ของหลินเจียวเจียวไม่ได้ร้ายอย่างที่เห็น 'พี่ใหญ่เจียวเจียวอาจจะเป็นคนเอาแต่ใจ หรือเจ้าอารมณ์ไปสักหน่อย เพราะเธอเป็นลูกสาวคนเล็กและคนเดียวของบ้านหลิน จึงทำให้ทุกคนในครอบครัวตามใจ แต่พี่เชื่อผมเถอะ เจียวเจียวไม่ได้ร้ายอย่างที่ใครเขาพูดหรอก เธอจะไม่ทำใครก่อนถ้าคนคนนั้นไม่คิดที่จะทำร้ายเธอ การที่ผมแต่งงานกับเจียวเจียวมันเป็นความต้องการของผมเอง แต่ที่ผมต้องทำเป็นไม่สนใจฟังดูเหมือนอาจจะเลือดเย็นกับคนที่เป็นภรรยา นั่นเพราะผมต้องการที่จะปกป้องเธอจากแม่ พี่ก็รู้ว่าแม่ไม่ชอบเจียวเจียว ผมไม่สามารถอยู่ปกป้องเธอได้ ผมจึงต้องเฉือนหัวใจตัวเอง ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บก็ยอม' นี่คือสิ่งที่น้องชายพูดกับเขาตอนที่กลับบ้านมาสองปีก่อน ถ้าหากตัวเขามีความกล้าเหมือนกับเจ้าสาม ภรรยาและลูกๆ เขาคงจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ซ่งฮ่าวหยูเมื่อคิดได้ดังนั้นก็มีจิตใจแน่วแน่ เขาจะต้องพาภรรยาและลูกๆ ออกมาจากบ้านใหญ่ให้ได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อะไรมาเลยก็ตาม เขาและครอบครัวจะต้องไม่อดตายหากยังมีแรงกายทำงาน หลินเจียวเจียวเมื่อมาถึงบ้านก็ให้ลูกน้อยทั้งสองคนไปล้างตัวแล้วดื่มนมนอน นี่ก็เลยเวลานอนกลางวันของเด็กๆ แล้ว หลินเจียวเจียวเตรียมของสำหรับทำซาลาเปาและเกี๊ยว เธอรู้สึกดีใจที่ท่านเทพมอบของวิเศษให้ไม่เช่นนั้นหากให้เธอสับเนื้อหมูเอง กล้ามเธอคงขึ้นแน่ๆ หลินเจียวเจียวหยิบของที่ต้องใช้ออกมาจากห้างสรรพสินค้ารวมถึงของใช้บางอย่างและอาหารบางชนิดที่เก็บไว้ได้นานออกมาใส่กระปุกใหม่เพื่อเตรียมที่จะออกไปส่งให้กับสามีพรุ่งนี้ เธอไม่รู้หรอกว่าสามีเธอจะรู้สึกยังไงเมื่อได้รับของ หรือว่าจะยอมกินยอมใช้ของที่เธอส่งไปให้หรือเปล่า แต่เธอคิดว่าเธอควรจะทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอไม่สามารถเปลี่ยนอนาคตที่ควรจะเดินตามชะตาได้ เพียงแค่เลี่ยงที่จะไม่ต้องเจอ แต่เธอก็ขอทำให้ดีที่สุดก็พอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อก็ช่างมัน ********************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD